AE. Racing Club

AE Racing Club - FreeStyle => Free Style - AE Racing Club => ข้อความที่เริ่มโดย: plew_ch ที่ 25 พฤษภาคม 2013 12:49:52



หัวข้อ: ซื้ออะไหล่ จ่ายเงินเท่ากัน ได้ของเทียม ราคาเท่าของแท้
เริ่มหัวข้อโดย: plew_ch ที่ 25 พฤษภาคม 2013 12:49:52
พวกเราใช้รถ ถ้าเราจ่ายเงินในจำนวนเท่ากัน แต่ได้ของเทียม ในราคาของแท้ เจ็บใจไหม กว่าจะรู้ ต้องได้เห็นของแท้ จับสัมผัส ลองใช้ ลองชิม(ถ้าได้) ถึงจะแยกออกว่า อะไรแท้ อะไรเทียม ในเมื่อจ่ายเงินไปเท่ากัน ย่อมอยากได้ของแท้
ถ้าสมมุติว่ามีร้านอะไหล่ พอเราจ่ายเงินแล้ว ยอมให้เราไปหยิบอะไหล่ชิ้นนั้น มันมีทั้งของแท้ และ เทียม วางด้วยกัน ก็ขึ้นอยู่กับเราว่า มองออก แยกออก รู้ว่า อะไรคือของแท้ อะไรคือของเทียม ทั้งหมดนี้ ขึ้นอยู่กัยตัวเราเอง
แล้วเราชาว พุทธ รู้ไหมว่า
เราใส่บาตรกับพระ มีศิลครบ ได้อนิสงค์ กลับมา 100 เท่า
เราใส่บาตรกับพระ ทุศิล ได้อนิสงค์ กลับมา 1 เท่า
แล้วเราจะใส่บาตรกับพระแบบไหน
ถ้าเรามีเมล็ดพันธ์ขาวในกำมือ จะหว่านลงใน นาดี เพื่อให้ได้เจริญงอกงาทเป็นข้าวดี หรือ จะหว่างลงใน นาเลว ไม่เจริญได้ข้าวน้อย เราเลือกนา หรือ นาเลือกเรา
พรุ่งนี้แล้วนะ ไปเดินเล่น เซ็นทรัลลาดพร้าว ตามศรัทธา ในงานนี้
http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=128871.0
ชี้ทางไว้แล้ว อยู่ที่จะเดินไปหรือไม่


หัวข้อ: Re: ซื้ออะไหล่ จ่ายเงินเท่ากัน ได้ของเทียม ราคาเท่าของแท้
เริ่มหัวข้อโดย: chaiyasita ที่ 25 พฤษภาคม 2013 16:09:13
ขอให้ทุกท่าน ได้กุศล จากการรู้จักอริยสัจสี่ครับ


หัวข้อ: Re: ซื้ออะไหล่ จ่ายเงินเท่ากัน ได้ของเทียม ราคาเท่าของแท้
เริ่มหัวข้อโดย: SPIDERKING ที่ 25 พฤษภาคม 2013 21:24:03
เลิกใส่บาตรกับพระสงฆ์มานานนนนแล้วครับ ผมใส่ให้กับพระในบ้าน(แม่)แทนครับได้เห็นๆได้ทั้งคำอวยพรและเห็นคนที่ให้กำเนิดเราอิ่มดีกว่าไปให้กับไอ้พวกที่เอาผ้าเหลืองมาห่มเฉยๆครับ


หัวข้อ: Re: ซื้ออะไหล่ จ่ายเงินเท่ากัน ได้ของเทียม ราคาเท่าของแท้
เริ่มหัวข้อโดย: chaiyasita ที่ 26 พฤษภาคม 2013 00:05:21
เหล่านั้น มิใช่ภิกษุในธรรมวินัย


หัวข้อ: Re: ซื้ออะไหล่ จ่ายเงินเท่ากัน ได้ของเทียม ราคาเท่าของแท้
เริ่มหัวข้อโดย: chaiyasita ที่ 26 พฤษภาคม 2013 00:14:21
พระพุทรเจ้าทรงตรัสจากพระโอษฐ์

ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวการกระทำตอบแทนไม่ได้ง่ายแก่ท่านทั้ง ๒ ท่าน
ทั้ง ๒ คือใคร คือ มารดา ๑ บิดา ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุตรพึงประคับประคองมารดา
ด้วยบ่าข้างหนึ่ง พึงประคับประคองบิดาด้วยบ่าข้างหนึ่งเขามีอายุ มีชีวิตอยู่ตลอดร้อยปี และเขา
พึงปฏิบัติท่านทั้ง ๒ นั้นด้วยการอบกลิ่น การนวด การให้อาบน้ำ และการดัด และท่าน
ทั้ง ๒ นั้น พึงถ่ายอุจจาระปัสสาวะบนบ่าทั้งสองของเขานั่นแหละ ดูกรภิกษุทั้งหลาย การกระทำ
อย่างนั้นยังไม่ชื่อว่าอันบุตรทำแล้วหรือทำตอบแทนแล้วแก่มารดาบิดาเลย ดูกรภิกษุทั้งหลาย
อนึ่ง บุตรพึงสถาปนามารดาบิดาในราชสมบัติ อันเป็นอิสราธิปัตย์ ในแผ่นดินใหญ่อันมีรตนะ
๗ ประการมากหลายนี้ การกระทำกิจอย่างนั้น ยังไม่ชื่อว่าอันบุตรทำแล้วหรือทำตอบแทนแล้ว
แก่มารดาบิดาเลย ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะมารดาบิดามีอุปการะมาก บำรุงเลี้ยง แสดง
โลกนี้แก่บุตรทั้งหลาย ส่วนบุตรคนใดยังมารดาบิดาผู้ไม่มีศรัทธา ให้สมาทานตั้งมั่นในศรัทธา
สัมปทา ยังมารดาบิดาผู้ทุศีล ให้สมาทานตั้งมั่นในศีลสัมปทา ยังมารดาบิดาผู้มีความตระหนี่
ให้สมาทานตั้งมั่นในจาคสัมปทา ยังมารดาบิดาทรามปัญญา ให้สมาทานตั้งมั่นในปัญญาสัมปทา
 ดูกรภิกษุทั้งหลาย ด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้แล การกระทำอย่างนั้นย่อมชื่อว่าอันบุตรนั้นทำแล้ว
และทำตอบแทนแล้ว แก่มารดาบิดา ฯ

อ้างจาก พระไตรปิฎก ภาษาไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๒ อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต หน้าที่ ๕๘ ข้อที่ ๒๗๘