AE. Racing Club

เพื่อนผมอายุ 18 จะซื้อรถเเละจดทะเบียนเป็นชื่อตัวเองโดยไม่ต้องให้พ่อเเม่เป็นตัวเเทนได้มั้ยครับ

โดยหลักแล้วไม่ได้ ต้องได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรมหรือผู้ปกครองเสียก่อน นิติกรรมที่ผู้เยาว์ทำถึงจะสมบูรณ์ แต่หากเป็นกรณีนิติกรรมที่ผู้เยาว์เป็นฝ่ายรับประโยชน์เพียงฝ่ายเดียว ไม่เป็นการต่างตอบแทน เช่นรับยกให้ ไม่ว่าจะเป็นรถที่ถามก็ดี โฉนดที่ดินก็ดี เงินก็ดี ทำได้สมบูรณ์โดยชอบด้วยกฎหมายนะ  แต่นิติกรรมที่ผู้เยาว์ทำนั้นก็ไม่เป็นโมฆะนะ(ก็ที่ถามนั่นล่ะ) หากแต่เป็นโมฆียะ หมายความว่าผู้มีส่วนได้เสียสามารถบอกล้างได้ หากมีการบอกล้างก็ถือเป็นโมฆะกรรมมาแต่เริ่มแรก   แต่กรณีที่ผู้เยาว์ทำนิติกรรมหรือที่ถาม หากสมแก่ฐานานุรูปแห่งตน ซึ่งแตกต่างกันนะ บางคนรวย บางคนจน คนรวยถือว่าสมแก่ฐานานุรูปแห่งตนนะ  แต่กรณีที่ถาม น่าจะให้ผู้ปกครองเป็นคนซื้อให้ แล้วให้ผู้เยาว์ที่อายุ ๑๘ ปี เป็นเจ้าของผู้มีชื่อทางทะเบียน น่าจะมีปัญหาน้อยกว่าที่จะไปซื้อด้วยตัวเองครับ น่าจะตอบเกือบหมดทุกแง่มุมแล้วนะ หากตกหล่นก็ช่วยมาเสริมหน่อย เรียนมาตั้งสามสิบปีแล้วมั๊ง เหอะๆๆๆ เอาที่พอจำได้นะคงตอบได้เท่านี้ล่ะ

อ้อ เพิ่งนึกได้ หากนิติกรรมที่ผู้เยาว์ทำไปนั้น หากมีการให้สัตยาบัน(รับรองโดยผู้แทนโดยชอบธรรมหรือผู้ปกครอง ) นิติกรรมที่เป็นโมฆียะก็ถือเป็นอันสมบูรณ์มาแต่แรกเหมือนกัน  หรือหากทำไปแล้ว ไม่มีผู้มีส่วนได้เสีย มาบอกล้าง หากผู้เยาว์บรรลุนิติภาวะแล้ว (ยี่สิบปีบริบูรณ์) ก็ถือว่าสมบูรณ์เหมือนเช่นกรณีแรกเหมือนกัน ทีนี้น่าจะหมดแล้วล่ะ ผมมันแก่แล้ว นึกคิด กว่าจะมา ก็ดันโพสต์ไปแล้ว พอดีมันพอจำได้ เหอะๆๆ น่าจะสามสิบปีเลยแล้วล่ะที่เรียนวิชานี้ ว่าด้วยสภาพบุคคลครับ หากพิมพ์ต่อเด๋วยาว เหอะๆๆ บทจามาก็มาเป็นชุดเลย พอแค่นี้ล่ะเด๋วสับสน

 :emotn :emotn

หาเมียสักคน แล้วจดทะเบียนสมรส คราวนี้จะไปทำอะไรก็ได้แล้วมั๊ง นักกฎหมายช่วยชี้ทางที

การซื้อขายรถ เป็นนิติกรรมที่ต้องทำเป็นหนังสือ และจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
กฏหมายกำหนดไว้ให้ ต้องบรรลุนิติภาวะแล้ว คืออายุ 20 ปีบริบูรณ์

ขอเสริมความเห็นสองท่านข้างบนนิดนะครับ  ความเห็นแรกนั้นหมายความว่า ผู้เยาว์หากอายุ๑๗ปี โดยได้รับความยินยอมของผู้แทนฯทั้งสองฝ่าย อนุญาตให้ทำการสมรสกันได้(จดทะเบียน)  ผู้เยาว์นั้นก็จะกลายเป็นผู้บรรลุนิติภาวะโดยการสมรสไปครับ ไม่ต้องรอจนยี่สิบปีบริบูรณ์ อันนี้เป็นข้อยกเว้นประการหนึ่ง


ส่วนความเห็นของท่านที่สองนั้น แม้กฎหมายจะบัญญัติรูปแบบนิติกรรมนั้นๆ ว่าต้องทำเป็นหนังสือและต้องจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ก็เป็นเพียงหลักกว้างๆทั่วไปเท่านั้นเอง  แต่หากเป็นกรณีที่ผู้เยาว์รับให้เพียงอย่างเดียว (นิติกรรมเพียงฝ่ายเดียวซึ่งต้องเป็นนิติกรรมที่ผู้เยาว์ได้มาซึ่งสิทธิหรือได้มาซึ่งทรัพย์สินเพียงฝ่ายเดียวแล้ว)  หลักทั่วไปนี้จะใช้บังคับไม่ได้ครับ ต้องเข้ากรณียกเว้นครับ คำตอบที่แท้จริงก็คือ ผู้เยาว์ สามารถมีชื่อทางทะเบียนได้ครับ

รถยนต์ ก็ดี โฉนดที่ดินก็ดี หากมีการเปลี่ยนแปลงชื่อทางทะเบียนไปยังผู้เยาว์เมื่อเข้าข่ายยกเว้นที่ผมกล่าวถึง (คือรับลูกเดียว)  สามารถทำได้ครับ  เอาให้เห็นภาพชัดๆเลยครับ  ล่าสุดนี้ ป๋าผม ปัจจุบันอายุ ๗๕ แล้ว โอนมรดกที่ดินให้ผมและน้องๆอีกสามคน น้องทั้งสามเต็มใจรับไว้ทั้งหมดซึ่งโอนเปลี่ยนแปลงชื่อทางทะเบียนไปเรียบร้อยหมดแล้ว     มีผมคนเดียวที่ไม่ประสงค์ที่จะรับมรดกชิ้นนี้ของป๋าที่เต็มใจยกให้   แต่ผมบอกป๋าว่า โอนให้หลานทั้งสามซึ่งเป็นลูกผม ทั้งสามคนตอนที่ได้รับโอนมา คนโตก็แค่ ๑๘ เหมือนที่ถาม คนกลางก็แค่ ๑๔ ยิ่งคนเล็กแค่สิบขวบเองครับ ยังโอนได้เฉยและสมบูรณ์ถูกต้องชอบด้วยกฎหมายครับ  ลูกผมทั้งสามซึ่งเป็นผู้เยาว์ก็มีชื่อในโฉนดที่ดินที่ป๋าผมแบ่งให้ครับ  เห็นไหม กฎหมายมันมีบททั่วไป  แล้วก็บทยกเว้น และท้ายสุดบทยกเว้นซ้อนยกเว้นครับ กรณีที่ถามนี้เป็นบทยกเว้นครับ  หากบทยกเว้นซ้อนยกเว้นนั้น เป็นเรื่องซักซ้อนอีกชั้นหนึ่ง ที่เขาโกงกันเป็นขั้นเป็นตอน ต้องตามไปดู ตามไปเพิกถอนนิติกรรมนั้นครับ  โฉนดที่ดินก็ไม่ต่างจากรถยนต์ครับ ผู้เยาว์เป็นเจ้าของชื่อทางทะเบียนรถได้ครับ    ส่วนเรื่องจะขับได้หรือไม่ จะมีใบขับขี่ได้หรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ผมยืนยันเลยว่ารับให้ได้สามารถเป็นเจ้าของชื่อทางทะเบียนรถได้ครับ    กรณีนี้ที่ถาม น่าจะเทียบเคียงกับเคสหนึ่งซึ่งผมเคยทำให้กับชาวต่างชาติ ซึ่งมาอาศัยอยู่ในประเทศไทย น่าจะหลายรายนะ


ประมาณว่า เขาซื้อรถยนต์ในประเทศไทย  แต่อยากมีชื่อทางทะเบียนเป็นของตัวเอง เขาก็เข้ามาปรึกษาว่าทำได้ไหม มีวีโก้สี่ประตูรุ่นท๊อปคัน แล้วก็ฟอร์จูนรุ่นท๊อปอีกคัน สองเคสที่เคยทำนะ น่าจะเทียบเคียงกับเรื่องนี้ที่ถามมาได้   ผมบอกว่าทำได้ แต่ค่าใช้จ่ายเท่านี้........ รับได้ไหม  เขาบอกว่าโอ  ผมก็จัดการให้เขาเซ็นต์หนังสือมอบอำนาจให้เป็นตัวแทนเขาทั้งหมด  แล้วก็ไปดำเนินการให้จนแล้วเสร็จ   กรณีนี้น่าจะเป็นกรณีศึกษานะ กฎหมายเราเพียงห้ามต่างชาติถือครองกรรมสิทธิในที่ดินเท่านั้น(ซึ่งเรื่องนี้นักกฎหมายเก่งๆเขาก็ทำการเลี่ยงให้ทำได้ซึ่งคงไม่เล่าในที่นี้นะ)   ส่วนเรื่องเขาจะซื้อรถก็ดี จะซื้อคอนโด หรืออพาร์ทเม้นท์ ที่มันถือครองกรรมสิทธิร่วมกัน กฎหมายไม่ได้ห้ามไว้ เพียงแต่คนส่วนใหญ่ไม่ทราบเท่านั้นเอง   ด้วยเหตุนี้ สำนักงานขนส่ง จึงต้องจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงชื่อทางทะเบียนให้กับชาวต่างชาติทั้งสองเคสครับ  ผมก็รับเงินปอนด์เป็นค่าเหนื่อยค่าวิชานิดหน่อยครับ       ที่ถามนั้น หากสรุป ก็คือซื้อได้หากสมแก่ฐานานุรูป(แต่อาจเป็นโมฆียะกรรม บิดามารดาหรือผู้มีส่วนได้เสียสามารถบอกล้างได้ แต่ต้องบอกล้างก่อนยี่สิบปีนะ ไม่งั้นสมบูรณ์ตามที่บอก หรือหากให้สัตยาบันก็สมบูรณ์อีกเช่นกัน)   เมื่อซื้อได้ ก็สามารถโอนได้ครับ ที่นี่ประเทศไทย ทำเรื่องเล็กๆที่ถามได้สบายอยู่แล้วครับ เอวังก็มีด้วยประการะ ชะ นี้       อิอิอิ
 

ใส่ชื่อคุณพ่อคุณแม่ดีกว่านะครับผมว่า...หลักกฎหมายก็แน่นมากแล้วตามท่านข้างบนแต่ขอเตือนเรื่องการขับชี่นะครับหากขับไปแล้วเกิดไปทำละเมิดเฉี่ยวชนคนอื่นเสียหาย...โดนฟ้องไปถึงคุณพ่อและคุณแม่ด้วยนะครับ

อย่าคดีที่เคยเจออายุ 18 เข้ามหาลัยใหม่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ พ่อซื้อรถให้แล้วไปขับชนคนและรถชาวบ้านเสียหาย รู้สึกว่าตาย1 สาหัส (พิการ) อีก1 รถคู่กรณีเสียหายมาก โดนเรียกทั้งหมดเป็นล้าน
- ผู้เยาว์จำเลยที่ 1
- พ่อจำเลยที่ 2
- แม่จำเลยที่ 3
โดยร่วมรับผิดกันทั้งหมด สุ้คดี 5 ปีแล้วตอนนี้ผู้เยาว์คนนั้นก็บรรลุนิติภาวะแล้วแต่คุณพ่อและคุณแม่ก็ยังคงเป็นจำเลยต้องร่วมรับผิดกับคู่กรณีอยู่เลย น่าสงสารมาก เรื่องกฎหมายอ่ะไม่ต้องหว่งว่าจะทำได้ไหมเป็นเจ้าของได้ไหมมันไม่ใช่เรื่องสำคัญหลอก  เรื่องสังหาริมทรัพย์ใครครอบครองคนนั้นมีสิทธิดีกว่า แต่เรื่องความรับผิดทางละเมิดมันจะโยงไปถึงคุณพ่อและคุณแม่ด้วยนะ  ^^

เรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดิน โอนให้ลูกโดยเสน่หา ก้อมีสิทธิ์เรียกคืนได้เหมือนกันครับ อิอิ

จดทะเบียนสมรสดีกว่า ได้ทั้งเมียและที่ดิน