AE. Racing Club

ปตท.นำร่องลดราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ เบนซินปรับลง 60 สตางค์/ลิตร ดีเซลปรับลง 40 สตางค์/ลิตร มีผล 5.00 น. พรุ่งนี้
      
       นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่การตลาดขายปลีก หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เตรียมนำร่องประกาศลดราคาขายปลีกน้ำมันภายในประเทศ โดยกลุ่มน้ำมันเบนซินปรับลดลง 60 สตางค์ต่อลิตร กลุ่มดีเซล และน้ำมัน E85 ปรับลดลง 40 สตางค์ต่อลิตร โดยให้มีผล 5.00 น. พรุ่งนี้ (26 สิงหาคม 2553) หลังราคาในตลาดโลกปรับตัวลงต่อเนื่อง
      
       ทั้งนี้ ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกหน้าสถานีบริการ ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ เป็นดังนี้ น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ลิตรละ 18.42 บาท , น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ลิตรละ 28.34 บาท , น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 30.64 บาท , น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 29.14 บาท , น้ำมันเบนซิน 91 ลิตรละ 34.44 บาท น้ำมันไบโอดีเซล ลิตรละ 26.59 บาท และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ลิตรละ 27.79 บาท
      
       นายวิทยา กล่าวว่า หลังจากที่ราคาน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดโลกปรับตัวลดลงจากความกังวลของนักลงทุนที่มีต่อสภาวะเศรษฐกิจภายหลังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลประเทศต่างๆ ได้ทยอยสิ้นสุดลง โดยยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯ เดือนกรกฎาคม ปรับตัวลดลงลง 27.2% ต่ำสุดในรอบ 15 ปี ส่วนทางยุโรปดัชนีการจัดซื้อ (Purchasing Management Index: PMI) ซึ่งแสดงกิจกรรมทางธุรกิจโดยรวมทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการของกลุ่ม Euro ในเดือนสิงหาคม 2553 ลดลง 0.6 จุดจากเดือนกรกฎาคม 2553
      
       นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นอีกเมื่อเทียบกับเงินยูโร มาอยู่ที่ 1.266 USD/EUR นอกจากนี้ Commodity Weather Group คาดการณ์ความต้องการใข้น้ำมันของสหรัฐฯ เพื่อใช้ทำความอบอุ่นในฤดูหนาวปีนี้จะลดลง เนื่องจากอุณหภูมิระหว่างเดือนพฤศจิกายน 53 – กุมภาพันธ์ 2554 คาดว่าจะสูงกว่าปีก่อนจากปรากฏการณ์ La Nina ในวันนี้ (25 สิงหาคม 2553) ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 70.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลงจากวันก่อน 1.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
      
       น้ำมันสำเร็จรูปดีเซลสิงคโปร์ลดลง 1.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 83.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันสำเร็จรูปเบนซินสิงคโปร์ลดลง 1.52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 78.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่งผลให้ ปตท. สามารถประกาศข่าวดีนำลดราคาขายปลีกน้ำมันได้อีกเป็นครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์
      
       นายวิทยา กล่าวเสริมว่า ราคาน้ำมันยังคงอ่อนไหว โดยปัจจัยหลักที่กดดันราคาน้ำมันคือปัจจัยทางจิตวิทยาของนักลงทุนที่มีต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ให้จับตาการประกาศยอดขายบ้านใหม่เดือนกรกฎาคม 2553 และตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของสหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 2 ที่จะประกาศในวันศุกร์นี้ และสำหรับน้ำมันแก๊สโซฮอล E85 ซึ่งมีส่วนผสมของเอทานอลอยู่ 85% และเป็นส่วนของน้ำมันปกติเพียง 15 % นั้น ในครั้งนี้สามารถปรับลดลงได้น้อยกว่าน้ำมันอื่นในกลุ่มเบนซิน
      
       ทั้งนี้ เนื่องจากราคาเอทานอลที่เป็นส่วนผสมหลักนั้น ไม่ได้ปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันตลาดโลก แต่อย่างไรก็ตาม การใช้พลังงานทดแทนนั้น จะมีส่วนช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรภายในประเทศที่เป็นผู้ผลิตวัตถุดิบสำหรับพลังงานทดแทน เช่น อ้อย และมันสำปะหลัง สำหรับการผลิตเอทานอล และปาล์ม สำหรับการผลิตไบโอดีเซล ซึ่งก่อให้เกิดการหมุนเวียนเม็ดเงิน และมีส่วนสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจให้กับภาคการเกษตรที่เป็นรากฐานของประเทศ อีกทั้งยังช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศอีกด้วย

Credit: www.manager.co.th


ปล. ปัจจุบันราคาตลาดโลกลงมาที่ 9$ แล้วครับ แต่ "ปล้นตลอดทาง" ลงมาเพียง 1.20 บาทเท่านั้น

ขอบคุนครับ ข้อมูลดีดี  :emotn

ลง มา อีก....ลงมาอีก  :emoy

ข่าวดีอีกแล้ว ขอบคุณครับ :emotn

ถ้าเขาปรับลงมาเยอะๆ เวลาขึ้นเราจะจุกนะผมว่า :emox
แต่ยังไงมันลงเราก็ต้องรีบเติมอิอิ  :emoa