AE. Racing Club

 :emoe :emoe คนคัดไข่ ตกงาน เพียบ แล้ว ชั่งโลไม่โกงหรอ ทุกวันนี้กิโลไม่ตรงอยู่แล้ว

เจริญประเทศไทย

นี้แหละประเทศไทยยยยยย

Thailand only

ก็มาขายแพงอยู่ดีครับใครบอกถูก คนขายเค้าบอกก็ต้องอัพราคาขึ้น เพราะอะไรสักอย่างนี่แหละ เห็นพวกแม่บ้านเค้าบ่นกาน

แม่บ้าน.....ใช่ภรรเมียที่บ้านรึป่าวครับพี่ตีฟ  อิอิ

แก้ หน่อยละกัน เด๊ํวจะหาว่ารุนแรง

แก้เป็น    ปัญญาอ่อน   แทนแล้วกัน :)

แก้ปัญหาไม่ต้องจ้างคนคัดไข่ ทำให้คนตกงานซะงั้น

อ่ะเจ้ยยย ม่ายช่าย พวก คุงแม่ที่ออฟฟิศทั้งหลายหนะ  :emots

เด๋วขายไม่ออกกันพอดี อิอิ

 :emoti :emoti :emoti แปลกจัง มีแต่คนบ่นว่าไม่ดี ไปซื้อไข่กันเอง มาแล้วหรอครับ งง เอาเถอะจะฟังใครมาหรือคิดเอง ก็สุดแต่ใจครับ นานาจิตตัง ผมเฉยๆครับเพราะซื้อแบบไหนถ้าจะโกงมันก็โกงอยู่ดีแระ แบบเป็นแผงมันก็ซื้อง่ายขายคล่องดีครับ เขาบังคับให้ซื้อเป็น กิโล กันตั้งแต่เมื่อไรครับบอกผมหน่อยครับ ไม่ซื้อแบบ กิโล ก็ซื้อยกแผงไปซิครับมันยากตรงไหนหรอ งงจังบ่นไรกันเยอะแยะ ของทุกอย่างนโยบายทุกอย่างมันก็ต้องมีการลองตลาดให้ ประชาชนเขาได้ลองใช้กันไม่ใช่คิดเองว่าดีหรือไม่ดีแล้วบังคับให้ใช้แบบที่เราคิดไปตลอด แบบนี้ถึงจะเรียกประชาธิปไตยไม่ใช่หรอ ผมเรียนมาทางนี้นิดหน่อย ผมเลยรู้สึกเฉยๆกับ นโยบายต่างๆดีไม่ดี ค่อยบรับปรุงกันไปไม่ใช่ด่าแบบสาดเสียเทเสีย คิดนิดนึงนะครับว่าเขาไม่ได้บังคับให้ซื้อ อย่าบ่นครับ วางตัวเฉยๆบางก็ดีนะครับ  :emotn :emotn :emotn

แค่คิดก็ผิดแล้ว ต่อไปคุณจะสั่งไข่ดาวหรือไข่เจียวเป็นขีดด้วยหรือเปล่า แล้วอย่างงี้แม่ค้าต้องชั่งไข่ดาวก่อนขายด้วยนะเพราะไม่ได้ขายเป็นฟอง 555 สั่งกระเพราไก่ ไข่ดาว 1 ขีด  

มุมมองของผมนะครับ ความคิดเห็นส่วนตัวเลย ถ้าไม่ถูกใจใครก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยคับ

ถ้าผมจะซื้อในจำนวนน้อยๆละคับ ฟอง 2 ฟอง มันจะขายกันยังไงครับ มาถึงหยิบไข่ตาช่าง นับเป็น ขีดๆ แม่ะ แล้วบ้านเรา ตาช่างตรงๆกันทั้งนั้นเลยสิ

สุดท้ายแล้วราคามันก็จมกลับมาอยู่ที่พอๆกับแบบเดิมอยู่ดี ละครับ

จะมาลำบากนั่งช่างกิโล ให้เสียวมันตกแตกทำไมครับ ผมไม่เข้าใจ

เฮียๆๆๆ เอาไข่เบอร์0 โลนึง มันแหม่ๆไหมครับ ฮ่าๆๆๆ

เค้าไม่ได้บังคับนี่ครับ  ถ้าอยากซื้อแบบเดิมก็บอกแม่ค้าได้นี่  เห็นว่าให้เป็นทางเลือกสำหรับคนซื้อไม่ใช่หรือ 

น่าคิดเหมือนกัน อีกหน่อยไปสั่งอาหาร "เจ๊ๆ  เอาข้าวผัดกระเพรากับไข่ดาว 3 ขีด" จะโดนปังตอของเจ๊แทนไหมเนี่ย

จะขายไข่ยังไงก็ชั้ง
แต่ช่วยลดค่าน้ำมันให้ผมหน่อยครับ

งงจะเหมือนเดิมเหรอครับ เค้าไม่คัดไข่ มันก็รวมกันทุกเบอร์สิครับ ยกแผงก็คงปนเบอร์กันมั่วหมด

ผมว่าเค้าปัญาอ่อน คับผม

คิดแบบนักบริหาร ไม่ได้คิดเชิงธุรกิจ ทุกวันนี้บริหารประเทศก็เหมือนกับธุรกิจละครับ ถ้าทำไม่ได้ก็จบ

มันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย 

 :emox :emox

อย่เปลืองสมองไปคิดยังไงกะไข่เลย มันก็แค่ทดลองเองเป็นบางจังหวัด ไม่ได้บังคับว่าต้องขายเป็นแบบนี้ตายตัวทุกร้านทุกที่ ไม่เห็นด้วยก็อย่าซื้อแบบชั้งกิดลซิ จบ ปีหนึ่งกินไข่สักกี่ฟอง/คน ต่างกันกี่บาทเอง ซื้อของแต่งรถชิ้นเดียวก็เท่ากับเงินที่กินไข่แล้ว ว่าแล้วไปต้มไข่เป็นอาหารเช้าดีกว่า เดี๋ยวมีเวลาจะไปหาแผงไข่ที่ตลาดว่ามีขายเป็นกีโลไหม เท่าที่รู้ข่าวจนถึงวันนี้ยังไมเห็นมีขายแบบกิดลเลย

ผมว่าเราเป็นประชาชน ควรมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นนโยบายสาธารณะของทางภาครัฐเขานะครับ...

จะมาบอกว่าไม่เดือดร้อน ถ้าไม่ชอบซื้อเป็นกิโล ก็ไม่เป็นไร เขาไม่บังคับ อันนี้ผมเห็นต่างอ่ะ...

เพราะนโยบายจากทางภาครัฐ เมื่อมันถูกแปรมาเป็นการปฏิบัติ มันก็ต้องมีผลกระทบกับภาคประชาชน ไม่ทางตรงก็ทางอ้อมอยู่แล้ว...

สาระอยู่ที่การวิจารณ์นโยบายสาธารณะอยู่ที่การสร้างความกระจ่าง คงไม่ใช่แค่ด่าเอามัน...

แน่นอนว่าในคำวิจารณ์มันอาจมีคำปรามาสอยู่ แต่เราต้องมองทะลุให้เห็นโอกาสในการทำความกระจ่างของแนวคิดของนโยบาย...

เช่นคำถากถางว่าอีกหน่อยแม่ค้าขายไข่พะโล้จะต้องชั่งไข่ขายให้ลูกค้าก่อนตักราดใส่ข้าวใช่ไหม...

นี่แหล่ะเป็นโอกาสที่คนคิดนโยบายต้องอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ...

จริงไหม...

บริหารประเทศไม่เป็นครับ ตอนนี้เศรษฐ์กิจแย่แล้วครับ ประเทศไทย เดี๋ยวก็ยุบสภา เลือกใหม่

ไม่ใช่ว่ามีใครด่าสาดเสียเทเสีย นะครับ แค่มาแชร์ความรู้สึกกัน ว่าเป็นอย่างไร ความคิดเห็น

ถ้าคุณไม่ได้จ่ายตลาดเอง คุณก็จะไม่รู้สึกว่า มันมีคนเดือนร้อนอยู่ คุณแค่ซื้อกินไปวันต่อวัน แต่คนที่อยู่ในอาชีพประกอบการ

ทำมาหากิน มันมีผลกระทบ คุณคงทำงาน แต่ลองนึกคิดคนที่เค้า ค้าขาย มันมีผลกระทบโดยตรงกับชีวิตเค้าอยู่แล้ว ไม่มากก็

น้อย คิดดูตั้งแต่หน้าฟาร์มเลย ของที่มันแตกได้เปราะบางเช่นไข่ ชั่งกิโล มันคุ้มกันไหมครับ ถ้าผิดก็ขออภัยที่ ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา

นโยบายลองเชิง เรื่องอื่นสมความทำมากกว่านี้ มีตั้งมากมาย  คุณไม่ได้เดือนร้อนคุณวางเฉยได้ แต่คนที่เดือดร้อนก็คงเฉยแบบ

ที่คุณว่าไม่ได้ หรอกครับ ขอโทดด้วยแล้วกัน ครับ  :emotn :emotn :emotn ถ้ามันเป็นจริงก็คงวุ่นวายน่าดู ทุกสิ่งทุกอย่าง

ถ้าไม่เจอกับตัวเอง หรือกระทบกับตัวเองก็มองเป็นเรื่อง ชิว ชิว แต่ถ้ามันมีผลกระทบกับตัวเองเมื่อไรก็เมื่อนั้น เอาง่ายๆ แล้วกัน

ถ้าบ้านใคร ไม่เคยเจอปัญหาน้ำท่วมก็คงไม่รู้สึก ว่าการเดินทาง ลอยคอ 1 ก.ม มันลำบากแค่ไหน เราดู เราก็ว่าจะลำบากกันแค่ไหน

ของอย่างงี้ ต้องโดนเอง แล้วจะรู้  ฐานะอย่างเรา ปลายน้ำ จะไปรู้สึกอะไร แค่ตักไข่ใส่ปาก แต่ต้นน้ำซิ..........

ความเดือดร้อนของผู้อื่น เรามักมองไม่เห็น เพราะไม่ใช่เรื่องของเรา......... ผมจบเรื่องนี้แล้วครับไม่ต่อแล้ว  แค่เรื่องไข่ธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา

ประเทศไทยจงเจริญ..........

เจริญหล่ะทีนี้ 


ทุกวันนี้ร้านผมจะเจ้งอยู่แล้ว  :emox

 :emox :emoxไข่ครึ่งโล :emotq :emotq

 :emob แล้วอย่างนี้ ก็ต้องเปลี่ยนหน่วยนับของไข่ ในพจนานุกรมด้วยป่ะคับ

ผมคนนึงคับ อนุรักษ์นิยมอิอิ เดี๋ยวนี้ก้อเอาอะไรแบบ ง่ายๆเข้าว่าคับ ผมคนนึงที่อยู่ในภาคการเกษตรคับ
เกิดมาไม่เคยเจอทุเรียนนนท์ขายเป็นโล มีแต่ขายเป็นลูก ปีก่อนไปเซ็นทรัล เจอทุเรียนนนท์ขายเป็นโล
บ้าไปแล้วอิอิ เรื่องเงินหรือยอดรวมของการขาย มันไม่ต่างจากเดิมหรอกคับ แต่ทำไม"ไม่รักษาคุณค่า"
ให้สินค้ามันดูมีค่าบ้างล่ะคับ ไข่ขายเป็นลูกมาไม่เป็น100ปีแล้วหรอคับ อยู่มาวันนึงขายเป็นโลซะงั้น ใคร
ไม่ได้อยู่ภาคเกษตร ไม่รู้หรอกคับว่า สินค้าเกษตรแต่ละตัว กว่าจะได้มามันเหนื่อยคับ ไม่ได้บอกว่าทำแบบนี้
ไม่ดีนะคับ แต่มันดู"ไม่มีค่า"คับ

เอ่อหวะ ถ้าเป็นเหตุผลแบบนี้ ผมเห็นด้วย มันดู ไม่มีค่า อย่างว่า ถ้า รถเออีเรา ขายเป็นคัน ราคาเท่าไรก็ว่าไป เมื่อไรเอา เออี เราไปชั่งกิโลขาย เศร้าเลย มีใครอยากขาย เออี  รถเราเป็นกิโลบ้าง คงไม่มีใครใช่ไหม ??

เด่วเขาก้อแจกตังค์  2000 บาทอีก
ให้ไปซื้อไข่

รัฐบาลอาจจะถูกกดดันเยอะไปหน่อยครับ  ม็อบเยอะแยะ ความวุ่นวายทางการเมืองมันรุมเร้า

สติเลยแตก อยากเพิ่มปัญหาใหม่ๆอาจจะช่วยดึงดูดความสนใจไปทางอื่นได้บ้าง

สมองมดจริงๆ

หรือว่าเป็นการเพิ่ม มาตรฐานในการ คัดเกรดและราคา

เช่น  ผมขายลำไยทุกวันนี้ 
ต้อง คัดเบอร์ก่อน ได้เบอร์ AA  A  B  C  เล็กใหญ่ตามขนาด
แล้วก็เอาแต่ละเบอร์ไปชั่งกิโล
การคิดเงิน ก็  เอามาคุณกัน   มันก็ถูกต้องนี่นา

ทีนี้เค้าจะเอามาทำกับไข่ มันก็ไม่เห็นจะแปลก แค่เป็นสิ่งที่ไม่เคยทำกัน "ก็แค่นั้นเอง"  เพียงแค่ตอนเริ่มต้นโครงการ
ราคาต่อ กิโลกรัม ต้องเท่าๆ กับ ราคาต่อสิบฟองหรือยี่สิบฟอง ที่ขายๆกันอยู่  คนซื้อจะได้ไม่ต่อต้านว่า เปลี่ยนแล้ว แพงกว่า โครงการนี้ไม่ดี

เรื่องนี้ไม่ค่อยได้ติดตามเข้อเท็จจริงซ๊ะด้วยซิ มิมีความเห็นแหละ งดออกเสียงครับท่านประธาน

คำพี่ฮามากคับผมอ่านแทบตกเก้าอี้เลย..........

อันนี้ก็ฮาอ่ะ

แม่ค้าขายอาหารตามสั่งเค้าคงเดือดร้อนสุดนะผมว่า ยกตัวอย่างร้านแถวบ้านปกติทสั่งไข่ดาวฟองละ 5 บาท
ถ้าไข่ชั่งกิโลขายไม่รู้ว่าเค้าจะขายได้ราคนี้หรือป่าว

แบบนี้ต้นทุนก็เพิ่มขึ้นอีกซิครับ ก็ในเมื่อเค้าบอกว่าการคัดไข่มันมีต้นทุนสูงจะลดต้นทุนเรื่องการคัดไข่ออก ถ้าทำทั้ง 2 อย่างมันก็ไม่ได้ลดต้นทุนลงเลย แถมมาลำบากเรื่องชั่งขายอีก คิดว่าการชั่งไข่ผลประโยชน์ตรงจะไปตกอยู่ที่ยี่ปั๊วฟาร์มไข่ที่ไม่ต้องใช้คนงานมานั่งคัดไข่ ส่วนแม่ค้าอาหารที่ต้องใช้ไข่กับผู้บริโภคอย่างเราได้ประโยชน์อย่างไงนึกไม่ออกจริงๆ

แค่อยากรู้คับ ว่าจะเปลี่ยนเรื่องการขายไข่ทำไมคับ ของเก่าไม่ดีอย่างไร ลดต้นทุนลงเพื่อไข่จะได้ถูกลงหรอคับ
แล้วทำไมเราต้องลดต้นทุนไข่ไก่ให้ถูกลงคับ ในเมื่อมันมีราคาดีอยู่แล้ว เกษตรกรก้อจะได้มีเงินก้อดีแล้วไม่ใช่หรอคับ
ส่วนคนบริโภค ถ้าแพง เราก้อกินอย่างอื่นไปก่อนสิคับ เดี๋ยวพอคนกินน้อยลงเค้าก้อต้องลดราคาลง เพื่ให้สามารถขายได้
ไม่ใช่หรอคับ มันก้อจะเป็นไปตามกลไกของดีมานซัพพลายเองไม่ใช่หรอคับ ผมงงว่าทำไมถึงไม่มองมุมกว้างๆอย่างอื่น เช่น
การออกไปโรดโชว์ต่างประเทศ(ไปน้อยมากนะผมว่า)ให้เค้ามาเที่ยวเมืองไทยกันเยอะ หรือไปโรดโชว์เรื่องสินค้าเกษตร
ข้าวไทยเราจะโดนเพื่อนบ้านแซงยอดขายอยู่แล้ว ธุรกิจการท่องเที่ยวแย่ขนาดไหน ตัวเลขที่บอกว่าดี คนมาเที่ยวเยอะ ลองเคย
มาดูความเป็นจริงบ้างหรอป่าว ผับบาร์ปกติขายได้คืนนึงเป็นแสน ตอนนี้หลักหมื่นก้อขอให้ได้เถอะ เอาเวลามากู้ชื่อเสียงให้
ประเทศไทยเรา ขาวสดใสดีกว่ามั้ยคับ ตอนนี้มันสีเทา มืดๆมนๆไงไม่รุ

 :emox

http://www.komchadluek.net/detail/20110127/87119/“พรทิวา”ขอ3เดือนประเมินไข่ชั่งกิโลฯ.html
สรุปว่าก็แค่เพิ่มทางเลือกอีกทาง ไม่ดีตรงไหน ก็เลิกไป การเวลาจะผ่านไปจะบอกได้ว่า ใครสมอง เป็นยังไง ขออย่าลืมกันง่ายฯก็แล้วกัน

ก็ได้แต่ เฮ้อ ...... เวรกรรม  :emox

เจ้ากระทรวงแต่ละท่าน เฮ้อออออยย ......  :emox

คงลืมกันยากครับเรื่องนี้ 5555

สุดยอดของขวัญของรัฐบาลนี้ จ้างบริษัทเอกชนคิดนโยบาย 9 ของขวัญให้คนไทยด้วย้งิน 69 ล้านบาทเหอ ๆ เปรียบเสมือนกับเราอยู่ในบ้านของเราแล้วคนที่เราให้เขามาเป็นผู้รับใช้เรา เสียเงินมาให้เขาทำงานบ้านให้เรา แล้วอยู่ ๆ วันหนึ่งก็มาบอกว่า จะให้ของขวัญด้วยการทำความสะอาดบ้านให้เรา จะให้ของขวัญด้วยการซักผ้าล้างจานให้เรา ให้ของขวัญด้วยการดูแลความปลอดภัยให้เรา  ทั้ง ๆ ที่งานที่เขาทำอยู่นี้คืองานที่เราจ้างให้เขามาทำให้เราอยู่แล้ว  แต่ยังมีหน้ามาพูดว่าให้เป็นของขวัญแก่เรา

69 ล้านบาทกับ นโยบายขายไข่เป็นกิโล  อันนี้น่าลองดูก่อนอาจเข้าท่าก็ได้
69 ล้านบาทกับ นโยบายช่วยเหลือให้เงินกู้วินมอไซด์ แท็กซี่ เป็นเจ้าของรถ ซึ่งทุกวันนี้เห็นอยู่ว่าแท็กซี่มีมากเกินไป สังเกตุจากหลัง 2 - 3 ทุ่มท้องถนนจะเต็มไปด้วยแท็กซี่ที่ "ว่าง" วิ่งแย่งผู้โดยสาร และจอดเต็มท้องถนน แล้วจะมาสนับสนุนให้เกิดแท็กซี่เพิ่มขึ้นมาติดกันตามท้องถนนอีกรึเพ่
69 ล้านบาทกับ นโยบาย การให้คนจนเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้นแต่เงินที่ใช้เพียง 5,000 ล้านบาท มันน้อยไปไหมพี่ เมื่อเทียบกับคนไทยที่ส่วนใหญ่เป็นคนจนเกือบทั้งประเทศ

ฯลฯ

แต่เอาเรื่องที่ตัวเองต้องทำอยู่แล้วมาบอกว่าเป็นการให้ "ของขวัญ" มันก็เกินไปว่าไหม !!!