หัวข้อ: ข้อควรปฏิบัติเมื่อซื้อเครื่องเชียงกงมา เริ่มหัวข้อโดย: A'_Chai ที่ 21 สิงหาคม 2007 11:58:57 เทคนิคการปฏิบัติ หลังซื้อเครื่องยนต์มือสอง
เทคนิคการปฏิบัติ หลังซื้อเครื่องยนต์จากเชียงกง เป็นเทคนิคจำเป็นที่จะต้องนำไปปฏิบัติเพื่อให้ได้เครื่องยนต์ที่สมบูรณ์ที่สุดต้องมีการปรับแต่งหรือปรับปรุง ไม่ใช่การซ่อมแซม เพื่อให้เครื่องยนต์ที่เลือกซื้อมามีประสิทธิภาพสูง และมีอายุการใช้งานยาวนานที่สุด เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เป็นสิ่งแรกที่จำเป็นต้องปฏิบัติ เพราะไม่ทราบถึงอายุการใช้งานของน้ำมันเครื่องก่อนที่เครื่องยนต์จะถูกส่งมา และไม่ทราบว่าเครื่องยนต์ตัวนั้นถูกวางกองไว้กี่วัน กี่เดือนแล้ว โดยเฉพาะในต่างประเทศที่มีค่าครองชีพสูง อัตราค่าใช้จ่ายการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องแต่ละครั้งจะแพงมาก คนทั่วไปใช้น้ำมันเครื่องกันในระยะทางนับหมื่นกิโลเมตร เมื่อเครื่องยนต์ตกมาเป็นกรรมสิทธิ์ของเราแล้ว จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องคุณภาพดี (ไม่ต้องใส่หัวเชื้อ) ก่อนนำไปใช้งานทุกครั้ง เปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่อง ปฏิบัติพร้อมไปกับการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ควรใช้ไส้กรองของแท้ และเปลี่ยนครั้งเว้นครั้งในการถ่ายน้ำมันเครื่อง (กรณีใช้น้ำมันเครื่องแบบเดิมตลอด) เปลี่ยนสายพานไดชาร์จสายพานแอร์ เมื่อไม่ทราบถึงอายุการใช้งานที่ผ่านมา จึงไม่อาจคาดเดาอายุการใช้งานที่เหลืออยู่ได้ ราคาสายพานเส้นละ 100-200 บาท คุ้มค่ากับการใช้งานอย่างมั่นใจ อย่าใช้สายตา วิเคราะห์อายุการใช้งานของสายพานเส้นเก่า โดยเฉพาะสายพานแบบร่องวีในเครื่องยนต์รุ่นใหม่ ๆ ที่หาซื้อยาก ถ้าไปขาดกลางทางจะลำบาก ถ้าสายพานเก่าสภาพยังดีอยู่ เมื่อเปลี่ยนแล้ว ให้เก็บไว้เป็นอะไหล่ท้ายรถ เปลี่ยนสายพานขับแคมชาฟท์ (สายพานไทม์มิง) เพราะไม่ทราบถึงอายุการใช้งานที่ผ่านมา ตามปกติ สายพานไทม์มิงจะมีอายุการใช้งานประมาณ 50,000-100,000 กม. ถ้าคิดจะประหยัดในส่วนนี้ อาจจะต้องทิ้งทั้งบล็อก เพราะเมื่อสายพานไทม์มิงขาด วาล์วจะชนกับลูกสูบจนเสียหาย การเลือกเปลี่ยนสายพานของแท้แม้จะแพง แต่อายุการใช้งานกว่า 50,000 กม. นั้นคุ้มค่าและมั่นใจได้มากกว่า อาจจะต้องเปลี่ยนลูกรอกด้วย เปลี่ยนหัวเทียน จำเป็นต้องเปลี่ยนเพื่อสมรรถนะของเครื่องยนต์ ถ้าเป็นเครื่องยนต์ที่ใช้หัวเทียนขนาดธรรมดา ควรใช้หัวเทียนแพลททินัม ND W20 EX-ZU หัวละ 80-100 บาท แม้จะแพง แต่ประสิทธิภาพสูง และทนทานหลายหมื่นกม. ถ้าเครื่องยนต์ใช้หัวเทียนบล็อกเล็ก (ส่วนมากพวกทวินแคม 16 วาล์ว) เลือกใช้แบบธรรมดาก็ราคาหัวละ 70-90 บาทเข้าไปแล้ว ถ้าเป็นแพลททินัมจะแพงประมาณเกือบสอง ร้อยบาทขึ้นไป ถ้าสู้ค่าใช้จ่ายไหวจะเลือกใช้ก็ดี เพราะทนทานและประสิทธิภาพสูง เปลี่ยนเทอร์โมสตัท ที่เรียกกันว่า ?วาล์วน้ำ? จำเป็นต้องใช้ ห้ามถอดออก เพื่อให้เครื่องยนต์ปรับตัวให้ร้อนได้รวดเร็ว เพราะเครื่องยนต์ที่อุณหภูมิต่ำเกินไปจะมีสมรรถนะต่ำและการสึกหรอสูง และอย่าเข้าใจผิดว่าเทอร์โมทตัททำให้เครื่องร้อน เพราะเมื่อถึงอุณหภูมิที่ควบคุมหรือกำหนดไว้ เทอร์โมสตัท ก็จะเปิดให้น้ำผ่านได้ เปรียบเสมือนไม่มีเทอร์โมสตัท เทอร์โมสตัทจะปิดการไหลเวียนของน้ำก็ต่อเมื่ออุณหภูมิต่ำเกินไปเท่านั้น เทอร์โมสตัทจะทำให้เครื่องยนต์โอเวอร์ฮีท (ร้อนจัด) ก็ต่อเมื่อ ?เสีย? คือ เมื่อถึงอุณหภูมิที่กำหนด เทอร์โมสตัทก็ไม่ยอมเปิด ทำให้น้ำในระบบระบายความร้อนไม่มีการไหล เวียน ในเมื่อเราไม่ทราบว่าเทอร์โมสตัทของเดิมเสียหรือไม่ (นอกจากนำไปต้มและใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิน้ำ ซึ่งเสียเวลา) จึงต้องเปลี่ยนตัวใหม่ จำเป็นต้องซื้อเทอร์โมสตัท ที่มีการควบคุมการเปิด-ปิดที่อุณหภูมิเดียวกัน โดยอ่านดูจากตัวเลขที่มีการปั๊มไว้ เปลี่ยนไส้กรองเบนซิน ถ้าเป็นเครื่องยนต์ธรรมดาก็แค่ไม่กี่สิบบาท ถ้าเป็นเครื่องหัวฉีดก็ 400-800 บาท เน้นว่าจำเป็นต้องเปลี่ยน เปลี่ยนผ้าคลัตช์ ถึงแม้ผ้าคลัตช์เดิมจะมีสภาพดีก็ต้องเปลี่ยน จะได้ไม่ต้องเสียค่ายกเกียร์-เปลี่ยนคลัตช์ไปอีกนาน โดยเลือกเปลี่ยนผ้าคลัตช์แพงเท่าที่กระเป๋าจะทนได้ใช้ของแท้จะดีที่สุด ถ้างบประมาณไม่พอให้นำแผ่นคลัตช์เก่าไปย้ำ (ค่าใช้จ่าย 200-400 บาท) พอใช้ได้ แต่สู้ของแท้ไม่ได้ หวีคลัตช์ ถ้ามีร่องรอยสึกหรอ หน้าสัมผัสไม่เรียบ ต้องเปลี่ยน หรือนำไปเจียรที่โรงกลึง ฟลายวีล ถ้ามีร่องรอยสึกหรอ หน้าสัมผัสไม่เรียบ ต้องส่งไปเจียรที่โรงกลึง เปลี่ยนลูกปืนคลัตช์ ไหน ๆ ยกเครื่องออกมาแล้ว ถือโอกาสเปลี่ยนลูกปืนคลัตช์เลย สำหรับรถญี่ปุ่นก็ 150-300 บาท เท่านั้น รถยุโรปก็ไม่ค่อยเกิน 500 บาท ท่อหรือสายน้ำมันเชื้อเพลิง เพิ่มความมั่นใจที่จะไม่รั่วซึมอันเป็นต้นเหตุของเพลิงไหม้ อย่าเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย เปลี่ยนไส้กรองอากาศ แท้หรือเทียมแล้วแต่กระเป๋าจะทนได้ แต่จำเป็นต้องเปลี่ยน เปลี่ยนทองขาวและคอนเดนเซอร์ จำเป็นต้องเปลี่ยน ค่าใช้จ่าย 100-200 บาทเท่านั้น ฝาจานจ่ายและหัวนกกระจอก ถ้าจะไม่เปลี่ยนก็ต้องนำมาขูดตะกรันที่เป็นฉนวนไฟฟ้า เปลี่ยนซีลข้อเหวี่ยงด้านหน้าและด้านท้าย จะได้ไม่ต้องเสียเวลาและค่าแรง 2 ต่อ เพราะการเปลี่ยนซีลหลังข้อเหวี่ยง จะต้องเปลี่ยนหลังจากยกเกียร์ ยกคลัตช์ หรือถอดฟลายวีลเท่านั้น เปลี่ยนยางแท่นเครื่องและยางแท่นเกียร์ ค่าใช้จ่ายไม่สูง แต่ใช้งานได้นาน เปลี่ยนสายหัวเทียน ป้องกันปัญหาการ ?ขาดใน? จนเครื่องยนต์ทำงานไม่สมบูรณ์ ค่าใช้จ่าย 200-500 บาทเท่านั้น เปลี่ยนปะเก็นฝาวาล์ว เนื่องจากต้องตั้งวาล์วก่อนที่จะนำไปใช้งาน ควรเปลี่ยนปะเก็นฝาวาล์วไปพร้อมกันเลย เพราะราคาไม่แพง ไขน๊อตยึดฝาสูบใหม่ทุกตัว ข้อควรระวังตรงจุดนี้ก็คือ ต้องไขให้ได้ตามสเปคของเครื่องยนต์รุ่นนั้นๆ ปัองกันปัญหาน๊อตยึด เปลี่ยนหรือไล่ไขเข็มขัดรัดท่อ-เปลี่ยนท่อยางหม้อน้ำ ทั้งด้านบนและด้านล่าง เปลี่ยนบู๊ชคันเกียร์ ถ้าซื้อเครื่องยนต์มาพร้อมเกียร์ ก็จำเป็นต้องเปลี่ยน เพราะราคาไม่แพง เปลี่ยนซีลเพลากลาง ถ้าเครื่องยนต์ซื้อมาพร้อมเกียร์ ก็จำเป็นต้องเปลี่ยน เปลี่ยนสวิตช์วัดแรงดันน้ำมันเครื่อง ตัวละไม่เกิน 100 บาท เปลี่ยนเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิน้ำหล่อเย็น ต้องเปลี่ยนให้ตรงรุ่นของเครื่องยนต์ เพื่อการวัดที่แม่นยำ กรณีเปลี่ยนเครื่องข้ามรุ่นหรือข้ามตระกูล ควรหาทางติดตั้งเซ็นเซอร์ดีกว่าตัวเก่า (ของเครื่องตัวเก่า) กับเครื่องตัวใหม่ เพื่อไม่ให้ค่าที่แสดงบนหน้าปัดผิดพลาด เปลี่ยนประเก็นท่อไอเสีย ค่าใช้จ่ายไม่น่าเกิน 100-200 บาท ลูกรอกสายพานแอร์ ถ้างบประมาณเหลือและใช้ระบบลูกรอกตั้งความตึงของสายพาน ควรเปลี่ยนเพื่อความมั่นใจ ถ้าลองหมุนดูแล้วยังดีอยู่ อาจไม่ต้องเปลี่ยน เช็คปั๊มฟรีใบพัดลมหม้อน้ำ(ถ้ามี) ถ้าความหนืดน้อยกว่าปกติ ต้องอัดซิลิโคน 1-3 หลอดหรือเปลี่ยนใหม่ (ใช้แล้ว) ค่าใช้จ่าย 300-600 บาท ใบพัดลม ถ้าแตกหักหรือบิดเบี้ยว ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ในขั้นตอนการขนส่ง ที่แออัดไปด้วยอะไหล่เต็มตู้คอนเทรนเนอร์ ตรวจเช็คดูถ้าแตกหักหรือบิดเบี้ยว ไม่ได้ศูนย์ก็ต้องเปลี่ยน ***ขอบคุณแหล่งข้อมูลที่ www.9yakyai.com *** หัวข้อ: Re: ข้อควรปฏิบัติเมื่อซื้อเครื่องเชียงกงมา เริ่มหัวข้อโดย: Kritsadathitiset ที่ 21 สิงหาคม 2007 15:04:36 :emo2 :emo2 :emo2 หัวข้อ: Re: ข้อควรปฏิบัติเมื่อซื้อเครื่องเชียงกงมา เริ่มหัวข้อโดย: salapow ที่ 24 สิงหาคม 2007 18:56:17 :emo2 ขออนุญาติ เพิ่มเติมเป็นข้อคิดอีกนิดดด...หนึ่ง :emo2
:emojหากเรายังไม่แน่ใจว่า เครื่องที่ซื้อมามีปัญหาหรือไม่ หรือยังไม่หมดประกันจากร้าน :emo8 :emocผมคิดว่า ควรตรวจสายพานไทม์มิ่ง ว่าสภาพดีหรือไม่ ถ้ายังดีอยู่ควรถ่ายของเหลว หรือส่วนประกอบบางชิ้นที่หมดสภาพ แล้วลองใช้งานดู จนหมดประกันจากทางร้าน แล้วจึงเปลี่ยนไปตามหลักการ ดังกล่าวข้างต้น :emob :emo5เพราะหาก เราเปลี่ยนทั้งหมดไปแล้ว เครื่องเกิดมีปัญหา มันจะไม่คุ้มค่าของที่ลงทุนไป ต้องเสียเวลาถอดออกมาใหม่:emo6 :emopปล.อันนี้เป็นความคิดของผมที่สรุป และฟังจากช่างบางคน ที่พูดให้ฟังแล้วมีเหตุผลน่าคิด หรือพวกเราคิดอย่างไร บ้างครับ :emoa :emo2แต่+ไปก่อน สำหรับผู้ให้ความรู้ :emo2 หัวข้อ: Re: ข้อควรปฏิบัติเมื่อซื้อเครื่องเชียงกงมา เริ่มหัวข้อโดย: maximus ที่ 25 สิงหาคม 2007 08:24:39 ถึงทุกอย่างจะเปลี่ยนไป แต่ใจชั้นก้ไม่เปลี่ยนแปลง :emoq
หัวข้อ: Re: ข้อควรปฏิบัติเมื่อซื้อเครื่องเชียงกงมา เริ่มหัวข้อโดย: O(><)BRABIE(><)O ที่ 28 พฤศจิกายน 2007 12:46:32 :emott แว๊บมาดัน อิอิ :emott
หัวข้อ: Re: ข้อควรปฏิบัติเมื่อซื้อเครื่องเชียงกงมา เริ่มหัวข้อโดย: O(><)BRABIE(><)O ที่ 28 พฤศจิกายน 2007 12:51:19 :emott แว๊บมาดัน อิอิ :emott
หัวข้อ: Re: ข้อควรปฏิบัติเมื่อซื้อเครื่องเชียงกงมา เริ่มหัวข้อโดย: wirot29 ที่ 28 พฤศจิกายน 2007 19:55:20 ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ข้อควรปฏิบัติเมื่อซื้อเครื่องเชียงกงมา เริ่มหัวข้อโดย: SMIRF 101 ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2008 00:18:09 :emo2
หัวข้อ: Re: ข้อควรปฏิบัติเมื่อซื้อเครื่องเชียงกงมา เริ่มหัวข้อโดย: นัส@นิคมพัฒนา ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2008 12:39:50 ความรู้ล้วนๆ
หัวข้อ: Re: ข้อควรปฏิบัติเมื่อซื้อเครื่องเชียงกงมา เริ่มหัวข้อโดย: Skyline R92 ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2008 16:17:29 :emox
หัวข้อ: Re: ข้อควรปฏิบัติเมื่อซื้อเครื่องเชียงกงมา เริ่มหัวข้อโดย: bfv_07 ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2008 22:38:33 :emom
หัวข้อ: Re: ข้อควรปฏิบัติเมื่อซื้อเครื่องเชียงกงมา เริ่มหัวข้อโดย: E20VTU ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2008 08:49:42 ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ข้อควรปฏิบัติเมื่อซื้อเครื่องเชียงกงมา เริ่มหัวข้อโดย: jedee ที่ 11 กันยายน 2008 15:55:43 :emo2
หัวข้อ: Re: ข้อควรปฏิบัติเมื่อซื้อเครื่องเชียงกงมา เริ่มหัวข้อโดย: Art. ที่ 17 กันยายน 2008 19:10:18 :emotc
หัวข้อ: Re: ข้อควรปฏิบัติเมื่อซื้อเครื่องเชียงกงมา เริ่มหัวข้อโดย: golfhaaroo ที่ 18 กันยายน 2008 00:16:41 ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ข้อควรปฏิบัติเมื่อซื้อเครื่องเชียงกงมา เริ่มหัวข้อโดย: NosDriVe ที่ 18 กันยายน 2008 06:22:46 :emotk :emotk
หัวข้อ: Re: ข้อควรปฏิบัติเมื่อซื้อเครื่องเชียงกงมา เริ่มหัวข้อโดย: AE80 ที่ 02 ตุลาคม 2008 20:51:36 เป็นคำแนะนำที่ดีครับ
หัวข้อ: Re: ข้อควรปฏิบัติเมื่อซื้อเครื่องเชียงกงมา เริ่มหัวข้อโดย: BUMP ที่ 09 ตุลาคม 2008 03:52:35 แต่ละอย่างที่เปลี่ยนไม่กี่ร้อย
แต่รวมกันแล้วหลายพันเลยคับบบ อิอิ ผมเหนแล้ว มือก่ายหน้าผากกกกกก5555555 หัวข้อ: Re: ข้อควรปฏิบัติเมื่อซื้อเครื่องเชียงกงมา เริ่มหัวข้อโดย: น้องหนูบลอนด์_TPZ#06 ที่ 29 ตุลาคม 2008 20:24:43 คิดไปก่อนแล้วค่อยเปลี่ยนเครื่อง
หัวข้อ: Re: ข้อควรปฏิบัติเมื่อซื้อเครื่องเชียงกงมา เริ่มหัวข้อโดย: top Ae 101 4e-fe ที่ 02 พฤศจิกายน 2008 16:09:43 up up up
หัวข้อ: Re: ข้อควรปฏิบัติเมื่อซื้อเครื่องเชียงกงมา เริ่มหัวข้อโดย: top Ae 101 4e-fe ที่ 02 พฤศจิกายน 2008 16:10:09 up up
หัวข้อ: Re: ข้อควรปฏิบัติเมื่อซื้อเครื่องเชียงกงมา เริ่มหัวข้อโดย: top Ae 101 4e-fe ที่ 02 พฤศจิกายน 2008 16:10:21 up
หัวข้อ: Re: ข้อควรปฏิบัติเมื่อซื้อเครื่องเชียงกงมา เริ่มหัวข้อโดย: m&m autofriends. Kz ที่ 19 พฤศจิกายน 2008 09:25:04 :emo2
หัวข้อ: Re: ข้อควรปฏิบัติเมื่อซื้อเครื่องเชียงกงมา เริ่มหัวข้อโดย: O(><)BRABIE(><)O ที่ 19 พฤศจิกายน 2008 12:35:31 ขอบคุณค๊าบบบ
หัวข้อ: Re: ข้อควรปฏิบัติเมื่อซื้อเครื่องเชียงกงมา เริ่มหัวข้อโดย: Akk ที่ 25 พฤศจิกายน 2008 21:02:00 :emotn :emotn
หัวข้อ: Re: ข้อควรปฏิบัติเมื่อซื้อเครื่องเชียงกงมา เริ่มหัวข้อโดย: JOEY-AE101 ที่ 01 ธันวาคม 2008 09:20:23 ได้ความรู้มากมายเลยครับ
หัวข้อ: Re: ข้อควรปฏิบัติเมื่อซื้อเครื่องเชียงกงมา เริ่มหัวข้อโดย: AE 115 ที่ 20 ธันวาคม 2008 14:50:42 ความรู้ครับ
หัวข้อ: Re: ข้อควรปฏิบัติเมื่อซื้อเครื่องเชียงกงมา เริ่มหัวข้อโดย: aon1120 ที่ 26 ธันวาคม 2008 16:37:02 ดีมากๆ thanks
หัวข้อ: Re: ข้อควรปฏิบัติเมื่อซื้อเครื่องเชียงกงมา เริ่มหัวข้อโดย: AE 115 ที่ 27 ธันวาคม 2008 15:57:45 :emotk
หัวข้อ: Re: ข้อควรปฏิบัติเมื่อซื้อเครื่องเชียงกงมา เริ่มหัวข้อโดย: 9QC ที่ 08 มกราคม 2009 12:47:28 ข้อปฏิบัติอย่างแรก ทามจาย
หัวข้อ: Re: ข้อควรปฏิบัติเมื่อซื้อเครื่องเชียงกงมา เริ่มหัวข้อโดย: ninja_soy40 ที่ 02 มีนาคม 2009 15:35:26 7A เลือกอย่างไร
|