AE. Racing Club

คือตอนนี้รถผม เปลี่ยนเชื้อเพลิงมาใช้ E85 ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

รวมไปถึง Cat ก็ใช้มา เกือบจะ 400,00 โลแล้ว มันหมดอายุมันหรือยังครับ

แล้วถ้าตัด จะมีผลเสียในเรื่องมลพิษมั๊ยเอ่ย

แล้วถ้าสมมุติว่า ไม่แนะนำให้ตัด ถ้าเปลี่ยนไปใช้ของตัว 20V จะได้มั๊ยครับ  :emotq

ตัดแล้วกลิ่นน้ำมันห๊อมหอม อิอิ

 :emots :emots  ผมตัดไม่แย้ว  35x.xxx

แคทเก่า ยิ่งเก่ามาก ทองคำขาวจะเยอะมาก ตัดแล้วอย่าทิ้งนะครับ เศษเล็กเศษน้อยในแคท ทองคำขาวๆขายได้ :emots

รอผู้รู้ครับ
เเต่ความคิดผมน่าจ่ะตัดครับ  อิอิ

เสียดายแคท

ตัดได้ครับแรงกว่าเดิมอีก

 :emoa 400,000 แล้วนะเจ ทิ้งโลด....E85 มันคงเบื่อแล้วแหละ :emoth

ต้องเปลี่ยนอะไรบ้างถึงจะใช้ E85ได้ครับ

ตัดแคทแล้วเสียงดังหรือปล่าวครับ

ตัดตั้งแต่ สองแสนละ
โล่งดี :emox

อย่าตัดเลย ทำเสียบรรยกาศ มวลพิษมากขึ้น ผมเป็นพวกต่อต้าน ตัดแคท
จริง มันแรงขึ้น โล่งขึ้น แต่ก็ปล่อยไอพิษออกมามากขึ้น ทำให้โอกาศเป็นมะเร็งมากขึ้น โลกร้อนเร็วขึ้น ไหนฯใช้รถแล้วก็ทำตัวเป็นพลเมืองดีรักษาสิ่งแวดล้อม อย่าตัดเลย
สงสารคนขับมอเตอร์ไซค์ที่ร่วมถนนเถอะ รถไม่มีแคท เหม็น ชิพ-หาย

วันนีิเพิ่งไปใส่แคทมาเอง

หลังจากทนเหม็นมานานนนนนนนนนน

ตอนนี้ยืนคุยหลังรถได้แล้ว

 :emotr

หาลูกใหม่ใส่ก็ได้คับ จริงๆแล้วแคทไม่มีอายุการใช้งานนะคับ เพียงแต่ต้องทำความสะอาด วิธีทำความสะอาดก็คือใช้ความร้อน แรงๆเป่ามัน ให้พวก สิ่งสกปรกที่ติดมันอยู่มันหลุดออก แต่เคยเห็นคลิปเมืองนอกเขาแค่ บอกประมานว่าให้ขับรองสูงๆสักพัก ก็เป็นการเบินสิ่งสกปรกออกแล้ว ถ้าไอเสียไม่เหม็นแสดงว่ามันยังใช้งานได้อยู่คับ เพียงแต่คราบเขม่ามันไปติดตามรูทำให้มันรู้สึดอั้นๆ

ถามเพิ่มครับ ถ้าเป็น 4เอเอฟอี ออโต้ จะแรงขึ้นใหมครับ และเสียงจัดังหรือเปล่าครับ ขอบคุณครับ

อิอิ ผมว่ามันหอมจริงนะ น้าตีฟก็ตัดไปขายไงครับน้า  ^ ^แต่มีแคทกับไม่มี ผมลองดมตอนนไปทำท่อ ลองดมจากหลัง Header กลิ่นเดียวกันเลย แสดงว่าเืสื่อมไปและ
ผมกะว่า จะใส่พักกลาง ตรงบิดเกลียวไว้ซักตัว ให้มันยาวๆ หน่อยจะได้เงียบ เพราะของผม ณ ตอนนี้

จะดังช่วงหลัง 3500 รอบ (120 km/h) ขึ้นไป ขับ 100 เงียบดีครับ
ผมก็ไม่อยากจะตัดหรอครับน้า แต่ตอนนี้มาใช้ E85 ผมว่ามันก็ช่วยโลกได้เย๊อะพอควรเลย
ผม Burn รอบสูงทุกวันเลยอ่ะครับน้า ก็ 4AFE มีเท่าไหร่ก็เหยียบเอาเท่านั้น (ส่วนใหญ่จะรอเปลี่ยนเกียร์ที่ 6200 รอบ) อิอิ

หลักๆ เลยก็มี 2 อย่างครับ คือ

1. ท่อยางน้ำมัน ถ้างบสูงเปลี่ยนเป็น SAE R10 ไปเลยครับ มันทนต่อการกัดกร่อนได้ถึงน้ำมัน E100 แน่ะ
    แต่ถ้างบจำกัด ก็เปลี่ยนตรง ท่อยาง (ขาออกปั๊มติ๊ก) ให้เป็น SAE R10 เพราะตรงนั้นแรงดันสูงมาก
    แล้วก็ท่อยางตลอดเส้นทางน้ำมันก็เป็น SAE R9 ไปครับ
2. หัวฉีด ให้ใหญ่ขึ้นซักหน่อย อย่างของผม 4AFE หัวฉีดมัน 195cc./min ถ้าจำไม่ผิดนะครับ ผมก็เปลี่ยนให้มันใหญ่ขึ้น
    ให้ช่างที่รู้จักหาให้ เค้าบอกว่าหาได้ของ ซุปครับ หัวฉีด 4A-GZE จะมีการจ่ายน้ำมันที่ 385cc./min ซึ่งเย๊อะกว่าเกือบเท่าตัวครับ
    (ซึ่งในกรณีนี้ อาจจะเกิดอาการน้ำมันท่วมได้ แต่ของผมไม่ยักกะเกิดแฮะ)
3. เพิ่มองศาการจุดระเบิด (จูนไฟให้แก่ขึ้น เพราะออคเทนเย๊อะกว่าเดิมถึง 10 หน่วย ถ้าเทียบจาก 95) เพื่อให้ได้มาซึ่งแรงบิด
    และใช้ประสิทธิภาพของน้ำมันออคเทนสูงให้เกิดประโยชน์ครับ
4. กล่องจูนน้ำมัน+ไฟจุดระเบิด ในกรณีนี้ ถ้ากลัวไม่แน่ใจว่า น้ำมันจะท่วม หรือวิ่งออกมั๊ย ก็หากล่องจูน ไม่ต้องแพงครับ
    กล่อง KKT Easy Tuner จากในคลับเีราได้เลย และถ้าน้ามี Direct Coil ก็แปลงใส่ไปเลยครับ เพราะตอนนี้ KKT
    เค้าออกแบบมาให้ใช้กับ Direct Coil ได้ (ไม่ต้องไปใช้ถึง F-Con)

ส่วนวิธีการที่แนะนำคือ หลังจากเปลี่ยนท่อยางแล้ว เติม E20 ให้มันปรับสภาพ ลูกยางปั๊มติ๊กซักหน่อย จะได้ดูว่า
ลูกยางปั๊มติ๊ก ทนไหวหรือปล่าว หลังจากนั้นก็เปลี่ยนมาใช้ E85 ได้เลยครับ (วิ่ง E20 ซัก 100 โลก็พอแล่ว)

และแนะนำำเพิ่มเติมอีกครับ ให้เติมเฉพาะ E85 ของบางจากครับ เพราะวันนั้นผมลองเติม E85 ของ ปตท.
เครื่องมันกระตุกๆ วอดๆยังไงไม่รู้อ่ะครับ