หัวข้อ: เกรดความรู้ว่ะ (อย่างน้อยก้น่าจะใช่) เริ่มหัวข้อโดย: boy92 ที่ 22 กันยายน 2552 17:10:23 คำว่า 'พระเจ้าเหา' นี้ใช้อ้างอิงกันบ่อยมากในกรณีที่ผู้พูดต้องการเน้นว่าเรื่องที่ตนพูดเป็นเรื่องโบราณเต็มที แต่มักไม่ใคร่มีใครทราบว่าพระเจ้าเหานั้นมีองค์หรือเรื่องราวปรากฏอยู่จริงหรือไม่ ซึ่งคำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ 'ซองคำถาม' ได้ค้นพบเรื่องราวของพระเจ้าเหาจากหนังสือของอาจารย์สมบัติ พลายน้อย ซึ่งกล่าวไว้ว่า หลวงจีนเย็นเกียรติ (ลิขิต ฮุนตระกูล) เป็นผู้สืบสวนค้นคว้าพระราชประวัติของพระเจ้าเหาขึ้นมาได้ โดยเขียนเล่าไว้ในหนังสือประวัติการสัมพันธ์ระหว่างชาติไทยกับชาติจีน ฉบับพิมพ์เมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๐๙ ความว่า พระเจ้าเสียวเหา หรือพระเจ้าเหา (น้อย) เป็นพระราชโอรสของพระเจ้าหว่างตี้ราชวงศ์ที่ ๑ ปฐมกษัตริย์ของจีนครองราชย์ ๒๑๕๔ ถึง ๒๐๕๕ ปีก่อนพ.ศ. อยู่ในราชสมบัติ ๑๐๐ ปี
มีพระอัครชายา ๕ องค์ พระนางชีเลงสีพระมารดาพระเจ้าเหา (น้อย) เป็นพระอัครชายาที่ ๑ มีพระโอรส ๓ องค์ คือ ๑. ชังฮี ๒. พระเจ้าเหา (น้อย) ๓. หล่งเมี้ยว พระเจ้าเสียวเหาหรือพระเจ้าเหา (น้อย) เป็นพระราชโอรสอันดับองค์ที่ ๒ พระองค์ขึ้นครองราชย์สมบัติเมื่อปีมะโรง ๒๐๕๔ ปีก่อนพ.ศ. และสวรรคตเมื่อปีเถาะ ๑๙๗๑ ปีก่อนพ.ศ. พระองค์เป็นต้นตระกูลไทย ในบันทึกประวัติศาสตร์จีนมีชัดแจ้งอยู่ว่าเชื้อพระวงศ์พระเจ้าเหานี้ได้รับพระราชทานตราตั้งราชตระกูล 'ไทยไทย' เป็นฐานันดรศักดิ์ประจำตระกูล ฉะนั้นพระเจ้าเหาจึงนับว่าทรงเป็นต้นตระกูลไทย... สุดตีน ไม่เคยรู้มาก่อน... หัวข้อ: Re: เกร็ดความรู้ว่ะ (อย่างน้อยก้น่าจะใช่) เริ่มหัวข้อโดย: boy92 ที่ 22 กันยายน 2552 17:15:30 ใครที่ต้องขับรถขณะน้ำท่วม แต่ไม่รู้ว่าจะทำยังไง
- ห้ามเปิดแอร์เด็ดขาด สาเหตุที่รถดับส่วนใหญ่เกิดจากการเปิดแอร์แล้วขับลุยน้ำ เพราะเมื่อเปิดแอร์ พัดลมจะทำงาน ทำให้ใบพัดจะพัดให้น้ำกระจายไปทั่วห้องเครื่อง แล้วทำให้เครื่องดับ - ควรใช้เกียร์ต่ำ สำหรับเกียร์ธรรมดา ควรใช้ประมาณเกียร์ 2 หรือสำหรับออโต้ก็ใช้เกียร์ L ก็ได้ รวมถึงการขับขี่ที่มีความเร็วต่ำที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ และควรใช้ความเร็วสม่ำเสมอ อย่าหยุดอย่าเร่งความเร็วขึ้น - ไม่ควรเร่งเครื่องให้รอบสูง ๆ เพราะจะทำให้รถมีความร้อนสูงขึ้น เมื่อเครื่องมีความร้อนสูงขึ้น ใบพัดระบายความร้อนก็จะทำงานหนัก ไม่ต้องกลัวว่าน้ำจะเข้าท่อไอเสีย เพราะต่อให้น้ำท่วมท่อไอเสีย แล้วสตาร์ทรถอยู่ที่รอบเดินเบา แรงดันที่ออกมาเพียงพอที่จะดันน้ำออกมาอย่างสบาย ๆ ต่อให้จอดรถทิ้งไว้จนน้ำท่วมท่อไอเสีย เมื่อสตาร์ทรถก็ยังติดแน่นอน สำหรับเครื่องหัวฉีด - ควรลดความเร็วลง เมื่อขับรถสวนกับอีกคันที่กำลังขับมา เพราะไม่งั้นจะกลายเป็นคลื่นชนคลื่น ซึ่งน้ำที่ปะทะระหว่างรถอาจทำให้กระเด็นไปทำอันตรายต่ออุปกรณ์ภายในได้ หลังจากลุยน้ำลึกมา สิ่งที่ควรทำ คือ พยายามย้ำเบรกเพื่อไล่น้ำ เพราะในช่วงแรก ๆ หลังจากการลุยน้ำลึกมา จะเบรกไม่อยู่และเป็นอันตรายมาก เย้ๆๆๆๆๆๆ หัวข้อ: Re: เกรดความรู้ว่ะ (อย่างน้อยก้น่าจะใช่) เริ่มหัวข้อโดย: boy92 ที่ 22 กันยายน 2552 17:35:38 แน่นอนว่าทุกคนย่อมรู้ดีถึงความแตกต่างของคนและสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์สี่เท้าที่หลายๆประเภทมักจะถูกหยิบยกมาเปรียบเทียบเชิงต่อว่าต่อขานกับคนอยู่บ่อยครั้ง แตทว่าในวันนี้ทางทีมงานของนำข้อดีของสัตว์ 4
ประเภทมาเป็นตัวอย่างในการทำงาน เพื่อให้เป็นกำลังใจและแนวทางในการทำงานต่อไป ทั้งนี้สัตว์ทั้ง 4 ประเภทที่คุณๆทั้งหลายควรนำไปเป็นแนวทางเพื่อนการทำงานให้มีประสทธิภาพนั้น คือ อูฐ ปลา สุนัขและควาย โดยแยกลักษณะเด่นของทั้ง 4 ได้ดังนี้ 1. จงเป็นเหมือนอูฐ อูฐ สัตว์สี่เท้า ที่มีความอดทนเป็นเลิศ สามารถอยู่ในอากาศร้อนในทะเลทราย และอากาศหนาวในยามค่ำคืน ซึ่งหากเปรียบกับการทำงานแล้วก็หมายถึง รู้จักใช้ความอดทน อดกลั้นต่อการทำงานในภาวะความกดดันต่าง ๆ วิธีนี้จะทำให้ความสัมพันธ์กับเจ้านายและผู้ร่วมงานเป็นไปอย่างราบรื่น 2. จงเป็นเหมือนปลา ปลา สัตว์น้ำที่มีความว่องไวสูง มีความนิ่งเมื่ออยู่ในน้ำ ไม่ว่าน้ำจะไหลแรงปลาก็สามารถ อยู่นิ่งได้ตลอดเวลา และหากจะเปรียบกับการทำงานก็หมายถึง รู้จักการนิ่ง ๆ ไม่พูดเสียบ้าง เลือกที่จะเจรจาหาความในเรื่องที่สร้างสรรค์ อย่าคิดอะไรก็พูดหมด..เสมือนคิดในใจไม่เป็น 3. จงเป็นเหมือนสุนัข สุนัข สัตว์สี่เท้า ที่อยู่ใกล้ชิดกับมนุษย์เรามากที่สุด และที่สำคัญสุนัขจะรักเจ้าของของมันตลอด มีความซื่อสัตย์ต่อเจ้านายเสมอไม่เคยเปลี่ยน....หลักของการทำงานให้เหมือนสุนัขก็คือ จงรู้จักซื่อสัตย์สุจริตต่อกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นเจ้านายหรือเพื่อนร่วมงาน ซึ่งจะเป็นผลดีทำให้การทำงานของคุณก้าวหน้าสู่ความสำเร็จได้...ตลอดจนปกป้องภัยให้แก่กันและกัน และจะทำให้ความสัมพันธ์ยาวนาน และปลอดภัยจากอันตรายทั้งหลาย 4. จงเป็นเหมือนควาย ควาย สัตว์ที่ซื่อ สัตว์ที่ใช้แรงงาน และมักจะถูกเรียกเป็นตัวแทนความโง่เขลา....หากจะเปรียบเพื่อนำมาใช้ในการทำงานให้ประสบความสำเร็จแล้วก็หมายถึง การทำงาน บางครั้งก็ต้องทำโง่บ้าง ต้องหัดต้องฝึกฟังอีกฝ่ายหนึ่ง ถึงแม้ว่าเรื่องนั้นเรารู้แล้วก็ตาม....อย่าทำเป็นคนฉลาดมากนัก....ต้องเก็บเกี่ยวความคิดเห็นของผู้อื่นบ้าง ในการทำงานนั้นเราต้องเลือกใช้เทคนิคต่าง ๆ ให้เหมาะสม ไม่ได้หมายความว่าให้เราทำตัวเป็นคนอื่น แต่ในบางสถานการณ์เราก็ต้องปฏิบัติตัวในแนวทางที่ต่างออกไปเพื่อความสำเร็จและความเจริญก้าวหน้าใน การทำงาน เพราะหากเราไม่ปรับตัวแล้วย่อมไม่สามารถที่จะทำงานร่วมกันกับผู้อื่นได้ อยากเป็นอะไรก็เลือกเอา ของเป็นคนดีของทุกคนก็พอ แค่นี้ก็มีความสุขและ ย๊ากกกกกก หัวข้อ: Re: เกรดความรู้ว่ะ (อย่างน้อยก้น่าจะใช่) เริ่มหัวข้อโดย: boy92 ที่ 22 กันยายน 2552 17:49:31 ในบุหรี่ 1 มวนประกอบด้วย
butane-บิวเทน เป็นสารระเหยความดันไอต่ำ cadmium-แคดเมียม สารประกอบในถ่านไฟฉาย stearic acid-กรดสเตียริก ที่เขาเอามาทำเทียนไข hexamine-เฮกซะมีน เป็นก้อนเชื้อเพลิงเอาไว้จุดทำบาบีคิว toluene-โทลูอีน ใช้เป็นตัวทำละลายในอุตสาหกรรมเคมี nicotine-นิโคติน เป็นสารฆ่าแมลงได้ ammonia-แอมโมเนีย สารฆ่าเชื้อโรคในน้ำนาล้างห้องน้ำ methanol-เมธานอล เป็นสารเชื้อเพลิงจรวด carbonmonoxide-คาร์บอนมอนน๊อกไซด์ สารที่ได้จากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ของเครื่องยนต์ arsenic-อาร์เซนิก เป็นสารพิษ ถ้าจำไม่ผิดคิดว่าเป็นสารหนูค่ะ) methane-มีเทน องค์ประกอบก๊าซหุงต้ม acetic acid-กรดอะซิติก กรดน้ำส้ม หัวข้อ: Re: เกรดความรู้ว่ะ (อย่างน้อยก้น่าจะใช่) เริ่มหัวข้อโดย: landslots รัก ในหลวง ที่ 22 กันยายน 2552 17:57:22 เออ......เด่วมาอ่านพรุ่งนี้ กลับบ้านแระ
หัวข้อ: Re: เกรดความรู้ว่ะ (อย่างน้อยก้น่าจะใช่) เริ่มหัวข้อโดย: boy92 ที่ 22 กันยายน 2552 18:00:03 16 ข้อเพื่อชีวิตรักลงตัวภายใน 9 เดือน
1. อย่าเปลี่ยนเขา แต่เปลี่ยนตัวคุณเอง ถ้าเขาทำอะไรให้คุณไม่ชอบใจชนิดรับกันไม่ได้จริงๆ ลองบอกสิ่งนั้นให้เขาฟัง แต่อย่าใช้น้ำเสียงโมโหโกรธาหรือตั้งท่าจะราวี 2. อย่าตามใจตัวเองมากเกินงาม บางครั้งคุณจำเป็นต้องปฏิบัติไปตามกฎของคนที่คุณรักบ้าง ไม่ควรทำอะไรตามแต่ใจตัวเอง และย่าลืมว่า คุณกำลังใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ไม่ได้เป็นโสดอีกต่อไปแล้ว 3. จูนทัศนคติเข้าหากัน ไม่ว่าคุณจะมีความเป็นตัวเองสูงมากน้อยเพียงใด ถ้าต้องอยู่กับใครสักคนขึ้นมา คุณต้องรู้จักปรับ-เปลี่ยนทัศนคติ, ความคิดและการแสวงหาความสุขแบบเดิมๆ มาเป็นในลักษณะที่มนุษย์ 2 คนทำร่วมกันได้แล้วจะรู้ว่า ชีวิตยังมีเรื่องสนุกให้ตักตวงไปพร้อมๆ กันอีกหลายอย่าง 4. ดูแลตัวเอง ระลึกอยู่เสมอว่า คุณเป็นคนควบคุมชีวิตของตัวเอง จะทำสวยหรือโปรยเสน่ห์ให้เขาหลง ก็ขึ้นอยู่กับคุณเองนั่นแหละ ว่าจะหมั่นทำตัวเซ็กซี่หรือปล่อยเป็นพะโล้ไม่น่าชวนมอง 5. แบ่งปันซึ่งกันและกัน เมื่อตัดสินใจลงเรือลำเดียวกันแล้ว ทั้งคู่ก็ควรคุยถึงเรื่องที่ดีและไม่ดี ให้กันและกันฟังอยู่เสมอ ไม่ควรเก็บเรื่องใดเรื่องหนึ่งไปคิดอยู่เพียงคนเดียว หรือมีความลับปิดบังกัน 6. ดูแลใจ บางครั้งก็ต้องเป็นหมอ (จิตแพทย์) ที่รักษาเรื่องบาดหมางระหว่างกัน 7. พูดให้น้อย ทำให้มาก หมายถึงหมั่นแสดงความรักต่อเขา และควรคำนึงอยู่เสมอว่า คำพูดกับการสัมผัสนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ดังนั้นการที่คนสองคนได้กอดกันบ้าง หรือสัมผัสเพื่อให้กำลังใจและแสดง ความรักที่มีต่อกันบ้าง ก็เปรียบเสมือนชูรสชนิดหนึ่งที่ทำให้รักไปจำเจ 8. รักในข้อบกพร่องของคนที่เรารัก นั่นคือทั้งสองฝ่ายควรยอมรับและให้เกียรติในความเป็นตัวของเขา อีกทั้งเข้าใจและรู้จักให้อภัยไปพร้อมๆกันด้วย 9. เรื่องเล็กๆอย่าทำเป็นเรื่องใหญ่ ทำใจให้ได้ว่า ผู้ชายไม่ชอบเรื่องหยุมหยิมของภรรยาเหมือนกันทุกคน 10. เข้าใจธรรมชาติ ผู้ชายจะต่างกันในเรื่องการเอาใจใส่ภรรยาที่อาจดูน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการที่ผู้หญิงจะใส่ใจดูและสามี ซึ่งสิ่งนี้ก็เป็นธรรมชาติที่ผู้หญิงควรทำความเข้าใจอีกประการหนึ่ง 11. ปล่อยวางกับเรื่องหยุมหยิม อย่ากังวลกับเรื่องจุกจิกมากเกินไป เช่น บางคู่แม้แต่ยาสีฟันยังใช้คนละยี่ห้อ จึงเสนอวิธีคลี่คลายปัญหาซื้อมันเสียทั้ง 2 ยี่ห้อนั่นแหละ จะได้ไม่ต้องพะวงว่า ควรซื้อยี่ห้อไหนดี 12. ไร้ความงี่เง่า ไร้ความร้าวฉาน ถ้าจำเป็นต้องมีปากเสียงกัน ให้เลือกทะเลาะในเรื่องที่ฉลาดๆ หน่อย อย่าลืมว่า ความคิดต่างกันไม่ได้หมายความว่า เราไม่รักกัน 13. ปัญหามักมีทางออกเสมอ คนที่ต้องใช้ชีวิตร่วมกัน ไม่ว่าจะเจออุปสรรคใดๆก็ตาม ควรท่องไว้ว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มักมีทางออกสำหรับข้อขัดแย้งทั้งปวงเสมอขอแค่เยงค่อยๆคิดค่อยๆทำ และคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน 14. ให้เกียติกันและกัน อยากจะรักกันนานๆ ควรปฏิบัติต่อกันอย่างให้เกียรติและนุ่มนวล 15. อย่าวาดฝันถึงครอบครัวในฝัน อย่าสับสนว่า ชีวิตสมรสจะเหมือนการออกเดท เพราะมีอีกหลายอย่างที่คุณต้องฟันฝ่าอุปสรรคร่วมกัน 16.อย่าออกคำสั่งบ่อยเกิน ไม่ว่าจะเป็นสามีหรือภรรยา การที่มาใช้ชีวิตร่วมกันควรมีน้ำใจให้กันและกัน อย่ามัวแต่ออกคำสั่ง ชี้นิ้วตลอดเวลา เพราะคงไม่มีใครชอบให้คนอื่นมาชี้นิ้วสั่งทุกครั้งไป เอ้า ขอให้รักนี้ยืนยาว นานแสนนาน ตราบสิ้นลมหายใจ และจนจากกันไกล หัวข้อ: Re: เกรดความรู้ว่ะ (อย่างน้อยก้น่าจะใช่) เริ่มหัวข้อโดย: boy92 ที่ 22 กันยายน 2552 18:09:20 โรคหวัด หรือ เรียกอีกอย่างว่า โพรงจมูกอักเสบจากการติดเชื้อ สาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัส ที่กระจายอยู่เป็นร้อย ๆ ชนิดในอากาศ ทุกวันเราต้องสัมผัสกับเจ้าไวรัสพวกนี้อยู่บ้าง แต่เนื่องจากร่างกายของเรามีภูมิต้าน
ทาน และสภาวะแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมต่อการแบ่งตัวของเชื้อไวรัส ทำให้เชื้อไวรัสไม่สามารถทำอะไรเราได้ แต่ถ้าวันไหนท้องฟ้ามืดครึ้ม มีลมแรง พัดไวรัสให้ฟุ้งกระจาย และเราอยู่ในบริเวณนั้นก่อนที่ฝนใกล้จะตก โอกาสที่จะสัมผัสไวรัสก็มีมากขึ้น หรือถ้าโชคร้ายกว่านั้น คือ เราตากฝน ทำให้ศีรษะเปียกชื้น จะทำให้อุณหภูมิ ที่บริเวณเยื่อบุจมูกลดต่ำลงประมาณ 1-2 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิระดับนี้เหมาะสมที่สุดสำหรับการแบ่งตัวของเชื้อไวรัสที่ตกค้างอยู่ในช่องจมูก ทำให้ภูมิต้านทานของร่างกายไม่สามารถต้านทานเชื้อเหล่านี้ได้ ทำให้เราเป็นหวัดนั่นเอง หรือบางที ถ้าเท้าเราต้องแช่อยู่ในน้ำนาน ๆ หรือเปียกน้ำ อุณหภูมิในเยื่อบุจมูกลดต่ำลง ก็นำไปสู่อาการเป็นหวัดได้เช่นกัน ฉะนั้น เรามาทราบวิธีป้องกันไม่ให้เราเป็นหวัดเวลาที่ศีรษะเปียกฝนกันดีกว่า 1. อย่าอยู่ในที่โล่งแจ้ง โดยเฉพาะก่อนฝนตก แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ให้ใช้ผ้าปิดปากและจมูกกันไว้ 2. หากศีรษะเปียกฝน รีบเช็ดให้แห้งทันที แต่ถ้าจะให้ดีอาบน้ำสระผมไปเลย จากนั้นรีบเช็ดและเป่าให้แห้งโดยเร็ว เพื่อทำให้อุณหภูมิเปลี่ยน และเจ้าเชื้อไวรัสจะแบ่งตัวได้ลำบาก 3. แช่เท้าในน้ำอุ่นหรือรีบทำให้ร่างกายอบอุ่น 4. รับประทานผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ๆ เช่น ฝรั่ง ส้ม แอปเปิ้ล หรือรับประทานวิตามินซีเม็ด เพื่อช่วยเสริมสร้างเซลล์และเนื้อเยื่อที่ถูกทำลายไป ที่สำคัญ อย่าลืมออกกำลังกาย นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะถ้าร่างกายเราแข็งแรงซะอย่าง โรคไหนก็ไม่มีทางมากล้ำกรายได้เด็ดขาด. หัวข้อ: Re: เกรดความรู้ว่ะ (อย่างน้อยก้น่าจะใช่) เริ่มหัวข้อโดย: wolfboy ที่ 22 กันยายน 2552 20:13:05 :emotw อ่านไม่ไหวตาลาย :emoto
หัวข้อ: Re: เกรดความรู้ว่ะ (อย่างน้อยก้น่าจะใช่) เริ่มหัวข้อโดย: boy92 ที่ 22 กันยายน 2552 20:38:56 :emotw อ่านไม่ไหวตาลาย :emoto โอ๊ย โอ๊ย โอ๊ย ความรู้ อ่าน อ่าน ไปเหอะๆ หัวข้อ: Re: เกรดความรู้ว่ะ (อย่างน้อยก้น่าจะใช่) เริ่มหัวข้อโดย: boy92 ที่ 22 กันยายน 2552 22:23:11 วิธีลืมคนรัก
- นึกว่าเหตุที่ต้องลืมเขาเพราะอะไร คงไม่ใช่ส่วนดีของเขาแน่ ๆ - หลังจากนั้นให้พยายามย้ำความคิดนั้น เพื่อจะไม่ให้เกิดความ อาลัยอาวรณ์เขามากไป - พยายามหลีกเลี่ยงการเจอเขาแบบตัวต่อตัว เพราะเกิดเขาเผลอมาทำดีกับเรา เราจะยิ่งไขว่เขว แต่ถ้าเขามากับแฟน จะดีมาก จะได้ช้ำทีเดียว - หลีกเลี่ยงไปซ้ำที่เดิม ๆ ที่เคยไปกับเขา - หากิจกรรมที่ต่างจากเมื่อคบเขา เช่น เขาและเราชอบฟังเพลง ป๊อบ ให้เปลี่ยนใหม่ มาฟังเพลงร็อกแทน - อย่าทำให้ตัวเองว่าง ให้อยู่กับเพื่อน ๆ เข้าไว้ จะเป็นช่วงหนึ่งเท่านั้น หลังจากนั้น จะสามารถอยู่คนเดียวได้ ไม่ต้องห่วง - ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ เช่นลงเรียนเพิ่ม ไปเรียนทำขนม ไปเรียนร้องเพลง ฯลฯ จะได้มีโอกาสเจอเพื่อน ๆใหม่ด้วย - อย่านั่งมองท้องฟ้าตอนเย็น ๆ เพราะมันจะเหงามาก เคยมีคนพบว่าบรรยากาศตอนเย็นคนจะอยากฆ่าตัวตายมากที่สุด - อย่านั่งมองฝนตก เหมือนถ่ายมิวสิกวีดีโอ เพราะจะยิ่งทำให้อยากร้องไห้ - อย่าหาเรื่องกินจนอ้วน เพราะมันจะทำให้คุณหมดความมั่นใจไปกว่าเดิม หัวข้อ: Re: เกรดความรู้ว่ะ (อย่างน้อยก้น่าจะใช่) เริ่มหัวข้อโดย: boy92 ที่ 22 กันยายน 2552 22:30:16 เหตุใดคนจึงหายใจในน้ำไม่ได้
โดยธรรมชาติ คนเราจะมีการหายใจเอาอากาศเข้าไปโดยผ่านทางจมูก ส่งผ่านต่อไปยังหลอดลม และส่งไปยังปอด โดยที่ในส่วนของปอดนั้นจะมีเส้นทางขนาดเล็กมากมายที่เป็นเส้นทางการเดินทางของอากาศ โดยจะมีปลายทางเป็นถุงอากาศภายในปอด ที่มีลักษณะเป็นเนื้อเยื่อที่มีลักษณะคล้ายถุง และมีไว้สำหรับบรรจุอากาศหรือของเหลวภายในร่างกายคนหรือสัตว์ ซึ่งในส่วนนี้ออกซิเจนจะทำการซึมผ่านเยื่อแผ่นบางๆที่ห้อมล้อมถุงอากาศอยู่เพื่อเดินทางต่อไปในส่วนของเส้นเลือด และในส่วนที่เป็นของเสียเช่นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็จะถูกแยกออกจากเลือดและถูกขับออกจากร่างกายในเวลาที่หายใจออก และปลาก็ต้องการออกซิเจนในการดำรงชีวิตเช่นกัน แต่ปอดของปลาไม่ได้มีการทำงานในการสกัดเอาออกซิเจนจากอากาศดังเช่นปอดของคน ซึ่งปลาจะมีส่วนที่เป็นเหงือกปลาเป็นตัวทำหน้าที่ในการกรองออกซิเจนและขจัดของเสียทิ้งจากน้ำที่ไหลผ่านเข้าที่เหงือก โดยน้ำจะผ่านเข้าทางเหงือกของปลาเหมือนอากาศที่ผ่านเข้าทางจมูกคนเราโดยตลอด และส่วนของเหงือกก็จะทำหน้าที่กรองออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย และเนื่องจากคนเราไม่อวัยวะที่เป็นเหงือกดังเช่นปลา เราจึงไม่สามารถทำการสกัดเอาออกซิเจนจากน้ำได้ และสัตว์น้ำที่เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบางชนิดอย่าง ปลาวาฬหรือปลาโลมานั้นถึงแม้จะอาศัยอยู่ในน้ำ แต่พวกมันก็ไม่ได้หายใจในน้ำ ร่างกายของสัตว์จำพวกนี้จะมีกลไกในร่างกายที่ทำการเก็บอากาศที่หายใจเข้าไปเป็นเวลานาน ทำให้สามารถว่ายอยู่ใต้น้ำได้เป็นระยะเวลาที่นาน แต่อย่างไรก็ตามพวกมันก็ยังคงต้องการออกซิเจนเพื่อการมีชีวิต จึงมีการขึ้นมาบริเวณผิวน้ำเพื่อหายใจออกและทำการหายใจเอาอากาศเข้าไปใหม่อีกครั้ง หัวข้อ: Re: เกรดความรู้ว่ะ (อย่างน้อยก้น่าจะใช่) เริ่มหัวข้อโดย: TON-ผู้ชายอบอุ่น ที่ 23 กันยายน 2552 09:20:29 กำ :emotoลายตาหมดแย้ว :emotw
หัวข้อ: Re: เกรดความรู้ว่ะ (อย่างน้อยก้น่าจะใช่) เริ่มหัวข้อโดย: Toom ที่ 23 กันยายน 2552 09:37:53 :emok :emo2 :emotn
หัวข้อ: Re: เกรดความรู้ว่ะ (อย่างน้อยก้น่าจะใช่) เริ่มหัวข้อโดย: RINSA ที่ 23 กันยายน 2552 10:09:39 ขอบพระคุณเป็น อย่างสูงค่ะ ที่กรุณาสละเวลา ก๊อปมาให้อ่าน :emotib
หัวข้อ: Re: เกรดความรู้ว่ะ (อย่างน้อยก้น่าจะใช่) เริ่มหัวข้อโดย: Wayukung ที่ 23 กันยายน 2552 10:33:34 อัดเป็นเสียง มาได้ปะ
หัวข้อ: Re: เกรดความรู้ว่ะ (อย่างน้อยก้น่าจะใช่) เริ่มหัวข้อโดย: poohpooh ที่ 23 กันยายน 2552 13:02:13 เออ......เด่วมาอ่านพรุ่งนี้ กลับบ้านแระ ใครที่ต้องขับรถขณะน้ำท่วม แต่ไม่รู้ว่าจะทำยังไง - ห้ามเปิดแอร์เด็ดขาด สาเหตุที่รถดับส่วนใหญ่เกิดจากการเปิดแอร์แล้วขับลุยน้ำ เพราะเมื่อเปิดแอร์ พัดลมจะทำงาน ทำให้ใบพัดจะพัดให้น้ำกระจายไปทั่วห้องเครื่อง แล้วทำให้เครื่องดับ - ควรใช้เกียร์ต่ำ สำหรับเกียร์ธรรมดา ควรใช้ประมาณเกียร์ 2 หรือสำหรับออโต้ก็ใช้เกียร์ L ก็ได้ รวมถึงการขับขี่ที่มีความเร็วต่ำที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ และควรใช้ความเร็วสม่ำเสมอ อย่าหยุดอย่าเร่งความเร็วขึ้น - ไม่ควรเร่งเครื่องให้รอบสูง ๆ เพราะจะทำให้รถมีความร้อนสูงขึ้น เมื่อเครื่องมีความร้อนสูงขึ้น ใบพัดระบายความร้อนก็จะทำงานหนัก ไม่ต้องกลัวว่าน้ำจะเข้าท่อไอเสีย เพราะต่อให้น้ำท่วมท่อไอเสีย แล้วสตาร์ทรถอยู่ที่รอบเดินเบา แรงดันที่ออกมาเพียงพอที่จะดันน้ำออกมาอย่างสบาย ๆ ต่อให้จอดรถทิ้งไว้จนน้ำท่วมท่อไอเสีย เมื่อสตาร์ทรถก็ยังติดแน่นอน สำหรับเครื่องหัวฉีด - ควรลดความเร็วลง เมื่อขับรถสวนกับอีกคันที่กำลังขับมา เพราะไม่งั้นจะกลายเป็นคลื่นชนคลื่น ซึ่งน้ำที่ปะทะระหว่างรถอาจทำให้กระเด็นไปทำอันตรายต่ออุปกรณ์ภายในได้ หลัง จากลุยน้ำลึกมา สิ่งที่ควรทำ คือ พยายามย้ำเบรกเพื่อไล่น้ำ เพราะในช่วงแรก ๆ หลังจากการลุยน้ำลึกมา จะเบรกไม่อยู่และเป็นอันตรายมาก เย้ๆๆๆๆๆๆ ทันไหมนะ รึว่าเมื่อวานน้าอิส อ่าน เลย รอดมาได้ อ่ะ หัวข้อ: Re: เกรดความรู้ว่ะ (อย่างน้อยก้น่าจะใช่) เริ่มหัวข้อโดย: TON-ผู้ชายอบอุ่น ที่ 23 กันยายน 2552 13:54:34 หะ แวนน้ำท่วมหรอ :emoti
|