หัวข้อ: ภาษาไทยวันละคำ พอดีไปเจอมาอ่านแล้วก็......น่ะ เริ่มหัวข้อโดย: MUZASHI ที่ 25 มกราคม 2010 17:30:54 ภาษาไทยวันละคำวันนี้ขอเสนอคำว่า เกรียน หากเปิดหาคำนี้ใน พจนานุกรรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 หน้า 141 จะพบว่าถูกนิยามความหมายไว้ 3 ความหมายด้วยกันดังนี้
เกรียน ๑ [เกรียน] ว. สั้นเกือบติดหนังหัว ผิวหนังหรือ พื้นที่ เช่น ผมเกรียน หมาขนเกรียน หญ้าเกรียน เกรียน ๒ [เกรียน] ดู เลี่ยน ๑. เกรียน ๓ [เกรียน] น. แป้งซึ่งนวดด้วยน้ำร้อนแล้วไม่น่ายเป็นเม็ดปนอยู่ เม็ดนั้นเรียกว่า เกรียน; เรียกปลายข้าวขนาดเล็กว่า ข้าวปลายเรียน แต่ วันนี้ผมไม่ได้มาพูดถึงคำนี้ตามที่พจนานุกรรมให้นิยามไว้หรอกนะครับ แต่ผมขอพูดถึงมันในแง่มุมของมนุษย์ Cyber กันดีกว่าเราจะมาค้นหาความหมายของมันกันและเมื่อรู้ความหมายแล้วอย่าลืม สำรวจตัวเองด ้วยนะว่าคุณ “เกรียนหรือเปล่า” ต้นกำเนิดแห่ง เกรียน เกรียน คำนี้มีต้นกำเนิดมาจากที่ใดไม่มีหลักฐานระบุชี้ชัดได้ แต่ที่แน่ๆ บนศิลาจารึก หลักไหนๆ ก็คงไม่มีคำๆ นี้ปรากฏอยู่เป็นแน่ ผู้คร่ำหวอดในวงการณ์เกมบางคนบอกว่า พบเห็นคำนี้ครั้งแรกมาจากเกมออนไลน์ที่มีผู้นิยมเล่นสูงสุดเกมหนึ่ง ส่วนผู้คร่ำหวอดในวงการณ์บอร์ดบอกว่าเห็นครั้งแรกในเว็บซื้อขายแลกเปลี่ยน ที่มีผู้ใช ้มากที่สุดแห่งหนึ่ง ผมจึงไม่สามารถอ้างอิงได้ว่ามันมีต้นกำเนิดจากที่ใดกันแน่ รู้แต่เพียงว่าวันนี้มันถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย การขยายตัวของ เกรียน เกรียน ไม่ใช่คำด่าพร่ำเพรื่อเหมือนอย่างคำด่าอื่นๆ ที่เราคุ้นเคยมาตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามคำแห่ง แต่เป็นคำที่ใช้ เฉพาะเจาะจงสำหรับกลุ่มคนประเภทหนึ่ง กลุ่มคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มคนพิเศษนักวิชาการบางท่านบอกว่า เป็นอาการของคนที่เสพหญ้ามากเกินไป จนคอโรฟิวในหญ้าไปอุดตันสมอง จนส่งผลให้การทำงานของสมองซีกขวา ซึ่งเป็นสมองด้านของเหตุผลและการเรียนรู้ หดตัวลง ในขณะที่สมองซีกซ้ายที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการใช้อารมณ์ขยายตัวใหญ่ขึ้น จึงส่งผลให้คนกลุ่มนี้ใช้แต่อารมณ์มากกว่าเหตุผลและการวิเคราะห์ไตร่ตรอง ดังจะพบพฤติกรรมดังกล่าวได้บ่อยๆ ในเกมออนไลน์ หรือตามเว็บบอร์ดทั่วไป สาเหตุที่ทำให้คำนี้เกิดการใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้นไม่ใช่เพราะมันถูกนำมา ใช้เป็นคำแ ฟชั่นหากแต่กลุ่มคนประเภทดังกล่าวขยายตัวมากขึ้นและลุกลามอย่างรวดเร็วจนยากที่จะหยุด ยั้งได้ต่างหาก กลุ่มที่อยู่ในสภาวะ เกรียน หลาย คนอาจจะเข้าใจผิดจนเหมารวมไปเลยว่า เกรียน คือ กลุ่มเด็ก ตั้งแต่ ป.1 จนถึง มัธยมปลาย ที่ตัดผมสั้นเกรียน สาเหตุที่หลายคนตีความแบบนั้นอาจจะเป็นด้วยลักษณะทางกายภาพที่โดดเด่นคือทรง ผมที่เลี ่ยนเกรียนติดหนังหัว ซึ่งความจริงแล้วตาม “กฎของ เกรียน” หรือ “เกรียน Law” นั้นลักษณะดังกล่าวเป็นเพียงรากศัพท์ของคำว่า เกรียน เท่านั้นเอง หากแต่ในความเป็นจริง ตามหลักของ “เกรียน Law” คือ “ความเกรียนไม่จำกัด ทรงผม อายุ เพศ หรือ ฐานะ ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมในความเกรียนเหมือนกันหมด” ดังนั้นจึงพอจะสรุปได้ว่า สภาวะเกรียน เป็นสภาวะของพฤติกรรม ทางความคิด หาใช่ลักษณะทางกายภาพอย่างที่หลายคนเข้าใจกันไม่ ทำไมต้อง เกรียน หลัง จากที่ได้ทำการศึกษาและค้นคว้าเป็นเวลาหลายวันผมได้พบว่า คำเหยียดสติปัญญาคำนี้เกิดขึ้นด้วยสาเหตุที่ว่า กลุ่มคนที่อยู่ในสภาวะเกรียนส่วนใหญ่จะเป็นเด็ก และเป็นกลุ่มเด็กที่เล่นเกมออนไลน์ อาจจะด้วยเพราะเกมออนไลน์ในบ้านเรา เปิดกว้างมากจนเกินไป จนเกิดการกระจุกตัวทางการแสดงออกในสถานที่เดียวกัน จนเมื่อเด็กๆ เกิดการคลุกคลีกับพฤติกรรมไม่เหมาะสมบ่อยๆ จึงดูดซึมพฤติกรรมเลวร้ายเหล่านั้นมาใช้โดยไม่มีคนคอยให้คำแนะนำ โดยพฤติกรรที่เราจะพบเห็นได้จากเด็กที่อยู่ในสภาวะเกรียนก็คือ การกระทำที่ไร้ความคิด พฤติกรรมไร้เหตุผล พฤติกรรมก้าวร้าวทางคำพูดและความคิด เมื่อเข้าสู่สภาวะเกรียนสมองซีกซ้ายจะขยายตัวอย่างรวดเร็ว จนบางครั้งคนที่อยู่ข้างๆ ต้องเข้าระงับสติด้วยการ เบิร์ดกระบาล ซีกซ้ายซะหนึ่งที ก่อนที่อาการจะลุกลามถึงขั้น “โคบ้า” ถ้าเป็นพวกวิกฤติหนักๆ ก็อาจจะกลายเป็น “กระบือบ้า” ได้เหมือนกัน อาการที่เรียกว่า เกรียน - กลุ่ม เกรียน มักจะมีความเชื่อมั่นตัวเองสูงในจินตนาการ แต่ปฏิบัติตัวตรงกันข้าม อยากเทพแต่ทำตัว*** เกรียนประเภทนี้มีคนให้นิยามจำแนกออกมาเป็น กลุ่ม เทพเกรียน หรือ King of เกรียน หรือ เกรียน เหนือ เกรียน - กลุ่ม เกรียน มักจะมีความอดทนต่อสิ่งเร้าภายนอกน้อยกว่าบุคคลปกติ และควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยได้ มักแสดงออกทางคำพูด มากกว่าทางความคิด หรือทีเรียกว่า “พูดโดยไม่คิด” ในบางรายจะชอบด่าทอผู้อื่นแบบไร้เหตุผล โดยเชื่อมั่นว่าตัวเองถูกเสมอ จนบางครั้งก้าวล่วงไปถึงบุพการีของผู้อื่น - ชาวเกรียนจะมีความสุขไปกับการ ด่าคนแบบไร้ เหตุผล และอดีนาลีนของชาวเกรียนจะสูบฉีดรุนแรงขึ้นเมื่อถูกด่าตอบ ชาวเกรียนมีพฤติกรรมที่ชอบเรียกร้องความสนใจ ดังจะพบได้ตามเว็บบอร์ด ในกระทู้ดักควายต่างๆ พอเห็นคนเข้ามาด่าก็นั่งยิ้มชื่นใจ จนกลายเป็นค่านิยมเสพติดของพวกเค้าไปแล้ว - อาการหนึ่งที่เห็นได้ชัดจาก กลุ่มเกรียนคือจะเป็นกลุ่มคนที่มี IQ และ EQ ต่ำ เนื่องจากไม่ค่อยชอบใช้ความคิด ชอบใช้แต่อารมณ์ สมองไม่สามารถดูดซึมเหตุผลเข้าไปได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องปลุกเร้าอารมณ์ก้าวร้าวจะตื่นตัวในทันที จะหลีกเลี่ยงสภาวะ เกรียน อย่างไร สภาวะ เกรียนสามารถป้องกันได้โดยการสร้าง “ภูมิคุ้มกันโรคเกรียน” การแบ่งเวลาในการใช้ชีวิตประจำวันเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างภูมิคุ้มกันโรค เกรียน การอ่านหนังสือ สะสมความรู้ ใช้สมองซีกขวาในการตัดสินใจ คิดวิเคราะห์ต่างๆ รู้จักระงับอารมณ์ การเป็นคนมีเหตุผล เปิดโอกาสในการรับฟังผู้อื่น เหล่านี้คือผู้ที่จะสามารถหลุดพ้นสภาวะเกรียนได้ นักวิชากรหลายท่านบอกว่า สภาวะเกรียนในเด็กจะหมดไปเมื่อพวกเค้าบรรลุนิติภาวะ แต่ในทัศนะของผมแล้ว การจะหลุดพ้นสภาวะเกรียนได้คุณจะต้องบรรลุนิติภาวะทางความคิด ไม่ใช่อายุ เพราะอย่าลืมว่า ความเกรียนมีอิสระเสรี สามารถเข้าสู่ทุกคนได้ หากคุณมีพฤติกรรมต่างๆ ดังที่ผมได้กล่าวมาแล้วนั้นโปรดระลึกว่า สภา หัวข้อ: Re: ภาษาไทยวันละคำ พอดีไปเจอมาอ่านแล้วก็......น่ะ เริ่มหัวข้อโดย: man@บุญรักษา ที่ 25 มกราคม 2010 17:46:19 :emotk
หัวข้อ: Re: ภาษาไทยวันละคำ พอดีไปเจอมาอ่านแล้วก็......น่ะ เริ่มหัวข้อโดย: beck_nan ที่ 25 มกราคม 2010 20:21:41 KING OF เกรียน ผมชอบจิงๆเลยศัพท์นี้
หัวข้อ: Re: ภาษาไทยวันละคำ พอดีไปเจอมาอ่านแล้วก็......น่ะ เริ่มหัวข้อโดย: non01 ที่ 25 มกราคม 2010 23:06:21 เกรียนผมว่ามี 2 ที่มานะผมก็ไม่ค่อยแน่ใจนะแต่คิคว่าใช้ไม่ข้อ 1ก็ 2และคับลองอ่านดู
ข้อ1 น่าจะมาจากเว็บบอร์ดเวลาเจอพวกชอบโพสกระทู้ไรสาระ ตอบกระทู้ได้ปัญญาอ่อน กวนประสาท โพสข้อความไม่สุภาพ เราจึงคิดว่าเป็นพวกเด็กๆเล่น จึงเริ่มเรียกกันว่าไอ้พวกเด็กหัวเกรียน แล้วก็ลดคำมาเรื่อยๆ จนเหลือคำว่าเกรียนอย่างเดียว ข้อ2 เกรียนผมว่าน่าจะมาจากอ่อนนะ สมัยก่อนเล่นแร็คจะด่ากันไอ้อ่อนเวลาใครสู้เราไม่ได้ แล้วไอ้พวกนี่และมันจะเถียงกลับด้วยถ่อยคำไม่สุภาพ เราจึงด่ากลับประมาณว่าเด็กวะสู้ไม่ได้แล้วด่ายังไม่ค่อยมีความคิดอะไรประมารนี้ เลยตีความไปว่าไอ้พวกนี้น่าจะเป็นพวกเด็กมัธยมหรือพวกเด็กๆเล่น เลยต้องมีคำบางคำขึ้นมาเพื่อด่าไอ้พวกนี้ เคยมีคำว่าไอ้หัวเขียว เด็กวะ อ่อนวะ ไอ้ฟาย อะไรประมาณนี้ แต่ไม่ค่อยเป็นที่นิยม จนวันหนึ่งเริ่มมีคนพิมด่ากันในเกมว่าไอ้หัวเกรียนเอ๊ย หลังจากนั้นคำว่าเกรียนก็ค่อยๆได้รับความนิยมในการด่ากันเวลาเจอใครที่มันทำตัวแบบเด็กๆ เถียงค้างๆคูๆอะไรประมาณนี้ แล้วก็นิยมมากขึ้นจนมาถึงทุวันนี้ อุอุ คุคุ อิอิ งุงิ คำพวกนี้ผมเอาไว้คุยเวลาคุยกับเพื่อนในเกมส์ หรือเวลาจีบหญิงในเกมส์ เพื่อให้ดูน่ารักหรือเพื่อให้อ่านแล้วมันดูฮาๆ ไม่น่าเชื่อจะมีคนเอามาใช้จนทุกวันนี้ ส่วนคำว่า จัง คุง ซัง Ja Za มักจะเป็นคำลงท้ายชื่อของตัวเองเพื่อให้ดูน่ารัก หรือเวลาชื่อซ้ำเพื่อจะได้สามารถตั้งชื่อได้ เดี่ยวจะมาต่อคำว่า เทพ Inw ขั้นIทW ระดับเทพ :emob |