หัวข้อ: ปีกผีเสื้อคับ เริ่มหัวข้อโดย: AJark ที่ 01 สิงหาคม 2010 22:58:32 สวัสดีคับ รถผมรอบเดินเบาครับ ช่างบอกให้ล้างปีกผีเสื้อ(เป็นอู่ที่ติดแกสครับ ติดมา 2 วัน) แต่เค้าคิดแพงอ่าคับ ผมเลยกะไปล้างที่ อื่น หรือให้เพื่อนช่วยล้าง (ผมล้างไม่เป็น)
คำถามคือ ถ้าผมล้างเองจนเสร็จ ผมต้องเข้าไปให้อู่เค้า จูนแก้สใหม่รึป่าวครับ ขอบคุณพี่ๆ มากคับ :emotv หัวข้อ: Re: ปีกผีเสื้อคับ เริ่มหัวข้อโดย: wolfboy ที่ 01 สิงหาคม 2010 23:03:56 สวัสดีคับ รถผมรอบเดินเบาครับ ช่างบอกให้ล้างปีกผีเสื้อ(เป็นอู่ที่ติดแกสครับ ติดมา 2 วัน) แต่เค้าคิดแพงอ่าคับ ผมเลยกะไปล้างที่ อื่น หรือให้เพื่อนช่วยล้าง (ผมล้างไม่เป็น) จำเป็นเลยครับ เดวรอบไม่นิ่งจะลำบากทำแก๊สใหม่ๆอู่ยังรับประกันจูนให้อยู่ครับคำถามคือ ถ้าผมล้างเองจนเสร็จ ผมต้องเข้าไปให้อู่เค้า จูนแก้สใหม่รึป่าวครับ ขอบคุณพี่ๆ มากคับ :emotv หัวข้อ: Re: ปีกผีเสื้อคับ เริ่มหัวข้อโดย: AJark ที่ 01 สิงหาคม 2010 23:09:05 ถ้าแบบนั้น ผมควรที่จะ ไปล้างที่อู้ ติดแกสเลยใช่ใหมคับ
ขอบคุณพี่ๆ คับ. หัวข้อ: Re: ปีกผีเสื้อคับ เริ่มหัวข้อโดย: ARMFAIY ที่ 03 สิงหาคม 2010 18:33:20 ผมก็ล้างแล้วเครื่องนิ่มขึ้นมาก ความเณ้วขึ้นมาอีก10ฮฺิๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ปีกผีเสื้อคับ เริ่มหัวข้อโดย: AJark ที่ 03 สิงหาคม 2010 19:56:40 ผมก็ล้างแล้วเครื่องนิ่มขึ้นมาก ความเณ้วขึ้นมาอีก10ฮฺิๆๆๆ ล้างมากี่บาท จ้า หัวข้อ: Re: ปีกผีเสื้อคับ เริ่มหัวข้อโดย: tree ที่ 04 สิงหาคม 2010 16:14:44 ไม่น่าจะเกิน400
หัวข้อ: Re: ปีกผีเสื้อคับ เริ่มหัวข้อโดย: Gozilator ที่ 04 สิงหาคม 2010 22:57:07 ล้างเองเลยครับ.... ผมเพิ่งล้างเสร็จ แล้วค่อยวิ่งไปจูนอีกที
ตอนแรกรอบแกว่งมาก ทำเสร็จนิ่งเลยครับ.. ทำไปวันก่อนนี้เอง หัวข้อ: Re: ปีกผีเสื้อคับ เริ่มหัวข้อโดย: TOKYODRIFT ที่ 05 สิงหาคม 2010 00:29:00 อาการมันเป็นยังไงหรือครับถึงต้องล้างปีกผีเสื้อ
หัวข้อ: Re: ปีกผีเสื้อคับ เริ่มหัวข้อโดย: AJark ที่ 05 สิงหาคม 2010 08:34:42 อาการมันเป็นยังไงหรือครับถึงต้องล้างปีกผีเสื้อ เครื่องรอบตก ครับ เหลือ 600 ช่างบอกปีกผีเสื้อสรก ปรก หัวข้อ: Re: ปีกผีเสื้อคับ เริ่มหัวข้อโดย: AJark ที่ 05 สิงหาคม 2010 08:35:42 ล้างเองเลยครับ.... ผมเพิ่งล้างเสร็จ แล้วค่อยวิ่งไปจูนอีกที ตอนแรกรอบแกว่งมาก ทำเสร็จนิ่งเลยครับ.. ทำไปวันก่อนนี้เอง ถ้าผมล้างเองแล้วไปจูนใหม่ที่ อู่เลยใช่ปะครับ อย่างงี้ล้างยากปะคับ หัวข้อ: Re: ปีกผีเสื้อคับ เริ่มหัวข้อโดย: nan ae ที่ 05 สิงหาคม 2010 09:56:07 ขอถามด้วยคนครับ..คือว่ารถผมรอบมันสูงที่ 1100-1200 ทีแรกนึกว่าจะเป็นตอนสตาร์ทตอนเช้าเพราะเครื่องมันเย็น แต่พอขับไปซักพักนึกว่ารอบมันจะเบาลง ที่ไหนได้มันก็เป็นอย่างนั้นตลอดครับ รอบอยู่ที่1200ถ้าเปิดแอร์จะลงมาอยู่ที่1100..อยู่ตลอดเลยครับ ถ้าเป็นอย่างนี้ควรเอารถไปให้ช่างตั้งรอบใหม่หรือว่าเราตั้งเองได้ครับ..ขอคำแนะนำด้วยครับ.. :emos
หัวข้อ: Re: ปีกผีเสื้อคับ เริ่มหัวข้อโดย: AJark ที่ 05 สิงหาคม 2010 09:58:32 ถ้าตั้งเองเป็นก้อตตั้งได้เลยครับ
หัวข้อ: Re: ปีกผีเสื้อคับ เริ่มหัวข้อโดย: nan ae ที่ 05 สิงหาคม 2010 10:17:50 ตั้งตรงไหนครับ..
หัวข้อ: Re: ปีกผีเสื้อคับ เริ่มหัวข้อโดย: AJark ที่ 05 สิงหาคม 2010 10:27:09 ต้องมีรูปให้ดูนะครับ ผมมะมี เอางี้ละกัน เข้า google เลย ลองหาดูครับไม่ยาก.
หัวข้อ: Re: ปีกผีเสื้อคับ เริ่มหัวข้อโดย: Gozilator ที่ 06 สิงหาคม 2010 04:19:24 ล้างเองเลยครับ.... ผมเพิ่งล้างเสร็จ แล้วค่อยวิ่งไปจูนอีกที ตอนแรกรอบแกว่งมาก ทำเสร็จนิ่งเลยครับ.. ทำไปวันก่อนนี้เอง ถ้าผมล้างเองแล้วไปจูนใหม่ที่ อู่เลยใช่ปะครับ อย่างงี้ล้างยากปะคับ ล้างไม่ยากอ่ะครับ ถอดน๊อต 4 ตัว ถอดกิ๊ปล๊อคท่อแล้วดึงท่อออก 3 ท่อ(จำตำแหน่งท่อด้วยครับเดวงานเข้า) ถอดปล๊กเซ็นเซอร์ออก ดึงชุดลิ้นปีกผีเสื้อออกล้างได้เลย ผมใช้ประเก็นดำ ทาบางๆก่อนใส่กลับเข้าไป (อันนี้ส่วนตัวอ่ะ แล้วแต่) ใส่กลับก็เสร็จแล้วครับ ส่วนการจูนถ้าหาเพื่อนจูนไม่ได้ก็ส่งร้านเลยครับ หัวข้อ: Re: ปีกผีเสื้อคับ เริ่มหัวข้อโดย: AJark ที่ 06 สิงหาคม 2010 08:23:41 ประเก็นดำ นี่อยุ่ตรงส่วนไหนคับ ^^
หัวข้อ: Re: ปีกผีเสื้อคับ เริ่มหัวข้อโดย: Gozilator ที่ 16 สิงหาคม 2010 18:55:27 ออ ที่ผมใช้มันเป็นประเก็นครีมสีดำอ่ะครับ พอดีประเก็นเหล็กผมเป็นรอยเลยทาไว้เพิ่มความชัวร์
แต่ระวังอย่าทามากเวลาขันน๊อตมากๆจะเข้าไปข้างในได้ครับ หัวข้อ: Re: ปีกผีเสื้อคับ เริ่มหัวข้อโดย: AJark ที่ 16 สิงหาคม 2010 19:53:24 Ja ~
หัวข้อ: Re: ปีกผีเสื้อคับ เริ่มหัวข้อโดย: autorerun ที่ 03 กันยายน 2010 23:25:26 :emotn
ทำเองเลยครับ 4AFE ก็ตามรูปที่ ของคุณ Hacker1 ใน pantip นั่นแหล่ะครบ ถ้า 4E มันจะไม่ีลิ้นเร่งเดินเบา ด้านในต่างกันนิดหน่อย คนละระบบกัน ถ้าปะเก็นขาดก็ไม่ต้องกังวลครับ ซื้อแบบที่เป็นแผ่น ๆ มาทาบตัดเองได้เลยครับ ค่าเสียหาย ปะเก็นแบบธรรมดา 1 แผ่น 30 บาท ใช้ได้เป็น 10 คัน กาวทาปะเก็น ธรรมดา 50 บาท ของโตโยต้า 80 บาท เบนซิน 1 ลิตร ใช้จริงไม่ถึงหรอก ท่อน้ำ/ท่ออากาศ ถ้ากลัวลืมก็หาอะไรมาร์กไว้เลยครับ 4E ตอนถอดท่อบนฝาวาล์วระวังนิดนึงน่ะครับ ระวังหัก โชคดีครับ หัวข้อ: Re: ปีกผีเสื้อคับ เริ่มหัวข้อโดย: ponzg ที่ 04 กันยายน 2010 11:29:41 :emom
:emo2 :emo2 หัวข้อ: Re: ปีกผีเสื้อคับ เริ่มหัวข้อโดย: ARMFAIY ที่ 05 กันยายน 2010 23:07:03 ล้างเองครับแถมขัดลื่นนิดนึงครับ
ขัดลื่นก็เอาวีนอนขัดอะฮิ ๆๆๆ หัวข้อ: Re: ปีกผีเสื้อคับ เริ่มหัวข้อโดย: thirachot ที่ 08 พฤศจิกายน 2010 15:00:05 ผมพึ่งล้างเองครับ กาวทาปะเก็น กะแดนเข้าปีกผี้เสีอเต็มไปหมดเลยใช้ไฟส่องเข้าไปดูคอไอดีเปื้อนเป็นคาบกาวเต็มหมดเลยสงสัยช่างเปลี่ยนปะเก็นให้แล้วทางกาวเยอะโดนน้ำมันเลยละลายเข้าคอไอดีเลย ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดู ถอดออกมาตกใจเลยครับ ผมต้องเอาน้ำมันแบนซินมาล้างออกให้หมดแล้วใส่กลับไม่ต้องทากาวเดี๋ยวรอดูอาการอีกที่น้ำมันจะซึมหรือป่าว
หัวข้อ: Re: ปีกผีเสื้อคับ เริ่มหัวข้อโดย: Kai-ae ที่ 13 สิงหาคม 2011 18:43:38 ถามgozilatorหน่อยว่าลายเซนต์ที่เขียนหมายถึงใครผมข้องใจมากถ้าอยู่ในไทยแล้วเนรคุณแผ่นดินก็ไปอยู่ที่อื่น
หัวข้อ: Re: ปีกผีเสื้อคับ เริ่มหัวข้อโดย: drekohp ที่ 13 สิงหาคม 2011 23:03:01 ตามนี้เลยครับ DIY เก่ามีครับ ของคุณ ¥Fair500¥¥¥んーーーーーーーー
การล้างทำความสะอาด โรตารี่โซลีนอยด์วาล์ว (ควบคุมรอบเดินเบา) http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=1610.0 หัวข้อ: Re: ปีกผีเสื้อคับ เริ่มหัวข้อโดย: "Beer@RYZ" ที่ 14 สิงหาคม 2011 11:03:47 :emo2 :emo2 :emo2
หัวข้อ: Re: ปีกผีเสื้อคับ เริ่มหัวข้อโดย: "Beer@RYZ" ที่ 14 สิงหาคม 2011 11:06:29 ถามgozilatorหน่อยว่าลายเซนต์ที่เขียนหมายถึงใครผมข้องใจมากถ้าอยู่ในไทยแล้วเนรคุณแผ่นดินก็ไปอยู่ที่อื่น เออ..นั่นดิ ผมก็เพิ่งสังเกตุ หัวข้อ: Re: ปีกผีเสื้อคับ เริ่มหัวข้อโดย: Kai-ae ที่ 14 สิงหาคม 2011 21:35:36 ช่วยกันประณามไอ้พวกเลวครับไม่รักในหลวงก็ควรไปอยู่ที่อื่น
หัวข้อ: Re: ปีกผีเสื้อคับ เริ่มหัวข้อโดย: Kai-ae ที่ 14 สิงหาคม 2011 21:38:33 ช่วยกันประณามไอ้พวกเลวครับไม่รักในหลวงก็ควรไปอยู่ที่อื่น
หัวข้อ: Re: ปีกผีเสื้อคับ เริ่มหัวข้อโดย: hize ที่ 15 สิงหาคม 2011 01:17:50 http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=1610.0 (http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=1610.0)
ลองดูครับผม อุ่ย ไม่ทันเห็นว่ามีคนตอบไปแล้ว ขอโต้ดคร้าบบ :emo7 ช่วยกันประณามไอ้พวกเลวครับไม่รักในหลวงก็ควรไปอยู่ที่อื่น :emo2 :emo2 หัวข้อ: Re: ปีกผีเสื้อคับ เริ่มหัวข้อโดย: OAT AE101 ที่ 15 สิงหาคม 2011 11:27:23 ลองดูลิงค์ที่ผมให้ไปดูประกอบไปอีกแหละกันนะครับ เห็นว่าทำขั้นตอนละเอียดดีอ่ะครับ
http://topicstock.pantip.com/ratchada/topicstock/2010/08/V9542400/V9542400.html .....1 http://topicstock.pantip.com/ratchada/topicstock/2010/08/V9543002/V9543002.html .....2 http://topicstock.pantip.com/ratchada/topicstock/2010/08/V9550053/V9550053.html .....3 **เครดิต : คุณ Hacker1** หัวข้อ: Re: ปีกผีเสื้อคับ เริ่มหัวข้อโดย: ~@TeUy'AE92'@~ ที่ 21 สิงหาคม 2011 09:13:41 :emo2
หัวข้อ: Re: ปีกผีเสื้อคับ เริ่มหัวข้อโดย: "Beer@RYZ" ที่ 22 สิงหาคม 2011 21:53:09 :emotia :emotia
หัวข้อ: Re: ปีกผีเสื้อคับ เริ่มหัวข้อโดย: hata ที่ 23 สิงหาคม 2011 07:46:30 ล้างไม่ยากครับ มีกระทู้สอน เสียค่าน้ำมันที่จะเอามาล้างครับ โดนไป 100 บาท
หัวข้อ: Re: ปีกผีเสื้อคับ เริ่มหัวข้อโดย: ooAmmYoo ที่ 25 สิงหาคม 2011 20:07:52 ผู้ให้ของชอบใจย่อมได้ของชอบใจ ผู้ให้ของเลิศย่อมได้ของเลิศ ผู้ให้ของดีย่อมได้ของดี ผู้ให้ของประเสริฐย่อมเข้าถึงฐานะอันประเสริฐ
ในการเดินทางไกล เราจำเป็นจะต้องมีเสบียงติดตัวไป เพื่อหล่อเลี้ยงสังขารให้ดำรงอยู่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในโลกนี้ ในโลกหน้า หรือแม้กระทั่งไปสู่อายตนนิพพานย่อมต้องมีเสบียง คือ บุญ ไว้หล่อเลี้ยงกายและใจ บุญจะช่วยชำระใจของเราให้ใสสะอาดบริสุทธิ์ และเป็นเครื่องดึงดูดความสุขความสำเร็จในชีวิต บุญเกิดจากการบำเพ็ญบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ แต่ทางมาแห่งบุญ โดยย่อ คือ การทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต ว่า " มนาปทายี ลภเต มนาปํ อคฺคสฺส ทาตา ลภเต ปุนคฺคํ วรสฺส ทาตา วรลาภี จ โหติ เสฏฺฐนฺทโท เสฏฺฐมุเปติ ฐานํ ผู้ให้ของชอบใจย่อมได้ของชอบใจ ผู้ให้ของเลิศย่อมได้ของเลิศ ผู้ให้ของดีย่อมได้ของดี ผู้ให้ของประเสริฐย่อมเข้าถึงฐานะอันประเสริฐ " ปุญญาภิสันทา ท่อธารแห่งบุญ เมื่อบังเกิดขึ้นที่ศูนย์กลางกาย จะกลั่นเป็นดวงบุญที่สุกใสสว่าง คอยหล่อเลี้ยงรักษา สนับสนุนส่งเสริมให้เราเป็นผู้พรั่งพร้อมด้วยสมบัติทุกอย่าง อานุภาพดวงบุญศักดิ์สิทธิ์จะดึงดูดสิ่งที่ดีงามเข้ามาสู่ตัวเรา ดึงดูดทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ สวรรค์สมบัติ กระทั่งนิพพานสมบัติ เมื่อมีบุญมากความสุขความสำเร็จย่อมมีมาก นักปราชญ์บัณฑิตทั้งหลายเห็นคุณค่าของบุญ จึงสั่งสมบุญทุกรูปแบบ โดยไม่มีข้อแม้ ข้ออ้างและเงื่อนไข โดยเริ่มต้นสั่งสมบุญด้วยการให้ โลกนี้ดำรงอยู่ได้ด้วยการให้ การให้เป็นวิสัยของบัณฑิต เป็นอริยประเพณีที่ประพฤติปฏิบัติสืบต่อกันมานาน จะเป็นผู้ถึงความเต็มเปี่ยมของชีวิตได้ต้องเริ่มจากการเปิดใจให้กว้าง ฝึกการเป็นผู้เสียสละ พร้อมเสมอที่จะให้ พระโพธิสัตว์ทั้งหลายมองเห็นสุขอันยิ่งใหญ่แล้ว ท่านจึงให้ทานโดยไม่มีความตระหนี่เข้ามาครอบงำจิตใจแม้เพียงน้อยนิด ท่านยอมสละสุขเล็กน้อย เพื่อเข้าถึงสุขที่พระอริยเจ้าสรรเสริญ สละได้แม้กระทั่งเลือดเนื้อและชีวิต เพื่อมุ่งสู่พระสัมมาสัมโพธิญาณอันประเสริฐ * เมื่อครั้งพระโพธิสัตว์บังเกิดเป็นพระเจ้าสีวิราช ครองแคว้นสีพี พระองค์เป็นผู้ยินดีในการบริจาคทาน ทรงบริจาคทานทุกวัน วันละ ๖๐๐,๐๐๐ กหาปณะ โดยสร้างศาลาโรงทานไว้ ๖ แห่ง คือ ที่ประตูเมืองทั้ง ๔ แห่ง ใจกลางเมืองอีก ๑ แห่ง และที่ประตูพระราชนิเวศน์อีก ๑แห่ง พระองค์จะเสด็จไปโรงทาน ทรงตรวจตราการให้ทานด้วยพระองค์เองในทุกวันพระ ครั้งหนึ่ง ในวันดิถี ๑๕ ค่ำ พระเจ้าสีวิราชประทับเหนือราชบัลลังก์ ทรงนึกถึงมหาทานที่พระองค์ได้บริจาค พลางดำริว่า "ทรัพย์สมบัติภายนอกทุกอย่างเราก็ให้ครบถ้วนบริบูรณ์แล้ว ไม่มีสิ่งใดที่เรายังไม่เคยบริจาค แต่ทานเหล่านี้มิได้ทำให้เรายินดีปรีดาเพิ่มขึ้นเลย ไฉนหนอจะมีคนที่มาขอวัตถุที่เป็นของภายในบ้าง" พระองค์ทรงดำริต่อไปว่า "ในวันนี้หากมีผู้มาขอเนื้อ เราก็จะให้เนื้อ ขอเลือดก็จะให้เลือด ขอหัวใจก็จะให้หัวใจ และถ้าใครขอดวงตาของเรา เราจะควักดวงตาทั้งคู่ให้ทันที" ท้าวสักกเทวราชประสงค์จะทดลองกำลังใจ จึงแปลงเป็นพราหมณ์ชรามีดวงตามืดบอด ไปเข้าเฝ้าพระราชาผู้กำลังตรวจตราโรงทาน เมื่อไปถึงได้ประคองอัญชลีเหนือเศียรเกล้า พระราชาตรัสถามว่า "ท่านพราหมณ์ ท่านมาวันนี้ มีความประสงค์สิ่งใด" ท้าวสักกเทวราชตรัสตอบว่า "ข้าแต่มหาราชเจ้าผู้ทรงธรรม การบริจาคทานของพระองค์ได้ฟุ้งขจรไปทั่วสารทิศ ข้าพระองค์เป็นคนตาบอดมีนัยน์ตาข้างเดียว ขอพระองค์โปรดพระราชทานพระเนตรข้างหนึ่งแก่ข้าพระองค์ด้วยเถิด" พระราชาสดับถ้อยคำเช่นนั้น เกิดความปีติปราโมทย์ยิ่งนัก ถึงกับเปล่งอุทานว่า "เป็นลาภใหญ่ของเราหนอ ความปรารถนาของเราจะสำเร็จบริบูรณ์ในวันนี้แหละ เราจะได้ให้ในสิ่งที่ให้ได้โดยยากแล้ว" พราหมณ์ได้กราบทูลอีกว่า "บัณฑิตทั้งหลายกล่าวว่า ดวงตาเป็นสิ่งยากที่บุรุษจะสละได้ ขอพระองค์โปรดพระราชทานดวงเนตรนั้น ที่ไม่มีสิ่งอื่นจะยิ่งกว่า แก่ข้าพระองค์เถิด" พระราชาตรัสตอบว่า "ท่านพราหมณ์ ท่านปรารถนาสิ่งใดจากเรา ขอสิ่งนั้นจงเป็นผลสำเร็จแก่ท่านเถิด เมื่อท่านขอ ดวงตาข้างเดียว เราจะให้ดวงตาทั้ง ๒ ข้างแก่ท่านเลยทีเดียว" จากนั้นทรงนำพราหมณ์เข้าไปในพระราชฐาน รับสั่งให้เรียกหมอมาควักดวงตาของพระองค์ เรื่องที่พระราชาจะบริจาคดวงตาแก่พราหมณ์ตาบอด ได้กระจายไปทั่วเมืองอย่างรวดเร็ว เหล่าอำมาตย์ราชเสนาพสกนิกรต่างกราบทูลทัดทานพระราชาเอาไว้ แต่พระราชาทรงยืนยันว่า "แม้เราจะรักดวงตาทั้งสองปานใด แต่สัพพัญญุตญาณอันประเสริฐนั้น เป็นสิ่งที่เรารักและปรารถนามากยิ่งกว่า เพราะฉะนั้นเราจึงยินดีที่จะสละดวงตา ท่านทั้งหลายอย่าได้ห้ามการบริจาคของเรา และอย่าได้ถือโกรธในพราหมณ์นี้เลย" จากนั้น พระองค์ทรงรับสั่งให้แพทย์ควักดวงตาทั้งสองออก หมอได้บดโอสถหลายขนานทาพระเนตรเบื้องขวา พระองค์ได้รับทุกขเวทนาแสนสาหัส หมอเกิดความสงสารขึ้นมาจับใจ ไม่อาจทำต่อไปได้ จึงกราบทูลพระราชาว่า "ขอเดชะ ข้าแต่มหาราชเจ้า ขอพระองค์ทรงตัดสินพระทัยใหม่เถิด ข้าพระองค์สามารถทำพระเนตรให้กลับเป็นปกติได้" พระองค์ทรงปฏิเสธว่า "ท่านอย่ามัวชักช้าอยู่เลย จงรีบควักดวงตาของเราออกเถิด" หมอจึงปรุงโอสถน้อมเข้าไปให้ทรงทาพระเนตรซ้ำอีก เมื่อดวงตาถูกควักออก พระราชาทรงเกิดทุกขเวทนาแสนสาหัส แต่ด้วยความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวที่จะสละดวงตาเป็นทานให้ได้ จึงข่มทุกขเวทนาไว้ หมอได้วางดวงตาไว้ในพระหัตถ์ของพระราชา พระองค์ทรงรับดวงตาทั้งสองไว้ พลางตรัสว่า "สัพพัญญุตญาณเท่านั้นเป็นที่รักกว่านัยน์ตาทั้งสองของเราตั้งร้อยเท่า พันเท่า ขอผลที่เราบริจาคดวงตานี้ จงเป็นปัจจัยให้ได้พระสัพพัญญุตญาณอันประเสริฐนั้นเถิด" แล้วได้พระราชทานดวงพระเนตรทั้งสองแก่พราหมณ์ พราหมณ์รับดวงตาทั้งสองมาแล้ว ได้ประดิษฐานไว้ในเบ้าตาด้วยฤทธานุภาพ ทำให้สามารถมองเห็นได้อีกเป็นอัศจรรย์ เมื่อพระราชารู้ว่า พราหมณ์มองเห็นได้เป็นปกติ ทรงโสมนัสเป็นอย่างยิ่ง มีปีติแผ่ซาบซ่านไปทั่วพระวรกายข่มทุกขเวทนาที่เกิดขึ้น ทำให้ความเจ็บปวดที่มีอยู่หายไปหมดสิ้น เมื่อพระราชาเห็นว่า พระองค์เป็นคนตาบอดไม่สะดวกที่จะปกครองบ้านเมืองอีกต่อไป จึงมอบราชสมบัติแก่อำมาตย์ทั้งหลาย เสด็จออกผนวชเป็นฤๅษีอยู่ในพระราชอุทยาน ทรงรำพึงถึงทานของพระองค์ว่า "ก่อนให้ก็มีจิตเลื่อมใส ขณะให้ก็มีใจศรัทธา หลังให้แล้วมีใจเอิบอิ่มเบิกบาน" ท้าวสักกะเห็นความเด็ดเดี่ยวในการบริจาคทานของพระโพธิสัตว์ จึงเสด็จมาแนะนำให้พระราชาขอพร เพื่อให้ได้ดวงตากลับคืนมาอีกครั้ง พระราชาทรงทำสัจจกิริยาว่า "ผู้ใดมาขอกับเรา ผู้นั้นเป็นที่รักของเรายิ่งนัก เมื่อพราหมณ์มาขอดวงตาข้างเดียว เราได้ให้ดวงตาทั้งสอง โดยไม่มีความรู้สึกเสียดายเลย ด้วยสัจจวาจานี้ ขอจักษุจงบังเกิดขึ้นแก่เราเถิด" สิ้นคำอธิษฐาน ดวงตาทั้งสองเกิดขึ้นใหม่ทันที มีลักษณะที่สวยงามมาก พระองค์สามารถทอดพระเนตรได้ไกลถึง ๑๐๐ โยชน์ มองทะลุฝาหรือกำแพงหรือภูเขาได้หมด ไม่มีสิ่งใดบดบังดวงตาของพระองค์ได้อีกต่อไป เราจะเห็นว่า พระโพธิสัตว์บำเพ็ญทานบารมีอย่างยิ่งยวด โดยเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ท่านเกิดกี่ภพกี่ชาติไม่เคยว่างเว้นจากการสั่งสมทานบารมี ไม่ว่าจะเป็นบารมีขั้นต้น อุปบารมี หรือปรมัตถบารมี พระองค์ประพฤติเป็นแบบอย่างที่ดีงาม ให้เป็นต้นแบบในการสร้างบารมีของเรา เพราะพวกเราทั้งหลายต่างกำลังสร้างบารมีเพื่อรื้อสัตว์ขนสัตว์ไปสู่ฝั่งนิพพาน ท่านมีวัตรปฏิปทาอย่างไร เราก็ต้องดำเนินตามแบบอย่างของท่าน ชีวิตการสร้างบารมีของเราจะได้ไม่ผิดพลาด มีแต่ความปลอดภัย และประสบชัยชนะไปทุกภพทุกชาติ ตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรมกันทุกคน พระธรรมเทศนาโดย: พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย) * มก. สีวิราชชาดก เล่ม ๖๑ หน้า ๕๗ อ้างอิงจาก http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=5f52423d22dba789 อ่านกันซะนะครับชาวพุทธทุกท่าน ไม่ใช่ว่าสักแต่จะเขียนในใบสมัครงานว่าเป็นชาวพุทธ แ้ล้วอย่าเอาเรื่องการเมืองหรือเบื้องสูงมาเปิดเป็นประเด็นครับ อ่านกติการแล้วหรือยังครับก่อนโพส หัวข้อ: Re: ปีกผีเสื้อคับ เริ่มหัวข้อโดย: ooAmmYoo ที่ 25 สิงหาคม 2011 20:20:14 มีปัญหาอะไรแจ้งแอดมินครับ ที่เค้าออกกติกาขึ้นมาเพราะไม่อยากให้เป็นแบบนี้ ย้ำนะครับแจ้งแอดมินครับถ้ามีอะไรผิดปกติ แต่ไม่อยากให้เปิดประเด็น ขออภัยด้วยครับถ้าโพสของผมทำความรำคาญใจให้หลายๆคน
:emotn :emotn :emotn :emotn :emotn หัวข้อ: Re: ปีกผีเสื้อคับ เริ่มหัวข้อโดย: totti สายเลี้ยว. ที่ 27 สิงหาคม 2011 23:40:36 มีปัญหาอะไรแจ้งแอดมินครับ ที่เค้าออกกติกาขึ้นมาเพราะไม่อยากให้เป็นแบบนี้ ย้ำนะครับแจ้งแอดมินครับถ้ามีอะไรผิดปกติ แต่ไม่อยากให้เปิดประเด็น ขออภัยด้วยครับถ้าโพสของผมทำความรำคาญใจให้หลายๆคน :emotn :emotn :emotn :emotn :emotn |