AE. Racing Club

AE Racing Club - FreeStyle => Free Style - AE Racing Club => ข้อความที่เริ่มโดย: krit_90 ที่ 23 ธันวาคม 2009 22:24:31



หัวข้อ: จุดจบประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: krit_90 ที่ 23 ธันวาคม 2009 22:24:31
ปี 2553 จุดจบประเทศไทย .......ถ้ายังเป็นคนไทยอยู่ช่วยอ่านด้วย

เรื่องนี้คนไทยทุกคนควรที่จะได้รู้ .....ประเทศต่าง ๆ ในโลกนี้มีเกิด มีดับ ตลอดเวลา ..ประเทศไทยก็ไม่พ้นวิถีนี้เช่นกัน สืบเนื่องจากการบรรยายของคุณนิติภูมิ ซึ่งเป็นสื่อมวลชน จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมอสโค

ซึ่งเป็นสถาบันที่สตาลินสร้างขึ้นเพื่อสร้างภูมิปั­­ญญาหวังครองโลกในสมัยหนึ่ง เมื่อหลายปีก่อนคุณนิติภูมิ ได้ทำนายไว้ว่า ประเทศอินโดนีเชียจะแตกเป็น 6-14ประเทศ

ซึ่งในตอนนั้น นักรัฐศาสตร์ในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ หัวเราะจนฟันกระเด็นแต่ต่อมาพอปี 2542 เหตุการณ์เริ่มเป็นจริง! ประเทศอินโดฯได้เริ่มแตกเป็น ติมอร์ และตอนนี้ก็กำลังจะเกิดประเทศ อาเจะ และอีกหลายประเทศที่จะเกิดตามมา

ในวันที่ 11 ธันวาคม 2543 ที่ผ่านมาที่งานคนดีศรีสังคม ณ หอประชุมวัฒนธรรมฯ คุณนิติภูมิได้บรรยายว่า ประเทศไทยจะต้องแตกเป็นประเทศใหม่อีก 4 - 6 ประเทศ แน่นอน !

ทั้งนี้ไม่ใช่เกิดขึ้นโดยบังเอิ­ญแต่เกิดขึ้นอย่างมีกระบวนการ โดยสถานการณ์จะเริ่มชัดขึ้นในปี 2553 ซึ่งเป็นปีที่ข้อตกลง GATTs จะเริ่มมีผลสมบูรณ์   การค้าเสรีจะมีผลสมบูรณ์

สินค้าเกษตรต่าง ๆ จากต่างประเทศจะทะลักเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมหาศาล ในขณะที่เกษตรกรของไทยจะไม่กินสินค้าเกษตรของไทยด้วยกัน

และสินค้าเกษตรของไทยก็จะขายไม่ออกเนื่องจากมีต้นทุนที่สูงกว่าสินค้าเกษตรจากต่างประเทศ ประกอบกับการที่การพัฒนาการเกษตรของไทยได้พัฒนาอย่างผิดทิศทาง

เป็นการพัฒนาแบบปลูกพืชเชิงเดี่ยว ทำให้คนปลูกลำใยไทยก็จะปลูกแต่ลำใย จะกินข้าวก็ต้องซื้อข้าวเวียดนามมากิน คนปลูกข้าวไทยก็ต้องไปซื้อหอมกระเทียมจากจีนมากิน

คนปลูกหอม กระเทียมจะไม่ซื้อลำใยจากไทยแต่จะไปซื้อจากเกาหลีมากิน เป็นวงจรอย่างนี้ทำให้สินค้าเกษตรของไทยขายไม่ได้ เพราะแม้แต่เกษตรกรไทยด้วยกันก็ยังไม่ซื้อของเกษตรไทยด้วยกันมากิน

เนื่องจาก สินค้าของต่างประเทศมีต้นทุนถูกกว่าสินค้าเกษตรของไทยมีต้นทุนที่สูงกว่า เพราะใช้ปัจจัยการผลิตปุ๋ยของต่างประเทศ พันธุ์พืชก็ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ

เนื่องจากในอีก 10 ปีข้างหน้าพันธุกรรมท้องถิ่นจะถูกทำลายจาก GMOs และเมื่อเกษตรกรไทยซึ่งเป็นคนส่วนให­่ร้อยละ 80 ของประเทศอยู่ไม่ได้

วิกฤตที่มหาโหดสุดก็จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย  รัฐบาลไทยจะไม่มีปั­­ญญาที่จะแก้ไขปัญหาได้ เพราะมาตรการทางการเงินก็จะใช้ไม่ได้ เนื่องจากธนาคารไทยกลายเป็นของต่างประเทศหมดแล้ว

ไฟฟ้าก็แพงขึ้น   น้ำมันก็แพงขึ้น โทรศัพท์แพงขึ้นเนื่องจากวิสาหกิจเหล่านี้กลายเป็นของต่างชาติหมดแล้ว เขาสามารถตั้งราคา   ได้ตามใจชอบถ้ารัฐบาลไปขอให้ลดราคาก็จะได้รับคำตอบว่า เขาจะไม่มีกำไร

ธุรกิจจะอยู่ได้ด้วยกำไรเท่านั้น  ถ้าเขาไม่มีกำไรเขาก็จะตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดโทรศัพท์คุณเลือกเอาว่าจะยอมจ่ายในราคาที่แพงหรือว่าจะยอมไม่มีใช้

ดังนั้น รัฐบาลในอนาคตจะได้แต่นั่งทำตาปริบ ๆ ๆ เมื่อเกษตรกรไทยอยู่ไม่ได้ การขายที่ดินราคาถูก ๆ และจำนวนมหาศาลจะตามมา  คนที่มีกำลังซื้อก็คือชาวต่างชาติ

ซึ่งปัจจุบันก็ปรากฏแล้วว่าที่ดินบริเวณภาคตะวันออกได้ถูกต่างชาติกว้านซื้อไปเป็นจำนวนมากแล้ว เกษตรกรไทยที่ขายที่ดินได้ ก็ไม่ามารถนำเงินที่ได้ไปลงทุนให้เกิดรายได้ได้

เพราะธุรกิจอื่นได้ตกอยู่ในกำมือของต่างชาติแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการค้าปลีกก็ตกอยู่ในมือของ Big C, Lotus, Carrefour, ธุรกิจอาหารก็ตกอยู่ในมือของ KFC, Pizzahat, McDonal,

สิ่งทอเสื้อผ้าก็ของพวกฝรั่งเศส ฯลฯ ดังนั้น   เงินตราของไทยก็มีแต่จะถูกดูดออก   เหมือนกับคนที่เลือดไหลไม่หยุด ... เมื่อคนจนอยู่ไม่ได้ ... รัฐจะอยู่ได้ฤา ?

4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเป็นแห่งแรกที่จะขอแยกตัวออกจากประเทศไทย เนื่องจากความแตกต่างที่เห็นชัดเจนและความแตกต่างทางวัฒนธรรม ในปี 2553

คนไทยภาคใต้จะเห็นด้วยกับการแยกประเทศ เพราะเห็นความล้มเหลวของรัฐบาลไทย การเมืองไทย การคัดค้านจะน้อยลง การสนับสนุนให้แยกจะทวีความรุนแรงขึ้น

จนรัฐบาลไทยไม่สามารถควบคุมได้ถ้ารัฐบาลใช้กำลังทหาร  ก็จะถูกต่างชาติส่งทหารมาต่อต้านกองทัพไทย ซึ่งแน่นอนกองทัพไทยไม่มีปั­­ญญาไปต่อสู้อยู่แล้ว 

การแยกตัวจะสำเร็จได้ในไม่นาน จากนั้น ภาคตะวันออก บริเวณจันทบุรี   ตราด   ระยอง   ฉะเชิงเทรา  จะขอแยกตัวตามมา เนื่องจากที่ดินแถบนั้นกลายเป็นของต่างชาติหมดแล้ว

เนื่องจากที่ดินบริเวณดังกล่าวถูกใช้เป็นแหล่งพันธุกรรมของต่างชาติ ทั้งสมุนไพร อาหารต่าง ๆ เมื่อรัฐบาลไทยเป็นอุปสรรคของต่างชาติ  การขอแยกตัวก็จะทำได้ไม่ยาก

นั่นหมายถึง การซื้อประเทศไทย คล้ายกับที่สหรัฐอเมริกาซื้อรัฐ Alaska จาก  Russia ถ้าไทยต่อต้าน เจอทหารต่างชาติแน่ เราจะเตรียมรับมือกับวิกฤติในอนาคตอย่างไร ?

ผมติดตามงานเขียนคุณนิติภูมิ มาหลายปี  และสิ่งที่เขียนในไทยรัฐหน้า 2 เกือบทุกวันนั้น ไม่น่าเชื่อเลยว่า หนังสือพิมพ์ต่างประเทศจะเอาข้อมูลงานเขียนของนิติภูมิ

ไปแปลลงหนังสือพิมพ์ต่างประเทศ ในการวิเคราะห์ บ่อยครั้งที่นิติภูมิ มองการค้า การเมือง สังคมไปพร้อมกัน รวมทั้งประวัติศาสตร์เขามอง อาเจนติน่า ก่อนล่มสลายทางเศรษฐกิจ

ก่อนล่มจริง... เขาทำนาย การเกิดสงคราม อเมริกากับอิรัค ข้อคิด รวมทั้งอนาคตชาวเชเชนไว้น่าสนใจ ผมว่า สิ่งที่เขาพูดเป็นไปได้นิติภูมิ ทำให้ผมต้องกลับมาซื้อของโชห่วยของคนไทย

แทนที่ไปเดิน big-c, lotus, careflour, เพราะผมบอกแม่บ้านและลูก ๆ ว่า เราซื้อของร้านโชห่วย ข้างบ้าน ไม่ต้องไปห้างให­่อีกเพราะอะไร

เพราะเราไป คาร์ฟู เงิน 100 บาทที่เราจ่ายไปจะไปสู่ฝรั่งเศส 86 บาท เหลือให้คนไทย 14 บาทเพราะของต่างชาติเกือบ 100 เปอร์เซนต์ บิกซี โลตัสเหมือนกัน

นิติภูมิเคยเอาเปอร์เซนต์ที่ต่างชาติถือหุ้นมาลงให้ดู ของ 3 ห้างดังผมตกใจมาก และตัดสินใจซื้อน้ำปลาข้างบ้านตั้งแต่วันนั้น  เพราะว่าต่างชาติถือหุ้นกว่า 90 เปอร์เซ็นต์  แล้วบางห้าง 86 ปอร์เซ็นต์

สอนลูกว่ามันจะแพงกว่าห้าง 3 บาท ก็ซื้อที่นี่มันจะแพงกว่า 5 บาทก็ซื้อที่นี่เพราะมันจะเป็นภาษีคนไทย กลับมาหาลูกเอง ผมคิดแบบนี้จริง ๆ ๆ

ถ้าซื้อจากห้าง 1,000บาท  มันไหลไปต่างประเทศ 900บาท ที่เหลือ 100 บาท ที่เห็นจ่ายค่ายามเฝ้าห้างไง มองอาเจนติน่าง่ายนิดเดียว

ห้างต่างชาติบุกไปตั้งมากกว่า 400 ห้าง ทั่วประเทศคนอาเจนติน่าจึงทำเงินส่ง คาร์ฟู ส่งห้างต่างชาติ เกือบ100 เปอร์เซ็นต์เงินคนทั้งชาติของชาวอาเจน จึงไหลไปหมด ในประเทศจึงไม่เหลืออะไร

ทางสุดท้ายที่ไม่น่าเชื่อเลยว่าทำได้   ผมพาลูกผมหัดทานขนมกรอบให้น้อยลง เลิกกิน kfc และพยายามทานให้ลดลง และจำนวนหน ต่อปีน้อยสุด

ผมอธิบาย วิธีสิ้นชาติแบบทางเศรษฐกิจตั้งแต่เริ่มจนจบให้เด็กที่บ้าน และลูกฟังหัดให้ลู??มาทานบัวลอย ขนมชั้น ข้าวเหนียวเปียกแทน ถั่วดำข้าวเหนียว ดีครับ

ได้ผล... ลูกเปลี่ยนวิธีกิน... วิธีคิดไปเลย ... เปลี่ยนไปได้มากพอเย็นสั่งผมซื้อเต้าส่วนบ้าง ขนมชั้นบ้าง ลูกเดือยบ้าง ผมพูดนิดนึงที่เขาเข้าใจคือ ผมไปตลาดซื้อไก่ทอดแม่ค้ามา 3 ขาไก่ทอดแบบไทย ๆ

แล้วผมไป kfc ซื้อมา 3 ชิ้น เลือกน่องครับเหมือนกัน ราคาต่างกันลิบเลย ผมก็อธิบายคำว่า  license ( ค่าลิขสิทธิ) ให้ลูกฟังผมบอกว่า ซื้อไก่ 35 บาท ค่าไก่ 15 บาท ที่เหลือเป็นค่าลิขสิทธ

ไก่แม่ค้าที่ถูกเพราะไม่มีค่าลิขสิทธิ ใบตองที่ห่อขนมไทย ไม่มีลิขสิทธิมันเป็นวัสดุธรรมชาติ ย่อยสลายได้ไม่ถึง 3 เดือน   ขนมต่างชาติ ห่อสวย   แพง เพราะยี่ห้อมันมีลิขสิทธิ

เวลามันหล่นที่พื้น ไม่มีคนเก็บมันจะย่อยสลายภายใน 200 ปีผมสอนแบบนี้  ลูกผมเปลี่ยนวัฒนธรรมไปเลย  ผมทำได้และได้ทำแล้ว

ปล. ใคร่จะขอกรุณาช่วยนำบทความไปเผยแพร่ต่อ จะเป็นพระคุณมากครับ

ยาวไปหน่อย แต่อยากให้อ่าน
-
-
-
-
-
-
เพื่อน คิดว่าไงครับ




หัวข้อ: Re: จุดจบประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: •—ชๅ€lxล้ๅต้ม<NC.Z> ที่ 23 ธันวาคม 2009 22:32:11
เรื่องจิงหรอคับ

น่ากัวมากๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: จุดจบประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: pinA ที่ 23 ธันวาคม 2009 22:53:13
อนิจจัง วัตตะ สังขารา อย่าไปยึดติด.
ผมคนไทย อ่านแล้วคิดตาม รู้สึกใจหายเหมือนกัน แต่ทำไงได้ ถ้ามันจะต้องเป็นไปอย่างนั้น.


หัวข้อ: Re: จุดจบประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ( . )jab-ben( . ) ที่ 23 ธันวาคม 2009 23:00:43
เมื่อเย็นก้อฟังข่าวอยู่เหมือนกันว่า เตรียมนับถอยหลังการค้าเสรีกับกลุ่มประเทศอาเซียน1ม.ค.แน่นอน จีนเข้ามาซื้อขายโดยเสรีรวมทั้งประเทศต่างๆด้วย
สัญญาการค้าเสรีฉบับนี้ถูกต่อต้านมากว่า20ปีแต่เพิ่งสำเร็จและมีผลในรบ.ชุดนี้ซึ่งข่าวแจ้งว่าเพราะประเทศไทยเปนประธานอาเซียนพอดีบวกกับมีการรอคอยมานานจากประเทศในกลุ่มอาเซียน :emots :emots


หัวข้อ: Re: จุดจบประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: witthawat ที่ 23 ธันวาคม 2009 23:13:44
ด้วยความเคารพครับ ผมเห็นคนเอาเรื่องนี้มาพูดมากแล้ว และรู้สึกว่าว่ามันเสียดแทงใจผมมาก จะจริงหรือไม่ ผมไม่รู้ แค่รู้ว่าบ้านเมืองเราจะอยู่ร่มเย็นเป็นสุขก็เพราะเราสามัคคี ตั้งมั่นในคุณงามความดี และช่วยกันส่งเสริมสิ่งดีๆทุกๆอย่างที่จะทำให้บ้านเมืองมั่นคง สังคมเป็นสุข ไม่ส่งเสริมสิ่งที่จะทำให้สังคมไทยแตกแยก และ ในฐานะเป็นลูกหลานไทย เราควรคิดพิจารณาข้อมูลข่าวสารที่ได้รับมาว่ามีเหตุผลจริงเท็จประการใด ข้อมูลที่เอามาเผยแพร่นี้ก็ไม่ทราบว่าคุณนิติภูมิพูดไว้จริงหรือไม่ น่าจะมีการตรวจสอบ และข้อมูลบางอย่างก็ไม่น่าจริง ตามนี้ http://researchers.in.th/blog/006/1104  ดังนั้น ควรพิจารณาไตร่ตรองให้มากครับ สำหรับผม ไม่เชื่อครับ ด้วยความเคารพ


หัวข้อ: Re: จุดจบประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: yuirider ที่ 23 ธันวาคม 2009 23:23:26
^
^
^
"ข้อมูลที่เอามาเผยแพร่นี้ก็ไม่ทราบว่าคุณนิติภูมิพูดไว้จริงหรือไม่ น่าจะมีการตรวจสอบ และข้อมูลบางอย่างก็ไม่น่าจริง" :emots


หัวข้อ: Re: จุดจบประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: DAY101T ที่ 23 ธันวาคม 2009 23:26:24
 :emotr


หัวข้อ: Re: จุดจบประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ( . )jab-ben( . ) ที่ 23 ธันวาคม 2009 23:27:53
แล้วเรื่องเด่นเย็นนี้ช่อง3เชื่อถือได้อ่ะป่าวคับ ผมดูทั้งกลางวัน-เย็นเลยอ่ะ :emotia :emotia


หัวข้อ: Re: จุดจบประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: poky ที่ 23 ธันวาคม 2009 23:38:46
 :emox


หัวข้อ: Re: จุดจบประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: fatmancute ที่ 23 ธันวาคม 2009 23:38:59
คำพูดจากคนผู้ที่ไม่เคยเห็นเมืองไทยดีเนี่ยอ่ะนะ..งั้นก็บอกคนที่พูดไปตั้งรกรากแถวตะวันออกกลางเลยดีกว่ามั้ย


หัวข้อ: Re: จุดจบประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: offza fte ที่ 23 ธันวาคม 2009 23:39:42
ที่คุณนิติภูมิเขียนฟังหูไว้หูก็ดีนะครับ

เพราะสไตล์การเขียนของแกคือนั่งเทียนเขียนข่าว

เอาข้อมูลจากหนังสือจากเว็บมานั่งวิเคราะห์แล้วเขียน

คุณนิติภูมิ เค้าคนนั้นคือขี้โม้ประจำจังหวัดจันทบุรี

ลองไปค้นหาคนชื่อ บุญช่วย อยู่พร้อม ดูนะครับ

หรือใส่คำว่าป้าเชงเข้าด้วยได้ละได้ฮากันแน่ๆ


หัวข้อ: Re: จุดจบประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ( . )jab-ben( . ) ที่ 23 ธันวาคม 2009 23:41:12
:emox
เราไปต่อคำเล่นกันดีก่า เด๋วเครียดเนอะ


หัวข้อ: Re: จุดจบประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: poky ที่ 23 ธันวาคม 2009 23:42:05
:emox
เราไปต่อคำเล่นกันดีก่า เด๋วเครียดเนอะ
:emob



:emog


หัวข้อ: Re: จุดจบประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: S u r a n a y ™ ที่ 24 ธันวาคม 2009 00:43:52
No Comment  :emotr

**ขอให้คนไทยทุกคน จงสามัคคีกันไว้ เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคอันยากลำบากไปได้**  :emotn


หัวข้อ: Re: จุดจบประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: BEN AE ที่ 24 ธันวาคม 2009 08:55:23
จะปีใหม่แล้วอย่าไปเครียด เตรียมพักผ่อนดีกว่า..... :emotr :emotr


หัวข้อ: Re: จุดจบประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: offza fte ที่ 24 ธันวาคม 2009 09:22:31
จะปีใหม่แล้วอย่าไปเครียด เตรียมพักผ่อนดีกว่า..... :emotr :emotr

น้าผมมีเป้าให้ชี้ สนใจไหม ปวช. :emob


หัวข้อ: Re: จุดจบประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: แรงม้า(แคระ) ที่ 24 ธันวาคม 2009 12:08:47
ส่วนตัว..ไม่เห็นด้วยครับ...เกษตรไทยมีพ่อหลวงชี้แนวทาง เกษตรผสมผสานให้อยู่แล้ว ผมยังเชื่อว่าคนไทย(คนไทยจริงๆน่ะครับ)ถึงเวลาจวนตัวจะสามัคคีกันเอง


หัวข้อ: Re: จุดจบประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: nui007 ที่ 24 ธันวาคม 2009 16:16:27
ยาวจัง


หัวข้อ: Re: จุดจบประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: กระดิ่งทอง< RZ> ที่ 24 ธันวาคม 2009 16:27:16
เจ้าของกระทู้ลบเถิดครับ ไม่มีประโยชน์เพราะทุกอย่างคืออนาคต อนาคตคือสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น คนไทยมีวิถีชีวิตแบบไทยๆครับ อย่าไปซีเรียสกับนักวิชาการให้มาก เครียดเปล่าๆ


หัวข้อ: Re: จุดจบประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: laongfong ที่ 24 ธันวาคม 2009 16:58:20
ฟังไว้ก้อดีนะคับ..มองอีกมุมหนึ่งก้อเหมือนกับที่เราไปดูหมอดูน่านแหละครับ(ผมไม่เชื่อว่าตั้งแต่เกิดมาไม่มีใครไม่เคยดู อาจไม่ได้ดูเองก้อใช่)..ไม่ใช่ให้เชื่อหมอดูแต่ฟังแล้วเอามาคิดวิเคราะห์ดูเหตุและผล อะไรที่ควรระมัดระวังก้อทำไป ไม่เสียหายนี่ คนที่ไม่เชื่อก้อไม่ใช่ว่าจะดี คนที่เชื่อก้อใช่ว่าจะดี ยอมรับฟังความคิดเห็นคนอื่นๆบ้างก้อดีนะคับ อย่างน้อยทำให้เรารู้จักตัวเองว่าเราเป็นคนแบบไหนเป็นคนที่พร้อมเปิดใจรับหรือเปล่า......มัชฌิมาปฏิปทา ...เดินทางสายกลางกันเถิดครับ :emotl :emotl


หัวข้อ: Re: จุดจบประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: laongfong ที่ 24 ธันวาคม 2009 17:20:37
ส่วนตัว..ไม่เห็นด้วยครับ...เกษตรไทยมีพ่อหลวงชี้แนวทาง เกษตรผสมผสานให้อยู่แล้ว ผมยังเชื่อว่าคนไทย(คนไทยจริงๆน่ะครับ)ถึงเวลาจวนตัวจะสามัคคีกันเอง
คงยังไม่ได้เจอกับคนที่เขาอยู่แบบต่างจังหวัดจิงๆ ละสิ..ผมเพื่อนมีโอกาสได้ไปเจอกับชาวบ้านต่างจังหวัด ที่ไม่ใช่ถิ่นทุรกันดารน้ำไฟเข้าไม่ถึงนะครับ ออกจะใกล้ตัวจังหวัดแค่ 15 นาที แล้วก้อนั่งคุยกันหลายเรื่อง จนถึงเรื่องหนึ่งที่เราๆรู้กันคือเรืองเศรษฐกิจพอเพียง..สิ่งที่ผมตกใจคือว่าเค้าไม่เชื่อและไม่รู้ว่าเป็นแนวพระราชดำหริของในหลวง แม้ว่าผมจะนั่งยันนอนยันแล้วก้อตาม สรุปง่ายๆเลยก้อคือเค้าปฏิเสธ นี่แหละคับสิ่งที่น่าคิด..ต่อไป


หัวข้อ: Re: จุดจบประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: OAT_P.D. ที่ 24 ธันวาคม 2009 17:22:20
ไม่เชื่อครับ ไม่กลัวครับ  พอเพียง...ไม่อดตายเชื่อในหลวงครับ ยิ่งเป็นนิติภูมิด้วย ยิ่งไม่เชื่อใหญ่ครับ ยังงัยไทยก็เป็นไทย  ยิ่งถ้ามีคนเชื่อเค้ามากเท่าไหร่ประเทศยิ่งจะล่มเร็วเท่านั้นครับ


หัวข้อ: Re: จุดจบประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: krit_90 ที่ 24 ธันวาคม 2009 17:42:00
จริง ๆ แล้วผมก็มิได้มีเจตนาทำลายความสามัคคีของคนไทย

- แต่ผมเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า  เมื่อถึงเพลานั้นจะเห็นคนไทยจับมือกันปกป้องประเทศที่เราหวงแหนครับ

- ร่วมกันร้องเพลงชาติกันเถอะครับ  เพื่อไทยเข้มแข็ง  พิมพ์ต่อด้วยนะครับ


- ประเทศไทย  รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย


หัวข้อ: Re: จุดจบประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: iPuNN (ปั้น) ที่ 24 ธันวาคม 2009 17:59:07
คนเรามันอยากจะรวย มันก็ทำได้ทุกอย่างแหละคับ

อย่าไปคิดมาไรเลย

แค่เราทำตัวเป็นคนดีของสังคมก็พอละคับผมว่า  :emo2


หัวข้อ: Re: จุดจบประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ( . )jab-ben( . ) ที่ 24 ธันวาคม 2009 21:16:04
จิงอยู่คับที่ต่างชาติเข้ามาเปิดห้างใหญ่ๆมากมาย แต่อย่าลืมว่าสินค้าที่เค้าขาย ไม่ว่าจะอุปโภคหรือบริโภคส่วนใหญ่เปนสินค้าในประเทศ พนักงาน น้ำไฟที่เค้าใช้ ภาษีที่เค้าเสียยังไงก้อกลับมาสู่คนไทย ถึงแม้ว่าไม่ถึง100เปอเซ็น แต่คงไม่น้อยขนาดแค่10เปอเซ็นหรอกคับ เหมือนเราซื้อแฟรนไช หมี่-เกี้ยวชาย4มาขาย เราขายได้ร้อยกำไรคงไม่แค่10บาทหรอกมั้งคับ เพราะชาย4ผลิต ผัก หมู เส้น น้ำซุป ชาม ช้อน ตะเกียบ เก้าอี้ โต๊ะ รถเข็น ฯลฯเองไม่ได้ ยังไงก้อยังต้องพึ่งพาคนอื่นอยู่ดีคับ เหมือนสินค้าที่เขาเอามาขายนั้นหละคับ เพราะฉะนั้นดู อ่าน ฟัง ได้แต่ต้องคิดถึงสภาพความเปนจิง เหตุผลอื่นมาประกอบด้วย


 :emotia :emotia :emotia :emotia :emotia :emotia


หัวข้อ: Re: จุดจบประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: plew_ch ที่ 24 ธันวาคม 2009 21:17:56
ดูจากบทความเขียนเมื่อปี 2543 ฉนั้นถ้าตอนนั้นใครเป็นนายก ถ้านายกคนนั้นไม่เด้เปลี่ยนจนถึงวันนี้ ก็อาจเป็นไปตามในบทความ แต่วันนี้ นายกคนนั้นไม่อยู่แล้ว และ คนละกลุ่มคนละขั้วบริหารประเทศอยู่ มันก็ไม่เป็นไปตามบทความแล้ว
เห็นฯ1อย่าง กฎหมายค้าปลีกทางรัฐบาลกำลังจะเขนเข้าสภา ข่าวในหนังสือพิมพ์คือ โมเดินร์เทรดห่วง จะไม่มาลงทุนในไทย แต่ค้ปลีกไทยเฮ รอกฎหมายนี้มาเกือบ10ปี  นั้นแปลว่าก็จะไม่เป็นไปตามที่บทความนี้แล้วซิ
ถ้าผู้บริหารประเทศ เอาแต่ รวย รวย รวย หรือ เงิน เงิน เงิน อย่างเดียว ประเทศไม่ล่มจมดอก


หัวข้อ: Re: จุดจบประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: plew_ch ที่ 24 ธันวาคม 2009 21:21:43
ถ้าผู้บริหารประเทศ เอาแต่ รวย รวย รวย หรือ เงิน เงิน เงิน อย่างเดียว ประเทศไม่ล่มจมดอก
แก้ไขครับ :ถ้าผู้บริหารประเทศ ไม่เอาแต่ รวย รวย รวย หรือ เงิน เงิน เงิน อย่างเดียว ประเทศก็ไม่ล่มจมดอก


หัวข้อ: Re: จุดจบประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: offza fte ที่ 24 ธันวาคม 2009 22:06:04
ส่วนตัว..ไม่เห็นด้วยครับ...เกษตรไทยมีพ่อหลวงชี้แนวทาง เกษตรผสมผสานให้อยู่แล้ว ผมยังเชื่อว่าคนไทย(คนไทยจริงๆน่ะครับ)ถึงเวลาจวนตัวจะสามัคคีกันเอง
คงยังไม่ได้เจอกับคนที่เขาอยู่แบบต่างจังหวัดจิงๆ ละสิ..ผมเพื่อนมีโอกาสได้ไปเจอกับชาวบ้านต่างจังหวัด ที่ไม่ใช่ถิ่นทุรกันดารน้ำไฟเข้าไม่ถึงนะครับ ออกจะใกล้ตัวจังหวัดแค่ 15 นาที แล้วก้อนั่งคุยกันหลายเรื่อง จนถึงเรื่องหนึ่งที่เราๆรู้กันคือเรืองเศรษฐกิจพอเพียง..สิ่งที่ผมตกใจคือว่าเค้าไม่เชื่อและไม่รู้ว่าเป็นแนวพระราชดำหริของในหลวง แม้ว่าผมจะนั่งยันนอนยันแล้วก้อตาม สรุปง่ายๆเลยก้อคือเค้าปฏิเสธ นี่แหละคับสิ่งที่น่าคิด..ต่อไป

ชาวบ้านเหล่านั้นไม่ใช่คนไทยครับ ต้องโดนเก้าอี้

เก้าอี้ไหม๊สัส

(http://www.pantip.com/cafe/camera/topic/O8639407/O8639407-24.gif)




หัวข้อ: Re: จุดจบประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: S u r a n a y ™ ที่ 24 ธันวาคม 2009 22:10:19
:emox
เราไปต่อคำเล่นกันดีก่า เด๋วเครียดเนอะ
:emob



:emog

ไปด้วยๆ


หัวข้อ: Re: จุดจบประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ( . )jab-ben( . ) ที่ 24 ธันวาคม 2009 22:26:29
ขาประจำ ฮิฮิฮิฮิฮิ


หัวข้อ: Re: จุดจบประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Oke...Pat TZ#042 ที่ 24 ธันวาคม 2009 23:08:03
รักประเทศไทย.....คับ


หัวข้อ: Re: จุดจบประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ( . )jab-ben( . ) ที่ 24 ธันวาคม 2009 23:10:39
ส่วนตัว..ไม่เห็นด้วยครับ...เกษตรไทยมีพ่อหลวงชี้แนวทาง เกษตรผสมผสานให้อยู่แล้ว ผมยังเชื่อว่าคนไทย(คนไทยจริงๆน่ะครับ)ถึงเวลาจวนตัวจะสามัคคีกันเอง
คงยังไม่ได้เจอกับคนที่เขาอยู่แบบต่างจังหวัดจิงๆ ละสิ..ผมเพื่อนมีโอกาสได้ไปเจอกับชาวบ้านต่างจังหวัด ที่ไม่ใช่ถิ่นทุรกันดารน้ำไฟเข้าไม่ถึงนะครับ ออกจะใกล้ตัวจังหวัดแค่ 15 นาที แล้วก้อนั่งคุยกันหลายเรื่อง จนถึงเรื่องหนึ่งที่เราๆรู้กันคือเรืองเศรษฐกิจพอเพียง..สิ่งที่ผมตกใจคือว่าเค้าไม่เชื่อและไม่รู้ว่าเป็นแนวพระราชดำหริของในหลวง แม้ว่าผมจะนั่งยันนอนยันแล้วก้อตาม สรุปง่ายๆเลยก้อคือเค้าปฏิเสธ นี่แหละคับสิ่งที่น่าคิด..ต่อไป
แถวบ้านผมม่ะถึงขนาดนั้นหรอกคับ แค่คนที่เค้าอยู่ตจว.(เกษตรกร)ไม่ได้รับการช่วยเหลือเท่าคนในเมือง


หัวข้อ: Re: จุดจบประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: EE101 @ WZ ที่ 24 ธันวาคม 2009 23:20:44


   รักประเทศไทย..เช่นกัน....คับ