AE. Racing Club

พอดีว่ารถผมมีอาการรถไดชาร์จเสียเลยเปลี่ยนใหม่(เชียงกง) ใช้ไปประมาณ 2-3เดือน อาการมาครับคือรถสตาร์ทไม่ติดแต่ถ้าพ่วงแบตก็จะติดและก็วิ่งได้ประมาณ2-3วันก็เป็นอีก ก็เลยคิดว่าไม่แบตพังก็ไดชาร์จพัง ก็ไปถามช่างที่เป็นรุ่นพี่แถวบ้าน ช่างบอกให้จอดรถไว้และถอดขั้วแบตออก1ขั้วทิ้งไว้1คืน ตอนเช้าให้ใส่ขั้วแล้วสตาร์ทถ้าติดแสดงว่ามีไฟรั่ว ถ้าไม่ติดก็น่าจะเป็นที่แบตแต่ช่างก็คิดว่าไม่น่าจะใช่แบตเพราะว่า เพิ่งเปลี่ยนแบตมาตอนเดือน3/2555ผมก็เลยไปหาข้อมูลเรื่องไฟรั่วแล้วก็ได้วิธีเช็คแบบง่ายๆมาพอเช็คก็เจอว่าไฟรั่วจริงๆ วันนี้ก็เลยเอาเข้าร้านไดนาโมทิ้งรถไว้ให้ช่างเช็คว่ารถไฟรั่วจุดไหนแต่พอให้เพื่อนไปรับรถมาช่างกับบอกว่าไดชาร์จที่ใช้มีขนาดเล็กไปต้องหาตัวที่ใหญ่กว่านี้ถึงจะใช้ได้ ผมก็งงๆว่ามันเกี่ยวกันด้วยเหรอเนี่ย เพราะว่าเมื่อวานรถผมเพิ่งดับกลางถนนสาทรมาหมาดๆเพราะว่าไฟไม่พอสตาร์ทยังไงก็ไม่ติดต้องพ่วงแบตเข็นตั้งแต่แยกสาทรไปหลบอยู่ตรง รพ.เซ็นหลุย รถติดโคตร จากนั้นก็โทรหาช่างที่เป็นรุ่นพี่ พี่เค้าก็บอกว่าให้ทิ้งรถไว้ก่อนไว้ให้รถโล่งๆค่อยพ่วงแบตและขับกลับมาโดยให้ใช้ไฟให้น้อยที่สุดเพราะว่าไฟจะไม่พอ

ผมจึงอยากทราบว่าช่างไดนาโมทำไมถึงสรุปว่าต้องใช้ไดชาร์จที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม ทั้งๆที่ผมใช้ไดชาร์จของรถมาตลอดก็ไม่มีปัญหา ช่วยทีนะครับ

อาการไฟรั่วอาจสังเกตได้ง่ายๆ จากการลองเอาขั้วแบตถอดออกมาแล้ว เวลากลับมาใส่หากมาแตะๆ ตรงขั้วลบดู ...
ท่าหากมีประกายไฟสปาร์คเล้กน้อยอาจเป็นเพราะไฟนาฬิกาของรถยนต์เรา แต่ท่าสปาร์คแรงมีประกายไฟแสดงว่าอาจมีรั่วแน่ๆ ...

น้ารู้แล้วว่าเป็นอาการไฟรั่ว ไม่ได้เกี่ยวกับไดชาร์จแน่นอน สรุปก้อคือ โดนช่างลวงโลกอีกแล้วววววว ...

นั่นดิผมว่่ามันจะเกี่ยวกะไดชาร์จเล็กไปได้ไง

ถ้ามี Clamp Meter ลองวัดตอนปิดสวิตช์ทั้งหมดดูครับ ว่ามีกระแสไหลหรือป่าว ของผมเคยไหลออก 1 A ต้องเช็คว่ามันรั่วจากไหน