หัวข้อ: ก่อนไปทำบุญวัดหลวงปู่หลิว มาดูเรื่องราว สิริมงคลของเต่ากัน เริ่มหัวข้อโดย: Oon_Resist .CZ ที่ 09 เมษายน 2008 09:28:16 ยาวหน่อยค่อยๆอ่านนะครับ :emotk :emotk :emotk
เต่า เต่า สัตว์สัญลักษณ์แห่ง ความมั่นคง อายุยืน พระเกจิอาจารย์ตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ นิยมนำรูปลักษณ์เต่ามาสร้างเป็นวัตถุมงคล โดยรวบรวมโลหะธาตุที่เป็นมงคล และมวลสารว่าน ดิน สถานที่ศักดิ์สิทธิ์นำมาจัดสร้างเป็นเครื่องรางของขลัง คือ เต่า พุทธคุณ โดดเด่นในเรื่องของคงกระพันอายุยืน เต่า เนื้อสัมฤทธิ์ที่มีราคาแพง ก็คือเต่าของหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน พระเกจิชื่อดัง แห่งจังหวัดพิจิตร และที่ฮือฮาเอกลักษณ์นิยมกันมากที่สุด คือ เต่าหลวงพ่อหลิว วัดไร่แตงทอง และก็ยังมีอีกหลายอาจารย์ที่นิยมสร้างเครื่องรางของขลัง เป็นรูปเต่า ประวัติความเป็นมาของเต่าทุกชนิดเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้า ที่มีลักษณะไม่ทุกข์ไม่ร้อน หายใจน้อยกว่ามนุษย์ กินดื่มแต่เพียงน้อยเท่านั้น มีลักษณะที่ไม่เป็นอันตรายไม่ทำร้ายสัตว์อื่นและมีอาการสงบเสงียมตลอดเวลา ดังนั้น จึงทำให้เข้าใจง่ายว่าเหตุใดช่วงชีวิตของเต่าจึงยืนยาว การมีชีวิตที่สงบสุข และยาวนานเป็นพันปี ชาวจีนในยุคต้นจึงถือเต่าเป็นเสมือนพระเจ้าที่ยืนยง และกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของความมีอายุยืนยาว ผู้คนมักจะสวดมนต์และไหว้เจ้าเพื่อขอให้ตนมีอายุยืนยาว ในวันเกิด พวกเขามักพูดว่า ?ขอให้เต่า ? นกกระสาคุ้มครองชีวิตพวกเขา? เพราะสัตว์ทั้ง 2 เป็นตัวแทนของสวรรค์ ? โลก มีพลังของการบอกเหตุล่วงหน้า และเป็นที่มาของความเชื่อต่างๆ มีความสำคัญทางจิต และด้วยเหตุนี้เต่าจึงได้รับเลือกให้เป็นสหายกับมังกร สัตว์ในแถวหน้าในนิยายของจีน ภาพของเต่าในฐานะที่สัตว์ที่มีความสำคัญทางใจค่อยๆ ถูกปลูกฝังลึกลงในจิตใจของผู้คนในหนังสือมักเตือนผู้อ่านอย่าทำอะไรโดยไม่ยั้งคิดเมื่อจับเต่าได้ และควรทำพิธีบวงสรวงหรือเคารพก่อนอื่น มีตำนานมากมายที่เอ่ยถึงการต้องพบกับเคราะห์กรรมของคนที่จับเต่าได้แล้วนำไปฆ่าในสังคมจีนใหม่ ผู้คนนิยมทำการปล่อยเต่ามากกว่าจับกินเป็นอาหาร นอกจากนั้น บรมครูผู้ฝึกวิชาลมปราณ (จี้ กง) ก้ให้นักเขียนของท่านเอาแบบอย่างการหายใจของเต่าหนังกังฟูที่แนที่ชื่นชอบของจีน ฮีโร่ของเรื่องที่หนีรอดอันตรายได้ก็เพราะการใช้ ?วิธีหายใจแบบเต่า? ที่ทำเป็นตาย นั่นเอง แต่เหตุใด ชื่อของเต่ากลับถูกแปลเปลี่ยนและมีความหมายในทางลบมากมาย เป็นคำด่าซึ่งชาวจีนใช้ด่าทอซึ่งกันและกัน เช่น ? Turtle Egg ? ? Grandson Of Turtle ? และ ? Turtle Hair ? ถือเป็นคำสบถที่ใช้ได้ทุกโอกาสนักมานุษยวิทยาอธิบายลักษณะของคนขี้ขลาดที่หนีปัญหาเหมือนเต่าหดหัวในกระดอง เพลงในราชวงศ์หยวน ? Dan Bian Dao Su ? ก็กล่าวเยอะเย้ย หลี่ หยวน จี บุตรชายของจักรพรรดิถัง ไท่ จง ที่นำเอาลักษณะของเต่าที่หดหัวในกระดองมาใช้ เหตุใดเต่า ซึ่งเคยเป็นสัตว์ที่ควรเคารพบูชาในอดีต จึงคืบคลานดิ่งลงสู่ภาพพจน์ที่ตกต่ำ?? ถ้าหากมนุษย์ทำความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติในการสร้างอารยธรรมและหันมองยอ้นกลับไปถึงอารยธรรมยุคต้น ก่อนที่จะมีคำเย้ยหยัน ..หม่ำ..ดันต่างๆช่วงนั้น ผู้คนมีทรรศนะต่อเต่าแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ในยุคโบราณ ผู้คนรู้สึกดีใจที่ค้นพบว่า กระดองของเต่าที่แข็งและมีความทนทานนั้นเป็นตัวแทนของจักรวาล และด้วยความเชื่อที่ว่า ท้องฟ้ากลมส่วนโลกแบน พวกเขาจึงได้คิดค้นสิ่งต่างๆขึ้นมาเพื่ออธิบายและเป็นตัวแทนของสวรรค์และโลก ซึ่งสิ่งนั้น ก็คือ เต่า สัตว์ที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติที่อาศัยอยู่บนดินและแบกกระดองรูปครึ่งวงกลมไปทุกหนทุกแห่ง กระดองกลมเปรียบได้กลับโลก ด้านข้างเปรียบดังภูเขา และมีเท้าทั้ง 4 เคลื่อนไหวเหมือนกับต้องการอธิบายว่า สวรรค์และโลก จะต้องหมุนเปลี่ยนไปตามฤดูกาล และความพยายามของมนุษย์ที่ต้องการเข้าใจธรรมชาติและสัตว์นานาพันธ์ เต่าจึงถูกอุปดลกขึ้นเป็นจักรวาล เพราะรูปลักษณ์ของมัน เมื่อเข้าใจดังนี้แล้ว เต่าจึงกลายมาเป้นสายใยเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างสวรรค์กับโลกและบ่อยครั้งที่ถูกนำมาใช้ในพิธีกรรมและการทำนายต่างๆ ภายหลังจากที่มีการค้นพบโบราณคดีที่ยังเหลืออยู่ของราชวงศ์ Shang เกี่ยวกับสิ่งเสี่ยงทายและได้พบกระดองเต่า บรรดาผู้รู้ก็เริ่มเข้าใจในบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับวิถีชีวิตของกษัตริย์ในราชวงศ์ Shang เมื่อ 4,000 กว่าปีมากขึ้นโดยทุกเช้า ข้าราชสำนักทางประวัติศาสตร์ ? โหรา (พยากรณ์ทำนาย) จะต้องจัดเตรียมกระดองเต่าและเตาถ่าน ขณะติดไฟ กษัตริย์จะเริ่มเสี่ยงทาย และไม่ว่าจะถามเกี่ยวกับเรื่องลมฟ้าอากาศ การทหาร การล่าสัตว์ ฝ่ายโหรก็จะถือไม้ติดไฟวนไปรอบๆกระดองเต่า ซึ่งเมื่อได้รับความร้อน ก็จะเกิดรอยร้าวเป็นรูปต่างๆกัน เกิดการตีความจากรูป การณ์ที่เห็นต่อกษัตริย์ (โดยส่วนใหญ่จะเป็นรูปคล้ายกับ A ซึ่งภายหลังได้กลายมาเป็นตัวอักษรจีน แปลว่า การทำนาย ) การตีความนี้ จะได้รับการบันทึกลงบนกระดองเต่าและกลายมาเป็นแนวทางในการกำหนดนโยบายประเทศ จะทำเช่นนี้เป็นกิจวัตรทุกวันในช่วงระหว่างการปกครองของกษัตริย์ 12 พระองค์ และถือปฏิบัติเป็นธรรมเนียมเรื่องมาจนถึงราชวงศ์ฮั่น นักปราชญ์หาใช่เป็นผู้ที่ใช้กระดองเต่าในการทำนายแต่ฝ่ายเดียวรัฐบุรุษในอดีตและนักการทหารก็ใช้ด้วย ในสมัยปัจจุบัน หมอดูที่มีอยู่ดาษดื่นในไต้หวัน ก็มักจะใช้กระดองเต่านี้เป็นเครื่องมือ รวมทั้งมีเหรียญทองแดงเสี่ยงทายด้วย ผู้เดินผ่านไปมาซึ่งใคร่รู้โชคชะตาของตนก็จะนั่งลง และหมอดูก็จะเขย่าเหรียญในกระดอง ก่อนที่จะอ่านอนาคตของผู้มาดู นอกจากนี้เต่ายังให้ความหมายของคำว่า ? Xuanwu ? ซึ่งแปลว่า ? ทหารดำ ? ในหนังสือเรื่อง ? The Book Of Rites ? อธิบายว่า เต่ามีเกราะป้องกันภายนอก (คล้ายทหาร) และมีสีมืด (สีดำ) จากโบราณวัตถุที่เหลืออยู่ใน Zhejiang แสดงให้เห็นว่า 5,800 กว่าปีก่อน ผู้คนสวมเครื่องประดับที่ทำจากกระดองเต่า เฉกเช่นเดียวกับผู้คนในปัจจุบันสวมทองหรือหยก กระดองเต่าจึงมีค่ามากในสมัยก่อน และต่อมาก็ถุกแกะสลักเป็นตราประทับของพวกเสนาหรือขุนนางในสมัยราชวงศ์ฮั่น และในราชวงศ์ถัง ..เซนเซอร์..บบรรจุศพก็ถูกทำให้เป็นรูปเต่าด้วย แผนภูมิ 8 เส้นที่ชาวจีนใช้ในการทำเครื่องรางก็เป็นเส้นสายที่มาจากลายบนกระดองเต่านั่นเอง และในช่วงเวลาดังกล่าว ผู้คนมักจะนำคำว่า ? กุ่ย ? ซึ่งเป็นอักษรจีนที่มีความหมายว่า ? เต่า ? มาประกอบชื่อของตัว เช่น นักดนตรีที่มีชื่อของจีน หลี่ กุ่ย เหนียน เป็นต้น ญี่ปุ่นเองก็เริ่มเอาอย่างโดยนำมาใช้ในนามสกุล กำเนิดเริ่มแรกจากตำนาน จากนั้นก็กลายมาเป็นพิธีกรรม เริ่มจากนิยายโบราณ กลายมาเป็นประเพณีพื้นบ้าน เรื่องราวเกี่ยวกับเต่าในจีนก้ถูกแต่งแต้มสีสันและเพิ่มความหลากหลาย Li Feng Mao สหายผู้หนึ่งที่สถาบันวรรณคดี ? ปรัชญาจีน ชี้ให้เห็นว่า การก่อกำเนิดของธรรมเนียมต่างๆ น่าจะมาจากการสังเกตธรรมชาติ เช่น ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งสังเกตว่า เต่าทะเลสามารถอยู่ได้ในทะเล จึงเกิดเป็นตำนานเรื่องเล่าและนำมาซึ่งสัญลักษณ์ทางนิยายมากมาย มันเป็นการยากจริงๆ ที่จะทำตารางเวลาเกี่ยวกับตำนานเล่าขานดังกล่าว แต่ว่าการที่กษัตริย์และหมอดูในปัจจุบันถือปฏิบัติกันอยู่ย่อมแสดงให้เห็นสายสัมพันธ์โยงใยและมีความต่อเนื่องเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมของเฒ่าผู้หยั่งรู้อย่างแน่นอน ในระดับพื้นฐานเกิดจากเต่าที่เป็นสัตว์ที่เป็นจริง และได้รับการอธิบายและขยายความเพิ่มขึ้นโดยมนุษย์ ตามลำดับ แต่ว่าชีวิตเป็นจริงเต่าเป็นเช่นใดเล่า เต่าโดยธรรมชาติสามารถดำรงชีวิตอยู่ยืนยาวถึงรอ้ยพันปีได้ และเต่า ซึ่งดูเหมือนไม่มีอำนาจในการควบคุมชะตากรรมชีวิตของตัวเองกลับมีบทบาทควบคุมโชคชะตาเหนือชีวิตมนุษย์ นักสัตววิทยาเชื่อว่า สัตว์ในตระกูล Chelonian แปลเปลี่ยนและพัฒนามาจากไดโนเสาร์ที่มีชีวิตอยู่ในช่วงระหว่างยุคถ่านหินพวกมันและสัตว์เลื่อยคลานอื่นๆ เช่น ตะกวด ตุ๊กแก กิ้งก่า งู และจระเข้ใหญ่ เป็นสัตว์กลุ่มแรกที่ปรับชีวิตให้สามารถอยู่บนพื้นดิน จากนั้นมา ทำให้ชีวิตได้เริ่มแปลเปลี่ยนจากสัตว์จำพวกปลามาเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เหตุใด เต่าจึงไม่สูญพันธุ์ หากไม่คำนึงถึงสิ่งที่เป็นสาเหตุความตายและการสูญพันธ์ของไดโนเสาร์ สัตว์เลื้อยคลานในปัจจุบันมีความสามารถที่จะหลีกเลี่ยงชะตากรรมในลักษณะดังกล่าวด้วยการปรับตัวเองให้เข้ากับสภาพแวดล้อม เช่น การที่เต่าแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการป้องกันตัวเอง สะเก็ดบนกระดองของมันคอ่ยๆพัฒนาแข็งขึ้นบนส่วนหลังและมีกระดูกรองรับใต้กระดอง ทำให้ร่างกายของมันถูกห่อหุ้มอยู่ภายใต้เกราะที่แข็งแรงและไม่แตกหักง่ายและเมื่อใดที่มันพบกับภยันตราย ส่วนหัวและส่วนขาของมันก็จะสามารถหดถอยเข้าไปในกระดอง และเมื่อเต่าพื้นเมืองของใต้หวันพันธุ์ Cuoro Flavomarninata เผชิญกับอันตราย มันจะหดหัวอุตุอยู่ภายใน และผู้หวังกินมันเป็นเหยื่อก็ไม่สามารถทำอะไรมันได้เลย นักสัตววิทยาเชื่อว่า สัตว์ประเภท Chelonian มีโครงสร้างที่ปกป้องตัวเองก้าวหน้ากว่าสัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง ซึ่งถือเป็นสัตว์ชั้นสูงอื่นๆจึงทำให้มันมีชีวิตรอดจากการถูกข่มเหงนานาชนิด ความจริงแล้วจวบจนกระทั่งปัจจุบัน ลักษณะภายนอกของมันไม่ได้เปลี่ยนไปมากมายนัก เพราะพวกเต่ามีวิวัฒนาการค่อนข้างช้ามาก ขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมโบราณมีความหมายอย่างยิ่งต่อปัจจุบัน เพราะมันเปิดเผยถึงสัญลักษณ์ของผู้คน ผู้คนทำความเข้าใจโลกโดยการจัดหมวดหมู่ และระบบของสัตววิทยาในปัจจุบันก้มาจากความรู้ที่ถูกรวบรวมมาหลายพันปีจากการจัดหมวดหมู่ของพวกเขา เนื่องจากคนโบราณไม่มีความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย สิ่งที่แต่งขึ้นหรือนิยายจึงมีสาเหตุมาจากการที่มนุษย์พยายามจัดหมวดหมู่หรือวางกลุ่มของสรรพสิ่งตามวิถีชีวิตของมัน นั่นเอง วัฒนธรรมเกี่ยวกับสัตว์ผู้หยั่งรู้ (เต่า) ก็เช่นกัน มีสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องทั้งจากยุคหินเก่า ? ใหม่ มันไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นในทันทีทันใด หรือเกิดจากคนใดคนหนึ่งแต่มันเป็นตัวแทนของสิ่งที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมของประชาชนจีน เหตุใดเต่าจึงเป็นตัวแทนของทิศเหนือและให้ธาตุน้ำ เพราะทิศเหนือเป็นทิศแห่งความหนาวเย็นและเต็มไปด้วยน้ำและเพราะเต่าเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในน้ำ คนโบราณอาศัยเทพนิยายและวิธีการของตนเองมาอธิบายสภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์และสร้างมโนภาพของจักรวาลขึ้น การที่เต่ามีอัตราการหายใจและชีพจรที่ต่ำกว่ามนุษย์ จึงทำให้มีชีวิตที่ยืนยาวกว่ามนุษย์จึงเกิดเป็นความเชื่อถึงความเป็นอมตะของเต่า เทพนิยายจึงเป็นสิ่งที่มนุษย์พยายามสร้างระเบียบจากสิ่งที่สับสน แม้บางครั้งจะเกินจินตนาการไปบ้าง เช่น ในหนังสือ ? The Book Of Mountains And Sras ? ที่บรรยายเต่าประหลาดที่มีหัวเป็นนก และหางเป็นงู กระนั้นก็ตาม มันก็แสดงออกถึงความมานะพยายามในพัฒนาการของมนุษย์ รวมทั้งภูมิปัญญาของพวกเขา ดังนั้นเราจึงไม่ควรที่จะมองข้ามวัฒนธรรมของสัตว์ผู้หยั่งรู้ว่าเป็นเรื่องประหลาดหรือน่าขำ วัฒนธรรมมีหลากหลาย และผู้คนต่างก็มีทรรศนะในการมองและวิธีการอธิบายสรรพสิ่งที่แตกต่างกันด้วย ยกตัวอย่างเช่น ทางตะวันตกพวกคริสต์เตียนไม่ชอบเต่าและมองว่า เต่าเป็นสัญลักษณ์ของพลังที่ชั่วร้ายในสงคราม ในกรีซ เชื่อว่าเต่าเป็นพวกนรก แต่สำหรับจีน อินเดีย มีตำนานความเชื่อว่า โลกได้รับการค้ำจุนจากช้าง 4 ตัวที่ยืนอยู่บนเต่ายักษ์ หลังจากที่ได้ยินนักวิทยาศาสตร์ตะวันตกอธิบายเกี่ยวกับสัญฐานของโลก หญิงชราชาวอินเดียกล่าวว่า เขาคงเข้าใจผิดเสียแล้ว ครั้นถูกถามว่า ? งั้นอะไรที่อยู่ใต้เต่า ?เธอตอบว่า ก็เต่าไงเป็นเต่าที่ซ่อนอยู่บนหลังเต่าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ผู้คนส่วนมาก ก็มีความเชื่อกันว่าเกี่ยวกับเรื่องเต่า สัตว์ที่เป็นมงคลถ้าได้เขียนชื่อลงใต้กระดองเต่าแล้วปล่อยไป ทำให้ผู้มีชื่ออยู่ในนั้นอายุยืน และเครื่องรางของขลังในรูปลักษณ์ของเต่าใครมีไว้ก็จะขจัดปัดเป่า ป้องกันภัยอันตรายจากทั่วทุกสารทิศ ไม่สามารถจะทำอันตรายใดใดได้และทำให้ผู้นั้นมีฐานะคงทนถาวร ยั่งยืนนานพร้อมทั้งชีวิตความเป็นอยู่ พระเกจิอาจารย์หลายองค์นิยมสร้างบางองค์ก็ไม่ปรากฏชื่อ บางองค์ก็ปรากฏชื่อ ของโบราณที่พบเห็นก็มี เรื่องค่านิยมแล้วแต่ความพอใจ ของผู้ซื้อและผู้ขาย จึงไม่มีราคาที่แน่นอน ขอให้ทุกท่านโชคดี หัวข้อ: Re: ก่อนไปทำบุญวัดหลวงปู่หลิว มาดูเรื่องราว สิริมงคลของเต่ากัน เริ่มหัวข้อโดย: PED.X ที่ 09 เมษายน 2008 09:35:19 :emos
หัวข้อ: Re: ก่อนไปทำบุญวัดหลวงปู่หลิว มาดูเรื่องราว สิริมงคลของเต่ากัน เริ่มหัวข้อโดย: CHAMPZAA_ซุดซู๊ดดด!!! ™ ที่ 09 เมษายน 2008 09:36:11 ขอบคุณครับ น้าอ่อน แต่อ่านได้ครึ่งเดียวก่อนนะคับ :emotn
หัวข้อ: Re: ก่อนไปทำบุญวัดหลวงปู่หลิว มาดูเรื่องราว สิริมงคลของเต่ากัน เริ่มหัวข้อโดย: nuvo3816 ที่ 09 เมษายน 2008 09:44:10 :emotia :emotia :emotia
หัวข้อ: Re: ก่อนไปทำบุญวัดหลวงปู่หลิว มาดูเรื่องราว สิริมงคลของเต่ากัน เริ่มหัวข้อโดย: Beer-Jamper@Cz ที่ 09 เมษายน 2008 10:00:06 :emo2 :emom
หัวข้อ: Re: ก่อนไปทำบุญวัดหลวงปู่หลิว มาดูเรื่องราว สิริมงคลของเต่ากัน เริ่มหัวข้อโดย: <Art @ cz> ที่ 09 เมษายน 2008 10:18:01 เต่าหลวงปู่หลิว "นาสังสิโม สังสิโมนา สิโมนาสัง โมนาสังสิ"
หัวข้อ: Re: ก่อนไปทำบุญวัดหลวงปู่หลิว มาดูเรื่องราว สิริมงคลของเต่ากัน เริ่มหัวข้อโดย: Oon_Resist .CZ ที่ 09 เมษายน 2008 10:22:07 เต่าหลวงปู่หลิว "นาสังสิโม สังสิโมนา สิโมนาสัง โมนาสังสิ" เซียนมาเองเลย :emo5 :emo5 :emo5 หัวข้อ: Re: ก่อนไปทำบุญวัดหลวงปู่หลิว มาดูเรื่องราว สิริมงคลของเต่ากัน เริ่มหัวข้อโดย: nuvo3816 ที่ 09 เมษายน 2008 10:26:29 เต่าหลวงปู่หลิว "นาสังสิโม สังสิโมนา สิโมนาสัง โมนาสังสิ" :emo5 เกจิหัวข้อ: Re: ก่อนไปทำบุญวัดหลวงปู่หลิว มาดูเรื่องราว สิริมงคลของเต่ากัน เริ่มหัวข้อโดย: Pencom.CZ 49 ที่ 09 เมษายน 2008 10:32:52 โห้ ยาวจัง
หัวข้อ: Re: ก่อนไปทำบุญวัดหลวงปู่หลิว มาดูเรื่องราว สิริมงคลของเต่ากัน เริ่มหัวข้อโดย: rkimoto ที่ 09 เมษายน 2008 11:17:39 :emotn
หัวข้อ: Re: ก่อนไปทำบุญวัดหลวงปู่หลิว มาดูเรื่องราว สิริมงคลของเต่ากัน เริ่มหัวข้อโดย: RPG.CZ ที่ 09 เมษายน 2008 11:25:59 :emoto :emoto
หัวข้อ: Re: ก่อนไปทำบุญวัดหลวงปู่หลิว มาดูเรื่องราว สิริมงคลของเต่ากัน เริ่มหัวข้อโดย: Overheat.CZ ที่ 09 เมษายน 2008 11:29:03 :emotk :emotk :emotk
:emotn :emotn :emotn หัวข้อ: Re: ก่อนไปทำบุญวัดหลวงปู่หลิว มาดูเรื่องราว สิริมงคลของเต่ากัน เริ่มหัวข้อโดย: อาร์ม ซุดซู๊ดดด!!! ที่ 09 เมษายน 2008 11:51:52 เกจิ
หัวข้อ: Re: ก่อนไปทำบุญวัดหลวงปู่หลิว มาดูเรื่องราว สิริมงคลของเต่ากัน เริ่มหัวข้อโดย: Tropon_M. CZ... ที่ 09 เมษายน 2008 12:45:06 มีบทสรุปปะครับน้า...................อิอิ............(ล้อเล่นนะครับ)
หัวข้อ: Re: ก่อนไปทำบุญวัดหลวงปู่หลิว มาดูเรื่องราว สิริมงคลของเต่ากัน เริ่มหัวข้อโดย: <Art @ cz> ที่ 10 เมษายน 2008 10:57:57 การเดินทางไปวัดไร่แตงทอง จาก ถ.ปิ่นเกล้า-นครชัยศรี มุ่งหน้า จ.นครปฐม จากนั้นใช้เส้นทาง
ถ.เพชรเกษม ถึงตัวเมือง นครปฐมเลี้ยวขวา เข้า ถ.มาลัยแมน ทางหลวงหมายเลข 321 มุ่งหน้า อ.กำแพงแสน วัดอยู่ระหว่างรอยต่อ อ.กำแพงแสน กับ จ.กาญจนบุรี หรือใช้เส้นทาง ถ.บางกรวย-ไทรน้อย มุ่งหน้าผ่าน อ.ไทรน้อย อ.บางเลน และ อำเภอกำแพงแสน(เส้นทางนี้จะใกล้กว่า) จากนั้นพอถึง อ.กำแพงแสน ก็หาป้ายบอกทาง หรือถามชาวบ้านแถวนั้น หรือใครรู้เส้นทางไปวัดไร่แตงทอง ก็เอามาเพิ่มเติมด้วยนะ หัวข้อ: Re: ก่อนไปทำบุญวัดหลวงปู่หลิว มาดูเรื่องราว สิริมงคลของเต่ากัน เริ่มหัวข้อโดย: nuvo3816 ที่ 10 เมษายน 2008 11:23:45 การเดินทางไปวัดไร่แตงทอง จาก ถ.ปิ่นเกล้า-นครชัยศรี มุ่งหน้า จ.นครปฐม จากนั้นใช้เส้นทาง สุดยอด แฟนพันธ์แท้ ถ.เพชรเกษม ถึงตัวเมือง นครปฐมเลี้ยวขวา เข้า ถ.มาลัยแมน ทางหลวงหมายเลข 321 มุ่งหน้า อ.กำแพงแสน วัดอยู่ระหว่างรอยต่อ อ.กำแพงแสน กับ จ.กาญจนบุรี หรือใช้เส้นทาง ถ.บางกรวย-ไทรน้อย มุ่งหน้าผ่าน อ.ไทรน้อย อ.บางเลน และ อำเภอกำแพงแสน(เส้นทางนี้จะใกล้กว่า) จากนั้นพอถึง อ.กำแพงแสน ก็หาป้ายบอกทาง หรือถามชาวบ้านแถวนั้น หรือใครรู้เส้นทางไปวัดไร่แตงทอง ก็เอามาเพิ่มเติมด้วยนะ หัวข้อ: Re: ก่อนไปทำบุญวัดหลวงปู่หลิว มาดูเรื่องราว สิริมงคลของเต่ากัน เริ่มหัวข้อโดย: <Art @ cz> ที่ 10 เมษายน 2008 11:39:57 การเดินทางไปวัดไร่แตงทอง จาก ถ.ปิ่นเกล้า-นครชัยศรี มุ่งหน้า จ.นครปฐม จากนั้นใช้เส้นทาง สุดยอด แฟนพันธ์แท้ ถ.เพชรเกษม ถึงตัวเมือง นครปฐมเลี้ยวขวา เข้า ถ.มาลัยแมน ทางหลวงหมายเลข 321 มุ่งหน้า อ.กำแพงแสน วัดอยู่ระหว่างรอยต่อ อ.กำแพงแสน กับ จ.กาญจนบุรี หรือใช้เส้นทาง ถ.บางกรวย-ไทรน้อย มุ่งหน้าผ่าน อ.ไทรน้อย อ.บางเลน และ อำเภอกำแพงแสน(เส้นทางนี้จะใกล้กว่า) จากนั้นพอถึง อ.กำแพงแสน ก็หาป้ายบอกทาง หรือถามชาวบ้านแถวนั้น หรือใครรู้เส้นทางไปวัดไร่แตงทอง ก็เอามาเพิ่มเติมด้วยนะ นี่ก็หาจากในเน็ต ถามพี่ที่ทำงาน ก็ได้มาเท่านี้ อิอิ ช่วยกันหาด้วยนะ หัวข้อ: Re: ก่อนไปทำบุญวัดหลวงปู่หลิว มาดูเรื่องราว สิริมงคลของเต่ากัน เริ่มหัวข้อโดย: Overheat.CZ ที่ 10 เมษายน 2008 18:20:10 การเดินทางไปวัดไร่แตงทอง จาก ถ.ปิ่นเกล้า-นครชัยศรี มุ่งหน้า จ.นครปฐม จากนั้นใช้เส้นทาง สุดยอด แฟนพันธ์แท้ ถ.เพชรเกษม ถึงตัวเมือง นครปฐมเลี้ยวขวา เข้า ถ.มาลัยแมน ทางหลวงหมายเลข 321 มุ่งหน้า อ.กำแพงแสน วัดอยู่ระหว่างรอยต่อ อ.กำแพงแสน กับ จ.กาญจนบุรี หรือใช้เส้นทาง ถ.บางกรวย-ไทรน้อย มุ่งหน้าผ่าน อ.ไทรน้อย อ.บางเลน และ อำเภอกำแพงแสน(เส้นทางนี้จะใกล้กว่า) จากนั้นพอถึง อ.กำแพงแสน ก็หาป้ายบอกทาง หรือถามชาวบ้านแถวนั้น หรือใครรู้เส้นทางไปวัดไร่แตงทอง ก็เอามาเพิ่มเติมด้วยนะ นี่ก็หาจากในเน็ต ถามพี่ที่ทำงาน ก็ได้มาเท่านี้ อิอิ ช่วยกันหาด้วยนะ แถวบ้านผมเลยครับ เดี๋ยวไปทำการบ้านมาก่อน :emotq หัวข้อ: Re: ก่อนไปทำบุญวัดหลวงปู่หลิว มาดูเรื่องราว สิริมงคลของเต่ากัน เริ่มหัวข้อโดย: PED.X ที่ 11 เมษายน 2008 07:53:47 ไปวันไหนอ่ะครับ.....
:emog.....:emon :emon :emon :emon :emon :emon :emon :emon :emon :emon :emon :emon :emon.... หัวข้อ: Re: ก่อนไปทำบุญวัดหลวงปู่หลิว มาดูเรื่องราว สิริมงคลของเต่ากัน เริ่มหัวข้อโดย: Oon_Resist .CZ ที่ 11 เมษายน 2008 08:24:18 หลังสงกราต์
หัวข้อ: Re: ก่อนไปทำบุญวัดหลวงปู่หลิว มาดูเรื่องราว สิริมงคลของเต่ากัน เริ่มหัวข้อโดย: PED.X ที่ 11 เมษายน 2008 08:39:18 หลังสงกราต์ :emom ช่วยได้มากเลยครับ สำหรับคำตอบ :emom หัวข้อ: Re: ก่อนไปทำบุญวัดหลวงปู่หลิว มาดูเรื่องราว สิริมงคลของเต่ากัน เริ่มหัวข้อโดย: Oon_Resist .CZ ที่ 11 เมษายน 2008 09:36:33 ขอบคุณ :emob :emob :emob
หัวข้อ: Re: ก่อนไปทำบุญวัดหลวงปู่หลิว มาดูเรื่องราว สิริมงคลของเต่ากัน เริ่มหัวข้อโดย: nuvo3816 ที่ 11 เมษายน 2008 09:39:57 55555
หัวข้อ: Re: ก่อนไปทำบุญวัดหลวงปู่หลิว มาดูเรื่องราว สิริมงคลของเต่ากัน เริ่มหัวข้อโดย: <Art @ cz> ที่ 11 เมษายน 2008 10:11:41 :emotg
หัวข้อ: Re: ก่อนไปทำบุญวัดหลวงปู่หลิว มาดูเรื่องราว สิริมงคลของเต่ากัน เริ่มหัวข้อโดย: PED.X ที่ 11 เมษายน 2008 10:15:38 :emon :emon :emon :emon :emon :emon :emon..... :emog....... หัวข้อ: Re: ก่อนไปทำบุญวัดหลวงปู่หลิว มาดูเรื่องราว สิริมงคลของเต่ากัน เริ่มหัวข้อโดย: cliff ที่ 14 เมษายน 2008 13:03:32 ไปวัดอีกแว๊ว...เค้าไปด้วยน๊า อิอิ
หัวข้อ: Re: ก่อนไปทำบุญวัดหลวงปู่หลิว มาดูเรื่องราว สิริมงคลของเต่ากัน เริ่มหัวข้อโดย: nuvo3816 ที่ 14 เมษายน 2008 21:32:37 ไปวัดอีกแว๊ว...เค้าไปด้วยน๊า อิอิ มาเลยน้า เอาตาหนุ่ยมาด้วยหละหัวข้อ: Re: ก่อนไปทำบุญวัดหลวงปู่หลิว มาดูเรื่องราว สิริมงคลของเต่ากัน เริ่มหัวข้อโดย: คนไทยใจไทย ที่ 15 เมษายน 2008 17:12:28 ขอบคุณครับน้า อ่อน.... ผมห้อยอยู่ครับ... เต่าหลวงปู่หลิว... จิ้งจก สองหาง หลวงปู่หลิว..เลี่ยมทองขึ้นคอเลยครับ... องค์กลางห้อย หลวงพ่อเงิน.... นับถือจิงๆครับ
|