หัวข้อ: เล่าสู่กันฟังหลังล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: toodmax ที่ 18 สิงหาคม 2012 18:44:28 เล่าสู่กันฟังหลังล้างห้องเครื่องครับ พอดีวันนี้ว่างๆก้เลยล้างรถครับ ล้างห้องเครื่องด้วย
หลังล้างเสร็จ ติดเครื่องยนต์ รถมีอาการสะดุดครับ เร่งเท่ารัยก้สะดุด ไอ้เราก็นึกว่าเครื่องมีปัญหา ก้เลยขับไปอู่ ขับไปได้ประมาณ 7 กิโลเมตร ยังไม่ทันถึงอู่เลย วิ่งไปแบบสะดุดแบบนี้แหละ อีกประมาณ 3 โลจะถึงอู่รถ อ้าว หายแล้วนิหว่า เออดีไม่ต้องเสียตังคต์ เล่าสู่กันฟังครับ เผื่อเพื่อนๆสมาชิกล้างห้องเครื่องแล้วเจอปัญหาเหมือนกัน อย่าเพิ่งไปหาหมอนะครับ ลองติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้ซักพักใหญ่ๆ หรือไม่ก็ลองขับซักระยะทาง 5-10 กิโลเมตรดูครับ บางทีน้ำอาจจะไปซึมเข้าอุปกรณ์บางอย่างครับ เจอความร้อนแล้ว จะหายไปเองครับ หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟังหลังล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: toodmax ที่ 18 สิงหาคม 2012 18:45:43 ไม่เหมือน DMAX ล้างเท่าไร ฉีดน้ำเท่ารัย ถึงไหนถึงกัน ติดเครื่องยนต์ก็ไม่เจอปัญหาใดๆครับ :emo2
หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟังหลังล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: มาท ที่ 18 สิงหาคม 2012 18:47:04 ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟังหลังล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: yong ที่ 18 สิงหาคม 2012 18:48:40 :emo2 :emotn
หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟังหลังล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: nong@111 ที่ 18 สิงหาคม 2012 18:57:36 เป็นเรื่องปกติครับ จานจ่ายจะเกิดเป็นละอองน้ำด้านใน จึงทำให้สะดุดพอวิ่งไปสักพักก็จะหายไปเองครับ ทางที่ดีตอนล้างเครื่องควรห่อจานจ่ายด้วยถุงพลาสติกครับ
ปล. มีอีกจุดนึงหลังล้างห้องเครื่องเส็ดควรเอาลมเป่าในเบ้าหัวเทียนด้วยนะครับเพราะน้ำอาจจะเข้าไปขังได้ หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟังหลังล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: ~kOdOmO~.CZ.65 ที่ 18 สิงหาคม 2012 18:58:01 :emo2
ไม่เหมือนดีเซลสาดมันเข้าไป :emoa หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟังหลังล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: หนึ่ง_ ที่ 18 สิงหาคม 2012 19:25:59 ผมเอาถุงครอบจานจ่าย กล่องฟิวส์
ใช้โซล่าผสมแฟ๊บ+ฟองน้ำ ถูทั่วๆ แล้วใช้น้ำ ฉีดล้างอีกที ไดร์ชาร์ทไม่ค่อยได้ฉีด กลัวพังครับ ทำแบบนี้ตลอด ไม่มีปัญหาตามมาครับ :emow หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟังหลังล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: commander29 ที่ 18 สิงหาคม 2012 19:45:29 ของผม เอาไปล้าง ที่คาร์แคร์ ครั้งแรก สตาร์ทไม่ติด - -
ช่างหน้าซี๊ดเลย ^^ เสณ็จทีนี้ แกก็แกะ สายแบตใหม่ แล้วเช็ดๆๆ + เช็ดขั้วแบตด้วย ใส่อีกที สตาร์ท ติด แกทำหน้าโล่งใจ ขึ้นมาทันที เห็นหน้าช่างแล้วอดขำ ไม่ได้ อิอิอิอิอิ แต่รถก็วิ่ง ปรกติดี ทุุกอย่างครับผม ^^ หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟังหลังล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: smilegames ที่ 18 สิงหาคม 2012 19:47:32 ควรเป่าลม ไล่ความชื้นสะก่อน รถเบนซิล ใช้ไฟในการจุดระเบิด ไฟกับน้ำไม่ถูกกัน รถดีเซล ใช้กำลังอัดให้ระเบิด เลยไม่ค่อยกล้วน้ำเท่าไร แต่พวกที่เป็นระบบไฟฟ้าต่างๆก็ต้องระวัง และป้องกันไว้ก่อนล้างครับ
หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟังหลังล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: peelapol ที่ 18 สิงหาคม 2012 20:33:14 ล้างห้องเครื่องน้ำเข้าจานจ่ายเคยโดนช่างฟันหัวแบะมาแล้ว :emotib
หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟังหลังล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: >> OaTzy << SZ#013 ที่ 18 สิงหาคม 2012 20:55:43 เอาไขควงไขน๊อตที่ฝาครอบจานจ่ายออก 3 ตัวง่าย ๆ แล้วก็เอาออกมาเช็ดให้แห้ง จบ!
ใครเป็นแบบนี้มาอ่านทีหลังจำไว้ใช้ด้วยเด้ออ หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟังหลังล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: Piggy 92 ที่ 18 สิงหาคม 2012 21:32:53 :emotia
หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟังหลังล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: AE.พาฝัน ที่ 18 สิงหาคม 2012 21:41:30 :emotk :emotk :emotk
:emo2 หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟังหลังล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: BUT_AE101 ~Lx~ ที่ 19 สิงหาคม 2012 06:24:18 ถ้าสายหัวเทียนไม่ดี น้ำลงไป ขัง เต็มรูเลยล่ะครับ ผมเคยล้างคันเก่า 555 จะไ้ดดีซื้อเครื่องเป่าลม บนห้าง ตัวละไม่ถึง พันเลย ไว้เป่าฝุ่น ในรถ เป่าห้องเครื่อง ได้ด้วยครับ
หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟังหลังล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: plew_ch ที่ 19 สิงหาคม 2012 09:04:19 ผมก็ล้างเอง ใช้น้ำยาล้างห้องเครื่องที่ซื้อจากเชียงกงสีแดงฯผสมน้ำ เอาแปลงทาสี ทาทั่ว ทาให้ชุมเลย ปล่อยมันกัดความสกปกออก แน้นแถวผนังห้องเครื่อง แต่จะระวังมากก็ จานจ่าย + สายหัวเทียน + เบ้าหัวเทียนบนฝาวาล์ว คือไม่ทามาก ทาแบบหมาดฯ
แล้วเอาน้ำจากสายยางที่ไม่มีแรงดัน ต่อจากก๊อกน้ำธรรมดา หรือใช้ขันตัก ราดล้างน้ำยาออกให้หมด เวลาราดบนฝาวาล์ว ให้เอามือกดสายหัวเทียนไว้ ลดการซึมเข้าไปของน้ำท่จะเข้าไปในเบ้าหัวเทียน เมื่อล้างเสร็จ ยังเปียกฯอยู่ ก็เอาผ้าแห้ง หรือ กระดาษทิชชู่ซับน้ำให้แห้งสนิทแถวเบ้าหัวเทียน ในรูเบ้าหัวเทียน(ถ้าไม่ให้ลงไปจะดีที่สุด) และที่จานจ่ายตรงปลั๊ก4หัวที่เสียบสายหัวเทียน ซับน้ำให้แห้งสนิท ค่อยสตาร์ท ส่วนใหญ่จะไม่มีปัญหา ต้องระวังคือไม่ให้น้ำ ตกลงไปในรูเบ้าหัวเทียน เอาออกยากมาก ถ้าไม่มีเครื่องปัมลม เป่าลมแรงฯให้มันออก ผมจะล้างห้องเครื่องตอนเครื่องยังไม่เย็นสนิท ความร้อนจะไล่ความชื้นออก แต่ห้ามล้างหลังดับเครื่องทันที ต้องรอสัก 15-20นาอย่างน้อย เปิดฝากระโปรงระบายความร้อนออกก่อน ค่อยล้าง เสี่ยงน้อยที่สุด หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟังหลังล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: Jay หมอศรี @ WZ Zone ที่ 20 สิงหาคม 2012 00:54:50 ผมล้างโดยใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ฉีดอัดแล้วก็พอเสร็จช่วงมาล้างรถ ก็จะติดเครื่องทิ้งไว้ให้พอมีอุณหภูมิสะสมในห้องเครื่อง
แล้วดับเครื่อง เปิดฝาให้ความร้อนมันไปนำพาไอน้ำออกมาด้วย หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟังหลังล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: P.K.FX101 ที่ 20 สิงหาคม 2012 04:51:18 เคยล้างที่คาร์แคร์ กลับมาบ้านจอดรถประมาณ5-10นาที (บ้านห่างจากคาร์แคร์ประมาณ3โล) มีควันออกมาหน้ารถตกใจ!!!เปิดดู ไดร์ไหม้ครับ หลังจากนั้นมาไม่เคยล้างเครื่องอีกเลย
หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟังหลังล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: GeorgeDevil<NC.Z> ที่ 23 กันยายน 2012 16:48:25 ล้างรถ ล้างเครื่อง กลับบ้านมา มีผลดังนี้ครับ
วิ่งน้ำมัน ปกติ แต่ พอเปลี่ยนเป็น วิ่งแก๊ส (รถมีอาการสะดุด) เหมือนสะอึก อ่ะครับ ผมใช้ โซแนกฉีด ไล่ความชื้นได้ไหมครับ หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟังหลังล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: AE111กับเอ็กซ์ พิโลก!! ที่ 23 กันยายน 2012 17:07:18 ถูกต้องแล้วครับ
หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟังหลังล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: Piggy 92 ที่ 23 กันยายน 2012 20:01:03 ลองถอดจานจ่ายมาเช็ดๆข้างในด้วยครับน้า....
หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟังหลังล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: ATEE90 <® Zone> ที่ 23 กันยายน 2012 22:07:48 เป็นเรื่องปกติครับ จานจ่ายจะเกิดเป็นละอองน้ำด้านใน จึงทำให้สะดุดพอวิ่งไปสักพักก็จะหายไปเองครับ ทางที่ดีตอนล้างเครื่องควรห่อจานจ่ายด้วยถุงพลาสติกครับ ปล. มีอีกจุดนึงหลังล้างห้องเครื่องเส็ดควรเอาลมเป่าในเบ้าหัวเทียนด้วยนะครับเพราะน้ำอาจจะเข้าไปขังได้ + เพิ่งโดนไปเมื่อวาน สะดุดเลย ทุกทีจะเอาถุงครอบไว้ แต่หลังๆ ไม่ทำเพราะนึกว่าไม่เป็นไร แต่พอติดเครื่องวิ่งหน้าซีดเลย เลยถอดฝาครอบจานจ่ายออกมาดู ละอองน้ำเต็มเลย หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟังหลังล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: karaboon ที่ 23 กันยายน 2012 23:51:19 ล้างสาดมาแล้ว ไม่ได้ปิด ล่อคอยจานจ่ายไปตัว สบายเลย
ระวังๆกันหน่อย |