AE. Racing Club

AE Racing Club - Knowledge Sharing => รวมบทความ ความรู้ต่างๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: toyotanon ที่ 09 กันยายน 2013 15:04:58



หัวข้อ: Remote jamming วิธีขโมยรถยอดนิยม ที่เพิ่งเข้าไทย
เริ่มหัวข้อโดย: toyotanon ที่ 09 กันยายน 2013 15:04:58
Remote Jamming  เป็นคำที่หลายคนยังไม่รู้จัก จนเมื่อมีการออกข่าวเรื่องการขโมยรถ โดยใช้อุปกรณ์ทำการส่งคลื่นรบกวน ระบบกันขโมยและระบบล็อครถ จนคนร้ายเข้ามาในรถได้ตอนเจ้าของไม่อยู่

(http://www.toyotanon.com/article-images/toyota_2013-08-31-15-57-50.jpg)
 
ข่าวนี้กลายเป็นที่สนใจทันที เพราะวิธีการป้องกันรถยนต์ที่นิยมที่สุดในบ้านเรา กลับถูกปลดล็อคอย่างง่ายดาย แต่สำหรับต่างประเทศ มันไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร
ในปัจจุบันการดักสัญญาณแบบนี้มีอยู่ 2 รูปแบบคือ
1. สกัดสัญญาณ วิธีการนี้จะทำการส่งสัญญาณรบกวนระบบล็อครถของคุณ โดยที่คุณกดรีโมทล็อครถ ที่จะล็อคประตูกับระบบเซ็นทรัลล็อคตามปกติ แต่ที่จริงรถกลายเป็นว่าคุณปล่อยรถของคุณทิ้งไว้โดยไม่ได้ล็อค นั่นเอง ซึ่งที่ออกข่าวการขโมยรถไป จะเป็นการขโมยรถด้วยวิธีสกัดสัญญาณ
2. คัดลอกสัญญาณ วิธีนี้เป็นที่นิยมในต่างประเทศ เพราะคุณจะกดรีโมท และล็อครถได้ตามปกติ แต่หารู้ไม่มีคนดักจับคลื่นสัญญาณรีโมทรถคุณอยู่ และเมื่อมิจฉาชีพเหล่านั้นแปลงสัญญาณของคุณออกมาใช้ ก็เหมือนเขามีรีโมทของคุณมาเปิดรถคุณเสมือนรถของตัวเขาเอง

เมื่อรู้ถึงรูปแบบของ Remote Jamming ไปแล้ว คราวนี้เราจะมาแนะนำวิธีที่ลดความเสี่ยงจากการถูกโจรกรรมด้วยวิธี Remote Jamming กันดูครับ
1. ในลานจอดรถคือแหล่งขโมยชั้นดี เพราะในลานจอดรถตามห้าง อาคาร มีมุม และเสาเพื่อหลบสายตาอยู่เต็มไปหมด มองซ้ายขวา สังเกตดูรอบๆ ให้ดี ก่อนกดสัญญาณรีโมทนะครับ
2. ที่พลุกพล่านปลอดภัยกว่า แน่นอนครับ ไม่ใช่แค่กับมิจฉาชีพประเภทนี้ การลงมือโจรกรรมในที่คนอยู่เยอะมันเสี่ยงเกินที่จะทำ คุณก็สบายใจว่ารถคุณปลอดภัยกว่าจอดในที่ลับสายตา
3. สังเกตพิรุธผู้ที่อยู่บริเวณนั้น เพราะการ remote jamming ผู้ใช้จะต้องอยู่ใกล้พอ ตอนคุณตอนกดรีโมท ก่อนจะเลือกจอดมองดูคนแถวนั้นสักหน่อย ว่ามีคนอยู่ในที่ไม่จำเป็นหรือไม่ ถืออุปกรณ์แปลกๆ ในมือหรือเปล่า ทำตัวน่าสงสัยคอยมองรถคันต่างๆ นี่ยิ่งไม่น่าไว้ใจ ขับไปแจ้งรักษาความปลอดภัยให้มาช่วยตรวจสอบก็ดีครับ
4. เช็ครถก่อนเดินจากไป เมื่อกดรีโมทแล้ว ลองจับประตูรถเปิดดูสักหน่อยก็ไม่เสียหาย หรือถ้าระแวงแถวๆที่จอดแต่ จำเป็นต้องจอด แนะนำว่าล็อครถด้วยกุญแจเลยครับ ตัดปัญหา เพราะโดยส่วนใหญ่ระบบเซ็นทรัลล็อกทำงานแยกส่วนกับระบบรีโมทสั่งการ และถ้ามีจังหวะก็เดินกลับมาดูรถบ้างก็ดีครับ
5. ไม่ต้องมีของให้ขโมย เพราะไม่ว่าเราจะป้องกันดีแค่ไหน แต่เราก็ไม่รู้ว่า มิจฉาชีพเหล่านี้จะใช้วิธีการอะไรบ้าง บางทีแปลกจนเราตามไม่ทัน เช่นนั้นก็ตัดปัญหาไปเลย เพราะถ้าเราพลาด จนรถถูกเปิดขึ้นมา ก็ไม่ต้องมีของอะไรให้คนเหล่านั้นหยิบติดมือไป ข้อนี้น่าจะเป็นการตัดปัญหาที่ดีที่สุด

ข้อมูลจาก
Remote jamming วิธีขโมยรถยอดนิยม ที่เพิ่งเข้าไทย (http://www.toyotanon.com/article_detail.php?article_id=170)
http://www.toyotanon.com (http://www.toyotanon.com)


หัวข้อ: Re: Remote jamming วิธีขโมยรถยอดนิยม ที่เพิ่งเข้าไทย
เริ่มหัวข้อโดย: dekgang ที่ 09 กันยายน 2013 15:25:01
ขอบคุณครับ  :emo2 :emo2 :emo2


หัวข้อ: Re: Remote jamming วิธีขโมยรถยอดนิยม ที่เพิ่งเข้าไทย
เริ่มหัวข้อโดย: doraemonarak ที่ 09 กันยายน 2013 21:33:53
คันใหม่ ผมทดลองดึงทุกครั้ง แต่ถ้าเจอการ copy เข้าไป กลัวว่ามันก็เปิดได้อยู่ดี เลยใช้กุญแจล็อค (สัญญาณก็ทำงานเช่นกัน) หาวิธีล๊อคภายในและถ่วงเวลาเยอะๆ อย่างน้อยมันก็ไม่ได้รถไป
แต่กับเออี ใช้กุญแจล็อค ทดลองดึงทุกครั้งกลัวของในรถหายมากกว่ารถ ข้อดีเออีอีกอย่างคือ จอดได้สบายใจครับ


หัวข้อ: Re: Remote jamming วิธีขโมยรถยอดนิยม ที่เพิ่งเข้าไทย
เริ่มหัวข้อโดย: AE92_C-West ที่ 09 กันยายน 2013 22:52:44
 :emotk :emotk


หัวข้อ: Re: Remote jamming วิธีขโมยรถยอดนิยม ที่เพิ่งเข้าไทย
เริ่มหัวข้อโดย: kondee ที่ 11 กันยายน 2013 13:17:46
ตามข้อที่1 ที่บอกว่าล็อคตามปกติ ที่จริงไม่ใช่ครับ มันไม่ได้ล็อค เสียงจะไม่มี เพียงแค่เราพอกดรีโมทล็อคแล้วลองใช้มือเปิดประตูดูอีกทีก่อนเดินจากไปก็จะช่วยได้ ของผมเองเคยเจอเป็นรีโมทของมาสด้า เขากดรีโมทค้างไว้ ผมกดรีโมทล็อครถผมไม่ได้ ไม่มีเสียงและไม่ล็อค ในทางกลับกัน ผมกดรีโมทของผมไว้รถมาสด้าก็ไม่สามารถล็อคได้เหมือนกัน ไปลองดูได้ (แต่เห็นมีตัวใหม่ของมาสด้า มีการแก้คลื่นความถี่ใหม่ต้องลองดู)เหมือนรีโมทคัมรี่ กดค้างไว้ อีซูซุ ดีแมก ล็อคไม่ได้