AE. Racing Club

AE Racing Club - FreeStyle => Free Style - AE Racing Club => ข้อความที่เริ่มโดย: nb ที่ 08 กันยายน 2009 01:49:14



หัวข้อ: วัดโวลท์สำคัญยังไง
เริ่มหัวข้อโดย: nb ที่ 08 กันยายน 2009 01:49:14
สังเกตุหลายๆ คนที่ติดเกจ์มากกว่า 1 ตัวนี่ ตัวที่มักจะไม่พลาดเลยคือวัดโวลท์ อยากรู้ว่ามันสำคัญขนาดไหนอ่ะครับ วัดน้ำอันนี้ผมตั้งใจจะติดอยู่แล้ว เพราะถ้าร้อนเกินนี่ถึงเครื่องพัง แล้ววัดโวลท์ล่ะครับ


หัวข้อ: Re: วัดโวลท์สำคัญยังไง
เริ่มหัวข้อโดย: arTO-TRD ที่ 08 กันยายน 2009 06:39:52
ติกเพราะ  หน้าปัดรถเดิมๆ มันไม่มีมาคับ


หัวข้อ: Re: วัดโวลท์สำคัญยังไง
เริ่มหัวข้อโดย: wasabi ที่ 08 กันยายน 2009 08:04:28
ของผม หน้าปัทม์  เดิมๆ มันมี มาอยู่แล้ว ครับ

ประโยชน์ ก็ คือ ให้ ตรวจดู แบตเตอรี่ กับ ระบบไฟ ให้ รถ ครับ ว่า แรงดัน มัน เพียงพอ หรือไม่  น่ะครับ


หัวข้อ: Re: วัดโวลท์สำคัญยังไง
เริ่มหัวข้อโดย: สมถวิล@ปทุมNO.9 ที่ 08 กันยายน 2009 08:18:39
ไม่ได้ติดเหมือนกัน แต่อาศัยไปดูที่คาปาเอา :emots


หัวข้อ: Re: วัดโวลท์สำคัญยังไง
เริ่มหัวข้อโดย: Night54 ที่ 08 กันยายน 2009 08:24:19
ผมคนนึงที่ไม่ชอบติดเกจเท่าไหร่ ด้วยเหตผลที่ว่ากลัวมันบดบังวิวทิวทัศน์ อิอิ
แต่ก็อยากได้วัดโวลท์คับ เลยซื้อเรือนไมล์ FX 9000rpm มาใส่แทน
แต่ก้อไม่รู้ว่ามันมีประโชยน์อะไรบ้าง ตอนนี้คงยังไม่ได้ใช้อะไรนอกจากดูเข็มมันขยับเวลาสตาร์ท


หัวข้อ: Re: วัดโวลท์สำคัญยังไง
เริ่มหัวข้อโดย: noomtp ที่ 08 กันยายน 2009 09:12:32
ไว้ดูกำลังไฟแบตอ่ะครับ ผมว่าเหมาะสำหรับ auto มากกว่านะครับ กัวไฟไม่พอสตาร์ท ถ้าเกียร์ธรรมดายังพอเขนกระตุกสตาร์ทได้


หัวข้อ: Re: วัดโวลท์สำคัญยังไง
เริ่มหัวข้อโดย: noohnu ที่ 08 กันยายน 2009 09:21:36
ไว้ดูกำลังไฟแบตอ่ะครับ ผมว่าเหมาะสำหรับ auto มากกว่านะครับ กัวไฟไม่พอสตาร์ท ถ้าเกียร์ธรรมดายังพอเขนกระตุกสตาร์ทได้
ของผมเกียร์ ธรรมดาครับ ไฟหมดไปก็หลายที ไม่เคยเข็นกระตุกซ๊ากที

ปล. ผมก็ใช้ดูกำลังไฟของ Battery น่ะครับ เพราะแบตมันก็จะ 3 ปีหล๊ะ บางครั้งบิดกุญแจมันก็ตกมาที่ 11 Volt......เสี๊ยว เสียว...กลัวสตาร์ทม่ะติด :emox


หัวข้อ: Re: วัดโวลท์สำคัญยังไง
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าแม่ SRC ™ ที่ 08 กันยายน 2009 09:52:17
ประโยชน์ ที่ได้จากการติดโวลท์มิเตอร์ในรถ
วิเคราะห์ระบบไฟฟ้าในรถจากค่าที่อ่านได้จากโวลท์มิเตอร์
- ขณะดับเครื่องค่าควรอยู่ประมาณ  12-12.8 โวลท์ ถ้าต่ำกว่า12 ถือว่าผิดปกติอาจมีสาเหตุมาจากแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม(เก็บไฟไม่อยู่ )หรือไดชาร์จชาร์จไฟได้ไม่เต็มที่(ดูในหัวข้อตรวจสอบไดชาร์จ)
- วิธีตรวจสอบว่าแบตเสื่อมหรือไม่ทดสอบได้โดยหลังจากขับรถปกติมาจอดและดับ เครื่องประมาณ 1 นาทีค่าที่อ่านจากมิเตอร์ต้องมีค่าระหว่าง 12-12.8 โวลท์ หลังจอดไว้(4-6ชั่วโมง)หรือข้ามวันค่าที่อ่านได้ต้องประมาณ 12-12.8 โวลท์ เท่าเดิมถือว่าปกติ ถ้ามีค่าต่ำกว่านี้มากๆเช่น11.5-11.9 แบตเตรี่เริ่มเก็บไฟไม่อยู่แต่ยังพอไหว แต่ถ้าต่ำกว่า 11.5 โวลท์ลงไป ถือว่าอันตรายเพราะถ้าจอดทิ้งสัก 2 วันอาจสตาร์ทไม่ติด(ถ้าอายุแบตเตอรี่ยังใหม่ก็อาจจะเกิดจากมีกระแสไฟฟ้า รั่วลงกราวด์แนะนำเข้าร้านให้ช่างไฟฟ้ารถยนต์ตรวจสอบครับ) ***อายุแบตเตอรี่ทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 18-24 เดือน แล้วแต่การดูแล***
ตรวจสอบไดชาร์จจากการอ่านค่าจากโวลท์มิเตอร์
ให้ทำการติดเครื่องยนต์แล้วอ่านค่าจากโวลท์มิเตอร์ค่าปกติจได้ดังนี้
1.ที่รอบเครื่องยนต์ 1000 รอบต่อนาที(รอบเดินเบา) จะต้องมีค่าประมาณ13.5-13.8 โวลท์ ถ้ามีค่าต่ำกว่านี้เช่น 12.8-13.4 โวลท์ไดชาร์จเริ่มมีปัญหาคือชาร์จไฟได้ไม่เต็มที่ ถ้าต่ำกว่า12.8 โวลท์แสดงว่าไดชาร์จไม่ชาร์จกระแสไฟฟ้าให้กับแบตเตอริ่ และถ้าต่ำกว่า12 โวลท์ถือว่าขณะนั้นระบบไฟฟ้าในรถดึงกระแสไฟฟ้าแบตเตอรี่มาใช้งานเพียงอย่าง เดียวให้ทำการตรวจซ่อมไดชาร์จ
2.ที่รอบเครื่องยนต์ 2000-2500 รอบต่อนาที จะต้องมีค่าประมาณ13.8-14.7 โวลท์ อาจมากกว่านี้ได้เล็กน้อยแต่ต้องไม่เกิน 15 โวลท์ถ้ามากกว่า 15 โวลท์อาจมีสาเหตุมาจากเรกกูเตอร์(วงจรควบคุมแรงดันของไดชาร์จ)อาจมีปัญหา ผลเสียคือแบตเตอรี่อาจเสื่อมเร็วเพราะถูกชาร์จด้วยแรงดันที่สูงเกิน ทำให้เกิดความร้อนสูงในแบตฯถ้าร้อนมากๆจะทำให้น้ำกลั่นเดือดได้  
ทดสอบว่าไดชาร์จจ่ายกระแสเพียงพอหรือไม่
สามารถวิเคราะห์ได้ดังนี้ทำตามข้อ1และ2 แล้วทำการเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถทุกอย่างเช่นไฟหน้า,แอร์,ที่ปัดน้ำฝน,เครื่อง เสียง ฯลฯ แรงดันที่วัดได้ต้องเหมือนกับค่าปกติในข้อ 1 และ 2 ถ้าค่าที่วัดได้ตกลงมากแสดงว่าไดชาร์จจ่ายกระแสไม่พออาการนี้อาจไม่เกิดขึ้น กับรถเดิมๆแต่จะมีผลในรถที่ติดตั้งเครื่องเสียง แรงๆผลเสียคืออาจทำให้ไดชาร์จทำงานตลอดเวลาทำให้อายุการใช้งานต่ำลง

ขอบคุณข้อมูลจาก http://classified.sanook.com/item/5585418 ค่ะ


หัวข้อ: Re: วัดโวลท์สำคัญยังไง
เริ่มหัวข้อโดย: poky ที่ 08 กันยายน 2009 09:57:52
ประโยชน์ ที่ได้จากการติดโวลท์มิเตอร์ในรถ
วิเคราะห์ระบบไฟฟ้าในรถจากค่าที่อ่านได้จากโวลท์มิเตอร์
- ขณะดับเครื่องค่าควรอยู่ประมาณ  12-12.8 โวลท์ ถ้าต่ำกว่า12 ถือว่าผิดปกติอาจมีสาเหตุมาจากแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม(เก็บไฟไม่อยู่ )หรือไดชาร์จชาร์จไฟได้ไม่เต็มที่(ดูในหัวข้อตรวจสอบไดชาร์จ)
- วิธีตรวจสอบว่าแบตเสื่อมหรือไม่ทดสอบได้โดยหลังจากขับรถปกติมาจอดและดับ เครื่องประมาณ 1 นาทีค่าที่อ่านจากมิเตอร์ต้องมีค่าระหว่าง 12-12.8 โวลท์ หลังจอดไว้(4-6ชั่วโมง)หรือข้ามวันค่าที่อ่านได้ต้องประมาณ 12-12.8 โวลท์ เท่าเดิมถือว่าปกติ ถ้ามีค่าต่ำกว่านี้มากๆเช่น11.5-11.9 แบตเตรี่เริ่มเก็บไฟไม่อยู่แต่ยังพอไหว แต่ถ้าต่ำกว่า 11.5 โวลท์ลงไป ถือว่าอันตรายเพราะถ้าจอดทิ้งสัก 2 วันอาจสตาร์ทไม่ติด(ถ้าอายุแบตเตอรี่ยังใหม่ก็อาจจะเกิดจากมีกระแสไฟฟ้า รั่วลงกราวด์แนะนำเข้าร้านให้ช่างไฟฟ้ารถยนต์ตรวจสอบครับ) ***อายุแบตเตอรี่ทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 18-24 เดือน แล้วแต่การดูแล***
ตรวจสอบไดชาร์จจากการอ่านค่าจากโวลท์มิเตอร์
ให้ทำการติดเครื่องยนต์แล้วอ่านค่าจากโวลท์มิเตอร์ค่าปกติจได้ดังนี้
1.ที่รอบเครื่องยนต์ 1000 รอบต่อนาที(รอบเดินเบา) จะต้องมีค่าประมาณ13.5-13.8 โวลท์ ถ้ามีค่าต่ำกว่านี้เช่น 12.8-13.4 โวลท์ไดชาร์จเริ่มมีปัญหาคือชาร์จไฟได้ไม่เต็มที่ ถ้าต่ำกว่า12.8 โวลท์แสดงว่าไดชาร์จไม่ชาร์จกระแสไฟฟ้าให้กับแบตเตอริ่ และถ้าต่ำกว่า12 โวลท์ถือว่าขณะนั้นระบบไฟฟ้าในรถดึงกระแสไฟฟ้าแบตเตอรี่มาใช้งานเพียงอย่าง เดียวให้ทำการตรวจซ่อมไดชาร์จ
2.ที่รอบเครื่องยนต์ 2000-2500 รอบต่อนาที จะต้องมีค่าประมาณ13.8-14.7 โวลท์ อาจมากกว่านี้ได้เล็กน้อยแต่ต้องไม่เกิน 15 โวลท์ถ้ามากกว่า 15 โวลท์อาจมีสาเหตุมาจากเรกกูเตอร์(วงจรควบคุมแรงดันของไดชาร์จ)อาจมีปัญหา ผลเสียคือแบตเตอรี่อาจเสื่อมเร็วเพราะถูกชาร์จด้วยแรงดันที่สูงเกิน ทำให้เกิดความร้อนสูงในแบตฯถ้าร้อนมากๆจะทำให้น้ำกลั่นเดือดได้ 
ทดสอบว่าไดชาร์จจ่ายกระแสเพียงพอหรือไม่
สามารถวิเคราะห์ได้ดังนี้ทำตามข้อ1และ2 แล้วทำการเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถทุกอย่างเช่นไฟหน้า,แอร์,ที่ปัดน้ำฝน,เครื่อง เสียง ฯลฯ แรงดันที่วัดได้ต้องเหมือนกับค่าปกติในข้อ 1 และ 2 ถ้าค่าที่วัดได้ตกลงมากแสดงว่าไดชาร์จจ่ายกระแสไม่พออาการนี้อาจไม่เกิดขึ้น กับรถเดิมๆแต่จะมีผลในรถที่ติดตั้งเครื่องเสียง แรงๆผลเสียคืออาจทำให้ไดชาร์จทำงานตลอดเวลาทำให้อายุการใช้งานต่ำลง

ขอบคุณข้อมูลจาก http://classified.sanook.com/item/5585418 ค่ะ
:emom


หัวข้อ: Re: วัดโวลท์สำคัญยังไง
เริ่มหัวข้อโดย: yuky ที่ 08 กันยายน 2009 09:59:00
ประโยชน์ ที่ได้จากการติดโวลท์มิเตอร์ในรถ
วิเคราะห์ระบบไฟฟ้าในรถจากค่าที่อ่านได้จากโวลท์มิเตอร์
- ขณะดับเครื่องค่าควรอยู่ประมาณ  12-12.8 โวลท์ ถ้าต่ำกว่า12 ถือว่าผิดปกติอาจมีสาเหตุมาจากแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม(เก็บไฟไม่อยู่ )หรือไดชาร์จชาร์จไฟได้ไม่เต็มที่(ดูในหัวข้อตรวจสอบไดชาร์จ)
- วิธีตรวจสอบว่าแบตเสื่อมหรือไม่ทดสอบได้โดยหลังจากขับรถปกติมาจอดและดับ เครื่องประมาณ 1 นาทีค่าที่อ่านจากมิเตอร์ต้องมีค่าระหว่าง 12-12.8 โวลท์ หลังจอดไว้(4-6ชั่วโมง)หรือข้ามวันค่าที่อ่านได้ต้องประมาณ 12-12.8 โวลท์ เท่าเดิมถือว่าปกติ ถ้ามีค่าต่ำกว่านี้มากๆเช่น11.5-11.9 แบตเตรี่เริ่มเก็บไฟไม่อยู่แต่ยังพอไหว แต่ถ้าต่ำกว่า 11.5 โวลท์ลงไป ถือว่าอันตรายเพราะถ้าจอดทิ้งสัก 2 วันอาจสตาร์ทไม่ติด(ถ้าอายุแบตเตอรี่ยังใหม่ก็อาจจะเกิดจากมีกระแสไฟฟ้า รั่วลงกราวด์แนะนำเข้าร้านให้ช่างไฟฟ้ารถยนต์ตรวจสอบครับ) ***อายุแบตเตอรี่ทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 18-24 เดือน แล้วแต่การดูแล***
ตรวจสอบไดชาร์จจากการอ่านค่าจากโวลท์มิเตอร์
ให้ทำการติดเครื่องยนต์แล้วอ่านค่าจากโวลท์มิเตอร์ค่าปกติจได้ดังนี้
1.ที่รอบเครื่องยนต์ 1000 รอบต่อนาที(รอบเดินเบา) จะต้องมีค่าประมาณ13.5-13.8 โวลท์ ถ้ามีค่าต่ำกว่านี้เช่น 12.8-13.4 โวลท์ไดชาร์จเริ่มมีปัญหาคือชาร์จไฟได้ไม่เต็มที่ ถ้าต่ำกว่า12.8 โวลท์แสดงว่าไดชาร์จไม่ชาร์จกระแสไฟฟ้าให้กับแบตเตอริ่ และถ้าต่ำกว่า12 โวลท์ถือว่าขณะนั้นระบบไฟฟ้าในรถดึงกระแสไฟฟ้าแบตเตอรี่มาใช้งานเพียงอย่าง เดียวให้ทำการตรวจซ่อมไดชาร์จ
2.ที่รอบเครื่องยนต์ 2000-2500 รอบต่อนาที จะต้องมีค่าประมาณ13.8-14.7 โวลท์ อาจมากกว่านี้ได้เล็กน้อยแต่ต้องไม่เกิน 15 โวลท์ถ้ามากกว่า 15 โวลท์อาจมีสาเหตุมาจากเรกกูเตอร์(วงจรควบคุมแรงดันของไดชาร์จ)อาจมีปัญหา ผลเสียคือแบตเตอรี่อาจเสื่อมเร็วเพราะถูกชาร์จด้วยแรงดันที่สูงเกิน ทำให้เกิดความร้อนสูงในแบตฯถ้าร้อนมากๆจะทำให้น้ำกลั่นเดือดได้  
ทดสอบว่าไดชาร์จจ่ายกระแสเพียงพอหรือไม่
สามารถวิเคราะห์ได้ดังนี้ทำตามข้อ1และ2 แล้วทำการเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถทุกอย่างเช่นไฟหน้า,แอร์,ที่ปัดน้ำฝน,เครื่อง เสียง ฯลฯ แรงดันที่วัดได้ต้องเหมือนกับค่าปกติในข้อ 1 และ 2 ถ้าค่าที่วัดได้ตกลงมากแสดงว่าไดชาร์จจ่ายกระแสไม่พออาการนี้อาจไม่เกิดขึ้น กับรถเดิมๆแต่จะมีผลในรถที่ติดตั้งเครื่องเสียง แรงๆผลเสียคืออาจทำให้ไดชาร์จทำงานตลอดเวลาทำให้อายุการใช้งานต่ำลง

ขอบคุณข้อมูลจาก http://classified.sanook.com/item/5585418 ค่ะ


ด้านบนชัดเจนคับ
ผมก็ติดคับใว้ดูว่าแบตฯและไดชาร์ตทำงานปกติหรือไม่
ใว้กันกินข้าวลิงคับ


หัวข้อ: Re: วัดโวลท์สำคัญยังไง
เริ่มหัวข้อโดย: natti_ae92_LN.Z ที่ 08 กันยายน 2009 12:35:52
แล้วถ้า เปิดไฟเลี้ยวแล้ว เข็มกระดิก ละ ปกติไหมครับ


หัวข้อ: Re: วัดโวลท์สำคัญยังไง
เริ่มหัวข้อโดย: Night54 ที่ 08 กันยายน 2009 12:41:42
ขอผมก้อกระดิกเหมือนกัน แต่ว่าแบตผม2ปีแล้ว ตามอายุแบตแล้ว ใกล้ได้เวลาเปลี่ยนแล้วซิ แหะหๆ


หัวข้อ: Re: วัดโวลท์สำคัญยังไง
เริ่มหัวข้อโดย: ~ Funky_nu_NoO : ที่ 08 กันยายน 2009 15:05:12
แล้วถ้า เปิดไฟเลี้ยวแล้ว เข็มกระดิก ละ ปกติไหมครับ

ปกติครับแต่จะกระดิกไม่ค่อยมาก เพราะไฟเลี้ยวกระพริบ 1 ครั้งเท่ากับไฟ 3 หลอดกระพริบพร้อมกัน ย่อมมีผลบ้างล่ะกินหลายวัตต์อยู่ (ไฟหน้าปัด, ไฟเลี้ยวหน้า, ไฟเลี้ยวท้าย บางคนมีที่แก้มอีก) ถ้าเปิดไฟฉุกเฉินอันนี้แกว่งเห็นๆ ครับ

...........................................

ส่วนเรื่องสำคัญไม๊ มีไว้มันก็ดีอ่ะครับ ไว้ดูค่าโวลท์ของแบตว่ามีพอให้สตาร์ทรถรึเปล่า หรือระหว่างขับอยู่ไดชาร์จป้อนไฟเข้าแบตปกติหรือไม่ บางท่านชอบดับเครื่องเปิดวิทยุนอนดูหนังฟังเพลงพอจะสตาร์ทรถดันไม่ติดต้องลำบากคนอื่นให้เข็นให้พ่วงแบตก็มีเยอะ ก็เพราะไม่มีเครื่องมือให้เช็คว่าไฟเหลืออยู่เท่าไหร่ หรือบางคนเชื่อว่าไดจะอยู่ยงคงกระพัน พอมีปัญหาขึ้นมาทีก็ร้อนๆ หนาวๆ เพราะไม่รู้เกิดปัญหาที่จุดไหน บางคนเปลี่ยนไดทั้งลูกเป็นพันทั้งที่แค่เปลี่ยนถ่านได 300 ก็หายแล้ว หรือบางคนแค่แบตเสื่อมแต่โดนช่างหลอกให้รื้อระบบไฟจ่ายกันบานและไม่มีรถขับหลายวัน ตอนรับรถพร้อมรับบิลก็แทบหงาย ล้วนมีตัวอย่างให้เห็นประปรายครับ

การมีเครื่องมือพวกนี้ช่วยไว้ ถ้าเงินพอเหลือบ้างก็เลือกเฉพาะตัวสำคัญมาติดไว้ก็ไม่เสียหายครับ ส่วนรูปแบบก็มีหลากหลายขึ้นอยู่กับประโยชน์ใช้สอยและความชอบครับ มีทั้งเป็นเกจ์ตั้ง และวัดแบบดิจิตอล (ผมชอบอย่างหลังมากกว่าเพราะละเอียดดี รวมถึงเราเลือกได้ว่าจะดูหรือไม่ดูก็แค่ปิดสวิตช์เท่านั้น) ก็เลยเอามาขายซะเลย ถูกกว่าแบบเกจ์ด้วยอ่ะครับ :emoa

มีข้อมูลอยู่ที่ทู้นี้ --->  http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=49386.0


หัวข้อ: Re: วัดโวลท์สำคัญยังไง
เริ่มหัวข้อโดย: smilegames ที่ 08 กันยายน 2009 21:00:25
ประโยชน์ ที่ได้จากการติดโวลท์มิเตอร์ในรถ
วิเคราะห์ระบบไฟฟ้าในรถจากค่าที่อ่านได้จากโวลท์มิเตอร์
- ขณะดับเครื่องค่าควรอยู่ประมาณ  12-12.8 โวลท์ ถ้าต่ำกว่า12 ถือว่าผิดปกติอาจมีสาเหตุมาจากแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม(เก็บไฟไม่อยู่ )หรือไดชาร์จชาร์จไฟได้ไม่เต็มที่(ดูในหัวข้อตรวจสอบไดชาร์จ)
- วิธีตรวจสอบว่าแบตเสื่อมหรือไม่ทดสอบได้โดยหลังจากขับรถปกติมาจอดและดับ เครื่องประมาณ 1 นาทีค่าที่อ่านจากมิเตอร์ต้องมีค่าระหว่าง 12-12.8 โวลท์ หลังจอดไว้(4-6ชั่วโมง)หรือข้ามวันค่าที่อ่านได้ต้องประมาณ 12-12.8 โวลท์ เท่าเดิมถือว่าปกติ ถ้ามีค่าต่ำกว่านี้มากๆเช่น11.5-11.9 แบตเตรี่เริ่มเก็บไฟไม่อยู่แต่ยังพอไหว แต่ถ้าต่ำกว่า 11.5 โวลท์ลงไป ถือว่าอันตรายเพราะถ้าจอดทิ้งสัก 2 วันอาจสตาร์ทไม่ติด(ถ้าอายุแบตเตอรี่ยังใหม่ก็อาจจะเกิดจากมีกระแสไฟฟ้า รั่วลงกราวด์แนะนำเข้าร้านให้ช่างไฟฟ้ารถยนต์ตรวจสอบครับ) ***อายุแบตเตอรี่ทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 18-24 เดือน แล้วแต่การดูแล***
ตรวจสอบไดชาร์จจากการอ่านค่าจากโวลท์มิเตอร์
ให้ทำการติดเครื่องยนต์แล้วอ่านค่าจากโวลท์มิเตอร์ค่าปกติจได้ดังนี้
1.ที่รอบเครื่องยนต์ 1000 รอบต่อนาที(รอบเดินเบา) จะต้องมีค่าประมาณ13.5-13.8 โวลท์ ถ้ามีค่าต่ำกว่านี้เช่น 12.8-13.4 โวลท์ไดชาร์จเริ่มมีปัญหาคือชาร์จไฟได้ไม่เต็มที่ ถ้าต่ำกว่า12.8 โวลท์แสดงว่าไดชาร์จไม่ชาร์จกระแสไฟฟ้าให้กับแบตเตอริ่ และถ้าต่ำกว่า12 โวลท์ถือว่าขณะนั้นระบบไฟฟ้าในรถดึงกระแสไฟฟ้าแบตเตอรี่มาใช้งานเพียงอย่าง เดียวให้ทำการตรวจซ่อมไดชาร์จ
2.ที่รอบเครื่องยนต์ 2000-2500 รอบต่อนาที จะต้องมีค่าประมาณ13.8-14.7 โวลท์ อาจมากกว่านี้ได้เล็กน้อยแต่ต้องไม่เกิน 15 โวลท์ถ้ามากกว่า 15 โวลท์อาจมีสาเหตุมาจากเรกกูเตอร์(วงจรควบคุมแรงดันของไดชาร์จ)อาจมีปัญหา ผลเสียคือแบตเตอรี่อาจเสื่อมเร็วเพราะถูกชาร์จด้วยแรงดันที่สูงเกิน ทำให้เกิดความร้อนสูงในแบตฯถ้าร้อนมากๆจะทำให้น้ำกลั่นเดือดได้ 
ทดสอบว่าไดชาร์จจ่ายกระแสเพียงพอหรือไม่
สามารถวิเคราะห์ได้ดังนี้ทำตามข้อ1และ2 แล้วทำการเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถทุกอย่างเช่นไฟหน้า,แอร์,ที่ปัดน้ำฝน,เครื่อง เสียง ฯลฯ แรงดันที่วัดได้ต้องเหมือนกับค่าปกติในข้อ 1 และ 2 ถ้าค่าที่วัดได้ตกลงมากแสดงว่าไดชาร์จจ่ายกระแสไม่พออาการนี้อาจไม่เกิดขึ้น กับรถเดิมๆแต่จะมีผลในรถที่ติดตั้งเครื่องเสียง แรงๆผลเสียคืออาจทำให้ไดชาร์จทำงานตลอดเวลาทำให้อายุการใช้งานต่ำลง

ขอบคุณข้อมูลจาก http://classified.sanook.com/item/5585418 ค่ะ
ความรู้สุดๆ


หัวข้อ: Re: วัดโวลท์สำคัญยังไง
เริ่มหัวข้อโดย: jedee ที่ 09 กันยายน 2009 06:03:24
ประโยชน์ ที่ได้จากการติดโวลท์มิเตอร์ในรถ
วิเคราะห์ระบบไฟฟ้าในรถจากค่าที่อ่านได้จากโวลท์มิเตอร์
- ขณะดับเครื่องค่าควรอยู่ประมาณ  12-12.8 โวลท์ ถ้าต่ำกว่า12 ถือว่าผิดปกติอาจมีสาเหตุมาจากแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม(เก็บไฟไม่อยู่ )หรือไดชาร์จชาร์จไฟได้ไม่เต็มที่(ดูในหัวข้อตรวจสอบไดชาร์จ)
- วิธีตรวจสอบว่าแบตเสื่อมหรือไม่ทดสอบได้โดยหลังจากขับรถปกติมาจอดและดับ เครื่องประมาณ 1 นาทีค่าที่อ่านจากมิเตอร์ต้องมีค่าระหว่าง 12-12.8 โวลท์ หลังจอดไว้(4-6ชั่วโมง)หรือข้ามวันค่าที่อ่านได้ต้องประมาณ 12-12.8 โวลท์ เท่าเดิมถือว่าปกติ ถ้ามีค่าต่ำกว่านี้มากๆเช่น11.5-11.9 แบตเตรี่เริ่มเก็บไฟไม่อยู่แต่ยังพอไหว แต่ถ้าต่ำกว่า 11.5 โวลท์ลงไป ถือว่าอันตรายเพราะถ้าจอดทิ้งสัก 2 วันอาจสตาร์ทไม่ติด(ถ้าอายุแบตเตอรี่ยังใหม่ก็อาจจะเกิดจากมีกระแสไฟฟ้า รั่วลงกราวด์แนะนำเข้าร้านให้ช่างไฟฟ้ารถยนต์ตรวจสอบครับ) ***อายุแบตเตอรี่ทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 18-24 เดือน แล้วแต่การดูแล***
ตรวจสอบไดชาร์จจากการอ่านค่าจากโวลท์มิเตอร์
ให้ทำการติดเครื่องยนต์แล้วอ่านค่าจากโวลท์มิเตอร์ค่าปกติจได้ดังนี้
1.ที่รอบเครื่องยนต์ 1000 รอบต่อนาที(รอบเดินเบา) จะต้องมีค่าประมาณ13.5-13.8 โวลท์ ถ้ามีค่าต่ำกว่านี้เช่น 12.8-13.4 โวลท์ไดชาร์จเริ่มมีปัญหาคือชาร์จไฟได้ไม่เต็มที่ ถ้าต่ำกว่า12.8 โวลท์แสดงว่าไดชาร์จไม่ชาร์จกระแสไฟฟ้าให้กับแบตเตอริ่ และถ้าต่ำกว่า12 โวลท์ถือว่าขณะนั้นระบบไฟฟ้าในรถดึงกระแสไฟฟ้าแบตเตอรี่มาใช้งานเพียงอย่าง เดียวให้ทำการตรวจซ่อมไดชาร์จ
2.ที่รอบเครื่องยนต์ 2000-2500 รอบต่อนาที จะต้องมีค่าประมาณ13.8-14.7 โวลท์ อาจมากกว่านี้ได้เล็กน้อยแต่ต้องไม่เกิน 15 โวลท์ถ้ามากกว่า 15 โวลท์อาจมีสาเหตุมาจากเรกกูเตอร์(วงจรควบคุมแรงดันของไดชาร์จ)อาจมีปัญหา ผลเสียคือแบตเตอรี่อาจเสื่อมเร็วเพราะถูกชาร์จด้วยแรงดันที่สูงเกิน ทำให้เกิดความร้อนสูงในแบตฯถ้าร้อนมากๆจะทำให้น้ำกลั่นเดือดได้ 
ทดสอบว่าไดชาร์จจ่ายกระแสเพียงพอหรือไม่
สามารถวิเคราะห์ได้ดังนี้ทำตามข้อ1และ2 แล้วทำการเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถทุกอย่างเช่นไฟหน้า,แอร์,ที่ปัดน้ำฝน,เครื่อง เสียง ฯลฯ แรงดันที่วัดได้ต้องเหมือนกับค่าปกติในข้อ 1 และ 2 ถ้าค่าที่วัดได้ตกลงมากแสดงว่าไดชาร์จจ่ายกระแสไม่พออาการนี้อาจไม่เกิดขึ้น กับรถเดิมๆแต่จะมีผลในรถที่ติดตั้งเครื่องเสียง แรงๆผลเสียคืออาจทำให้ไดชาร์จทำงานตลอดเวลาทำให้อายุการใช้งานต่ำลง

ขอบคุณข้อมูลจาก http://classified.sanook.com/item/5585418 ค่ะ

 :emom :emom :emom :emo2 :emotn


หัวข้อ: Re: วัดโวลท์สำคัญยังไง
เริ่มหัวข้อโดย: khan_ae++101++ ที่ 09 กันยายน 2009 09:39:27
ขอบคุณครับ :emotn


หัวข้อ: Re: วัดโวลท์สำคัญยังไง
เริ่มหัวข้อโดย: katawutc ที่ 09 กันยายน 2009 10:51:09
ประโยชน์ ที่ได้จากการติดโวลท์มิเตอร์ในรถ
วิเคราะห์ระบบไฟฟ้าในรถจากค่าที่อ่านได้จากโวลท์มิเตอร์
- ขณะดับเครื่องค่าควรอยู่ประมาณ  12-12.8 โวลท์ ถ้าต่ำกว่า12 ถือว่าผิดปกติอาจมีสาเหตุมาจากแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม(เก็บไฟไม่อยู่ )หรือไดชาร์จชาร์จไฟได้ไม่เต็มที่(ดูในหัวข้อตรวจสอบไดชาร์จ)
- วิธีตรวจสอบว่าแบตเสื่อมหรือไม่ทดสอบได้โดยหลังจากขับรถปกติมาจอดและดับ เครื่องประมาณ 1 นาทีค่าที่อ่านจากมิเตอร์ต้องมีค่าระหว่าง 12-12.8 โวลท์ หลังจอดไว้(4-6ชั่วโมง)หรือข้ามวันค่าที่อ่านได้ต้องประมาณ 12-12.8 โวลท์ เท่าเดิมถือว่าปกติ ถ้ามีค่าต่ำกว่านี้มากๆเช่น11.5-11.9 แบตเตรี่เริ่มเก็บไฟไม่อยู่แต่ยังพอไหว แต่ถ้าต่ำกว่า 11.5 โวลท์ลงไป ถือว่าอันตรายเพราะถ้าจอดทิ้งสัก 2 วันอาจสตาร์ทไม่ติด(ถ้าอายุแบตเตอรี่ยังใหม่ก็อาจจะเกิดจากมีกระแสไฟฟ้า รั่วลงกราวด์แนะนำเข้าร้านให้ช่างไฟฟ้ารถยนต์ตรวจสอบครับ) ***อายุแบตเตอรี่ทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 18-24 เดือน แล้วแต่การดูแล***
ตรวจสอบไดชาร์จจากการอ่านค่าจากโวลท์มิเตอร์
ให้ทำการติดเครื่องยนต์แล้วอ่านค่าจากโวลท์มิเตอร์ค่าปกติจได้ดังนี้
1.ที่รอบเครื่องยนต์ 1000 รอบต่อนาที(รอบเดินเบา) จะต้องมีค่าประมาณ13.5-13.8 โวลท์ ถ้ามีค่าต่ำกว่านี้เช่น 12.8-13.4 โวลท์ไดชาร์จเริ่มมีปัญหาคือชาร์จไฟได้ไม่เต็มที่ ถ้าต่ำกว่า12.8 โวลท์แสดงว่าไดชาร์จไม่ชาร์จกระแสไฟฟ้าให้กับแบตเตอริ่ และถ้าต่ำกว่า12 โวลท์ถือว่าขณะนั้นระบบไฟฟ้าในรถดึงกระแสไฟฟ้าแบตเตอรี่มาใช้งานเพียงอย่าง เดียวให้ทำการตรวจซ่อมไดชาร์จ
2.ที่รอบเครื่องยนต์ 2000-2500 รอบต่อนาที จะต้องมีค่าประมาณ13.8-14.7 โวลท์ อาจมากกว่านี้ได้เล็กน้อยแต่ต้องไม่เกิน 15 โวลท์ถ้ามากกว่า 15 โวลท์อาจมีสาเหตุมาจากเรกกูเตอร์(วงจรควบคุมแรงดันของไดชาร์จ)อาจมีปัญหา ผลเสียคือแบตเตอรี่อาจเสื่อมเร็วเพราะถูกชาร์จด้วยแรงดันที่สูงเกิน ทำให้เกิดความร้อนสูงในแบตฯถ้าร้อนมากๆจะทำให้น้ำกลั่นเดือดได้ 
ทดสอบว่าไดชาร์จจ่ายกระแสเพียงพอหรือไม่
สามารถวิเคราะห์ได้ดังนี้ทำตามข้อ1และ2 แล้วทำการเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถทุกอย่างเช่นไฟหน้า,แอร์,ที่ปัดน้ำฝน,เครื่อง เสียง ฯลฯ แรงดันที่วัดได้ต้องเหมือนกับค่าปกติในข้อ 1 และ 2 ถ้าค่าที่วัดได้ตกลงมากแสดงว่าไดชาร์จจ่ายกระแสไม่พออาการนี้อาจไม่เกิดขึ้น กับรถเดิมๆแต่จะมีผลในรถที่ติดตั้งเครื่องเสียง แรงๆผลเสียคืออาจทำให้ไดชาร์จทำงานตลอดเวลาทำให้อายุการใช้งานต่ำลง

ขอบคุณข้อมูลจาก http://classified.sanook.com/item/5585418 ค่ะ
ชัดเจนครับ