หัวข้อ: แจ้งเตือนคนใช้แก็สกับน้ำมันแก็สโซฮอล์ เริ่มหัวข้อโดย: A'_Chai ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2008 06:27:03 เคยเจอรถที่มาทำที่อู่เป็นอาการนี้อยู่เหมือนกัน เลยไม่ได้นำมาแจ้ง พิมพ์มะเก่ง พอดีอ่านข้อความนี้จากเมลล์
เลยนำมาฝากเพื่อนๆ และผมก็เป็นคนหนึ่งที่ใช้แก็ส แต่ขอไม่เติมแก็สโซฮอล์ หรือถ้าจำเป็นจริงๆก็ใช้ให้หมดถังซะ :emots เตือนผู้ที่ใช้น้ำมัน Gasohol ไม่ควรเติมน้ำมันแล้วทิ้งไว้นานไม่ใช้ *~๏ 'ผมเป็นคนแรกๆที่ติด LPG ให้กับ Mazda3 2.0 Sport ของผมมาปีกว่า ใช้งานร่วมกับแก๊สโซฮอล์ตั้งแต่เริ่มออกรถ ใช้งานได้ดีมาตลอดไม่มีปัญหาให้กวนใจ จนกระทั้งมาช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา รู้สึกว่ารถสตารท์ติดยากกว่าปกติ มีกลิ่นน้ำมันออกมาตอนสตารท์ บางครั้งต้องสตาร์ทถึง 2 ครั้งถึงจะติด และก็ขับได้ตลอดไม่มีปัญหา แต่เมื่อวานนี้ พอเลิกงานจะขับรถกลับบ้าน พอสตาร์ทรถเครื่องก็ติดปกติ แต่ยังไม่ทันออกรถ เครื่องยนต์ก็ค่อยๆหมดแรงและเครื่องก็ดับ สตาร์ทใหม่หลายครั้งก็ไม่ได้ ระบบไฟของรถไม่มีปัญหาใช้งานได้ปกติ เลยคิดว่าเป็นระบบจ่ายน้ำมันแน่ๆ เลยต้องจอดรถทิ้งไว้ พอตอนเช้าก็โทรเรียกรถลากลากไปศูนย์มาสด้าซิตี้ พระราม 4 ซ.แสนสบาย ทางศูนย์ก็เลยเช็คพบว่า น้ำมันแก๊สโซฮอล์ในถังเน่า ข้นและดำ เหม็นมากๆ ทำให้ปั้มติ๊กน้ำมันเสียใช้งานไม่ได้ ต้องเปลี่ยนใหม่ โชคดีที่รถยังใช้ไม่ถึง 3 ปียังเหลือประกันอยู่จึงไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ทางศูนย์จึงถอดถังน้ำมันออกมา เพื่อเอาปั้มติ๊กที่อยู่ที่ถังน้ำมันออกมาเปลี่ยนใหม่ กลิ่นน้ำมันคลุ้งไปทั้งศูนย์ พอเปลี่ยนปั้มติ๊กแล้วก็สตารท์ได้ปกติ ส่วนสาเหตุที่ปั้มติ๊กเสียได้คุยกับเจ้าหน้าที่ที่ศูนย์น่าจะมาจากสาเหตุเหล่านี้ อาจจะมาจากที่ผมเติมแก๊สโซฮอล์ โดยผมจะเติมน้ำมันให้เต็มถังตลอด พอน้ำมันเหลือครึ่งถังก็เติมเต็มเดือนละครั้ง และเนื่องจากผมใช้ LPG ด้วย จึงไม่ค่อยได้ใช้น้ำมัน ทำให้แกสโซฮอล์ค้างอยู่ในถังนานจนข้นและดำ ปั้มติ๊กจึงทำงานหนักและเสียในที่สุด ทางศูนย์แนะนำว่า 1. ควรจะเปลี่ยนมาใช้เบนซิน 95 แทน เพราะอาการปั้มติ๊กเสียมาจากแกสโซฮอล์มีมาหลายคันแล้ว โดยส่วนใหญ่มักใช้แกสโซฮอล์แล้วจอดรถทิ้งไว้นานๆ ไม่ค่อยวิ่งทำให้แกสโซฮอล์ค้างอยู่ในถังนานเกินไป 2. ควรใช้น้ำมันให้หมดถังบ้าง และใช้ LPG บ้าง เพื่อให้น้ำมันมีการถ่ายเทออกไป อย่าใช้ LPG อย่างเดียว จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงมาแชร์ให้เพื่อนๆที่ใช้พลังงานทางเลือกกัน เพื่อจะได้ยืดอายุการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆได้นานขึ้น และที่ผมคิดว่าจะทำเพิ่มคือสิ้นปีนี้คงต้องทำโปรแกรมฉลาดรักษ์รถกับมาสด้าซะแล้ว ก่อนจะรถครบ 30 เดือน เพราะว่าอุปกรณ์และอะไหล่ราคาค่อนข้างสูง รู้สึกว่ารถยังใช้ไม่ถึง 3 ปีก็เริ่มต้องเปลี่ยนอะไหล์แล้ว' E20 สาระที่ควรรู้ อาการรถมันจะเป็นเฉพาะตอนขับน้ำมัน แรกๆ คือสตาร์ทติดยาก ไม่ต่ำกว่าสองชึ่ง พอสตาร์ทติดแล้ว รอบเดินเบาสวิงๆ เร่งขึ้นจะบอดๆ ขับไม่ได้เลย ผมต้องถอดแอร์โฟลว์ช่วย แต่ก็ต้องสูญเสียในเรื่องอัตราเร่งที่อืดมากๆ กินแก๊สกินน้ำมันกว่าปกติด้วย อีกวันผมลองใส่เจ้าแอร์โฟลกลับไปเหมือนเดิมก็วิ่งได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จึงไม่รู้สาเหตุแน่ชัด ว่าเป็นที่อะไร พอดีจำได้ว่าล่าสุดเราเติมโซฮอล์ 95 ไว้ ก็เลยต้องวิ่งให้โซฮอล์หมดถัง จึงเปลี่ยนกลับเป็น 95 เพียวครับ ตอนนี้กำลัง monitor ว่าจะเป็นอีกหรือเปล่า กลัวอยู่ว่าจะต้องเปลี่ยนปั๊มติ๊กโดนเืกือบหมื่นแน่ๆ .....=='..... เจอเหมือนกันครับ ตอนนี้เปลี่ยนปั้มติ๊กไปเรียบร้อยแล้ว(ดีที่เคลมได้ ... ) ตอนนี้เลยเติม 95 เท่านั้น ระวังนะครับ สำหรับรถที่ใช้ น้ำมันโซฮอล์ร่วมกับ แก๊ส LPG/ CNG รถผมก็กำลังเจอเหตุการณ์คล้ายๆ หลายคน เกี่ยวกับเรื่องปั๊มติ๊กอุดตัน อ่านบทความนี??แล้วตรงเลย ไปพบข่าวนี้ในหนังสือพิมพ์มติชน เลยลอกมาให้อ่านกันสำหรับความรู้ของเครื่องยนต์ E20 ที่จะเริ่มมีมาก ขึ้นในอนาคตอันใกล้ E20 เจ๋งแน่ แต่ต้องระวัง... รู้ทัน ก่อนใช้จริงหลังปีใหม่ ช่วงปีที่ผ่านมา รัฐบาลมีความพยายามจะผลักดันให้ประชาชนหันมาใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E10 ทดแทน น้ำมันเบนซิน 95 จนเพิ่มขึ้นกว่า 30% ด้วยเหตุนี้รัฐบาลจึงเดินหน้าขยายการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์มากขึ้น โดยเริ่มให้มีการจำหน่ายน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ขึ้น ในต้นปี 2551 จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ประชาชนผู้ใช้ รถต้องรู้จักความแตกต่างของ E10 และ E20 รวมถึงคุณสมบัติต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อเครื่องยนต์ ผศ.ดร.จำนง สรพิพัฒน์ ประธานสายวิชาพลังงาน บัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม (JGSEE) แนะนำว่า ปัจจุบันประเทศไทยใช้เป็นแก๊สโซฮอล์ E10 ซึ่งมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 10% ด้วยคุณสมบัติหลายประการที่ใกล้เคียงกับน้ำมันเบนซิน กระนั้น การเพิ่มสัดส่วนแอลกอฮอล์ในน้ำมันอีก 10% กลายเป็นแอลกอฮอล์ 20% (ที่เหลือเป็นน้ำมันเบนซิน 80%) ทำให้คุณสมบัติของเชื้อเพลิงในส่วนที่ เป็นองค์ประกอบของแอลกอฮอล์ ซึ่งแตกต่างจากน้ำมันปรากฏมากขึ้น จึงอาจมีปัญหากับเครื่องยนต์และ รถบางรุ่น 'แอลกอฮอล์บริสุทธิ์ มีคุณสมบัติเด่นต่างจากเบนซิน เช่น จุดเดือดของแอลกอฮอล์ต่ำกว่าน้ำมัน ทำให้มี แรงดันไอมากกว่า ซึ่งจะมีปัญหากับรถบางรุ่น โดยเฉพาะรถรุ่นเก่าที่ใช้คาบูเรเตอร์ที่มีถังน้ำมันติดตั้ง ห่างจากตัวเครื่องยนต์มากเกินไป หรือรถยนต์ที่มีขนาดของท่อเชื้อเพลิงที่เล็กเกินไป อาจมีผลทำให้ แอลกอฮอล์ที่อยู่ในท่อเชื้อเพลิงเปลี่ยนสภาพจากของเหลวเป็นไอได้ง่าย เนื่องจากความฝืดของท่อมีมาก เกินไป ทำให้มีลักษณะเป็นฟองอยู่ในท่อดูดเชื้อเพลิง ส่งผลให้การหมุนของเครื่องยนต์มีความเร็วรอบไม่ สม่ำเสมอ เครื่องจะกระตุกหรือดับในบางช่วง ผศ.ดร.จำนง สรพิพัฒน์ 'แอลกอฮอล์ยังมีคุณสมบัติการกัดกร่อนสูง ยิ่งสัดส่วนของแอลกอฮอล์ในน้ำมันมากขึ้น ยิ่งเพิ่มคุณสมบัติการ กัดกร่อนเพิ่มมากด้วย จะกัดกร่อนยาง พลาสติคบางชนิด และโลหะประเภททองเหลือง ทองแดง ดังนั้น รถยนต์ที่มีอะไหล่เป็นยาง หรือโลหะทองเหลือง ทองแดงที่ไม่ได้รับการออกแบบและผลิตออกมาให้ทนต่อ การกัดกร่อนของแอลกอฮอล์เป็นพิเศษจะไม่สามารถทนต่อการกัดกร่อนได้ อาจส่งผลให้ท่อส่งน้ำมันไปจน ถึงถังน้ำมันเกิดการผุกร่อนจนทะลุได้ภายในระยะเวลาประมาณครึ่งปี-1 ปี ด้วยเหตุนี้ รถยนต์ที่สามารถ ใช้เชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ E20 ได้จึงต้องเป็นรถที่ผลิตด้วยยางหรือพลาสติคพิเศษที่ทนต่อการกัดกร่อนได้ รวมถึงต้องออกแบบองศาการจุดระเบิดให้เหมาะสมกับเชื้อเพลิงด้วย เพื่อให้เชื้อเพลิงสามารถเผาไหม้ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด' ปัจจุบันรถยนต์ที่ผลิตในประเทศจะออกแบบมาให้กับน้ำมันเบนซินล้วน เมื่อนำมาใช้กับแก๊สโซฮอล์ จึง สามารถใช้ได้เฉพาะกับแก๊สโซฮอล์ที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์ในระดับที่มีความเข้มข้นไม่สูงนักคือเพียง E10 เท่านั้น มีผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศไทยเพียงไม่กี่บริษัทเท่านั้นที่ผลิตหรือประกาศว่าจะนำเข้ารถยนต์บาง รุ่นที่สามารถรองรับการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 เช่น บริษัท ฟอร์ดและฮอนด้า ได้มีการรับรองรถบาง รุ่นว่าสามารถใช้ E20 ได้อย่างปลอดภัย ซึ่งผู้ซื้อสามารถสังเกตได้ง่ายจากสัญลักษณ์มาตรฐาน E20 ที่ ข้างรถ ทั้งนี้ ผศ.ดร.จำนงให้ข้อคิดเห็นว่าการนำรถเก่าเพื่อไปปรับแต่งเครื่องยนต์ให้สามารถใช้ E20 ได้นั้น ยังไม่มีผู้ผลิตรถยนต์บริษัทใดที่ให้การรับรอง อย่างไรก็ดี สำหรับประชาชนที่ยังมีปัญหากับแก๊สโซฮอล์ E10 ผศ.ดร.จำนงกล่าวว่า ผู้ที่ใช้ E10 แล้วมี ปัญหาส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้ใช้รถที่มักจะจอดรถทิ้งไว้นานๆ ไม่ได้ใช้รถเป็นประจำ ทำให้แอลกอฮอล์กับ น้ำมันเกิดการแยกตัวออกจากกันเพราะไว้เป็นเวลานานเกินไป แอลกอฮอล์ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่าจะลอย อยู่ด้านบน ดังนั้น เมื่อมีการใช้รถ บางส่วนของเชื้อเพลิงที่ถูกสูบเข้าไปในห้องเครื่องจะไม่ใช่น้ำมันแก๊ส โซฮอล์ แต่จะเป็นแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้นสูงมากหรือเทียบได้กับการใช้แอลกอฮอล์ล้วนๆ เป็นเชื้อ เพลิง ทำให้เกิดปัญหากับระบบเผาไหม้ของเครื่องยนต์ นอกจากนี้ หากรถยนต์ที่ใช้ E10 แล้วมีปัญหา เรื่องน้ำมันระเหยเร็วผิดปกติ ควรตรวจเช็คปะเก็นยางของฝาปิดถังน้ำมัน เพราะอาจเสื่อมสภาพและ เป็นเหตุให้แอลกอฮอล์ระเหยเล็ดลอดออกไปได้ Confidentiality Notice: This e-mail transmission may หัวข้อ: Re: แจ้งเตือนคนใช้แก็สกับน้ำมันแก็สโซฮอล์ เริ่มหัวข้อโดย: NOBETA ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2008 06:56:12 :emo2 :emo2 เยี่ยมครับได้ความรู้ดีครับ +++++
หัวข้อ: Re: แจ้งเตือนคนใช้แก็สกับน้ำมันแก็สโซฮอล์ เริ่มหัวข้อโดย: DARKSTAR ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2008 07:57:54 :emotk
หัวข้อ: Re: แจ้งเตือนคนใช้แก็สกับน้ำมันแก็สโซฮอล์ เริ่มหัวข้อโดย: Jo_AE92 ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2008 08:30:41 ขอบคุณครับข้อมูลดีๆ :emotn :emotn :emotn
หัวข้อ: Re: แจ้งเตือนคนใช้แก็สกับน้ำมันแก็สโซฮอล์ เริ่มหัวข้อโดย: maximus ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2008 08:47:05 ขอบคุณครับ บวกให้ 1 :emotv
หัวข้อ: Re: แจ้งเตือนคนใช้แก็สกับน้ำมันแก็สโซฮอล์ เริ่มหัวข้อโดย: GuuArT_V ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2008 09:02:47 ใช้อยู่ด้วยสิ อ่านแล้ว รู้สึกกลัว มะกล้าใช้เลย -*-+
หัวข้อ: Re: แจ้งเตือนคนใช้แก็สกับน้ำมันแก็สโซฮอล์ เริ่มหัวข้อโดย: Pencom.CZ 49 ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2008 09:05:11 เวรกรรม ต้องขับน้ำมันบ้างแล้วสิเรา :emotc :emotc
หัวข้อ: Re: แจ้งเตือนคนใช้แก็สกับน้ำมันแก็สโซฮอล์ เริ่มหัวข้อโดย: ปิแอร์...แซ่บี้ ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2008 10:06:43 เสียวตอนมันเน่าเนี่ยแหละคับ
หัวข้อ: Re: แจ้งเตือนคนใช้แก็สกับน้ำมันแก็สโซฮอล์ เริ่มหัวข้อโดย: เพียว@พระนคร ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2008 10:20:30 ตอนนี้ 91 กับ 95 เท่านั้น ครับ
หัวข้อ: Re: แจ้งเตือนคนใช้แก็สกับน้ำมันแก็สโซฮอล์ เริ่มหัวข้อโดย: too RollinHard ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2008 10:39:29 :emo2 รู้ไวไม่เสียหาย :emo2
หัวข้อ: Re: แจ้งเตือนคนใช้แก็สกับน้ำมันแก็สโซฮอล์ เริ่มหัวข้อโดย: ople8124 ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2008 10:59:25 ขอขอบคุณ
หัวข้อ: Re: แจ้งเตือนคนใช้แก็สกับน้ำมันแก็สโซฮอล์ เริ่มหัวข้อโดย: AT35 TZ#054 ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2008 13:19:23 ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: แจ้งเตือนคนใช้แก็สกับน้ำมันแก็สโซฮอล์ เริ่มหัวข้อโดย: PheeSajIII ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2008 14:07:45 เหอะๆ :emote
หัวข้อ: Re: แจ้งเตือนคนใช้แก็สกับน้ำมันแก็สโซฮอล์ เริ่มหัวข้อโดย: Chaiyanan77 ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2008 15:24:28 รถใหม่ๆ ยังมีปัญหาแล้ว รถเก่า อย่างเราจะรอดมั๊ยเนี่ย :emotw
หัวข้อ: Re: แจ้งเตือนคนใช้แก็สกับน้ำมันแก็สโซฮอล์ เริ่มหัวข้อโดย: Chan ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2008 15:36:13 555 อย่าว่าแต่โซออล เลยครับ ของผมเติม 95 ธรรมดายังเน่าเลยครับ 2 ปีเน่าไป 2 ครับ แต่ก็มีอีกสาเหตุนะคือหลังจากสวิทต์เป็น GAS ปั๊มติกจะต้องตัดไฟครับเพื่อไม่ให้มันทำงานตลอดครับ เนื่องจากปั๊มมันดันแล้วน้ำมันมันไม่มีที่ระบายกว่าจะย้อนกลับเข้าถังอีก พังกันพอดี
หัวข้อ: Re: แจ้งเตือนคนใช้แก็สกับน้ำมันแก็สโซฮอล์ เริ่มหัวข้อโดย: Familia junior ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2008 15:47:54 :emotn :emotn
หัวข้อ: Re: แจ้งเตือนคนใช้แก็สกับน้ำมันแก็สโซฮอล์ เริ่มหัวข้อโดย: mafialady ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2008 23:03:49 :emo2 :emo2 :emo2
หัวข้อ: Re: แจ้งเตือนคนใช้แก็สกับน้ำมันแก็สโซฮอล์ เริ่มหัวข้อโดย: bigBird ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2008 23:16:15 รถที่บ้านก็ LPG ครับ เติม95ตลอด เพราะรู้ว่าGasoholมันมีปัญหานี้
แต่95ก็เป็นนะครับอาการน้ำมันบูดเนี่ย แต่ช้ากว่าเท่านั้นเอง |