หัวข้อ: ขอความรู้เรื่อง รถใช้น้ำ ( ไฮโดรเจน ) หน่อยคับ เริ่มหัวข้อโดย: Toom ที่ 03 กันยายน 2009 10:37:36 1. เครื่อง 1500 จะวิ่ง ได้ 30-40 โล ต่อลิตร จิงไหม
2. เห็นแต่คนขายบอกดี ทุกอย่าง แล้วข้อเสีย ไม่มีจริงๆๆหรอ 3. เค้าบอกว่า จะไม่ไปยุ่งเกียวหรือ ดัดแปลง กับอุปกรของรถเราเลย **แล้วรถเรามันจะจ่ายน้ำมันน้อยลงได้หรอ* (รึว่าเค้าต้องจูน) 4. แถวลาดกระบัง ตอนนี้ราคาอยู่ที่ 30,000 ครับ 5. :emos :emos :emos :emos หัวข้อ: Re: ขอความรู้เรื่อง รถใช้น้ำ ( ไฮโดรเจน ) หน่อยคับ เริ่มหัวข้อโดย: mong had yai ที่ 03 กันยายน 2009 11:08:27 :emoti :emotiอยากรู้เหมือนกันคับ
หัวข้อ: Re: ขอความรู้เรื่อง รถใช้น้ำ ( ไฮโดรเจน ) หน่อยคับ เริ่มหัวข้อโดย: Hunter_JIK.CZ48 ที่ 03 กันยายน 2009 11:19:55 http://www.yaris-club.net/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=36398
เห็นมีคนในยาริสทดสอบอยู่ครับ ---------------------------------- อ้างอิงในนั้นมานะครับ การทำงานของระบบ (http://img190.imageshack.us/img190/7718/090203a.jpg)[/quote] ขออธิบายตัวระบบนี้ตามรูปภาพนะครับ หลังจากที่อุปกรณ์สร้าง HYDROGEN ติดตั้งแล้วจะได้ HYDROGEN ซึ่งแยกออกมาจาก H2O เป็น HH (เอชสองตัว) ดูตามลูกศร เสียบเข้าหลัง Air Meter หน้า Electronic throttle (ลิ้นปีกผีเสื้อไฟฟ้า) แค่นั้น.... หมายความว่า HYDROGEN ถูกผสมกับอากาศเข้าไปตามระบบ ซึ่ง HYDROGEN มึค่าออกเทน 120 ผสมกับอากาศแล้วเข้าไปจุดระเบิด ร่วมกับเชื้อเพลิงไม่ว่าจะเป็นนำ้มันหรือแกสก็ตาม แปลว่าเป็นอากาศผสม HYDROGEN ไปจุดระเบิดกับเชื้อเพลิง (ตอบคำถามคุณ Spenz มันคนละระบบกับแกสครับ) ที่ไปทดสอบเพราะว่าตามหลักการแล้วมันน่าจะแรง แต่ว่ามีข้อสงสัยอยู่ก็คือ เมื่อผ่าน MAP SENSOR แล้ว ผ่านเข้าเครื่องยนต์เพื่อจุดระเบิด ผ่านออกมาที่ O2 sensor หรือ OXEGEN SENSOR ทั้งหน้าและหลังแคท CATALYST(ตามรูป) มันจะทำให้ ECU ของเราค่าอย่างไร หรือทำให้ ECU เอ๋อรึเปล่า ต้อง REMAP หรือเปลี่ยน SENSOR หรือจูนกล่องหรือเปล่า ???? เบื้องต้นประมาณนั้นครับ....แรงไม่แรงกำลังทดสอบ --------------------------------------------------------- หัวข้อ: Re: ขอความรู้เรื่อง รถใช้น้ำ ( ไฮโดรเจน ) หน่อยคับ เริ่มหัวข้อโดย: Toom ที่ 03 กันยายน 2009 11:41:31 Hunter_JIK :emotn :emotn
เมื่อผ่าน MAP SENSOR แล้ว ผ่านเข้าเครื่องยนต์เพื่อจุดระเบิด ผ่านออกมาที่ O2 sensor หรือ OXEGEN SENSOR ทั้งหน้าและหลังแคท CATALYST(ตามรูป) มันจะทำให้ ECU ของเราค่าอย่างไร หรือทำให้ ECU เอ๋อรึเปล่า ต้อง REMAP หรือเปลี่ยน SENSOR หรือจูนกล่องหรือเปล่า ? ผมก็คาใจตรงนี้แระ แรงไม่แรงผมไม่ค่อยว่าหลอก แต่อยากแน่ใจเรื่อง ประหยัดนะ แต่ที่ ดูของยาริส เค้าไม่ได้เติมน้ำป่าว เหมื่อนในข่าวด้วยซิ คงต้องติดตามต่อไป... ถ้ามัน ใช้ผสมกันแล้ว กับน้ำมัน 1 ลิตร แล้ววิ่งได้ 40 กิโล จิง มันก็คุ้มก่วาแก้สอีกนะ แต่ผมใช้แก้ส อยู่แล้ว โอ๊ววว แก้ส 1 ลิตร 11.15 บาท วิ่งได้ 40กิโล ถ้าเปงจิงมันยอดมากเลยนะ หัวข้อ: Re: ขอความรู้เรื่อง รถใช้น้ำ ( ไฮโดรเจน ) หน่อยคับ เริ่มหัวข้อโดย: RINSA ที่ 03 กันยายน 2009 11:44:38 แหม มีคนมาช่วยเยอะเลยสิพี่ตูม อย่าลืม รถคันนี้บ้างแล้วกัน ขาดคนช่วยเข็น ฮี่ๆ
หัวข้อ: Re: ขอความรู้เรื่อง รถใช้น้ำ ( ไฮโดรเจน ) หน่อยคับ เริ่มหัวข้อโดย: RINSA ที่ 03 กันยายน 2009 11:46:45 แก้ส 1 ลิตร 11.15 บาท วิ่งได้ 40กิโล เป็นความจริงป่าว พี่ตูม แจ้งมาด้วย
หัวข้อ: Re: ขอความรู้เรื่อง รถใช้น้ำ ( ไฮโดรเจน ) หน่อยคับ เริ่มหัวข้อโดย: Toom ที่ 03 กันยายน 2009 11:47:21 แหม มีคนมาช่วยเยอะเลยสิพี่ตูม อย่าลืม รถคันนี้บ้างแล้วกัน ขาดคนช่วยเข็น ฮี่ๆ ไม่ลืมอยู่แล้ว เดียวพี่ไปลองก่อน ถ้าดี ษา ค่อยตาม .....หัวข้อ: Re: ขอความรู้เรื่อง รถใช้น้ำ ( ไฮโดรเจน ) หน่อยคับ เริ่มหัวข้อโดย: coolgrep2 ที่ 03 กันยายน 2009 11:47:54 ถ้ามันเวิร์คนะ ตรูจะสอยมาเล่น ฮ่า ๆ ๆ
หัวข้อ: Re: ขอความรู้เรื่อง รถใช้น้ำ ( ไฮโดรเจน ) หน่อยคับ เริ่มหัวข้อโดย: Toom ที่ 03 กันยายน 2009 11:48:42 แก้ส 1 ลิตร 11.15 บาท วิ่งได้ 40กิโล เป็นความจริงป่าว พี่ตูม แจ้งมาด้วย หมายถึงใช้ผสมกับ ไฮโดรเจน นะจร้า แต่ไม่รู้ว่าได้จิงรึป่าวนะ ...หัวข้อ: Re: ขอความรู้เรื่อง รถใช้น้ำ ( ไฮโดรเจน ) หน่อยคับ เริ่มหัวข้อโดย: RINSA ที่ 03 กันยายน 2009 11:55:38 แหม มีคนมาช่วยเยอะเลยสิพี่ตูม อย่าลืม รถคันนี้บ้างแล้วกัน ขาดคนช่วยเข็น ฮี่ๆ ไม่ลืมอยู่แล้ว เดียวพี่ไปลองก่อน ถ้าดี ษา ค่อยตาม .....แล้วเอา ข่าวนี้มาจากไหนกัน ได้รับ อย. ยังเนี่ย หวั่นๆ อันตรายด้วยนะ หัวข้อ: Re: ขอความรู้เรื่อง รถใช้น้ำ ( ไฮโดรเจน ) หน่อยคับ เริ่มหัวข้อโดย: Tonsuan ที่ 03 กันยายน 2009 15:12:20 มันใช้ได้จริงๆหรอครับ
เห็นผุ้ผลิตอ้างกันว่าประหยัด40-50% เลยเชียว ถ้าประหยัดได้จริงขนาดนี้ไฮบริดยังอายเลยอะ :emo5 หัวข้อ: Re: ขอความรู้เรื่อง รถใช้น้ำ ( ไฮโดรเจน ) หน่อยคับ เริ่มหัวข้อโดย: 1300 ก็แค่นั้น ที่ 03 กันยายน 2009 15:18:33 55555+
ประหยัดจริง แต่ไม่ถึง50% ใครใช้ได้ถึง50% แสดงว่าโกหกหลอกลวง บริษัทผม ประหยัดได้จริง แต่ขึ้นอยู่กันccเครืองและการขับขี่ รถผมก็ติดตั้งแล้ว2เดือน ประหยัด20%(รถวัยรุ่นเหยีบปี๊ดๆ) http://www.thaiwaterpower.com/site/ หัวข้อ: Re: ขอความรู้เรื่อง รถใช้น้ำ ( ไฮโดรเจน ) หน่อยคับ เริ่มหัวข้อโดย: KON@EE90 ที่ 03 กันยายน 2009 16:58:55 ต้องปรับแต่งสัญญาณจาก O2 sensor ครับ เพื่อหลอกให้ ECU จ่ายน้ำมันน้อยลง(ส่วนที่หายไป แทนด้วย HHO)
ก็ลองทำอยู่เหมือนกัน แต่งบน้อย เลยต้องจอดไว้ก่อน บางคนก็ว่าประหยัดขึ้น บางคนก็ว่าไม่..... เฮ้อ.. ผมว่าทำเล่นเองเจ๋งสุด ไม่ต้องเสียตังค์ติดตั้งมากมาย มันทำไม่ยาก ก็ว่ากันไปครับ http://www.weekendhobby.com/offroad/newenergy/question.asp?page=1&id=1039 :emotr :emotr อันนี้เวอร์ชั่นล่าสุดของผม ยังไม่ได้เอาลงที่รถครับ เขาว่าใช้แล้วเครื่องยนต์จะร้อนมากขึ้น เลยอยากหาตัววัดอุณหภูมิที่เครื่องมาติดก่อน http://www.youtube.com/watch?v=PEBl-udA8pk :emotj :emotj :emotk หัวข้อ: Re: ขอความรู้เรื่อง รถใช้น้ำ ( ไฮโดรเจน ) หน่อยคับ เริ่มหัวข้อโดย: smilegames ที่ 03 กันยายน 2009 17:35:40 50% มันโม้ ครับ 20% ก็หรูแล้ว เพราะมันใช้ร่วมกับระบบเิดิมเราครับ หลักการก็คือ แยกน้ำด้วยไฟฟ้า ตามความรู้เด็ก ม.2 จะมีการทดลองอยู่ ผลก็คือ ขั่วไฟ2 ด้านจะให้ก๊าซออกมาต่างกัน แ่ต่จำไม่ได้แล้ว ว่าขั่วไหนให้ก๊าซอะไร แต่ก็ไม่มีผลเพราะเขาใช้ก๊าซทั้งสองตัวนั้นเลย คือ ออกซิเจน และ ไฮโดรเจน คุณสมบัติคือ
ออกซิเจน ช่วยให้ไฟติด ดังนี้มันจะมีผลดีต่อเครื่องคือ การจุดระเบิดจะดีขึ้น เผาไหม้ได้สะอาดขึ้น ยอมทำให้แรงขึ้นเป็นธรรมดา มันก็คล้ายกัน ไนตรัสออกไซด์ อ่ะครับ ไฮโดรเจน จะติดไฟ ดังนั้นมันจะมีผลดีต่อเครื่องคือ การจุดระเบิดจะแรงขึ้น เรื่องของ ออกซิเจนเซ๊นเซอร์ที่กลัวกัน ผมว่าไม่มีผล เพราะ เครื่องยนต์ต้องการออกซิเจนในการเผาไหม้มากอยู่แล้ว ถ้าออกซิเจนไม่พอ ผลก็คือ จะมีควันดำแบบเครื่องดีเซลอ่ะครับ แล้วการแยกน้ำนี้ มันก็ได้ปริมาณออกซิเจนไม่มากพอด้วยซ้ำไป การให้ประหยัดมากขึ้น ฝรั่งเขาทำกล่องไปหลอก Map กันครับ เพื่อให้ฉีดน้ำมันลดลง ปัญหาหลักที่เจอกันคือ ปริมาณก๊าซที่ได้ น้อยเกินไป เมื่้อเที่ยบกับการที่เสียไปของกระแสไฟ แล้วก็เรื่องความร้อยสะสมที่เกิดขึ้น และยิ่งร้อนมากยิ่งกินกระแสมาก เต็มที่มันกินไฟถึงประมาณ 30 แอมป์ เลยอ่ะครับ ก็เป็นความรู้ที่ผมมีเล็กน้อย ในการอ่านเรื่องนี้มา และทดลองทำอยู่เ้หมือนกัน หัวข้อ: Re: ขอความรู้เรื่อง รถใช้น้ำ ( ไฮโดรเจน ) หน่อยคับ เริ่มหัวข้อโดย: jedee ที่ 03 กันยายน 2009 20:31:56 :emoth เขาเรียกว่าHHO หลักการก็คือเอาไฟบวกลบ ปล่อยเข้าไปในน้ำ ซึ่งใส่สารนำไฟฟ้า(มีหลากหลายชนิดนะต้องค่อยๆศึกษาเอา) แล้วน้ำจะเกิดการแตกตัวออกเป็นไฮโดรเจนสองโมเลกุล อ๊อกซิเยนอีกหนึ่งโมเลกุล แล้วนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงรถครับ คนไทยแรกๆที่คิดทำและประสพความสำเร็จในระดับใช้งานจริงได้ ๔๐ ถึง ๕๐ % นั้นมีครับ :emo2 แต่คงติดที่พี่แกเผยแพร่เพียงแค่ห้าพันคนแล้วก็ปิดเวปหนีโลดเลย ผมเคยติดตามผลงานของชายคนนี้เมื่อหลายปีก่อนครับ เป็นอะไรที่ทึ่งในฝีมือของคนไทยจริงๆ สาเหตุหลักๆที่พี่แกต้องปิดเวปหนี น่าจะเกี่ยวกับเรื่องสิทธิบัตรอะไรประมาณนี้ล่ะ เพราะพี่แกพัฒนาได้ใกล้เคียงในระดับอีนเตอร์เลยครับ ใครที่ได้ศึกษาผลงานของชายคนนี้ สามารถเอาไปต่อยอดพัฒนาต่อได้อย่างสบายเลยครับ ผมเป็นคนที่ประมาณสองพันในประเทศนี้ที่ได้มีโอกาสเข้าไปดูและศึกษาในเวปของพี่ท่านเมื่อหลายปีก่อน ตามลิงค์นี้ครับ เห็นว่าพี่แกบอกว่า เก็บไว้เป็นแหล่งข้อมูลเหมือน ไม้ขีดไฟก้านสุดท้ายในยามค่ำคืนของฤดูหนาวก็แล้วกัน ข้อมูลหลักๆที่เคยเปิดเผยให้รู้ลบหายเกลี้ยง คนนี้ทำได้ถึงน่าจะเจ็ดสิบเปอร์ด้วยมั๊ง แต่พี่แกจำกัดไว้แค่ห้าสิบห้าสิบเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยอะไรทำนองนั้น ก็แมร่งเล่นระเบิดตูมตามยิ่งกว่าไฟแบ็คในรถใช้แอลพีจีอีก ระบบเซฟตี้แทบจะไม่มีนอกจากให้ผ่านน้ำก่อนเท่านั้น ลองตามไปดูครับลิ้งค์นี้ล่ะ :emo2 :emom :emotn
http://www.watercar.ob.tc/ เก็บไว้เป็นแหล่งข้อมูลเหมือน ไม้ขีดไฟก้านสุดท้ายในยามค่ำคืนของฤดูหนาวก็แล้วกัน แต่วันนี้ได้นำข้อมูลบางส่วนมาเพิ่มเติม ถือว่าเป็นโอกาสดีที่จขกท.อยากศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ครับ แต่ที่ต่างประเทศนั้น เขาทำใช้กันในระดับ ๑๐๐ % กันเลยทีเดียวเชียวนะสิบอกไห่ ไม่ว่าจาเป็น เมกา ตากาล็อก(ฟิลิปปินส์) แคนาดา เยอรมัน หรือแม้แต่ญี่ปุ่นครับ ไม่ใช่ของใหม่ ทำได้มาหลายสิบปีแล้วครับ แต่มันมีข้อเสียตรงที่ ๑ เวลาสันดาปแล้ว มันก็จากลับไปเป็นน้ำอีก ท่อไอเสียพ่นน้ำยาวเป็นทางเลยล่ะ วัสดุที่ใช้ในเครื่องต้องเป็นพวกปลอดสนิม ท่อทางต่างๆด้วย ถึงจะดี อันนี้ประการแรก ๒ ประการที่สอง เมื่อเอาไฟตรงเข้าไปแยกน้ำให้ไฮโดรเจน ออกมาเป็นเชื้อเพลิง นั้น มันสูญเสียพลังงานมาเกินไป หรือว่ามากเกินกว่าที่เชื้อเพลิงไฮโดรเยน จะให้พลังทดแทนกลับคืนมาครับ จึงมีการคิดค้นใหม่ ใช้พลังไฮโดรเยนเหมือนกัน แต่เรียกว่าเซลเชื้อเพลงครับ ตัวนี้ล่ะ ที่ทำให้โอเปคร้อนๆหนาวๆ กว่ารถไฟฟ้าซะอีกครับ ข้อเสียประการที่สามก็คือ อุปกรณ์ที่แยกแก๊สไฮโดรเจน ขนาดมันใหญ่มาก หากเราจะนำมาใช้งานเต็มที่ระดับร้อยเปอร์เซนต์ ข้อเสียอีกข้อแล้วกานที่พอนึกได้นะ ไฮโดรเยนเป็นเชื้อเพลงที่ไวไฟมาก การใช้งานจึงต้องระมัดระวังมากๆ แล้วยังไม่มีระบบอัดในถังเหมือนเช่นแอลพีจี นอกจากระบบเซลเชื้อเพลิง อันนี้จะมีถังไฮโดรเจนเหมือนถังแอลพีจีติดไว้เลย มีสถานีบริการ ในยุโรปเห็นบีเอ็มดับบริวพัฒนาเรื่องนี้ เมกา ญี่ปุ่นก็ด้วยครับ ลองเสริทหาข้อมูลดูครับ(เพียบ) เป็นพลังงานทางเลือกที่ถูกกั๊ก และไม่มีการสานต่อหรือพัฒนาต่อ คนไทยเก่งๆ ก็ไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนที่ดี จากรัฐบาล ยังมีอีกที่หากจำไม่ผิดอยู่ที่ระยองนะ อันนี้ทำมาขายเป็นการค้าเลย ชุดหนึ่งๆในตอนนั้นน่าจะหกเจ็นพันนี่ล่ะหากจำไม่ผิด ที่ใช้ในรถทั่วไปหากเป็นเบนซินใช้แอลพีจีเป็นหลัก ก็ได้ค่าประหยัดอยู่ที่กิโลละ ห้าสิบสตางค์ ขี้เกียจพิมพ์แล้วล่ะ เอาแค่นี้ก่อนเด้อ เด๋วรอเกจิท่านอื่นๆมาคอนเฟิมต่อจร้า :emod :emo9 หัวข้อ: Re: ขอความรู้เรื่อง รถใช้น้ำ ( ไฮโดรเจน ) หน่อยคับ เริ่มหัวข้อโดย: Toom ที่ 04 กันยายน 2009 08:26:08 :emotn :emotnก็แค่1300
smilegames jedee ELEANOR :emotn :emotn หัวข้อ: Re: ขอความรู้เรื่อง รถใช้น้ำ ( ไฮโดรเจน ) หน่อยคับ เริ่มหัวข้อโดย: KON@EE90 ที่ 04 กันยายน 2009 12:44:41 เรื่องพลังงานทดแทน ต้องกระตุ้นกันหน่อย
น้ำมันแพงขึ้นทุกวัน :emotk หัวข้อ: Re: ขอความรู้เรื่อง รถใช้น้ำ ( ไฮโดรเจน ) หน่อยคับ เริ่มหัวข้อโดย: Rong Fuel-Up ที่ 04 กันยายน 2009 17:05:15 ผมว่ากับเบนซิน ไม่ค่อยแจ๋วอ่ะ กับดีเซล โบราณ (ย้ำว่าโบราณ ที่เป็นแบบปั๊มธรรมดานะ) ประหยัดพอสมควร คิดเป็น เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้ ไม่รู้เอาอะไรมาวัด
รู้แต่ว่า ถ้ารถดีเซลวิ่งควันดำ อยู่แล้วใส่ตัวนี้เข้าไป รู้สึกกระปรี้กระเปร่าดี หัวข้อ: Re: ขอความรู้เรื่อง รถใช้น้ำ ( ไฮโดรเจน ) หน่อยคับ เริ่มหัวข้อโดย: ble-DP ที่ 04 กันยายน 2009 21:05:29 ผมว่ากับเบนซิน ไม่ค่อยแจ๋วอ่ะ กับดีเซล โบราณ (ย้ำว่าโบราณ ที่เป็นแบบปั๊มธรรมดานะ) ประหยัดพอสมควร คิดเป็น เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้ ไม่รู้เอาอะไรมาวัด รู้แต่ว่า ถ้ารถดีเซลวิ่งควันดำ อยู่แล้วใส่ตัวนี้เข้าไป รู้สึกกระปรี้กระเปร่าดี ไปใส่มาแล้วรึ :emotj |