หัวข้อ: รถเกิด Backfire จูนหลายรอบแล้วก็ไม่หาย ช่างบอกอาจต้องเปลี่ยนหม้อต้ม เริ่มหัวข้อโดย: jaykungzcs ที่ 27 มีนาคม 2014 21:10:29 รถ AE110 แก็ส LPG Mixer อาการที่พบเลยก็คือ เกิด Backfire ดังปั๊ง !! แล้วก็จังหวะเร่งมีอาการสะดุด เลยไปให้ช่างช่วยดูเค้าจูนแก็สให้ใหม่ก็ยังไม่หาย ไปหลายรอบ ๆ เข้าก็ยังไม่หาย เขาเลยบอกว่าอาจจจะต้องเปลี่ยนหม้อต้มใหม่ วันนี้ผมเลยลองหาข้อมูลแล้วลองจูนเองดู - ขั้นแรกที่ผมจูนคือเปิด sense / idle เปิด power ไว้ 3 รอบ - เปิด idle 2 รอบ start ขยับอีกนิดจนรอบนิ่ง - เปิด sense แล้วลองเร่งเครื่อง ตอนแรกเปิด 3 รอบแล้วรองเร่งเครื่อง รถมีอาการไม่มีแรง ก็เปิด sense / idle เพิ่มเข้าไปอีก แล้วก็ power จนมีแรง ซึ่งผมเปิดไปอีกเกือบ 2 รอบ จากตอนแรก - ลองไปขับดู ปั๊งงงง !! backfire อีกแล้ววววววว ตอนนี้ผมไม่รู้จะแก้ยังไงแล้วฮะ รบกวนพี่ ๆ ช่วยแนะนำหน่อยครับ หรือร้านดี ๆ แถว พัทยา - ศรีราชาก็ได้ครับ ปล. สายหัวเทียน / หัวเทียน ยังไม่ได้เปลี่ยน ไม่รู้ว่าของเก่ามันนานหรือยัง ปล2 ถ้าต้องเปลี่ยนหม้อต้น กับ เปลี่ยนเป็นระบบหัวฉีด ค่าใช้จ่าย หรือข้อแตกต่างการใช้งานแบบไหนคุ้มกว่ากัน หัวข้อ: Re: รถเกิด Backfire จูนหลายรอบแล้วก็ไม่หาย ช่างบอกอาจต้องเปลี่ยนหม้อต้ม เริ่มหัวข้อโดย: Aj.Moo ที่ 28 มีนาคม 2014 07:26:42 ปล. สายหัวเทียน / หัวเทียน ยังไม่ได้เปลี่ยน ไม่รู้ว่าของเก่ามันนานหรือยัง
ไม่รู้ว่าใช้นานหรือยังก้อเปลี่ยนเถอะ ราคาไม่เท่าไหร่หรอกครับ ปล2 ถ้าต้องเปลี่ยนหม้อต้น กับ เปลี่ยนเป็นระบบหัวฉีด ค่าใช้จ่าย หรือข้อแตกต่างการใช้งานแบบไหนคุ้มกว่ากัน เปลี่ยนหม้อต้มราคาไม่กี่พันบาท แต่ถ้าให้ดีมีงบถึงแนะนำให้เปลี่ยนเป็นระบบฉีดครับ ปัญหาต่าง ๆ จะหายไป และใช้งานได้สบาย ๆ ประหยัดกว่าระบบดูดด้วยครับ สำหรับอัตราการบริโภคแกสของเครื่องยนต์ หัวข้อ: Re: รถเกิด Backfire จูนหลายรอบแล้วก็ไม่หาย ช่างบอกอาจต้องเปลี่ยนหม้อต้ม เริ่มหัวข้อโดย: tanunkorn ที่ 28 มีนาคม 2014 08:02:34 ผมก็เป็น ว่าจะจูนกับลองเปลี่ยนกรองดูกรองเก่ามันนานมากแล้ว เดียวมีข้อมูลจะแจ้งอีกที
หัวข้อ: Re: รถเกิด Backfire จูนหลายรอบแล้วก็ไม่หาย ช่างบอกอาจต้องเปลี่ยนหม้อต้ม เริ่มหัวข้อโดย: doraemonarak ที่ 28 มีนาคม 2014 11:06:23 หม้อต้มพันกว่าบาท ลองเปลี่ยนดูก้ได้ครับ หรือชุดซ่อมก็หกร้อย แต่ว่าผ้ามันจะแข็งกว่าของแท้ติดหม้อมานะครับ จูนยากกว่านิดๆ
การเปิดเซนส์ มากไป(หนา)เครื่องก็สะดุดได้นะ ผมว่าน้า จขกท จูนใจร้อนไปนะครับ(แรกๆผมเป็น) การจูนที่ผมทำก็อ่านในบอร์ดของน้าๆนี่แหละ ค่อยๆทีละนิด (ตอนไม่ลองขับ) พอนิ่งแล้วขึ้นรถ ต้องลองออกตัวแรงนิดนึง สะดุดหรือแบคไหม ถ้าใช่เพิ่มเซนส์ครึ่งรอบ แล้วลองใหม่ ของผมก็จบนะครับ(หรือว่าของผมเท่านั้นนะ) ปล.หมายถึงว่าจูนตอนเครื่องร้อนแล้ว เพื่อดูการชดเชยรอบด้วยว่าสะดุดไหม มีแรงไหม เข้าเกียร์เหยียบเบรคไว้สั่นไหม หนาไปบางไปสั่นได้หมด หัวข้อ: Re: รถเกิด Backfire จูนหลายรอบแล้วก็ไม่หาย ช่างบอกอาจต้องเปลี่ยนหม้อต้ม เริ่มหัวข้อโดย: jaykungzcs ที่ 28 มีนาคม 2014 12:33:33 ขอบคุณพี่ ๆ ทุกท่านครับ
สายหัวเทียน หัวเทียน อันนี้ผมว่าจะลองเปลี่ยนดูครับ รายงานผลการจูนของเมื่อวาน เมื่อเช้านี้ลองขับแบบกระทืบบ้าง ขับค่อย ๆ เร่งบ้าง - รอบเดินเบาแบบเกียร์ N รอบสูงเกือบถึง 1900 แบบไม่มีการดึงรอบแอร์ แต่ถ้าดึงรอบแอร์ รอบตกลงมาที่ 800 - 1000 / แต่ถ้าเป็นเกียร์ D หรือ R รอบกระชากจะดับอยู่ราว ๆ 1000 / 700 - ระหว่างเร่งรอบมีอาการกระตุก เร่งเร็วจะ backfire พอมีวิธีแก้ไหมครับ ต้องปรับอันไหนลด อันไหนเพิ่มไหมฮะ หัวข้อ: Re: รถเกิด Backfire จูนหลายรอบแล้วก็ไม่หาย ช่างบอกอาจต้องเปลี่ยนหม้อต้ม เริ่มหัวข้อโดย: doraemonarak ที่ 29 มีนาคม 2014 21:06:32 เปิดวาล์วกลางสายเพิ่มไปเลย(เดี๋ยววิ่งๆไปแล้วค่อยลดทีหลัง) แล้วเพิ่มเซนส์ทีละครึ่งรอบครับ จูนตอนพัดลมหม้อน้ำทำงาน คอมทำงาน อาการแอร์ต่อว่ารอบตกเยอะไหม เครื่องสั่นป่าว ถ้าเพิ่มเรื่อยๆแล้วเครื่องสั่นแสดงว่าเพิ่มเยอะไป ต้องลดลงจนนิ่ง เร่งลิ้นปีกผีเสื้อเร็วๆหอบหรือวูบไหม ลองขับแล้วกดเร็วๆแบคไฟร์ไหม ลองดูครับ
เซนส์จะจ่ายก็ตอนที่มีแรงดูดจากเครื่อง หากเครื่องดูดเร็ว เซนส์จ่ายไหมทัน มันจะบาง แรงตก แบคไฟร์ แต่ถ้าหนาเข้าเกียร์เหยียบเบรคไฟแดงมันจะสั่นได้เช่นกัน สู้ๆครับค่อยๆทำอย่าท้อ สุดท้ายจะรักมากขึ้น หัวข้อ: Re: รถเกิด Backfire จูนหลายรอบแล้วก็ไม่หาย ช่างบอกอาจต้องเปลี่ยนหม้อต้ม เริ่มหัวข้อโดย: plew_ch ที่ 29 มีนาคม 2014 21:42:45 หม้อต้ม ยังไม่ต้อง ยุ่งกับมัน
เปลี่ยนระบบไฟก่อน คือ หัวเทียนถอดมาขัด ถ้ายังไม่อยากเปลี่ยน สังเกตุสีด้วย เขี้ยวมันสีอะไรก่อนขัด สายหัวเทียน เช็คว่ารั่วไหม ไฟจ่ายจ่าย ตั้งอ่อนไปก็แบล็กไฟ อันนี้เจอกับตัวเอง ไปเปลี่ยนซีลแกนจานจ่าย แล้วไฟตั้งอ่อนไป จูนหนายังไงก็แบล็กไฟ เลยตั้งไฟแก่ขึ้น หายเลย จูนให้บางลงได้อีก หัวข้อ: Re: รถเกิด Backfire จูนหลายรอบแล้วก็ไม่หาย ช่างบอกอาจต้องเปลี่ยนหม้อต้ม เริ่มหัวข้อโดย: mron ที่ 07 พฤษภาคม 2014 10:04:22 ลองตั้งไฟให้แก่ขึ้นครับ
หัวข้อ: Re: รถเกิด Backfire จูนหลายรอบแล้วก็ไม่หาย ช่างบอกอาจต้องเปลี่ยนหม้อต้ม เริ่มหัวข้อโดย: doraemonarak ที่ 07 พฤษภาคม 2014 12:31:31 รถผมเพิ่งเสร็จ แบคเหมือนกัน เปลี่ยนหม้อต้มไม่หาย หัวเทียนชุดสำรองอิริเดียมไม่หาย สุดท้ายเปลี่ยนหัวเทียนธรรมดาใหม่ซิงๆครับ แล้วจูนให้เข้าที่(เดิมจูนไปไหนต่อไหนแล้ว) หายแล้วครับ
หัวข้อ: Re: รถเกิด Backfire จูนหลายรอบแล้วก็ไม่หาย ช่างบอกอาจต้องเปลี่ยนหม้อต้ม เริ่มหัวข้อโดย: ปิแอร์...แซ่บี้ ที่ 07 พฤษภาคม 2014 14:18:31 เปลี่ยนหัวเทียนดูก่อนครับ แล้วเชครั่วสายหัวเทียนครับ อาการนี้ระบบไฟนะผมว่า
หัวข้อ: Re: รถเกิด Backfire จูนหลายรอบแล้วก็ไม่หาย ช่างบอกอาจต้องเปลี่ยนหม้อต้ม เริ่มหัวข้อโดย: Jack_copy ที่ 16 พฤษภาคม 2014 13:54:44 ผมเห็นด้วยกับกรองครับ เปลี่ยนก่อน ไม่หาย หัวเทียน สายหัวเทียน จานจ่าย คอยล์
หัวข้อ: Re: รถเกิด Backfire จูนหลายรอบแล้วก็ไม่หาย ช่างบอกอาจต้องเปลี่ยนหม้อต้ม เริ่มหัวข้อโดย: doraemonarak ที่ 16 พฤษภาคม 2014 14:58:56 สาเหตุแบคไฟร์มีไม่เยอะ เพียงแต่ละสาเหตุมีปัจจัยย่อยๆอีกครับ ถ้ามีงบก็เปลี่ยนอุปกรณ์ทั้งหมด เพราะใช้ยาวๆคุ้ม ที่ผมเจอมีอยู่ 2 คัน ที่จูนแล้วยังไม่หายแบค
1.เปลี่ยนสายหัวเทียน คอยล์ ยกชุด(หัวเทียนใหม่แล้ว) อาการแบคไฟร์หาย 2.เปลี่ยนสายแวคคั่มทั้งหมด เพราะแตกลายงา คันนี้แบคเฉพาะกดคันเร่งแรงๆ คาดว่าอากาศถูกดุดเข้าตามรอยแตกของสายแวคคั่ม ทำให้บาง เลยแบคครับ พอเปลี่ยนแล้วไม่มีอาการแบคไฟร์ ลองดูครับ หัวข้อ: Re: รถเกิด Backfire จูนหลายรอบแล้วก็ไม่หาย ช่างบอกอาจต้องเปลี่ยนหม้อต้ม เริ่มหัวข้อโดย: Nueng.k ที่ 10 กรกฎาคม 2014 10:41:48 รถผมก็เคยเป็นเปลี่ยนหม้อต้มได้ไม่นานราว ๆ เดือนกว่ามีอาการแบร็คไฟร์บ่อยมาก เลยลองมาหาข้อมูลในเว็บ เว็บนี้แหละผมได้ลองทำตามดูค่อย ๆ ทำไม่รีบลองหลายรอบแล้วก็หายโดยผมทำตามขั้นตอนดังนี้ครับ
1.ปิด idle ก่อนครับ (idle ไว้จูนรอบเดินเบาให้เครื่องนิ่ง) 2.ปิด Power จนสุดแล้วคลายออกมาประมาณ 3 รอบครึ่ง 3.สตาร์ทรถแล้วเปลี่ยนมาใช้ก๊าซ หากเครื่องจะดับให้เปิด idle ไว้เพื่อเลี้ยงไม่ให้เครื่องดับแล้วค่อย ๆ เปิด sense พร้อมกับปิด idle ทำไปเรื่อย ๆ จนปิด idle สนิท 4.หลังจากเครื่องสตาร์ทด้วยก๊าซได้แล้วโดย idle ปิดสนิท ให้ค่อย ๆ ปิด sense จนเหมือนเครื่องจะดับโดยรอบเครื่องควรอยู่ที่ราว ๆ 800-900 รอบ (ของผมจัดไว้ที่ 900-1000) 5.เมื่อได้รอบตามที่ต้องการแล้ว ลองเร่งเครื่องดูครับว่ามีไฟร์แบร็คออกอยู่หรือไม่ (ของผมปรกติถ้าทำตามนี้จะม่มีออกแล้ว) 6.หากลองเร่งแล้วไม่มีไฟร์แบร็คออกแล้วให้ลด sense ลงช้า ๆ จนเครื่องเริ่มสั่นนิด ๆ (ตอนนี้รอบน่าจะตกลงมาหน่อยจากข้อ 4) ให้หยุดแล้วค่อย ๆ เพิ่ม idle จนเครื่องเริ่มนิ่ง 7.เสร็จแล้วให้ลองเร่งเครื่องแล้วปล่อยดูครับว่ายังมีแบร็คไฟร์อีกหรือไม่ 8.ทุกขั้นตอนในการจูนต้องรอให้เครื่องร้อนก่อนน่ะครับ และทุกขั้นตอนเวลาเร่งเครื่องแล้วจะจูนต่อห้ามน่ะครับ เมื่อเร่งเครื่องแล้วจะจูนต่อต้องรอสักพักให้เครื่องกลับมารอบเดิมนิ่ง ๆ ก่อนค่อยจูนครับไม่งั้นจะไม่นิ่งสักทีครับ .... อันนี้เพิ่มเติมครับ อย่าลืมเช็คเรื่องระบบไฟด้วยน่ะครับ หัวเทียน สายหัวเทียน กระโหลกจานจ่าย แม้กระทั่งอายุการใช้งานแบตเตอร์รี่ เรื่องก๊าซ ๆ ปัญหาที่เจอกันบ่อยมักจะเป็นเรื่องระบบไฟ >< ผิดพลาดอย่างไรขออภัยด้วยครับ >< หัวข้อ: Re: รถเกิด Backfire จูนหลายรอบแล้วก็ไม่หาย ช่างบอกอาจต้องเปลี่ยนหม้อต้ม เริ่มหัวข้อโดย: Nueng.k ที่ 10 กรกฎาคม 2014 11:04:42 .....
หัวข้อ: Re: รถเกิด Backfire จูนหลายรอบแล้วก็ไม่หาย ช่างบอกอาจต้องเปลี่ยนหม้อต้ม เริ่มหัวข้อโดย: คนคลอง ที่ 28 สิงหาคม 2014 22:02:54 ขอชมว่า เยี่ยมมากๆครับ
คำแนะนำที่มีค่า ยามเข้าตาจน หันไปทางไหนก็มืด ดีที่ว่ามีเพื่อนๆชี้แนะ ให้ทำ เยี่ยมจริงๆครับ หัวข้อ: Re: รถเกิด Backfire จูนหลายรอบแล้วก็ไม่หาย ช่างบอกอาจต้องเปลี่ยนหม้อต้ม เริ่มหัวข้อโดย: janejer ที่ 31 สิงหาคม 2014 23:17:28 ผมติดแก๊สแบบมิกซ์ตั้งแต่ พ.ค.51 จนบัดนี้ยังมะได้เปลี่ยนหม้อต้มเลย เคยซื้อชุดซ่อมมาแต่มันไม่แท้ ลองแกะดูหม้อต้มสภาพยังแจ๋วอยู่ รวมใช้งานมา6ปี3เดือน สำหรับโทมาเซตโต้140HP หาจังหวะการจูนให้เจอนะคับ
หัวข้อ: Re: รถเกิด Backfire จูนหลายรอบแล้วก็ไม่หาย ช่างบอกอาจต้องเปลี่ยนหม้อต้ม เริ่มหัวข้อโดย: arserbyjan ที่ 12 กันยายน 2014 10:22:45 ผมพึ่งแก้หายไป เมื่อ อาทิตย์ก่อน ของผมเกิดจาก สายหัวเทียนครับ เปลี่ยนแล้วหายเลย
ช่างเปลี่ยนบอกว่า ถ้า Backfire ถี่ น่าจะเกิดจาก หัวเทียน กับ คอย แต่ถ้าไม่ จะเกิดจากสายหัวเทียน ซะส่วนใหญ่ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย นะครับ |