AE. Racing Club

AE Racing Club - Knowledge Sharing => รวมบทความ ความรู้ต่างๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: tuan ที่ 03 กรกฎาคม 2551 00:21:05



หัวข้อ: เล่าประสบการณ์แก้ไขแอร์รถด้วยตัวเอง และขอทราบข้อเท็จจริง
เริ่มหัวข้อโดย: tuan ที่ 03 กรกฎาคม 2551 00:21:05
รถผม EE101+4AFE ใช้มาปีที่ 14 (เครื่อง 4AFE ย่างปีที่ 4) มีปัญหา คอมแอร์ไม่ยอมทำงาน ทั้งที่ 1) ติดเครื่องแล้ว
2) เปิด sw สไลด์น้ำยา ไปทุกตำแหน่ง
3) เปิด sw พัดลมทุกระดับความแรง
4) ขับรถออกไป...ก็แล้ว
ระยะอาการ
-ช่วงแรก เมื่อขับรถไปซัก 4-5 นาที จะได้ยิน แต๊ก! ที่คอมแอร์ แล้วลมแอร์เย็นๆ ก็ไหลออกปกติตลอดการเดินทาง แต่ถ้าดับเครื่องไม่นานซัก 1-3 นาทีสตาร์ทใหม่แอร์ก็จะเย็นเลยได้
-ช่วงกลาง เมื่ออาการดังช่วงแรกเป็นมาได้ 3-4 เดือน ก็ยิ่งกินเวลานานขึ้น ในการที่คลัชท์แอร์จะ ดัง แต๊ก! ให้คอมเพรสเซอร์หมุน ก็ต้องทนขับรับลมร้อนไปเรื่อยๆ จนเวลาผ่านไปมากขึ้นเป็น 15-30 กม.กว่าคลัชท์แอร์จะ แต๊ก! ให้แอร์เริ่มเย็นขึ้นมาได้  จึงตัดสินใจเข้าหาร้านซ่อมแอร์ โดยเติมน้ำยาบ้าง และต่อมาเปลี่ยนตู้แอร์+นำยาบ้าง แต่ก็อาการยังเหมือนเดิม
-ช่วงสุดท้าย สรุปเลย พอมาระยะนี้ถือว่าเป็นระยะสุดท้ายแล้วกัน แอร์ไม่ยอมเย็นเลย คอมแอร์ไม่ทำงานพัดลมให้ลมร้อนตลอดเวลา หรืออาจติดบ้างถ้าขับนานเป็นชั่วโมง
           "ครูบ้านนอก"

     


หัวข้อ: Re: เล่าประสบการณ์แก้ไขแอร์รถด้วยตัวเอง และขอทราบข้อเท็จจริง
เริ่มหัวข้อโดย: tuan ที่ 03 กรกฎาคม 2551 00:25:40
ค้นพบวิธีให้คอมแอร์ทำงานโดยบังเอิญ ซึ่งยังใช้อยู่ทุกวันนี้ คือ
      1) จะหาสายสัญญาณเพื่อมาเพิ่มรอบให้ VSV ช่วยเพิ่มรอบเครื่องยนต์ โดยหาแถววงจร Amplifier ของระบบแอร์
      2) ได้เลือกจุดในวงจร Amplifier ของระบบแอร์มาหนึ่งจุด คือ สายไฟเลี้ยง A.C.MG Reley ช่วงที่ต่อเข้าขั้ว MGC ของกล่องวงจร Amplifier (ดูภาพวงจรประกอบ)
      3) พ่วงสายไฟ เพื่อทดสอบโวลท์และกระแส ขณะติดเครื่องเปิดแอร์
      4) ขณะเครื่องยนต์เดินเบา ได้ยินเสียงตัง แต๊ก! ที่คอมเพรสเซอร์ในห้องเครื่องยนต์ ขึ้น 1 ครั้งในจังหวะที่เรากำลังชอร์ตสายไฟพ่วงลงกราวน์พอดี  แล้วลมแอร์เย็นๆ ก็พุ่งออกมา  ?แอร์เย็นแล้ว?  ตะโกนบอกลูกชายที่อยู่ในบ้านด้วยความดีใจ
       5) ตั้งแต่นั้นมาเลยต่อสายไฟพ่วงห้อยออกมากองไว้บนพรมวางเท้าด้านซ้าย ยาว  1 เมตร ไว้ทำการสปาร์คกับคันเบรกมือ 1 ทีเร็วๆ  ก็จะได้ยินเสียง แต๊ก! ในห้องเครื่อง ลมแอร์เย็นๆ ก็ไหลออกมา แต่บางครั้งอาจไม่ติดในทีเดียว ต้องครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 ขึ้นอยู่กับความเร็วการแตะสายของแต่ละครั้งด้วย
   ปัญหาคาใจมาตลอด คือ
1)   อาการดังกล่าวเกิดจากข้อบกพร่องของอุปกรณ์ใดบ้าง
2)   วิธีแก้ไขที่ไม่ต้องมานั่ง ชอร์ตแอร์ก่อนออกรถทุกเช้า

สุดท้ายวอนผู้รู้ หรือผู้อ่านกรุณาให้คำแนะนำ เพราะที่ทำไปนั้นไม่รู้ว่า จะมีความปลอดภัย มากน้อยแค่ไหนต่ออุปกรณ์ต่างๆของระบบ  อีกอย่างลืมบอกครับ รถคันนี้  ติดแก๊ส lpg แบบดูดครับ
                "ครูบ้านนอก"


หัวข้อ: Re: เล่าประสบการณ์แก้ไขแอร์รถด้วยตัวเอง และขอทราบข้อเท็จจริง
เริ่มหัวข้อโดย: Stanalone ที่ 03 กรกฎาคม 2551 01:54:22
ค้นพบวิธีให้คอมแอร์ทำงานโดยบังเอิญ ซึ่งยังใช้อยู่ทุกวันนี้ คือ
      1) จะหาสายสัญญาณเพื่อมาเพิ่มรอบให้ VSV ช่วยเพิ่มรอบเครื่องยนต์ โดยหาแถววงจร Amplifier ของระบบแอร์
      2) ได้เลือกจุดในวงจร Amplifier ของระบบแอร์มาหนึ่งจุด คือ สายไฟเลี้ยง A.C.MG Reley ช่วงที่ต่อเข้าขั้ว MGC ของกล่องวงจร Amplifier (ดูภาพวงจรประกอบ)
      3) พ่วงสายไฟ เพื่อทดสอบโวลท์และกระแส ขณะติดเครื่องเปิดแอร์
      4) ขณะเครื่องยนต์เดินเบา ได้ยินเสียงตัง แต๊ก! ที่คอมเพรสเซอร์ในห้องเครื่องยนต์ ขึ้น 1 ครั้งในจังหวะที่เรากำลังชอร์ตสายไฟพ่วงลงกราวน์พอดี  แล้วลมแอร์เย็นๆ ก็พุ่งออกมา  “แอร์เย็นแล้ว”  ตะโกนบอกลูกชายที่อยู่ในบ้านด้วยความดีใจ
       5) ตั้งแต่นั้นมาเลยต่อสายไฟพ่วงห้อยออกมากองไว้บนพรมวางเท้าด้านซ้าย ยาว  1 เมตร ไว้ทำการสปาร์คกับคันเบรกมือ 1 ทีเร็วๆ  ก็จะได้ยินเสียง แต๊ก! ในห้องเครื่อง ลมแอร์เย็นๆ ก็ไหลออกมา แต่บางครั้งอาจไม่ติดในทีเดียว ต้องครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 ขึ้นอยู่กับความเร็วการแตะสายของแต่ละครั้งด้วย
   ปัญหาคาใจมาตลอด คือ
1)   อาการดังกล่าวเกิดจากข้อบกพร่องของอุปกรณ์ใดบ้าง
2)   วิธีแก้ไขที่ไม่ต้องมานั่ง ชอร์ตแอร์ก่อนออกรถทุกเช้า

สุดท้ายวอนผู้รู้ หรือผู้อ่านกรุณาให้คำแนะนำ เพราะที่ทำไปนั้นไม่รู้ว่า จะมีความปลอดภัย มากน้อยแค่ไหนต่ออุปกรณ์ต่างๆของระบบ  อีกอย่างลืมบอกครับ รถคันนี้  ติดแก๊ส lpg แบบดูดครับ
                "ครูบ้านนอก"


อาการที่กล่าวมาน่าจะเกิดจากกล่องควบคุม(แอร์)ผิดปรกติครับ ลองหากล่องอื่นมาลองใส่ดูครับ ว่าหายหรือไม่

ถ้าไม่หายอาจจะเป็นที่ ระบบสายไฟ

รอบเดินเบา ถ้าต่ำเกินไป แอร์จะตัดนะครับ แต่ผมว่าน่าจะเป็นที่กล่องควบคุมแอร์ครับ

ที่ทำสายไปนั้น ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไรครับ แต่ทางที่ดี แก้ไขดีกว่าครับ วันดีคืนดี สายมันไปโดนอะไรเข้า มันจะเสี่ยงนะครับ


หัวข้อ: Re: เล่าประสบการณ์แก้ไขแอร์รถด้วยตัวเอง และขอทราบข้อเท็จจริง
เริ่มหัวข้อโดย: the_bottle ที่ 07 กรกฎาคม 2551 18:09:49
เกิดจาก Card Amplifier module เสีย หาวงจรเปรียบเทียบไม่ได้ เลยใช้วงจร Temperature control เข้ามาควบคุมการทำงานของ Compressor ของ แอร์แทน ส่วนของ Idle Speed control ใช้หน้า Contact อีกชุดของ Relay ควบคุมแทน ทดสอบใช้มา 4 เดือนแล้วไม่เกิดปัญหาอะไร


หัวข้อ: Re: เล่าประสบการณ์แก้ไขแอร์รถด้วยตัวเอง และขอทราบข้อเท็จจริง
เริ่มหัวข้อโดย: NosDriVe ที่ 02 สิงหาคม 2551 16:00:17
 :emotj :emotj :emotj


หัวข้อ: Re: เล่าประสบการณ์แก้ไขแอร์รถด้วยตัวเอง และขอทราบข้อเท็จจริง
เริ่มหัวข้อโดย: MaI771 ที่ 28 กรกฎาคม 2552 15:15:06
หาช่างเช็คสายไฟใหม่ดีกว่าคับ
เด๋วเกิดพลาดมามันจะซวย


หัวข้อ: Re: เล่าประสบการณ์แก้ไขแอร์รถด้วยตัวเอง และขอทราบข้อเท็จจริง
เริ่มหัวข้อโดย: cartoon ที่ 28 กรกฎาคม 2552 17:20:23
พี่ครับ เบื้องต้นให้เราเอาไฟแบตเข้าไปที่หน้าครัทซ์ เพื่อดูว่าหน้าครัทซ์ทำงานหรือไม่เมื่อได้รับกระแสไฟฟ้าครับ ซึ่งการให้ไฟแต่ละครั้งหน้าครัทซ์จะถอยเข้าชิดกับมูเล่ย์ คอมก็พร้อมทำงาน หลังจากนั้น เสียบสายเหมือนเดิมครับ แล้วลองเปิดแอร์ดูว่าหน้าครัทซ์เข้าจับหรือไม้่ ถ้าไม่ปลดสายไฟหน้าครัทซ์อีกครั้ง สตาร์ทเครื่องเปิดแอร์ แล้วดูว่ามีกระแสไฟมาจากสายไฟที่จะส่งให้หน้าครัทซ์หรือไม่ โดยใช้มิเตอร์วัดครับ ถ้าไม่มี ให้พี่ตรวจดูรีเลย์ควบคุมแอร์เลยครับ รถส่วนใหญ่จะเสียตรงนี้กันครับ เปลี่ยนรีเลย์ก็น่าจะหายครับ การเอาไปช๊อตคงไม่ช่วย เพราะรถหลายคันผมใช้วิธีเคาะที่รีเลย์ครับ อาการรีเลย์มันทำงานบ้างไม่ทำงานบ้าง รถในกลุ่มเซฟิโร่ก็เจอแบบนี้ ของสมาชิกบางท่านเป็นมาเป็นปี หาสาเหตุไม่เจอ ทดลองเปลี่ยนคอนโทรลแอร์ก็แล้ว เปลี่ยนกล่อง ECU ก็แล้ว ไม่หาย ผมเลยลองเอามาไล่ดูตามขั้นตอนที่เขียนไว้ครับ เปลี่ยนรีเลย์หายเลยครับ