หัวข้อ: รถไม่เคยใส่น้ำยาสีแดงที่อยู่ในหม้อน้ำ เริ่มหัวข้อโดย: น้าเช ที่ 29 มีนาคม 2555 12:23:22 รถผมไม่เคยใส่น้ำยาสีแดงๆในหม้อน้ำก็เลยไม่รู้จะเรียกว่าน้ำยาอะไรหล่อเย็นหรือป้องกันสนิม
1.น้ำยาสีแดงๆเรียกว่าน้ำยาอะไร ใส่แล้วมีผลอะไรไหมถ้ารถไม่เคยใส่เลยแล้วจะมาใส่ 2.น้ำยาป้องกันสนิมน้ำยาเป็นสีอะไรใส่แล้วดีไหมถ้ารถไม่เคยใส่จะมีผลอะไรไหม...เคยอ่านเจอถ้ารถไม่เคยใส่แล้วไปใส่มันจะกัดสนิมที่มีอยู่ทำให้ผุ :emotn หัวข้อ: Re: รถไม่เคยใส่น้ำยาสีแดงที่อยู่ในหม้อน้ เริ่มหัวข้อโดย: ( . )jab-ben( . ) ที่ 29 มีนาคม 2555 12:29:29 น้ำยาหม้อน้ำ หรือคูลแล้นโตต้าก้อเปนสีแดงคับ
ก่อนจะใส่ก้อล้างหม้อน้ำไปก่อนจะดีมากคับ ผมก้อใส่อยู่นะลิตรละ2ร้อยมั้งคับถ้าจำไม่ผิด หัวข้อ: Re: รถไม่เคยใส่น้ำยาสีแดงที่อยู่ในหม้อน้ำ เริ่มหัวข้อโดย: nooaom ที่ 29 มีนาคม 2555 12:33:32 ใส่ดีกว่าครับ เพราะช่วยเรื่องการระบายความร้อน แล้วยังช่วยหล่อลื่นระบบท่อทางน้ำภายในเครื่องด้วยครับ
กระป๋องใหญ่ 3 เกือบ 4 ลิตร พอดีเลยครับ หัวข้อ: Re: รถไม่เคยใส่น้ำยาสีแดงที่อยู่ในหม้อน้ำ เริ่มหัวข้อโดย: TIT ที่ 29 มีนาคม 2555 12:35:30 ใส่เพื่อเวลารั่วจะได้เห็นว่ารั่วตรงไหนด้วยครับ
หัวข้อ: Re: รถไม่เคยใส่น้ำยาสีแดงที่อยู่ในหม้อน้ำ เริ่มหัวข้อโดย: เคลิ้มสมาคม ™ ที่ 29 มีนาคม 2555 13:38:26 น้ำยาหม้อน้ำ หรือคูลแล้นโตต้าก้อเปนสีแดงคับ ก่อนจะใส่ก้อล้างหม้อน้ำไปก่อนจะดีมากคับ ผมก้อใส่อยู่นะลิตรละ2ร้อยมั้งคับถ้าจำไม่ผิด กระป๋องสามลิตรกว่า 450 เองไอ้น้อง หัวข้อ: Re: รถไม่เคยใส่น้ำยาสีแดงที่อยู่ในหม้อน้ำ เริ่มหัวข้อโดย: ( . )jab-ben( . ) ที่ 29 มีนาคม 2555 14:07:54 น้ำยาหม้อน้ำ หรือคูลแล้นโตต้าก้อเปนสีแดงคับ ก่อนจะใส่ก้อล้างหม้อน้ำไปก่อนจะดีมากคับ ผมก้อใส่อยู่นะลิตรละ2ร้อยมั้งคับถ้าจำไม่ผิด กระป๋องสามลิตรกว่า 450 เองไอ้น้อง หัวข้อ: Re: รถไม่เคยใส่น้ำยาสีแดงที่อยู่ในหม้อน้ำ เริ่มหัวข้อโดย: @alwaysnui (^^)++@ ที่ 29 มีนาคม 2555 14:15:47 ช่างที่ศูนย์โตโยต้าเคยบอกว่า ถ้ารถไม่เคยเติมน้ำยามาเลย บางครั้งเติมแล้วอาจทำให้หม้อน้ำรั่วได้นะครับ จริงหรือปล่าวไม่รู้นะครับ
หัวข้อ: Re: รถไม่เคยใส่น้ำยาสีแดงที่อยู่ในหม้อน้ำ เริ่มหัวข้อโดย: ไปเรื่อย ㋡ ที่ 29 มีนาคม 2555 16:55:24 ของผมไม่ใช้อยู่ช่วงนึง(หลายปีอยู่)จนเป็นสนิม เลยล้างระบบเติมน้ำยา ใช้งานปกติไม่เห็นรั่วนะครับ
หัวข้อ: Re: รถไม่เคยใส่น้ำยาสีแดงที่อยู่ในหม้อน้ำ เริ่มหัวข้อโดย: Hanuy90@LN.Z ที่ 29 มีนาคม 2555 17:00:24 ใช้น้ำเปล่ามาปีกว่า น้ำเป็นสนิมมากๆ จนมีโอกาสได้ล้างหม้อน้ำ ก็เลยใส่คูลแลนซ์ของโตโยต้า(น้ำสีแดงๆ 1 แกลลอนซื้อมา 440 บาท)
ใช้ได้ปกติครับ ยังไม่พบว่าอะไรรั่ว แล้วระบายความร้อนได้ดีกว่าเดิมครับ หัวข้อ: Re: รถไม่เคยใส่น้ำยาสีแดงที่อยู่ในหม้อน้ำ เริ่มหัวข้อโดย: jen@171 ที่ 29 มีนาคม 2555 17:10:16 ของโตโยต้าดีจริงๆครับใช้อยู่ทุกคันในบ้าน.....เคยใช้สีเขียวๆแบบผสมน้ำเอง ผมว่ามันเหมือนมีแค่สีเฉยๆครับ 555+
พวกแก๊งค์ฮอนด้าของพวกน้องๆผมเค้าก็ยังมาใช้คูลแลนท์โตโยต้าเลยครับ อิอิ หัวข้อ: Re: รถไม่เคยใส่น้ำยาสีแดงที่อยู่ในหม้อน้ำ เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหูู้ทอดเรซซิ่ง ที่ 29 มีนาคม 2555 17:12:18 :emotsประโยชน์ของมันก็พอจะมีบ้างครับ ตามประสบการณ์ในอดีตที่เคยทำงานที่เป็นโรงงานผลิตcoolant และHBF
ป้อนให้กับ Major Oil แบรนด์ต่างๆ อธิบายคร่าวๆนะเอาเท่าที่จำได้ถ้าจะเอาละเอียดก็ไปหาข้อมูลเอาเอง :emotiaโดยคุณสมบัติของมันคือทำให้จุดเดือดของน้ำสูงขึ้นเพราะมันมีส่วนผสมของ (MEG) Monoethylene Glycol ทำให้ถ่ายเทความร้อนของระบบหล่อเย็นดีขึ้น ช่วยไม่ให้เครื่องยนต์เกิดความร้อนสูง ปรกติสารตัวนี้ถ้ายังไม่ผสมน้ำ จุดเดือดจะสูงมาก เค๊าเรียกboiling point มันจะอยู่ที่ประมาณ160 อาศาC มั๊งถ้าจำไม่ผิด (คูลแลนท์ถึงจุดเดือดช้า คายความร้อนเร็ว :ภาษาชาวบ้านก็ ร้อนช้า เย็นเร็ว) พอผสมน้ำเป็นคูลแลนท์ทั่วไป boiling point ก็จะอยุ่ประมาณ 110 องศาC คุณสมบัติอื่นก็แล้วแต่ละบริษัทที่จะผสม additive ลงไปเพื่อเป็นจุดขายเช่น ป้องกันสนิม ตะกรัน แล้วแต่จะโฆษณา ส่วนสีก็แล้วแต่ละบริษัทแต่ละที่ก็จะมีสีเป็นเอกลักษ์ของตัวเองแต่ส่วนมากจะผสมสีที่สะท้อนแสง หรือที่เรียกว่า Fluorescent :emotqส่วนยี่ห้อไหนจะดีกว่ากันก็ต้องลองซื้อมาใช้กันเอง แต่ผมใช้ของtoyota ผสมมาแล้ว กระป๋องนึงก็สี่ร้อยกว่าบาท ติดตามตอนต่อไปจะมาบอกว่าทำมั๊ยถึงใช้ของtoyota มันมีเครื่องมืออะไรที่พิสูจน์ได้หรือไม่ว่ามันดีจริง? หัวข้อ: Re: รถไม่เคยใส่น้ำยาสีแดงที่อยู่ในหม้อน้ำ เริ่มหัวข้อโดย: น้าเช ที่ 29 มีนาคม 2555 23:24:31 :emotsประโยชน์ของมันก็พอจะมีบ้างครับ ตามประสบการณ์ในอดีตที่เคยทำงานที่เป็นโรงงานผลิตcoolant และHBF ป้อนให้กับ Major Oil แบรนด์ต่างๆ อธิบายคร่าวๆนะเอาเท่าที่จำได้ถ้าจะเอาละเอียดก็ไปหาข้อมูลเอาเอง :emotiaโดยคุณสมบัติของมันคือทำให้จุดเดือดของน้ำสูงขึ้นเพราะมันมีส่วนผสมของ (MEG) Monoethylene Glycol ทำให้ถ่ายเทความร้อนของระบบหล่อเย็นดีขึ้น ช่วยไม่ให้เครื่องยนต์เกิดความร้อนสูง ปรกติสารตัวนี้ถ้ายังไม่ผสมน้ำ จุดเดือดจะสูงมาก เค๊าเรียกboiling point มันจะอยู่ที่ประมาณ160 อาศาC มั๊งถ้าจำไม่ผิด (คูลแลนท์ถึงจุดเดือดช้า คายความร้อนเร็ว :ภาษาชาวบ้านก็ ร้อนช้า เย็นเร็ว) พอผสมน้ำเป็นคูลแลนท์ทั่วไป boiling point ก็จะอยุ่ประมาณ 110 องศาC คุณสมบัติอื่นก็แล้วแต่ละบริษัทที่จะผสม additive ลงไปเพื่อเป็นจุดขายเช่น ป้องกันสนิม ตะกรัน แล้วแต่จะโฆษณา ส่วนสีก็แล้วแต่ละบริษัทแต่ละที่ก็จะมีสีเป็นเอกลักษ์ของตัวเองแต่ส่วนมากจะผสมสีที่สะท้อนแสง หรือที่เรียกว่า Fluorescent :emotqส่วนยี่ห้อไหนจะดีกว่ากันก็ต้องลองซื้อมาใช้กันเอง แต่ผมใช้ของtoyota ผสมมาแล้ว กระป๋องนึงก็สี่ร้อยกว่าบาท ติดตามตอนต่อไปจะมาบอกว่าทำมั๊ยถึงใช้ของtoyota มันมีเครื่องมืออะไรที่พิสูจน์ได้หรือไม่ว่ามันดีจริง? คอยครับ หัวข้อ: Re: รถไม่เคยใส่น้ำยาสีแดงที่อยู่ในหม้อน้ำ เริ่มหัวข้อโดย: NineTwo@Monster ที่ 30 มีนาคม 2555 00:10:59 :emotsประโยชน์ของมันก็พอจะมีบ้างครับ ตามประสบการณ์ในอดีตที่เคยทำงานที่เป็นโรงงานผลิตcoolant และHBF รอคอยความรู้ครับ ชอบน้าจริงๆ เต้าหู้ทอดนี่ก็ชอบกิน อิอิป้อนให้กับ Major Oil แบรนด์ต่างๆ อธิบายคร่าวๆนะเอาเท่าที่จำได้ถ้าจะเอาละเอียดก็ไปหาข้อมูลเอาเอง :emotiaโดยคุณสมบัติของมันคือทำให้จุดเดือดของน้ำสูงขึ้นเพราะมันมีส่วนผสมของ (MEG) Monoethylene Glycol ทำให้ถ่ายเทความร้อนของระบบหล่อเย็นดีขึ้น ช่วยไม่ให้เครื่องยนต์เกิดความร้อนสูง ปรกติสารตัวนี้ถ้ายังไม่ผสมน้ำ จุดเดือดจะสูงมาก เค๊าเรียกboiling point มันจะอยู่ที่ประมาณ160 อาศาC มั๊งถ้าจำไม่ผิด (คูลแลนท์ถึงจุดเดือดช้า คายความร้อนเร็ว :ภาษาชาวบ้านก็ ร้อนช้า เย็นเร็ว) พอผสมน้ำเป็นคูลแลนท์ทั่วไป boiling point ก็จะอยุ่ประมาณ 110 องศาC คุณสมบัติอื่นก็แล้วแต่ละบริษัทที่จะผสม additive ลงไปเพื่อเป็นจุดขายเช่น ป้องกันสนิม ตะกรัน แล้วแต่จะโฆษณา ส่วนสีก็แล้วแต่ละบริษัทแต่ละที่ก็จะมีสีเป็นเอกลักษ์ของตัวเองแต่ส่วนมากจะผสมสีที่สะท้อนแสง หรือที่เรียกว่า Fluorescent :emotqส่วนยี่ห้อไหนจะดีกว่ากันก็ต้องลองซื้อมาใช้กันเอง แต่ผมใช้ของtoyota ผสมมาแล้ว กระป๋องนึงก็สี่ร้อยกว่าบาท ติดตามตอนต่อไปจะมาบอกว่าทำมั๊ยถึงใช้ของtoyota มันมีเครื่องมืออะไรที่พิสูจน์ได้หรือไม่ว่ามันดีจริง? |