หัวข้อ: Mitsubishi Lancer - CK2 & Toyota 1.8 7A FE เริ่มหัวข้อโดย: carboxy.CZ ที่ 13 สิงหาคม 2008 15:06:35 (http://images.temppic.com/13-08-2008/images_vertis/1218614686_0.46981200.jpg) (http://www.temppic.com/img.php?13-08-2008:1218614686_0.46981200.jpg)
(http://images.temppic.com/13-08-2008/images_vertis/1218614689_0.46158800.jpg) (http://www.temppic.com/img.php?13-08-2008:1218614689_0.46158800.jpg) (http://images.temppic.com/13-08-2008/images_vertis/1218614692_0.87691400.jpg) (http://www.temppic.com/img.php?13-08-2008:1218614692_0.87691400.jpg) ที่มา : http://www.corollaclubrace.com หัวข้อ: Re: Mitsubishi Lancer - CK2 & Toyota 1.8 7A FE เริ่มหัวข้อโดย: COROLLABOY ที่ 13 สิงหาคม 2008 15:14:22 ทำไงได้ละ ของมันดีไครๆก็อยากใช้
หัวข้อ: Re: Mitsubishi Lancer - CK2 & Toyota 1.8 7A FE เริ่มหัวข้อโดย: __Da__ ที่ 13 สิงหาคม 2008 15:18:53 มันคงดีที่ติดแก๊ซละมั้ง แต่ จริงๆ ยกใหม่ มันแพง พอกัน ติดหัวฉีดเครื่องเดิมดีกว่า พวกนี้ ไม่ค่อนคำนวณผลที่ได้ครับ เหมือพวกกะบะ ยกเครื่องเจ หรือขายรถ ยอดขาดทุน เป็น แสนๆ เอาเงิน แสน มาเติมน้ำมันไม่ดีกว่าหรือ เอาเงินแสนไปทิ้งเปล่าๆ คนเรา เห็นถูกกว่าหน่อย ก็เอา ทั่งที ขาดทุน ยับ เอารถใหม่ไปแรกรถมีสอง แถมขาดทุน เป็นแสนๆ
หัวข้อ: Re: Mitsubishi Lancer - CK2 & Toyota 1.8 7A FE เริ่มหัวข้อโดย: nut_spoon.CZ ที่ 13 สิงหาคม 2008 15:21:45 555 ทำไปด้าย
หัวข้อ: Re: Mitsubishi Lancer - CK2 & Toyota 1.8 7A FE เริ่มหัวข้อโดย: nuvo3816 ที่ 13 สิงหาคม 2008 15:25:12 ใครๆ ก็ชอบ toyota
หัวข้อ: Re: Mitsubishi Lancer - CK2 & Toyota 1.8 7A FE เริ่มหัวข้อโดย: khan_ae++101++ ที่ 13 สิงหาคม 2008 15:31:55 ของเค้าดีจริง :emo2
หัวข้อ: Re: Mitsubishi Lancer - CK2 & Toyota 1.8 7A FE เริ่มหัวข้อโดย: DARKSTAR ที่ 13 สิงหาคม 2008 15:36:32 กินแก๊สซะด้วย
หัวข้อ: Re: Mitsubishi Lancer - CK2 & Toyota 1.8 7A FE เริ่มหัวข้อโดย: tunatae ที่ 13 สิงหาคม 2008 15:37:21 ติดเเก๊ส ต้อง TOYOTA สิ อย่างเเจ่ม
หัวข้อ: Re: Mitsubishi Lancer - CK2 & Toyota 1.8 7A FE เริ่มหัวข้อโดย: Grid ที่ 13 สิงหาคม 2008 15:43:39 ใช่แล้ว
หัวข้อ: Re: Mitsubishi Lancer - CK2 & Toyota 1.8 7A FE เริ่มหัวข้อโดย: NosDriVe ที่ 13 สิงหาคม 2008 17:38:14 มันคงดีที่ติดแก๊ซละมั้ง แต่ จริงๆ ยกใหม่ มันแพง พอกัน ติดหัวฉีดเครื่องเดิมดีกว่า พวกนี้ ไม่ค่อนคำนวณผลที่ได้ครับ เหมือพวกกะบะ ยกเครื่องเจ หรือขายรถ ยอดขาดทุน เป็น แสนๆ เอาเงิน แสน มาเติมน้ำมันไม่ดีกว่าหรือ เอาเงินแสนไปทิ้งเปล่าๆ คนเรา เห็นถูกกว่าหน่อย ก็เอา ทั่งที ขาดทุน ยับ เอารถใหม่ไปแรกรถมีสอง แถมขาดทุน เป็นแสนๆ กระบะที่ยกเครื่องเดิมขายทิ้งแล้ววางเครื่องเจ+ติดแก๊ส ส่วนมากระยะทางที่ใช้ต่อวันจะค่อนข้างมากครับ อาจจะเกิน 200 km+ พวกนี้ระยะคืนทุนจะสั้น ถ้าเทียบค่าใช้จ่ายระหว่างเติมดีเซลกับเติมแก๊ส ผมว่าไม่เกิน 6 เดือนก็คืนทุนละ ที่เหลือก็ทุ่นไปได้เยอะ หัวข้อ: Re: Mitsubishi Lancer - CK2 & Toyota 1.8 7A FE เริ่มหัวข้อโดย: -- James _ Za -- ที่ 13 สิงหาคม 2008 17:55:58 มันคงดีที่ติดแก๊ซละมั้ง แต่ จริงๆ ยกใหม่ มันแพง พอกัน ติดหัวฉีดเครื่องเดิมดีกว่า พวกนี้ ไม่ค่อนคำนวณผลที่ได้ครับ เหมือพวกกะบะ ยกเครื่องเจ หรือขายรถ ยอดขาดทุน เป็น แสนๆ เอาเงิน แสน มาเติมน้ำมันไม่ดีกว่าหรือ เอาเงินแสนไปทิ้งเปล่าๆ คนเรา เห็นถูกกว่าหน่อย ก็เอา ทั่งที ขาดทุน ยับ เอารถใหม่ไปแรกรถมีสอง แถมขาดทุน เป็นแสนๆ กระบะที่ยกเครื่องเดิมขายทิ้งแล้ววางเครื่องเจ+ติดแก๊ส ส่วนมากระยะทางที่ใช้ต่อวันจะค่อนข้างมากครับ อาจจะเกิน 200 km+ พวกนี้ระยะคืนทุนจะสั้น ถ้าเทียบค่าใช้จ่ายระหว่างเติมดีเซลกับเติมแก๊ส ผมว่าไม่เกิน 6 เดือนก็คืนทุนละ ที่เหลือก็ทุ่นไปได้เยอะ ใช่คับ บางที CK2 คันนี้ เครื่องเก่าอาจพังก็ได้ ไหนๆ เปลี่ยนทั้งทีเอา 7A ดีกว่า เห็นทนดีเพราะต้องเอามาติดแก๊ช อันนี้ต้องมองอีกแง่มุมด้วยคับ :emog หัวข้อ: Re: Mitsubishi Lancer - CK2 & Toyota 1.8 7A FE เริ่มหัวข้อโดย: tunatae ที่ 13 สิงหาคม 2008 17:59:11 มองระัยะยาว คับ
หัวข้อ: Re: Mitsubishi Lancer - CK2 & Toyota 1.8 7A FE เริ่มหัวข้อโดย: __Da__ ที่ 13 สิงหาคม 2008 18:52:21 ถ้าในระยะยาว เหมือนพวกวีโก้ ป้ายแดง ผมว่าไม่คุมอะครับ เครื่องราคาเป็นแสน ขายได้ไม่กี่หมื่น(รับซื้อเปล่าก็ไม่รู้) บางคนผมเห็นออกมาป้ายแดง ขายทิ้งเลย ยอมขาดทุน ไม่ต่ำกว่า 3 แสน ส่วนใหญ่รถที่เปลี่ยนกันก็ ขับในเมืองทั่งนั้นและครับ เติมน้ำมัน 3 แสน ขับไปเหอะ ถ้าวิ่งในกรุงเทพนะ อีกนาน ผมว่าไม่คืนหลอกครับ หายไปเป็นแสน ถ้าคืน ก็ นานๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Mitsubishi Lancer - CK2 & Toyota 1.8 7A FE เริ่มหัวข้อโดย: -- James _ Za -- ที่ 13 สิงหาคม 2008 19:21:45 ถ้าในระยะยาว เหมือนพวกวีโก้ ป้ายแดง ผมว่าไม่คุมอะครับ เครื่องราคาเป็นแสน ขายได้ไม่กี่หมื่น(รับซื้อเปล่าก็ไม่รู้) บางคนผมเห็นออกมาป้ายแดง ขายทิ้งเลย ยอมขาดทุน ไม่ต่ำกว่า 3 แสน ส่วนใหญ่รถที่เปลี่ยนกันก็ ขับในเมืองทั่งนั้นและครับ เติมน้ำมัน 3 แสน ขับไปเหอะ ถ้าวิ่งในกรุงเทพนะ อีกนาน ผมว่าไม่คืนหลอกครับ หายไปเป็นแสน ถ้าคืน ก็ นานๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ถ้ากรณีนี้ เขาคิดสั้นฮ่ะ น้องดา โครตเสียดายรถเลย D-max พี่ยังยอมสู้ค่าน้ำมันเลย ถ้าเอาไปเปลี่ยนเครื่องเสียดายรถ แถมหมดประกันด้วย ช่วงนี้น้ำมันลงสบายตัวหน่อย หัวข้อ: Re: Mitsubishi Lancer - CK2 & Toyota 1.8 7A FE เริ่มหัวข้อโดย: New. ที่ 13 สิงหาคม 2008 20:58:04 ทนหายห่วงครับ อิอิ :emoth
แล้วแย่งกันวางแบบนี้เครื่องจะขาดตลาดไหมเนี่ย :emo8 หัวข้อ: Re: Mitsubishi Lancer - CK2 & Toyota 1.8 7A FE เริ่มหัวข้อโดย: 4d56 ที่ 13 สิงหาคม 2008 21:05:00 รถเก่าอ่ะคุ้มคับ แต่ใหม่ๆป้ายแดงนี่ผมว่าเสียของ(นอกจากคนเหลือจริงๆ)
บางคันผมว่ายังผ่อนไม่หมดก้อขายแล้วออกใหม่อ่ะคับ(คนใช้รถสมัยใหม่) พอเริ่มซ่อมก้อจะเปลี่ยนรถเพราะคิดว่าไม่คุ้มที่จะมานั่งซ่อม ถ้าแก๊สขึ้น แบบอีกกระทู้นึง22บาทต่อลิตรพวกติดแก๊สก้อหนาวๆเหมือนกันอ่ะคับตอนนี้ ผมว่าน่าจะลองดูแนวโน้มของเชื้อเพลิงให้ราคามันคงที่ก่อนดีกว่า วันนี้เติม โซฮอล์ขับแบบเรื่อยๆก้อโอเคเหมือนกันคับ ส่วนคันนี้ถ้าเดิมเป็นเครื่อง1.8 ที่มีเอบีเอสก้อตรงบอดี้ของ7เอเลยอิอิเพราะใช้สัญญานเอบีเอสจับความเร็ว แต่ยังไงเกียร์invescของเดิมก้อนุ่มนวลกว่าเกียร์ectของโตโยต้าอ่ะคับ หัวข้อ: Re: Mitsubishi Lancer - CK2 & Toyota 1.8 7A FE เริ่มหัวข้อโดย: >> OaTzy << SZ#013 ที่ 13 สิงหาคม 2008 22:29:19 เครื่อง FE นี่สุดยอดแล้วว ;D ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: Mitsubishi Lancer - CK2 & Toyota 1.8 7A FE เริ่มหัวข้อโดย: Hunter_JIK.CZ48 ที่ 14 สิงหาคม 2008 01:13:51 มันคงดีที่ติดแก๊ซละมั้ง แต่ จริงๆ ยกใหม่ มันแพง พอกัน ติดหัวฉีดเครื่องเดิมดีกว่า พวกนี้ ไม่ค่อนคำนวณผลที่ได้ครับ เหมือพวกกะบะ ยกเครื่องเจ หรือขายรถ ยอดขาดทุน เป็น แสนๆ เอาเงิน แสน มาเติมน้ำมันไม่ดีกว่าหรือ เอาเงินแสนไปทิ้งเปล่าๆ คนเรา เห็นถูกกว่าหน่อย ก็เอา ทั่งที ขาดทุน ยับ เอารถใหม่ไปแรกรถมีสอง แถมขาดทุน เป็นแสนๆ กระบะที่ยกเครื่องเดิมขายทิ้งแล้ววางเครื่องเจ+ติดแก๊ส ส่วนมากระยะทางที่ใช้ต่อวันจะค่อนข้างมากครับ อาจจะเกิน 200 km+ พวกนี้ระยะคืนทุนจะสั้น ถ้าเทียบค่าใช้จ่ายระหว่างเติมดีเซลกับเติมแก๊ส ผมว่าไม่เกิน 6 เดือนก็คืนทุนละ ที่เหลือก็ทุ่นไปได้เยอะ ใช่ครับพวกนี้เขาคิดมาแล้วว่าคุ้มไม่ใช่ลงมั่วๆ พ่อค้าเขาก็คิดแล้วว่าเดือนนึงหมดค่าน้ำมันกี่หมื่น ถ้าใ้แก๊สกี่เดือนคืนทุน ไม่งั้นเขาไม่ติดหรอก อย่ามองแต่ว่าใช้ในเมืองพวกวิ่งส่งของ มีเยอะแยะ ปทุมบางนาวันละ4เที่ยวงี้ไม่กี่เดือนก็คืนทุนแล้ว มองให้หลายมุม หัวข้อ: Re: Mitsubishi Lancer - CK2 & Toyota 1.8 7A FE เริ่มหัวข้อโดย: __Da__ ที่ 14 สิงหาคม 2008 01:17:52 มันคงดีที่ติดแก๊ซละมั้ง แต่ จริงๆ ยกใหม่ มันแพง พอกัน ติดหัวฉีดเครื่องเดิมดีกว่า พวกนี้ ไม่ค่อนคำนวณผลที่ได้ครับ เหมือพวกกะบะ ยกเครื่องเจ หรือขายรถ ยอดขาดทุน เป็น แสนๆ เอาเงิน แสน มาเติมน้ำมันไม่ดีกว่าหรือ เอาเงินแสนไปทิ้งเปล่าๆ คนเรา เห็นถูกกว่าหน่อย ก็เอา ทั่งที ขาดทุน ยับ เอารถใหม่ไปแรกรถมีสอง แถมขาดทุน เป็นแสนๆ กระบะที่ยกเครื่องเดิมขายทิ้งแล้ววางเครื่องเจ+ติดแก๊ส ส่วนมากระยะทางที่ใช้ต่อวันจะค่อนข้างมากครับ อาจจะเกิน 200 km+ พวกนี้ระยะคืนทุนจะสั้น ถ้าเทียบค่าใช้จ่ายระหว่างเติมดีเซลกับเติมแก๊ส ผมว่าไม่เกิน 6 เดือนก็คืนทุนละ ที่เหลือก็ทุ่นไปได้เยอะ ใช่ครับพวกนี้เขาคิดมาแล้วว่าคุ้มไม่ใช่ลงมั่วๆ พ่อค้าเขาก็คิดแล้วว่าเดือนนึงหมดค่าน้ำมันกี่หมื่น ถ้าใ้แก๊สกี่เดือนคืนทุน ไม่งั้นเขาไม่ติดหรอก อย่ามองแต่ว่าใช้ในเมืองพวกวิ่งส่งของ มีเยอะแยะ ปทุมบางนาวันละ4เที่ยวงี้ไม่กี่เดือนก็คืนทุนแล้ว มองให้หลายมุม ถ้าในระยะยาว เหมือนพวกวีโก้ ป้ายแดง ผมว่าไม่คุมอะครับ เครื่องราคาเป็นแสน ขายได้ไม่กี่หมื่น(รับซื้อเปล่าก็ไม่รู้) บางคนผมเห็นออกมาป้ายแดง ขายทิ้งเลย ยอมขาดทุน ไม่ต่ำกว่า 3 แสน ส่วนใหญ่รถที่เปลี่ยนกันก็ ขับในเมืองทั่งนั้นและครับ เติมน้ำมัน 3 แสน ขับไปเหอะ ถ้าวิ่งในกรุงเทพนะ อีกนาน ผมว่าไม่คืนหลอกครับ หายไปเป็นแสน ถ้าคืน ก็ นานๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ถ้ากรณีนี้ เขาคิดสั้นฮ่ะ น้องดา โครตเสียดายรถเลย D-max พี่ยังยอมสู้ค่าน้ำมันเลย ถ้าเอาไปเปลี่ยนเครื่องเสียดายรถ แถมหมดประกันด้วย ช่วงนี้น้ำมันลงสบายตัวหน่อย หัวข้อ: Re: Mitsubishi Lancer - CK2 & Toyota 1.8 7A FE เริ่มหัวข้อโดย: Hunter_JIK.CZ48 ที่ 14 สิงหาคม 2008 01:27:24 มันคงดีที่ติดแก๊ซละมั้ง แต่ จริงๆ ยกใหม่ มันแพง พอกัน ติดหัวฉีดเครื่องเดิมดีกว่า พวกนี้ ไม่ค่อนคำนวณผลที่ได้ครับ เหมือพวกกะบะ ยกเครื่องเจ หรือขายรถ ยอดขาดทุน เป็น แสนๆ เอาเงิน แสน มาเติมน้ำมันไม่ดีกว่าหรือ เอาเงินแสนไปทิ้งเปล่าๆ คนเรา เห็นถูกกว่าหน่อย ก็เอา ทั่งที ขาดทุน ยับ เอารถใหม่ไปแรกรถมีสอง แถมขาดทุน เป็นแสนๆ กระบะที่ยกเครื่องเดิมขายทิ้งแล้ววางเครื่องเจ+ติดแก๊ส ส่วนมากระยะทางที่ใช้ต่อวันจะค่อนข้างมากครับ อาจจะเกิน 200 km+ พวกนี้ระยะคืนทุนจะสั้น ถ้าเทียบค่าใช้จ่ายระหว่างเติมดีเซลกับเติมแก๊ส ผมว่าไม่เกิน 6 เดือนก็คืนทุนละ ที่เหลือก็ทุ่นไปได้เยอะ ใช่ครับพวกนี้เขาคิดมาแล้วว่าคุ้มไม่ใช่ลงมั่วๆ พ่อค้าเขาก็คิดแล้วว่าเดือนนึงหมดค่าน้ำมันกี่หมื่น ถ้าใ้แก๊สกี่เดือนคืนทุน ไม่งั้นเขาไม่ติดหรอก อย่ามองแต่ว่าใช้ในเมืองพวกวิ่งส่งของ มีเยอะแยะ ปทุมบางนาวันละ4เที่ยวงี้ไม่กี่เดือนก็คืนทุนแล้ว มองให้หลายมุม ถ้าในระยะยาว เหมือนพวกวีโก้ ป้ายแดง ผมว่าไม่คุมอะครับ เครื่องราคาเป็นแสน ขายได้ไม่กี่หมื่น(รับซื้อเปล่าก็ไม่รู้) บางคนผมเห็นออกมาป้ายแดง ขายทิ้งเลย ยอมขาดทุน ไม่ต่ำกว่า 3 แสน ส่วนใหญ่รถที่เปลี่ยนกันก็ ขับในเมืองทั่งนั้นและครับ เติมน้ำมัน 3 แสน ขับไปเหอะ ถ้าวิ่งในกรุงเทพนะ อีกนาน ผมว่าไม่คืนหลอกครับ หายไปเป็นแสน ถ้าคืน ก็ นานๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ถ้ากรณีนี้ เขาคิดสั้นฮ่ะ น้องดา โครตเสียดายรถเลย D-max พี่ยังยอมสู้ค่าน้ำมันเลย ถ้าเอาไปเปลี่ยนเครื่องเสียดายรถ แถมหมดประกันด้วย ช่วงนี้น้ำมันลงสบายตัวหน่อย ผมอ่านใหม่หลายรอบ ความเห้นส่วนตัว+มีพี่ผมขนผักส่งอยู่ ในระยะยาวผมว่าก็คุ้มอยู่ดีครับ เพราะเนื่องจากใช้เยอะ เครื่องยกมาขายได้ไม่กี่หมื่นก็ไม่เป้นไรนั้นคือจุดคุ้มไงครับ มันคุ้มรวมไปถึงค่าวางใหม่แล้ว เพราะฉนั้นจึงไม่เสียดายเครื่องไม่เสียดายรถ เพราะเขาใช้งาน แต่ถ้าพวกใช้ในเมืองไปทำงานเช้าเย็นกลับนั้นก็อาจจะจริงครับที่ไม่คุ้ม อีก6เดือนรัฐปล่อยลอยตัวเหมือนเดิม ตอนนั้นน้ำมันจะขึ้นไปเท่าไหร่ แก๊สขึ้นเท่าไหร่ไม่มีใครรู้แต่ที่แน่ๆ ทะลุยอดเดิมแน่ ความเห็นส่วนตัวแลกเปลี่ยนกันเน้อ :emotn หัวข้อ: Re: Mitsubishi Lancer - CK2 & Toyota 1.8 7A FE เริ่มหัวข้อโดย: 4d56 ที่ 14 สิงหาคม 2008 01:37:24 แลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้วยอีกคนคับ แต่ผมแปลกใจตรงที่ชาวต่างชาติ
ญี่ปุ่น แขกอาหรับ ออสเตรเลีย (ได้ยินมาว่าอย่างนั้น) เค้ามาซื้อเครื่อง คอมมอนเรลกลับไปในราคาที่ไม่สูงมากนัก แล้วที่ได้ยินมาเค้าว่ามันมาเหมา กันไปเลย หรือว่ามันจะมีพลิกล็อคอะไรเกี่ยวกับเครื่องยนต์ดีเซลอีกอ่ะคับ หัวข้อ: Re: Mitsubishi Lancer - CK2 & Toyota 1.8 7A FE เริ่มหัวข้อโดย: Hunter_JIK.CZ48 ที่ 14 สิงหาคม 2008 01:58:08 ฝรั่งมันก็บอกเราอะบ้า เครื่องเขาวิเคราะมาดีแล้วออกแบบสุดๆ แต่เอาเครื่องใหม่ๆป้ายแดงๆออกแล้วเอาเครื่องเก่า หลายปีถึงเป็นสิบปีของมือ2มันมาลง
หัวข้อ: Re: Mitsubishi Lancer - CK2 & Toyota 1.8 7A FE เริ่มหัวข้อโดย: TAOTAO-TZ#056- ที่ 14 สิงหาคม 2008 09:09:33 ด้วยคนนะ....
กรณีอื่นไม่รู้ แต่กรณีคู่ค้าของโรงงานผมเจ้านี้ ก็โอเคนะ ที่โรงงานเค้าวิ่งรถส่ง "เนื้อปู" จากสุราษฐ์ มา มหาชัย ตีว่า 900 โล อ่ะ... เรื่อยๆไม่ได้ เนื้อปูจะเสียรสชาติ + บูด กดมา 150-160 ตลอด (เคยไล่ตูดรถเปล่ากลับไปทางหัวหิน...พวกนี้"ท้า-นรก"ครับ) ที่ 150-160 ดีแม็กซ์ ก็ 9-10 โลลิตร ก็ 100 ลิตร (100 x 38.00 = 3,800 x 2 เที่ยว) ก็ 7,600.- ส่ง 6 วัน x 4 อาทิตย์ = 182,400.-/เดือน ตีว่า ค้าขายคนกันเอง กำไร 5% พอ 1เที่ยวส่ง 1500 กก. ขายกัน โล ละ 700.- (เนื้อกรรเชียง) 1เที่ยว กำไร 1500 kg x 700.- x 5% = 52,500 ไม่ได้โม้นะ (เจ้านี้ชื่อ-แพวิยะ) = 52,500 x ส่ง 6 วัน x 4 อาทิตย์ = 1,260,000.-/เดือน แค่กำไรนะ!!! เอาเป็นว่า ต่อเดือน ค่าน้ำมัน = 182,400.-/เดือน ค่าคนขับ = 30,000.-/เดือน 2 คนเลยเอ้า 60,000.- รวม = 242,400.-/เดือน เอาทุนเนี่ยะ ไปลบ กำไร 1,260,000 - 242,400 ใช่ครับ แค่บริษัทผม เค้ากำไร เดือนละ ล้าน!!! ทีนี้ถ้าเป็นแก๊ส อ่ะ น้ำมันเจ้าเก่า ก็ 100 ลิตร (100 x 38.00 = 3,800 x 2 เที่ยว) ก็ 7,600.- ส่ง 6 วัน x 4 อาทิตย์ = 182,400.-/เดือน แก็ส...ก๊ ก็ 100 ลิตร (100 x 15.00 = 1,500 x 2 เที่ยว ไป-กลับ) ก็ 3,000.- ส่ง 6 วัน x 4 อาทิตย์ = 72,000.-/เดือน กำไรมากขึ้นกว่าการใช้น้ำมันเดือนละ = 182,400.-/เดือน ลบด้วย 72,000 = 110,400.- ป้ายแดง ก๊แดง เถอะครับ คุ้มจริงๆ "แต่ผมก็เชื่อนะว่า ส่วนมาก ไม่น่าคุ้มกับที่ลงทุนไป กับการ ยกเครื่อง คอมม่อนเรล ที่แสนประหยัดทิ้งไป ใส่เครื่องที่ มีเทคโนโลยี่เมื่อ 15 ปีที่แล้ว" หัวข้อ: Re: Mitsubishi Lancer - CK2 & Toyota 1.8 7A FE เริ่มหัวข้อโดย: tunatae ที่ 14 สิงหาคม 2008 09:21:38 ด้วยคนนะ.... กรณีอื่นไม่รู้ แต่กรณีคู่ค้าของโรงงานผมเจ้านี้ ก็โอเคนะ ที่โรงงานเค้าวิ่งรถส่ง "เนื้อปู" จากสุราษฐ์ มา มหาชัย ตีว่า 900 โล อ่ะ... เรื่อยๆไม่ได้ เนื้อปูจะเสียรสชาติ + บูด กดมา 150-160 ตลอด (เคยไล่ตูดรถเปล่ากลับไปทางหัวหิน...พวกนี้"ท้า-นรก"ครับ) ที่ 150-160 ดีแม็กซ์ ก็ 9-10 โลลิตร ก็ 100 ลิตร (100 x 38.00 = 3,800 x 2 เที่ยว) ก็ 7,600.- ส่ง 6 วัน x 4 อาทิตย์ = 182,400.-/เดือน ตีว่า ค้าขายคนกันเอง กำไร 5% พอ 1เที่ยวส่ง 1500 กก. ขายกัน โล ละ 700.- (เนื้อกรรเชียง) 1เที่ยว กำไร 1500 kg x 700.- x 5% = 52,500 ไม่ได้โม้นะ (เจ้านี้ชื่อ-แพวิยะ) = 52,500 x ส่ง 6 วัน x 4 อาทิตย์ = 1,260,000.-/เดือน แค่กำไรนะ!!! เอาเป็นว่า ต่อเดือน ค่าน้ำมัน = 182,400.-/เดือน ค่าคนขับ = 30,000.-/เดือน 2 คนเลยเอ้า 60,000.- รวม = 242,400.-/เดือน เอาทุนเนี่ยะ ไปลบ กำไร 1,260,000 - 242,400 ใช่ครับ แค่บริษัทผม เค้ากำไร เดือนละ ล้าน!!! ทีนี้ถ้าเป็นแก๊ส อ่ะ น้ำมันเจ้าเก่า ก็ 100 ลิตร (100 x 38.00 = 3,800 x 2 เที่ยว) ก็ 7,600.- ส่ง 6 วัน x 4 อาทิตย์ = 182,400.-/เดือน แก็ส...ก๊ ก็ 100 ลิตร (100 x 15.00 = 1,500 x 2 เที่ยว ไป-กลับ) ก็ 3,000.- ส่ง 6 วัน x 4 อาทิตย์ = 72,000.-/เดือน กำไรมากขึ้นกว่าการใช้น้ำมันเดือนละ = 182,400.-/เดือน ลบด้วย 72,000 = 110,400.- ป้ายแดง ก๊แดง เถอะครับ คุ้มจริงๆ "แต่ผมก็เชื่อนะว่า ส่วนมาก ไม่น่าคุ้มกับที่ลงทุนไป กับการ ยกเครื่อง คอมม่อนเรล ที่แสนประหยัดทิ้งไป ใส่เครื่องที่ มีเทคโนโลยี่เมื่อ 15 ปีที่แล้ว" กูรู เจ้าของโรงงานมาเอง เเจ่มจริงๆๆตาเต๋า เหมือนที่บ้านนครปฐมผมคับ ขนปลาไปขาย ISUSU ตัวใหม่เลย ดีแม็กซ์ ไฮเเลนเดอร์ วาง J กินเเก๊ส ส่งปลาทุกวัน เมื่อก่อน รายได้ต้องหักค่าน้ำมันเเบบเหลือบ้าง ตอนนี้สบายไปเเล้ว หัวข้อ: Re: Mitsubishi Lancer - CK2 & Toyota 1.8 7A FE เริ่มหัวข้อโดย: TAOTAO-TZ#056- ที่ 14 สิงหาคม 2008 09:40:05 ด้วยคนนะ.... กรณีอื่นไม่รู้ แต่กรณีคู่ค้าของโรงงานผมเจ้านี้ ก็โอเคนะ ที่โรงงานเค้าวิ่งรถส่ง "เนื้อปู" จากสุราษฐ์ มา มหาชัย ตีว่า 900 โล อ่ะ... เรื่อยๆไม่ได้ เนื้อปูจะเสียรสชาติ + บูด กดมา 150-160 ตลอด (เคยไล่ตูดรถเปล่ากลับไปทางหัวหิน...พวกนี้"ท้า-นรก"ครับ) ที่ 150-160 ดีแม็กซ์ ก็ 9-10 โลลิตร ก็ 100 ลิตร (100 x 38.00 = 3,800 x 2 เที่ยว) ก็ 7,600.- ส่ง 6 วัน x 4 อาทิตย์ = 182,400.-/เดือน ตีว่า ค้าขายคนกันเอง กำไร 5% พอ 1เที่ยวส่ง 1500 กก. ขายกัน โล ละ 700.- (เนื้อกรรเชียง) 1เที่ยว กำไร 1500 kg x 700.- x 5% = 52,500 ไม่ได้โม้นะ (เจ้านี้ชื่อ-แพวิยะ) = 52,500 x ส่ง 6 วัน x 4 อาทิตย์ = 1,260,000.-/เดือน แค่กำไรนะ!!! เอาเป็นว่า ต่อเดือน ค่าน้ำมัน = 182,400.-/เดือน ค่าคนขับ = 30,000.-/เดือน 2 คนเลยเอ้า 60,000.- รวม = 242,400.-/เดือน เอาทุนเนี่ยะ ไปลบ กำไร 1,260,000 - 242,400 ใช่ครับ แค่บริษัทผม เค้ากำไร เดือนละ ล้าน!!! ทีนี้ถ้าเป็นแก๊ส อ่ะ น้ำมันเจ้าเก่า ก็ 100 ลิตร (100 x 38.00 = 3,800 x 2 เที่ยว) ก็ 7,600.- ส่ง 6 วัน x 4 อาทิตย์ = 182,400.-/เดือน แก็ส...ก๊ ก็ 100 ลิตร (100 x 15.00 = 1,500 x 2 เที่ยว ไป-กลับ) ก็ 3,000.- ส่ง 6 วัน x 4 อาทิตย์ = 72,000.-/เดือน กำไรมากขึ้นกว่าการใช้น้ำมันเดือนละ = 182,400.-/เดือน ลบด้วย 72,000 = 110,400.- ป้ายแดง ก๊แดง เถอะครับ คุ้มจริงๆ "แต่ผมก็เชื่อนะว่า ส่วนมาก ไม่น่าคุ้มกับที่ลงทุนไป กับการ ยกเครื่อง คอมม่อนเรล ที่แสนประหยัดทิ้งไป ใส่เครื่องที่ มีเทคโนโลยี่เมื่อ 15 ปีที่แล้ว" กูรู เจ้าของโรงงานมาเอง เเจ่มจริงๆๆตาเต๋า เหมือนที่บ้านนครปฐมผมคับ ขนปลาไปขาย ISUSU ตัวใหม่เลย ดีแม็กซ์ ไฮเเลนเดอร์ วาง J กินเเก๊ส ส่งปลาทุกวัน เมื่อก่อน รายได้ต้องหักค่าน้ำมันเเบบเหลือบ้าง ตอนนี้สบายไปเเล้ว หัวข้อ: Re: Mitsubishi Lancer - CK2 & Toyota 1.8 7A FE เริ่มหัวข้อโดย: tunatae ที่ 14 สิงหาคม 2008 09:53:47 ด้วยคนนะ.... กรณีอื่นไม่รู้ แต่กรณีคู่ค้าของโรงงานผมเจ้านี้ ก็โอเคนะ ที่โรงงานเค้าวิ่งรถส่ง "เนื้อปู" จากสุราษฐ์ มา มหาชัย ตีว่า 900 โล อ่ะ... เรื่อยๆไม่ได้ เนื้อปูจะเสียรสชาติ + บูด กดมา 150-160 ตลอด (เคยไล่ตูดรถเปล่ากลับไปทางหัวหิน...พวกนี้"ท้า-นรก"ครับ) ที่ 150-160 ดีแม็กซ์ ก็ 9-10 โลลิตร ก็ 100 ลิตร (100 x 38.00 = 3,800 x 2 เที่ยว) ก็ 7,600.- ส่ง 6 วัน x 4 อาทิตย์ = 182,400.-/เดือน ตีว่า ค้าขายคนกันเอง กำไร 5% พอ 1เที่ยวส่ง 1500 กก. ขายกัน โล ละ 700.- (เนื้อกรรเชียง) 1เที่ยว กำไร 1500 kg x 700.- x 5% = 52,500 ไม่ได้โม้นะ (เจ้านี้ชื่อ-แพวิยะ) = 52,500 x ส่ง 6 วัน x 4 อาทิตย์ = 1,260,000.-/เดือน แค่กำไรนะ!!! เอาเป็นว่า ต่อเดือน ค่าน้ำมัน = 182,400.-/เดือน ค่าคนขับ = 30,000.-/เดือน 2 คนเลยเอ้า 60,000.- รวม = 242,400.-/เดือน เอาทุนเนี่ยะ ไปลบ กำไร 1,260,000 - 242,400 ใช่ครับ แค่บริษัทผม เค้ากำไร เดือนละ ล้าน!!! ทีนี้ถ้าเป็นแก๊ส อ่ะ น้ำมันเจ้าเก่า ก็ 100 ลิตร (100 x 38.00 = 3,800 x 2 เที่ยว) ก็ 7,600.- ส่ง 6 วัน x 4 อาทิตย์ = 182,400.-/เดือน แก็ส...ก๊ ก็ 100 ลิตร (100 x 15.00 = 1,500 x 2 เที่ยว ไป-กลับ) ก็ 3,000.- ส่ง 6 วัน x 4 อาทิตย์ = 72,000.-/เดือน กำไรมากขึ้นกว่าการใช้น้ำมันเดือนละ = 182,400.-/เดือน ลบด้วย 72,000 = 110,400.- ป้ายแดง ก๊แดง เถอะครับ คุ้มจริงๆ "แต่ผมก็เชื่อนะว่า ส่วนมาก ไม่น่าคุ้มกับที่ลงทุนไป กับการ ยกเครื่อง คอมม่อนเรล ที่แสนประหยัดทิ้งไป ใส่เครื่องที่ มีเทคโนโลยี่เมื่อ 15 ปีที่แล้ว" กูรู เจ้าของโรงงานมาเอง เเจ่มจริงๆๆตาเต๋า เหมือนที่บ้านนครปฐมผมคับ ขนปลาไปขาย ISUSU ตัวใหม่เลย ดีแม็กซ์ ไฮเเลนเดอร์ วาง J กินเเก๊ส ส่งปลาทุกวัน เมื่อก่อน รายได้ต้องหักค่าน้ำมันเเบบเหลือบ้าง ตอนนี้สบายไปเเล้ว หัวข้อ: Re: Mitsubishi Lancer - CK2 & Toyota 1.8 7A FE เริ่มหัวข้อโดย: Oo_PonGZa~TZ#004_oO ที่ 14 สิงหาคม 2008 10:08:44 เอาอะไหล่ ตรู ไปหมด ...
หัวข้อ: Re: Mitsubishi Lancer - CK2 & Toyota 1.8 7A FE เริ่มหัวข้อโดย: TAOTAO-TZ#056- ที่ 14 สิงหาคม 2008 10:18:14 เอาอะไหล่ ตรู ไปหมด ... วางเจด้วยเหรอ เราหน่ะหัวข้อ: Re: Mitsubishi Lancer - CK2 & Toyota 1.8 7A FE เริ่มหัวข้อโดย: เฉื้อง...คุ...มิ... ที่ 14 สิงหาคม 2008 19:20:41 อิอิ
หัวข้อ: Re: Mitsubishi Lancer - CK2 & Toyota 1.8 7A FE เริ่มหัวข้อโดย: yuky ที่ 15 สิงหาคม 2008 10:53:31 ต่างมุมมองกันไปคับ ถ้าทำมาใช้ส่วนตัว อันนี้ผมว่าไม่คุ้ม ใช้น้อย เสียดายรถคับ
แต่ถ้าไครเป็นเซลล์,วินรถตู้,ขนส่ง,วิ่งงานต่างจังหวัด,อยากแรง,เครื่องพัง,ฯลฯ อันนี้โอเคคับผมว่าคุ้ม :emotq ที่ผมเลือกAEก็เพราะจะเอามาติดแก็สนี้แหละคับ จบๆชัวร์ๆคับ แถมแต่งสวย อะไหล่ถูกอีกต่างหาก...อิอิ หัวข้อ: Re: Mitsubishi Lancer - CK2 & Toyota 1.8 7A FE เริ่มหัวข้อโดย: TAOTAO-TZ#056- ที่ 15 สิงหาคม 2008 11:26:27 :emo2 :emo2 :emo2
:emo2 :emoth :emo2 :emo2 :emo2 :emo2 หัวข้อ: Re: Mitsubishi Lancer - CK2 & Toyota 1.8 7A FE เริ่มหัวข้อโดย: BacKiOh ที่ 17 สิงหาคม 2008 18:49:32 ใจรักสุดๆ
|