หัวข้อ: สอบถามเรื่องเครื่องเสียง เริ่มหัวข้อโดย: Rock_TZ058@AE.110 ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2009 01:14:45 พี่ ๆ ท่านไหนเคยเป็นบ้างรึเปล่าคับ เวลา เปิดเครื่องเสียงพร้อม กับ สตาร์ต รถ แล้วมีเสียง "วีส" เวลาเร่งเครื่อง
ต่อ "กันกวน" แล้วก็ยังไม่หาย มีวีธี แก้ ตรงไหนอีกรึเปล่าคับ ผมต่อเข้าปลั๊กเดิม หรือว่าเดินสายขั่ว + กับ - ใหม่ ดีเอ่ย ของผม ต่อแค่ เครื่องเล่นกับ พาวเวอร์ ไม่มีปรีกับ ซับคับผม (ปล.ต่อกาวาย5อยู่แล้ว เกี่ยวอะเปล่าหว่า) :emoty :emoty :emoty คนหากูรู หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องเครื่องเสียง เริ่มหัวข้อโดย: Aotdy ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2009 07:16:48 รอผู้รู้ครับ
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องเครื่องเสียง เริ่มหัวข้อโดย: thoss ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2009 08:27:41 ที่เจอบ่อยๆนะครับ คือ สายสัญญาณ กับสายแบตเตอรี่ที่ต่อไปยังเพาเวอร์แอมน่ะ ไม่ควรเดินคู่กัน หรือว่าแตะกันครับ ควรจับแยกออกจากกัน ให้ห่างๆกันยิ่งดีครับ ลองเช็คดูครับ
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องเครื่องเสียง เริ่มหัวข้อโดย: wittayass@RYZ ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2009 08:39:20 ใช้ front ของอะไรครับ ถ้าใช้ front ของ pioneer จะมีปัญหาเรื่องหวีดครับ
ของยี่ห้ออื่นไม่แน่ใจเหมือนกัน ลองวิธีขอมผมดูครับ ของผมช่างแนะนำให้ลอง ใช้วิธีนี้ ได้ผลครับไม่มีเสียงวี๊ดมากวนใจ ลองดูครับ หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องเครื่องเสียง เริ่มหัวข้อโดย: โน่ SRC ™ ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2009 09:54:23 ใช้ front ของอะไรครับ ถ้าใช้ front ของ pioneer จะมีปัญหาเรื่องหวีดครับ ของยี่ห้ออื่นไม่แน่ใจเหมือนกัน ลองวิธีขอมผมดูครับ ของผมช่างแนะนำให้ลอง ใช้วิธีนี้ ได้ผลครับไม่มีเสียงวี๊ดมากวนใจ ลองดูครับ :emo2 หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องเครื่องเสียง เริ่มหัวข้อโดย: Rock_TZ058@AE.110 ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2009 15:08:37 ขอบคุณคับ แล้วจะลองนะคับ กูรู ต่อไป
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องเครื่องเสียง เริ่มหัวข้อโดย: ngageko ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2009 15:11:22 ขอบคุณคับ แล้วจะลองนะคับ กูรู ต่อไป ถ้าไม่หาย ร็อค โทรไปถามเอกดูก็ได้ นะ แต่ระวังอย่างอื่นหายแทน 55555555 หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องเครื่องเสียง เริ่มหัวข้อโดย: Hunter_JIK.CZ48 ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2009 15:16:40 ถ้าไล่หมดแล้วไม่หาย ถอดแอมออกครับ แล้วลองดูว่าเงียบไหม
ผมไล่ทั้งคัน ทั้งปลักทั้งสายทั้งกราว ทุกอย่างไม่หาย ปรากฏว่าแอมพัง วีดมาเป้นช่วงๆ เวลาตกหลุมนี้ยิ่งดัง หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องเครื่องเสียง เริ่มหัวข้อโดย: Rock_TZ058@AE.110 ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2009 15:17:19 ว่างั้นไป วันนี้ค่อย ถามตอนเข้าปั๊ม ดีก่า ถ้าได้เจอ คงขออะไหล่ ด้วยดีป่ะเอ่ย
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องเครื่องเสียง เริ่มหัวข้อโดย: Rock_TZ058@AE.110 ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2009 15:17:53 ถ้าไล่หมดแล้วไม่หาย ถอดแอมออกครับ แล้วลองดูว่าเงียบไหม ลองดูแล้วคับถ้าถอดแอมออก ก็ดัง(แต่เบากว่าเดิม)พอใส่แอมไป แล้วตามด้วยกันกวน ก็ไม่ดัง มากคับ (แต่ก็ดังกลาง ๆ)ผมไล่ทั้งคัน ทั้งปลักทั้งสายทั้งกราว ทุกอย่างไม่หาย ปรากฏว่าแอมพัง วีดมาเป้นช่วงๆ เวลาตกหลุมนี้ยิ่งดัง ไม่รู้ว่าแอมจะเสียด้วยรึเปล่า หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องเครื่องเสียง เริ่มหัวข้อโดย: Hunter_JIK.CZ48 ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2009 15:26:02 แอมกราวลงแน่นไหมครับ
วีดเฉพาะคู่หลังหรือคู่หน้าหรือเปล่าครับ แบบว่าบางทีสายลำโพงลากยาวไปข้างหลัง ก็มีปัญหาได้ หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องเครื่องเสียง เริ่มหัวข้อโดย: Rock_TZ058@AE.110 ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2009 15:33:34 แอมกราวลงแน่นไหมครับ วีดเฉพาะคู่หลังหรือคู่หน้าหรือเปล่าครับ แบบว่าบางทีสายลำโพงลากยาวไปข้างหลัง ก็มีปัญหาได้ แอมลงกราว แน่น คับ แต่ หน้า จะดังกว่า เพราะ หลังนั้น ไม่มีทวิสเตอร์ มีแต่คู่หน้า คู่หลังนั่น ดังไม่มาก หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องเครื่องเสียง เริ่มหัวข้อโดย: AE 115 ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2009 18:15:05 ขอให้หายไวๆๆครับ
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องเครื่องเสียง เริ่มหัวข้อโดย: Oat..20valve&G5 ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2009 18:41:34 ผมก็เล่นเครื่องเสียงครับ แต่ไม่ได้เน้นยี่ห้อมากนัก
อาการที่คุณบอกมาง่ายมากครับ 1.front 2.ปรีแอม 3.ครอสโอเวอร์ 4.แอมป์ขยาย ไม่รู้ว่าคุณใช้อะไรบ้าง วิธีแก้ไขคือ ปรับ volume ทุกอย่างให้บาล้านกันเช่น - front ปรับเสียงไว้กลางๆสมมุตเสียงมี50เปิด20พอ -ปรีแอม ปรับเสียงไว้กลางๆ -แอมป์ขยาย ก็มีตัวปรับเสียงที่ด้านหลัง ปรับระดับกลางขึ้น ไปแต่ไม่ถึงกับสุด การที่เปิดเสียงตัวใดตัวหนึ่งมากไปจะทำให้เกิดเสียงวี๊ด เวลากดคันเร่งลองแก้ดูครับ ผมไปปรับให้ทั้งกะบะและเก๋ง มาหลายคันแล้ว ถ้าอยู่ใกล้ๆบ้านจะไปปรับให้ครับ 5นาทีก็เสร็จแล้ว :emo2 :emo2 หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องเครื่องเสียง เริ่มหัวข้อโดย: AE 115 ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2009 19:10:39 :emotk
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องเครื่องเสียง เริ่มหัวข้อโดย: JEAB_GZE ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2009 20:18:34 ที่เจอบ่อยๆนะครับ คือ สายสัญญาณ กับสายแบตเตอรี่ที่ต่อไปยังเพาเวอร์แอมน่ะ ไม่ควรเดินคู่กัน หรือว่าแตะกันครับ ควรจับแยกออกจากกัน ให้ห่างๆกันยิ่งดีครับ ลองเช็คดูครับ เคยเป็นเหมือนกัน นานมาล่ะ แก้ด้วยวิธีเนี้ยหายสนิท หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องเครื่องเสียง เริ่มหัวข้อโดย: wittayass@RYZ ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2009 02:47:19 เอามาจากผู้รู้ครับ....
นั่นคือถ้าต่อฟร้อนท์ผ่านสวิทซ์กุญแจ รถจะเกิดเสียงวี๊ดดังมากตาม รอบเครื่องแต่ถ้าต่อสายตรงจากแบตเตอรี่ ไม่เกิดเสียงรบกวนใดๆ เลย แต่ลูกค้าประสงค์จะให้ต่อสาย ผ่านสวิสซ์กุญแจรถยนต์เพราะกลัว ลืมปิดวิทยุ ?ตื่นเช้าขึ้นมา แบตเตอรี่หมดหม้อ?ปัญหาเสียงวี๊ดมันคู่กันมากับเครื่อเสียงรถยนต์เพราะผิดพลาดตั้งแต่เริ่มต้นวางระบบ กล่าวกันง่ายๆ ?ผิดพลาดกัน ตั้งแต่บรรทัดแรกๆ ของหลักสูตร การวางระบบที่ไม่ก่อให้เกิดปัญหา นั้นทำไม่ยาก แต่ต้องปฏิบัติให้ติด เป็นนิสัย พูดแบบชาวบ้าน ก็ต้องพูดพยายามทำให้ติดเป็น สันดาน...ว่างั้นเหอะ ? นั้นคืออย่าไม่ยุ่งกับระบบไฟฟ้าที่มากับรถเป็นอันขาด สายไฟฟ้าที่ต่อมา ให้กับวิทยุที่แถมมากับรถเดิมๆ นั้น ไม่ควรนำมาใช้ร่วมกับระบบ การทำงานของอุปกรณ์ที่เราจะติดตั้งเพิ่มขึ้นใหม่เพราะ สายเดิมๆ ออกแบบมาเพื่อระบบเล็กๆ ระบบเด็กๆดังนั้น การวางระบบตั้งแต่ซิงเกิ้ลแอมป์ขึ้นไปควารจะจัดระบบๆฟขั้นใหม่ทั้งระบบเริ่มตั้ง แต่สายไฟบวกตรงๆ ที่จะต่อกับสายสีเหลือง (โดยทั่วๆผจะใช้โค้ดสีเป็นสีเหลืองเป็นมาตรฐานสากล ยกเว้นสินค้าจีนแดงบางค่ายที่ไม่ยอมโก อินเตอร์) เฉพาะสายไฟตรงมาจากแบ็ตที่จะต่อกับฟร้อนท์นี้ไม่ควรใช้สายที่มีขนาดต่ำกว่า 10 มิล เกินไม่เป็นอะไร ขั้นตอนต่อไปเราต้อง มาใส่ใจกับเจ้าสายสีแดงของตัวฟร้อนท์ กรุฯอย่าไปต่อเข้ากับเส้น เอ.ซี.ซี. โดยตรงเป็นอันขาด เพราะเส้นนี้มากับชุมทางไฟของรถยนต์ ถ้าเป็น ระบบเด็กๆ ไม่เป็นอะไร แต่นี่มันเป็นระบบผู้ใหญ่จึ่งมีเรื่องปราบ เซียนเกิดขึ้น เยอะแยะ ตาแป๊ะไก๋การจะใช้ไฟฟ้าผ่านสวิทซ์กุญแจต้องใช้ ?รีเลย์? ให้รีเลย์มันจ่ายไฟฟ้าแทน หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องเครื่องเสียง เริ่มหัวข้อโดย: wittayass@RYZ ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2009 02:52:39 จากภาพประกอบเราจะเห็นชัดเจนว่าเรามิได้เอาสายผ่าน สวิสซ์กุญแจต่อเข้ากับสายเส้นสีแดงของตัววิทยุใช่มั้ย เพียงแต่เรา
ใช้สาย เอ.ซี.ซี สั่งงานให้ขา 30 ของตัวรีเลย์จ่ายไฟตรงที่มาจากแบ็ตฯ ให้จ่ายไฟ ต่อไปยัง ขา 87 ของตัวรีเลย์ ซึ่งขา 87 นี้แหละที่เราต้องนำไปต่อกับสายสีแดงของตัวฟร้อนท์ สรุปว่าความประสงค์ที่เจ้าของรถต้องการใช้วิทสซ์กุญแจก็ไม่ ผิดประสงค์ เพียงแต่เราให้รีเลย์จ่ายแทน เรียกว่าไฟมาจากแบ็ตกันจะๆ ถ้าเราต่อสายสีแดงโดยไม่ใช้รีเลย์เราจะได้ฟังเสียงวี๊ดกันจะๆ เหมือนกัน เพราะจุดนั้นแอมป์ต่ำมาก มีค่าเหนี่ยวนำด้วยอ้อ...ลืมนำเสนออีกประการ สายที่เข้าขา 30 ของตัวรีเลย์ นั้น ก็อย่าใช้สายเล็กสายน้อยของไฟรถนะ เราต้องใช้สายที่เดินมาใหม่ที่ต่อกับสายสีเหลืองของตัววิทยุนั่นแหละ ผ่านไปแล้ว 2 สาย และ 2 สี ทีนี้มาคำนึงอีกสาย คือเจ้าสายสีดำ ที่ชาวเขาชาวเรามักจะเรียกกันว่าสายดินเอาล่ะ ไม่ว่าจะ เรียกสายดิน หรือ สายกราวด์ก็แล้วแต่ ?มันคือกระแสไฟฟ้าลบ วันยังค่ำ? กระแสไฟฟ้าในรถเนี่ยะมันจะไหลมันจะไหลจากขั้วบวกไปหาขั้วลบ เสมอใช่มั้ย ฉะนั้น จุดนี้เราต้องให้ความสำคัญด้วย อย่าใช้สายกราวด์เดิมๆ ที่ต่อมากับตัววิทยุ (ซึ่งส่วนมากช่างติดตั้ง บางร้าน ชอบใช้กัน) จะด้วยเหตุผลเพราะว่าไม่ทราบ ไม่รู้นี่หว่า หรือเพราะความขี้เกียจอะไรก็แล้วแต่ขอเรียนให้ทราบว่าท่าน ที่ใช้สายกราวด์เดิมๆ ทำผิดพลาดอย่างมหันต์ บอกแล้ไงข้างต้น ว่าเราจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับสายไฟเดิมๆ ของรถ เราก็เดิน สายกราวด์ขึ้น ใหม่สิครับ โดยกำหนดให้สายกราวด์มีความโตเท่าๆ หรือใกล้เคียง กับสายที่เราใช้เป็นสายไฟบวกต่อกับ วิทยุนั่นแหละ หาจุดลงกราวด์ ที่ไม่ไหลจากวิทยุมากนัก ยึดให้แน่น ด้วยน๊อต เบอร์ 8, เบอร์10, เบอร์12 ก็ได้อย่าใช้น๊อตเกลียวปล่อยใช้งานไปสักพักมันก็ปล่อยคลายจนหลวม เอาล่ะครับท่าผู้ชม ถ้าท่าปฏิบัติระบบ ต้นๆ ให้เป็นดังนี้ ปัญหาเสียงรบกวนจะไม่เกิดในระดับหนึ่ง ส่วนเสียงรบกวนในระดับสองนั้น ผู้เขียนขอนำเสนอในฉบับที่ 90 นะครับ เนื่องจากมีโควต้าเพียง 2 หน้าเท่านั้น การแก้ปัญหาด้วยการใช้โช้คดักเสียงรบกวนนั้นเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ ต้นเหตุมันอยู่ที่การวางระบบ เพราะคุณสมบัติของเจ้า โช้คที่ว่านี้มันมีค่าความต้านท่านลักษณะเป็นทรานสฟอร์เมอร์ บางท่านเรียกหม้อแปลง ภายในนั้นประกอบด้วยแผ่นโลหะ เป็นแผ่นอี E และแผ่นไอ I มีดลวดทองแดงพันอยู่ขณะทำงาน จะต้านทานมิให้กระแสไฟไหลผ่านมากนัก ช่างติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์ถ้าใช้โช้ค ?ถือว่าสอบตก? เพราะว่าเสียงวี๊ดที่ท่าน ว่าทำหายนั้น หารู้ไม่ว่าเสียงวี๊ดมันหายไปพร้อมกับเสียงเพลง ชิ้น ดนตรีต่างพร้อมใจกันหายไปด้วย ลง่ทุนติดตั้งเครื่องเสียง ราคาห้าหมื่น แต่ได้คุณภาพเพียงหมื่นห้า....ฮา ไม่รู้จะยุ่งยากไปป่าว...ลองทำดูนะครับ หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องเครื่องเสียง เริ่มหัวข้อโดย: wittayass@RYZ ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2009 03:13:23 ต่อครับ..เก็บเอาไว้เป็นความรู้ครับ
เราเห็นความสำคัญของสายแบตเตอรี่ใช่มั้ยแต่ฉบับนี้ เราจะพบกับความสำคัญการใช้งาน และการเลือกซื้อสายนำสัญญาณแน่นอนสายนำสัญญาณ ที่ดีที่สุดย่อมมีราคาแพงเป็นที่สุด (เหมือนเสื้อตัวละ 100 บาทกับเสื้อตัวละ 1,000 บาทคุณภาพ ทั้งเนื้อผ้าและคุณภาพการตัดเย็บย่อมแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง....ฉันใดก็ฉันเพล) ......สายนำสัญญาณที่มีคุณภาพสูงราคา ก็ย่อมสูงเพราะผู้ผลิตจะเลือกสารตัวนำที่สุดยอด และขั้นตอนการผลิตก็สุดยอด ดังนั้นปัญหาการเกิดช่องว่างในเนื้อตัวนำนั้นจะน้อยมาก คือน้อยยิ่งกว่าน้อยท่านควรยอมรับว่าสายโลหะทองแดงที่ท่านเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ส่วนใหญ่จะมีช่องว่างในเนื้อตัวนำแทบทั้งสิ้น แต่จะมีช่องว่างในเนื้อตัวนำมากน้อยเพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับกระบวนการผลิต การหลอมละลาย การตีเกลียวรวมถึงการคัดเกรดของทองแดงอีกด้วย ยกตัวอย่าง ไม้อัดปาติเกิ้ล จะมีช่องว่างในเนื้อแผนไม้มากกว่าไม้อัด เอ็ม ดี เอฟ เห็นหันจะๆ เลยใช่มั้ยแต่ช่องว่างในเนื้อตัวนำของสายนำสัญญาณนั้นท่านไม่สารมารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และในช่องว่างนั้นมันจะอุดมสมบูรณ์ไป ด้วยสนิมออกไซด์ หรือที่ชาวเขาชาวเราเรียกกันว่า สนิมสีเขียว ทำนองนั้นการทีเกิดช่องว่างในเนื้อตัวนำมากๆ นั้นทำให้สัญญาณไหลผ่านไม่สะดวกไม่สม่ำเสมอ คุณภาพเสียงก็ย่อมได้ตามราคาที่จ่ายกะตังค์ แต่ก็ยังดีนะที่มันแถมเสียงรบกวนมาให้คลายเหงาฮา...ถ้าท่าถามว่าผมมีงบประมาณน้อยจะใช้สายนำสัญญาณธรรมดา โนเนมได้มั้ย คุณได้สิทธินั้นเดี๋ยวนี้ (1) ท่านต้องเลือกซื้อสายนำสัญญาณที่มีกราวด์สัญญาณเป็นตาข่าย (2) ภายในสายต้องมีอลูมิเนี่ยมฟรอยส์ (3) ฉนวนหรือเปลือกหุ้มต้องยืดหยุ่นได้พอควร (อย่าให้มันแข็งข้อกับเราเป็นอันขาด ตรงนี้ ?คุณแม่ขอร้อง? และอย่าซื้อสายที่เปลือกหุ้มหดตัวเหนอะหนะตามความร้อนและความเย็นภายในรถ (4) ถ้าจำเป็นต้องซื้อสายนำสัญญาณสำเร็จรูป พร้อมแจ็ค RCA ต้องเลือกซื้อชนิดที่ปลอกหุ้มแจ็ค RCA ทีมีเกลียวถอดออกเพื่อเสริมกราวด์สัญญาณได้ (5) การบัดกรีสายนำสัญญาณ กับขั้วโลหะของแจ็ค RCA ต้องใช้ตะกั่วบัดกรีให้น้อยที่สุด(เพราะตะกั่วเป็นตัวนที่ไม่ดีนัก แม้ว่าจะมีส่วนผสมของดีบุกกี่มากน้อยก็ตามก็ยังสู้การสัมผัสกันระหว่างสายตัวนำกับผิวโลหะของแจ็ค RCAโดยตรงไม่ได้) เอาล่ะครับท่านผู้ชมทีนี้ก็มาถึงขั้นตอนการเดินสายนำสัญญาณในรถยนต์ ก่อนอื่นท่านต้องยอมรับอีกข้อนะว่าสายสัญญาณเนี่ยมันมีหน้าที่นำพาสัญญาณต่ำเท่านั้นมันจะนำพาสัญญาณต่ำจากเจ้าตัวฟร้อนท์ไปยังปรีแอมป์ต่อไปยังครอสโอเวอร์และไปยังเพาเวอร์แอมป์ตามลำดับในเมื่อมันมีหน้าที่นสัญญาณต่ำจังไม่ควรให้มันเดินทางใกล้กลับ สายไฟฟ้าซึ่งมีกำลังสูงขอตัวรถ โดยเฉพาะด้านซ้ายด้านขวาของตัวรถจะมีสายไฟเบรค สายไฟเลี้ยว และสายไฟถอยสารพัดสาย......อย่าให้สายนำสัญญาณมันไปเข้าใกล้เพราะมักจะมีสนามแม่เหล็กป้วนเปี้ยนอยู่แยะความจริงในรถยนต์แต่ละคันนั้น ส่วนใหญ่มีสนามแม่เหล็กป้วนเปี้ยนอยู่แทบทุกตารางนิ้วจะมีมากมีน้อยขั้นอยู่กับว่ารถคันนั้นใช้ระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ต่างๆ มากน้อยขึ้นอยู่กับว่ารถคันนั้นใช้ระบบไฟฟ้า และอุปกรณ์ต่างๆ มากน้อยแค่ไหนเจ้าสนามแม่เหล็กเนี้ยนะเรามองไม่เห็นมันแต่ถ้าเป็นสนามฟุตบอลเราจะมองเห็น ถ้าท่านจะถามว่าตรวจเช็คได้มั้ย ว่าจุดใดมีสนามแม่เหล็กมากหรือน้อย ?คุณได้สิทธินั้นเดี๋ยวนี้? (1) ถอดเบาะรถให้หมดทั้งคันอย่างมองข้ามความปลอดภัยนะ ขาของเบาะรถหนึ่งเบาะจะมี 4 ขาเป็นโลหะค่อนข้างคม เมื่อถอดน็อตออกจากขาเบาะแล้วควรใช้เศษผ้าเศษหนังหรือเศษพรมห่อหุ้มขาเบาะทุกๆ ขาเสียก่อนแล้วรัดด้วยหนังยางเพื่อป้องกันไม่ให้ขาเบาะขูดขีดประตูรถ (2) แกะถอดพรมที่ปูพื้นรถออกให้หมดทั้งคัน และดูดฝุ่นทำความสะอาดพื้นรถดังกล่าวจุดระเบิดเครื่องยนต์ แล้วปิดระบบเครื่องเสียงให้ทำงานตลอดเวลาเปิดไฟสูงของรถทิ้งไว้ (3) ใช้ T.V. สี ที่จอภาพมีปืนอิเลคตอนจะใช้จอกี่นิ้วก็ได้เปิดเครื่อง T.V. สี ให้ทำงานแล้วคว้ำหน้าจอกับพื้นรถยนต์เบาๆค่อยๆ ยกประคองเครื่องเคลื่อนที่ไปมาเดินหน้าถอยหลังเลื่อนไปซ้ายยายไปขวา ไม่ต้องให้หน้าจอแตะกับพื้นรถถ้าตรงที่ใดมีสนามแม่เหล็กมาก ๆก็จะพลว่าหน้าจอ T.V. สี ของท่านจะเกิดสีม่วงสีครามสีซ้ำเลือดชำหนองเลอะเทอะไปหมด ล้าท่านต้องการจะล้างสีให้มันสะอาดตามเดิม ก็ใช้แม่เหล็กของลำโพงมาล้างก็ได้ หรือใช้หัวแร้งปืนที่ช่างสมัยโบราณเขานิยมใช้แม่เหล็กของลำโพงมาล้างก็ได้ หรือใช้หัวแร้งปืนที่ช่างสมัยโบราณเขานิยมชักรีดนั่นก็ได้เอามาเสียบปลั๊ก และกรดสวิทซ์แช่ค้างไว้ คือด้านข้างของหัวแร้งที่เห็นลวดทอแดงใหญ่ๆ เคลื่อนตัวไปมาบริเวณหน้าจอ T.V.ไล่ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสีช้ำเลือดช้ำหนองหายไป การติดตั้งเครื่องเสียในรถยนต์ ถ้าช่างติดตั่งที่มีอายุงานมากหน่อยอาจสังเกตุพลว่าบางครั้งการที่เราขยับสายนำสัญญาณเปลี่ยนตำแหน่งเคลื่อนที่เพียง 2-3 นิ้ว ก็ทำให้เสียงรบกวน เสียงวี๊ด เปลี่ยนความถี่ตามรอบเครื่องทันทีบริเวณที่สายนำสัญญาณเดินทางผ่านแล้วไม่กิดปัญหาเสียงรบกวนมากนัก คือ บริเวณกิ่งกลางเบาะของคนขับ และบริเวณกึ่งกลางเบาะซ้ายของคนนั่งข้างๆ กึ่งกลางเบาะที่ว่านี้หมายความว่าถ้าท่านเดินสายนำสัญญาณไว้ใต้พรมก็จริงเถอะ แต่สายต้องอยู่ใต้หว่างขา (ตรงจุดผ่านหมากของชายชาตรีว่างั้นเหอะ) แต่ถ้ารถบางรุ่นบางคันมีชุมทางไฟฟ้าอยู่เราก็เคลื่อนย้ายสายหลบหลีกได้ อ้อ! มีอีกเรื่องหนึ่งขอทีเหอะพ่อคุณทูนหัว กรุณาอย่าใช้สายรีโมทผิดประเภทการใช้สายรีโมทท่านต้องเดินสายขึ้นมาใหม่ จากฟร้อนท์ไปยังอุปกรณ์ร่วมอื่นๆ และก็ไม่ควรให้สายริโมทเดินทางใกล้สายนำสัญญาณ เพราะสายรีโมทมีกระแสไฟฟ้าสูง สายรีโมทอยู่ใกล้สายแบตเตอรี่บวกไม่เป็นอะไร สายรีโมทอยู่ใกล้สายลำโพงไม่เป็นอะไร เพราะทั้งสายแบตเตอรี่ และสายสำโพงมีกระแสๆไฟฟ้าอยู่ในตัวเองแล้ว ในเมื่อเจ้าสายนำสัญญาณมันมีหน้าที่นพาสัญญาณต่ำ แล้วพระเดชพระคุณท่านจะเอาสายฯ กราวด์สัญญาณเสริมให้เป็นสายรีโมทได้ยังงัย! เจ้าสายเส้นเล็กๆ ที่ตีเกลียวเดินขนาบตรงกลางระหว่างสายสัญญาณ ซีกซ้าย ซีกขวา นั่นน่ะมันไม่ใช่สายรีโมทนะโยม! มันคือสารกราวด์เสริมระหว่างตัวถัหรือตัวบอดี้ของอุปกรณ์ (ดูภาพประกอบ) เช่นบัดกรีสายเส้นนี้เข้ากับหางปลาแล้วขันน็อตยึดลงกับตัวถังระหว่างฟร้อนท์กับอีเลคโทรนิคครอส หรือระหว่างอีเลคโทรนิคครอสกับเพาเวอร์แอมป์ตามลำดับที่นี้มาว่ากันถึงเรื่องการนำผ้าห่ม หรือเศษพรมมาห่อหุ้มสายนำสัญญาณซึ่งบางร้านนิยมใช้กันบางร้านไม่นิยม ใช้บางท่านว่ามันไร้สาระเสียเวลาสิ้นดี ?มันไม่ไร้สาระนะคุณผู้ชาย? การใช้ผ้าห่มห่อหุ้มสายแม้นมันตะต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นจนน่ารำคาญ แต่ทราบมั้ยว่ามันมีประโยชน์ถึง 3 ประการที่เดียว (1) บางครั้งนะ บางครั้งเราวางสายนำสัญญาณราบกับพื้นรถจะพบว่ามีเสียงวี๊ดตามรอบเครื่องครั้นเรายากสายฯ ให้สูงขั้นมาเพียง 1-2 มิล กลับพบว่ามีเสียงวี๊ดหายไป ฉะนั้นการใช้วัสดุห่อหุ้มสายฯ ทำให้มันมีสภาพหนีพ้นจากพื้นรถได้ระดับหนึ่ง (2) การที่ห่อหุ้มสายฯ ไว้เป็นแรมปี สายฯ ก็ยังดูใหม่ และสดอยู่เสมอ เวลามีการย้ายรื้อออกไปใช้คันอื่นๆ เราก็แกะผ้าห่มเก่าทิ้งไปแล้วห่อหุ้มขั้นใหม่อีกครั้ง ก็เป็นเหตุผลพอที่จะไม่ทำให้ ?สายมือสอง? นำความเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปสู่เบาะหรือพรมของรถคันที่จะติดตั้ง่ต่อไป (3) มันเป็นเสหน่ห์อย่างแรงที่ลูกค้าเจ้าของรถอยู่หน้าหน้าร้านกันแทบจะทั้งสิ้น แล้วท่านจะว่า ?มันไร้สาระได้ยังงั้ย? อย่าลืมนะครับ ?สุภาพชน? ไม่ขับรถเปิดเครื่องดังๆ ป้วนเปี้ยนไปป่วนร้านอื่นๆซึ่งทำอาชีพเดียวกันพบกันใหม่ฉบับหน้าขอจบดื้อๆเพียงหน้าพบกันใหม่ ขอจบ ดื้อๆ เพียงเท่านี้ :emotk :emotk หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องเครื่องเสียง เริ่มหัวข้อโดย: ajmoo ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2009 07:17:44 ถ้าแก้ตามทุกท่านแล้วยังไม่หายแนะนำว่าให้ลองเข้าร้านแล้วให้ลองเอา Amp รุ่นอื่น ๆ หรือว่ายี่ห้ออื่นมาลองผมเคยเจอว่า Amp กับวิทยุสัญญาณกวนกันเองครับ แต่ง่ายสุดคือเดินสายดินให้สั้นที่สุดและให้ใหญ่ ๆ หน่อย ลงตัวถังในจุดที่ใกล้ Amp ที่สุดครับ.
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องเครื่องเสียง เริ่มหัวข้อโดย: Adtgroup ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2009 07:34:59 1.ปรับ LEVEL ที่ POWER AMP. ลง 15% โดยเฉพาะปรับไว้สูงสุดมักมีปัญหาเสียงวี๊ด 2.จุดลงสายดิน(-)ไม่ใช่แน่นอย่างเดียว ต้องสะอาดด้วย(กระดาษทรายขัดให้ถึงเนื้อเหล็ก) และสั้นที่สุด หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องเครื่องเสียง เริ่มหัวข้อโดย: BacKiOh ที่ 08 มีนาคม 2009 15:45:27 น่าสนใจ
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องเครื่องเสียง เริ่มหัวข้อโดย: carboys ที่ 08 มีนาคม 2009 20:25:27 การใส่กันกวน หรือ noise filter เป็นของที่บ่งบอกถึงความไม่เอาไหนของคนทำระบบเลยครับ
เพราะมิติเสียง จะแบนราบเรียบ มีแต่เสียงดังเท่านั้น ที่ถูกที่ควร มีคนคัดลองมาบอกกันแล้ว ซึ่งคุณควรให้เค้าแก้แบบถูกต้อง เพราะคุณคือผู้เสียเงิน ไม่ใช่ยัดๆ มาให้ |