หัวข้อ: หัวเทียนกับกรองอากาศนั้นสำคัญไฉน เริ่มหัวข้อโดย: ตะลอนทัวร์005 ที่ 08 กรกฎาคม 2008 16:51:57 เนื่องด้วยตัวผมปล้ำจูนหลายครั้ง แต่รอบไม่นิ่งซะที แถมมีแบคไฟล์น้อยๆ กินแก๊สมากขึ้น
จึงนึกได้ว่า หัวเทียนนั้นใช้มานานแระเลยถอดออกมาดู โอ้วไม่อยากเชื่อ .... มันบอดสนิท แถมกรองอากาศก็เป่าไม่ได้เรื่องแล้ว เจอจัดการเปลี่ยนซะ ผลที่ได้ .... รอบนิ่งขึ้น ไม่แบคไฟ แถมประหยัดขึ้นอีก :emotv ใครพบปัญหาข้างต้นก็ลองเปลี่ยนดูนะครับ หัวข้อ: Re: หัวเทียนกับกรองอากาศนั้นสำคัญไฉน เริ่มหัวข้อโดย: tunatae ที่ 08 กรกฎาคม 2008 17:02:55 :emok :emo2 :emotn
หัวข้อ: Re: หัวเทียนกับกรองอากาศนั้นสำคัญไฉน เริ่มหัวข้อโดย: aod_ae ที่ 08 กรกฎาคม 2008 18:09:34 :emom :emom
หัวข้อ: Re: หัวเทียนกับกรองอากาศนั้นสำคัญไฉน เริ่มหัวข้อโดย: eddy ที่ 09 กรกฎาคม 2008 12:18:34 :emo2 :emo2 :emo2
หัวข้อ: Re: หัวเทียนกับกรองอากาศนั้นสำคัญไฉน เริ่มหัวข้อโดย: ตะลอนทัวร์007 ที่ 09 กรกฎาคม 2008 15:19:15 :emo2 :emo2 :emo2 ด้วยคนครับ
หัวข้อ: Re: หัวเทียนกับกรองอากาศนั้นสำคัญไฉน เริ่มหัวข้อโดย: kung_sakon ที่ 09 กรกฎาคม 2008 23:37:23 ขอบคุณครับที่นำมาบอก
หัวข้อ: Re: หัวเทียนกับกรองอากาศนั้นสำคัญไฉน เริ่มหัวข้อโดย: RANDOM.VIP ที่ 10 กรกฎาคม 2008 00:03:31 เหอ ๆ เหมือนกันเลย ล่าสุด เพิ่งใส่กรองเปลือย ประหยัดขึ้นเยอะเลยอ่ะ
วิ่งกว่าเดิมด้วย รู้สึกได้เลยอ่ะ หัวข้อ: Re: หัวเทียนกับกรองอากาศนั้นสำคัญไฉน เริ่มหัวข้อโดย: ponzg ที่ 10 กรกฎาคม 2008 02:20:21 ครับผม สำหรับรถใช้แก็สนั้น เรื่อง อากาศ+ไฟ นั้น สำคัญมาก ๆ เลยนะครับ ต้องหมั่นเช็คดูให้ดี....
หัวข้อ: Re: หัวเทียนกับกรองอากาศนั้นสำคัญไฉน เริ่มหัวข้อโดย: artjar ที่ 10 กรกฎาคม 2008 07:52:06 เหอ ๆ เหมือนกันเลย ล่าสุด เพิ่งใส่กรองเปลือย ประหยัดขึ้นเยอะเลยอ่ะ เป็นกรองดอกเห็ดรึว่ากรองเปลือยแบบไส้เดิมครับ กะลังว่าจะเปลี่ยนบ้าง...วิ่งกว่าเดิมด้วย รู้สึกได้เลยอ่ะ หัวข้อ: Re: หัวเทียนกับกรองอากาศนั้นสำคัญไฉน เริ่มหัวข้อโดย: chansreegam ที่ 10 กรกฎาคม 2008 11:04:24 ประสบการณ์จริง มีประโยชน์ ช่วยดันครับ
หัวข้อ: Re: หัวเทียนกับกรองอากาศนั้นสำคัญไฉน เริ่มหัวข้อโดย: phonthanathorn ที่ 11 กรกฎาคม 2008 21:02:46 เคยทดสอบมั้ยครับใส่กรองเปลือยแล้วแรงขึ้น ประหยัดขึ้น ขอข้อมูลหน่อย
ผมเปลี่ยนจากกรองกระดาษเป็นกรองอลูมีเนียม กินมากขึ้นและแรงน้อยลงด้วย สุดท้ายก็ต้องกรองกระดาษเหมือนเดิม หัวข้อ: Re: หัวเทียนกับกรองอากาศนั้นสำคัญไฉน เริ่มหัวข้อโดย: ตะลอนทัวร์007 ที่ 12 กรกฎาคม 2008 09:34:19 เมื่อวานเปลี่ยนกรองกระดาษกับหัวเทียนแล้วครับ ขอบคุณ เจ้าของกระทู้ Taball ที่ช่วยเปลี่ยนหัวเทียนให้ แล้วก็ช่วยจูนแก๊สให้ครับ
หัวข้อ: Re: หัวเทียนกับกรองอากาศนั้นสำคัญไฉน เริ่มหัวข้อโดย: D.I.Y. CLUB ที่ 14 กรกฎาคม 2008 09:45:53 ร่วมแสดงความคิดเห็นครับ
-กรองอากาศถ้าตัน มันจะทำให้มีสูญญากาศในท่อกรองอากาศมากขึ้นนั่นก็หมายความว่ามันจะดูดแก๊สออกมามากขึ้นเพราะเราติด Mixer ไว้ระหว่างทาง -หัวเทียนครับ ถ้าบอดหรือเขม่ามาก มันจะติดไฟที่เขม่าเมื่อความร้อนสูงเวลาถึงจังหวะดูดมันก็อาจทำงานผิดจังหวะ อาจทำให้ไม่มีแรงวิ่งคราวนี้หละครับ ถ้าเป็นบ่อย ๆ สายหัวเทียนจะต้องแบกรับภาระกระแสไฟ 40000 Volt มันก็จะหาทางออกแล้วครับ ก็คือสายหัวเทียนรั่วนั่นเองครับแล้วรั่วบ่อย ก็รวน รวนบ่อย Coil ก็เสียตามครับ ทางที่ดีแก้ส่วนผสมให้ดีดีกว่าด้วย...เดี๋ยวแนะนำหลังไมค์ PM มาแล้วจะบอก มันจะช่วยได้ เดี๋ยวหาว่าโฆษณา หัวข้อ: Re: หัวเทียนกับกรองอากาศนั้นสำคัญไฉน เริ่มหัวข้อโดย: TIT ที่ 14 กรกฎาคม 2008 09:50:53 เคยทดสอบมั้ยครับใส่กรองเปลือยแล้วแรงขึ้น ประหยัดขึ้น ขอข้อมูลหน่อย ผมเปลี่ยนจากกรองกระดาษเป็นกรองอลูมีเนียม กินมากขึ้นและแรงน้อยลงด้วย สุดท้ายก็ต้องกรองกระดาษเหมือนเดิม ใส่แล้วได้ปรับจูนแก๊สใหม่หรือป่าวครับ หัวข้อ: Re: หัวเทียนกับกรองอากาศนั้นสำคัญไฉน เริ่มหัวข้อโดย: ตะลอนทัวร์007 ที่ 16 กรกฎาคม 2008 10:09:00 อัพ ครับ อัพ
หัวข้อ: Re: หัวเทียนกับกรองอากาศนั้นสำคัญไฉน เริ่มหัวข้อโดย: ตะลอนทัวร์005 ที่ 16 กรกฎาคม 2008 12:50:17 เคยทดสอบมั้ยครับใส่กรองเปลือยแล้วแรงขึ้น ประหยัดขึ้น ขอข้อมูลหน่อย ผมเปลี่ยนจากกรองกระดาษเป็นกรองอลูมีเนียม กินมากขึ้นและแรงน้อยลงด้วย สุดท้ายก็ต้องกรองกระดาษเหมือนเดิม ใส่แล้วได้ปรับจูนแก๊สใหม่หรือป่าวครับ โดยมีน้องบางท่านได้ใช้กรองเปลือย เลส มันกินมากแก๊สมาเลย ถ้าใครงบจำกัด แนะนำกรองอพอลโล่ดับเบิ้ลชีสเบอร์เกอร์ (2 อัน สูตรอ.แอ้ม) พอตันก็โยนทิ้งเลยครับ ลองหาข้อมูลได้จาก www.gasthai.com หัวข้อ: Re: หัวเทียนกับกรองอากาศนั้นสำคัญไฉน เริ่มหัวข้อโดย: phonthanathorn ที่ 17 กรกฎาคม 2008 07:52:47 จูนใหม่แล้วครับ
โดยต้องตั้งเปิดเสต็ปเริ่มต้นของแลมด้าเพิ่มไปอีก แต่อาการตามที่บอกคือกินมากขึ้น วิ่งน้อยลง แต่อาจจะแตกต่างจากคนอื่นที่ใช้กรองเปลิอย แต่ผมใช้กรองอลูมีเนียมใส่แทนกรองเดิม โดนในขณะที่ขับจูนแลมด้าช่างบอกว่าอากาศเข้ามากเกินไปเหยียบคันเร่งเยอะแล้วแต่รถไม่วิ่ง น่าจะกินมากขึ้น หลังจากทดสอบก็ตามที่ช่างว่าครับ หัวข้อ: Re: หัวเทียนกับกรองอากาศนั้นสำคัญไฉน เริ่มหัวข้อโดย: canboy ที่ 17 กรกฎาคม 2008 14:04:26 เปลี่ยนมาทั้งชุดเลยยคราบบ
1.กรองอากาศแบบเดิมติดรถ (Full) 2. สายหัวเทียน 8มม (KING SPARK) 3. หัวเทียน (NGK Platinuim) รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลง รู้สึกเครื่องนิ่งขึ้น อาการสะอึกเล็กๆก็หายไป ที่สำคัญได้ระยะทางเพิ่มขึ้นมาอีก 30-50 กิโลเมตร/ถัง (จากการใช้งาน มา 3 ถัง) ผมว่าคุ้มค่านะครับกับการลงทุน 2พัน บาท ถ้าเราหมั่นดูแลเรื่องกรองอากาศอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยก็ช่วยเราประหยัดได้เดือนละเป็นร้อยเชียวนะ (เดือนหนึ่งผมใช้ 5 ถังๆละ 450-500 บาท หัวข้อ: Re: หัวเทียนกับกรองอากาศนั้นสำคัญไฉน เริ่มหัวข้อโดย: Tagrud ที่ 24 กรกฎาคม 2008 08:26:46 รถผม AE92 เครื่อง 5A เพิ่งติดแก๊ส LPG ระบบดูด
ช่วยแนะนำหัวเทียนที่เหมาะสมด้วยครับ ยังไม่ได้เปลี่ยนเลย ใครเปลี่ยนมาแล้วรบกวนบอกราคาด้วนนะครับ ขอบคุณครับ หัวข้อ: Re: หัวเทียนกับกรองอากาศนั้นสำคัญไฉน เริ่มหัวข้อโดย: ตะลอนทัวร์005 ที่ 24 กรกฎาคม 2008 09:50:41 รถผม AE92 เครื่อง 5A เพิ่งติดแก๊ส LPG ระบบดูด หัวเทียนเดิมๆ ตามสเปกรถเลยครับ ของผมซื้อมา 45 บาทต่อหัว ช่วยแนะนำหัวเทียนที่เหมาะสมด้วยครับ ยังไม่ได้เปลี่ยนเลย ใครเปลี่ยนมาแล้วรบกวนบอกราคาด้วนนะครับ ขอบคุณครับ หัวข้อ: Re: หัวเทียนกับกรองอากาศนั้นสำคัญไฉน เริ่มหัวข้อโดย: NosDriVe ที่ 27 กรกฎาคม 2008 08:52:26 :emo2
หัวข้อ: Re: หัวเทียนกับกรองอากาศนั้นสำคัญไฉน เริ่มหัวข้อโดย: Ahacahi ที่ 07 ตุลาคม 2008 10:36:25 ขอบคุณเจ้าของกระทู้ครับ
รถผมปกติ 1 ถังวิ่งได้ประมาณ 450-470 กม ช่วงที่มีปัญหา กรองอากาศวิ่งเกิน 5000 กม เห็นขาวๆ อยู่นึกว่าใช้ได้เป่าทุกอาทิตย์ ก็นึกว่าไม่มีปัญหา จาก 450-470 /ถัง เหลือแค่ 390/ถัง งง ล่ะซิทีนี้ ก่อนจะเป็นก็เหมาะเจาะเหลือเกิน พึ่งเพิ่มพักกลางกับเดินท่อใหม่เป็น 1.6" นิ้วด้วย งงไปใหญ่นึกว่าเป็นที่ทำท่อไอเสียมา วิ่งอยู่ แบบนี้หมดไป 2 ถัง เลยได้โอกาสเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง และกรองอากาศใหม่ เท่านั้นล่ะพี่น้องกระจ่างเลย เป็นที่กรองอากาศตันที่เอง อาการที่บ่งบอกว่าอากาศตัน จะรู้สึกว่าแก๊สหนาขึ้นทั้งที่ไม่ได้จูนใหม่ จนต้องลดแก๊สลงเพราะหนาไป คันเร่งแข่งขึ้น เร่งไม่ค่อยออก เปลี่ยนเลยนะครับอย่าปล่อยให้มันเปลือง เหมือนผม หัวข้อ: Re: หัวเทียนกับกรองอากาศนั้นสำคัญไฉน เริ่มหัวข้อโดย: balloon ที่ 08 ตุลาคม 2008 18:22:57 :emotk
|