AE. Racing Club

อยากทราบว่าใครเปลี่ยนเกียร์ MT เป็น AT ขับขึ้นลงเขาอารมรณ์ยังไงครับ มีโครงการเปลี่ยนเครื่องใหม่ (แต่เครื่องเก่าไม่เป็นไรนะครับ ก็อยากตามท่าน jedee หน่อย ขอระบุชื่อไม่ว่ากันนะครับ) ที่อยากเปลี่ยนเพราะเดี๋ยวนี้อยู่เชียงรายรถก็ติดพอตัวครับเวลาเข้าเมือง (แต่ตนอยู่นอกเมือง บางครั้งที่ติด และติดมากช่วงเทศกาลและหน้าหนาว อีกอย่างตอนนี้มีห้างใหญ่มาเปิดด้วย เลยยิ่งไปใหญ่) เลยมอง ๆ ตัว 7A-FE Twincoil AT ไว้ แต่อยากทราบว่าพี่ ๆ ถ้าขับขึ้นลงเขากับเกียร์ AT นี่เป็นยังไงนะครับ ขับยากใหม เพราะ ปกติขับกับ MT อย่างเดียว ทั้งกระบะและเก๋งมาตลอด ค่อนข้างมั่นใจ และใช้ครัช กับรอบเครื่อง พยุงความเร็วได้นะครับ

ขอบคุณครับ

ผมจาก ออโต้ เปน M/T นะ
ส่วนใหญ่ ลงเขา ขึ้นเขาสับเกียไม่ทันครับ
ออโต้ ทำให้ ไว และ แม่นยำ / เร็วกว่า(สำหรับผมนะ)
ดึงเกียร L  ไว้ สบายดีออกครับ

ติดแต่ ตอนวิ่งในเมือง เกียรธรรมดา ประหยัดจริงๆครับ

แต่เมื่อยขาจริงๆ   :emon

แล้วไว้ที่ L ตลอด จะเป็นยังไงนะครับ เกียร์จะเสียหายอะไรไหมนะครับ


หมายถึงเกียร์ธรรมดาหรือครับ สำหรับผมมีบ้างนะครับ แต่ว่าจะเป็นในเมืองนะครับ ขึ้นลงเขาไม่เท่าไหร่นะครับ

    เคยเป็นออโต้ครับ  ลงดอยแม่สลองลง  L 2 เบรคติดครับ   แต่พอเปลียนเป็นธรรมดา  ไปดอยไหนๆไม่เคยเป็นอีกเลย ประหยัดกว่า  ความเร็วขึ้นไวกว่าเยอะ  เมื่อย เดี๋ยวก็ชินครับ  ไปขับออโต้แล้วจะรำคาญ(ความเห็นส่วนตัวนะครับ)

ก้อต้องหมั่นดูความร้อน ให้ดีครับ ไม่ต้องรีบค่อยๆไป เครื่องไม่ฮีท รถไม่เสียการควบคุม ก้อโอเคนะครับ
ปล. ผม วิ่ง ขึ้นลงเขา ที่ 4000-5000 รอบ ประมาณ 40 นาที ก้อหาที่พักรถแล้วครับ

 :emo5  ออโต้ 4-5 พันรอบเลยหรอครับ
มันต้องแช่ L2 ตลอดเลยรึป่าว
เกียร์ธรรมดาผม 3-4-5 ตลอด อาศัยแรงส่งเอา

แล้วออโต้เวลาเปลี่ยนเกียร์ทำยังไงครับต้องเบรคก่อนรึป่าว จาก d เป็น L2

ถ้าขับในเมืองปรกติ D รอบเปลี่ยนเกียร์อยู่ที่เท่าไหร่ครับ ใช่ 2500 รึป่าว

อยากเปลี่ยนเป็นออโต้นะเนี้ย รำคาญมากเวลาขับในเมือง

ออโต้ ขับในเมืองประมาณกี่โลลิตรครับ

เป็นช่วงๆอ่ะรับ บางที ลง ตรงๆ ยาวๆ ก้อ ไว้ที่ 2 ยกคันเร่ง
ปล่อยสมองกล ทำงานเอง
รอ เบรคให้ ตวามเร็วลดลงเป็นระยะ เดี๋ยวไหม้
บังเอิญเครื่องที่ใช้เป็นเครื่องรอบจัดครับ

เปลี่ยนได้เลยครับ แต่ต้องระวังรอบจะดีดสูงเกิน(จริงๆแล้ว กล่องจะคุมไว้ ป้องกันความเสียหายครับ)

ออโต้ บารุ่น มันมีโหมด Manual Power Normal(คือไม่ได้กดทั้ง ปุ่มเพาเวอร์ และ แมนน่วล ครับ)

ออโต้ 9 โล ครับ ธรรมดา 10-12
วิ่ง 100 เบาบ้าง แซงบ้าง ออโต้ 10 ธรรมดา 12-13
วิ่ง 150+ คงที่ ออโต้ 9-10 ธรรมดา 9 ครับ

ผมเป็นคนดวงไม่ดี ได้เกียออโต้มาไม่นานก้อหมดสภาพ...
สมาชิกบางท่านได้เกียมา 2-3ปีแล้วยังดีอยู่เลย
ผมเหรอ....ปีเดียวก้อเก่งแล้ว...

อาการเกียออโต้หมดสภาพคือ เข้าเกียแล้วรถไม่วิ่ง ต้องรอสักพัก หรือต้องเบิ้ล ถึงจะเคลื่อนตัว ครับ

ชักลังเลแฮะ ผมเสียวที่เดียวคือขึ้นเขาลงเขา กลัวขับไม่เป็นเบรกกับเกียร์ไปนะครับ(เสียไม่ว่า กลัวตอนขึ้นหรือลงเขาอยู่ ๆ แล้วไปชะงั้นนะครับ)

ไม่น่ากลัวขนาดนั้นหรอกรับ
ผมว่าเกียออโ้ปลอดภัยกว่านะ
ตอนลงเขาผมก้อชอบเกียออโต้กว่า ปล่อยระบบทำงาน
ขาข้นก้อขึ้นชีลด์ๆ ไม่ต้องกลัวดับ รอบอาจจะ 3000 รอบ++
ไม่น่ากลัวเท่า เกียรธรรมดานะ (กลัวดับ+ล้อฟรี)

และยัง จากประสพการณ์
ฉุกละหุก เข้าเกียผิดๆ ถูกๆ
ตอนฉุกเฉินเนี่ย ออโต้ ดีมากๆครับ
ประคองรถ + พวง(มาลัย) ไม่ต้องกังวลเรื่องเกียร ครับ

EE90 เหมือนกันครับ ผมว่าเกียร์ออโต้ ถ้าใช้งานเป็นก็สนุกกำลังดีครับ ไม่ดึงดันเหมือนเกียร์ธรรมดา ยิ่งถ้าเป็นเกียร์ออโต้ไฟฟ้า แบบมีกล่องคุม PWR  จะทำให้เปลี่ยนเกียร์ได้สนุกขึ้น ลากรอบได้นานขึ้น  การใช้เกียร์ก็ตามความเร็วเลย ถ้าขึ้นเขาเริ่มตื้อๆ ก็ลดเกียร์ตามความเร็วและรอบลงเรื่อยๆ D ไป 2 ไป L เบรคช่วยบ้าง   เท่าที่สังเกตุ เวลาใช้เกียร์ 2 กับ L เบรคจะเหยียบหนึบขึ้นกดเบาลงและหยุดเร็วขึ้นกว่าเดิม ไม่รู้คิดไปเองหรือเหล่า  เท่าที่เอารถเพื่อน ae101ไปขึ้นดอยสุเทพผมว่า 7A จานจ่าย วิ่งขึ้นลงดอย สบายสบายๆ นั่ง 4 คน ก็ไม่อืดเท่าไรนะ เรื่องความร้อนเครื่องยนต์ถ้าเป็นหม้อน้ำมีเนียม 2 - 3 ชั้นผมว่าหายห่วงนะ ถ้าอยากแซงตอนขึ้นเขาเพียงชิพเกียร์เองก็มันส์เหมือนกันครับ  ค่อยๆ หาข้อมูลเรื่อยๆ ครับ ไ่ม่ต้องรีบร้อน เพราะยังมีเครื่องออโต้อีกมากกมายหลายตัวก็น่าสนใจไม่แพ้ 7A ครับ เช่น 4e bo auto ก็แรงเหมือนกันนะครับ ไว้ผมตัดสินใจว่าชอบเครื่องตัวไหนแน่ บวกกับเงินพร้อมเมื่อใดจะไปสอยเครื่องใหม่เหมือนกันครับ คงจะได้ไปใช้บริการอู่แถวๆ ลาซาลสักครั้ง 555

สำหรับพ้ม ขับ A/T ขาขึ้นเขา...คาคันเีกียร์ไว้ที่ D แต่ O/D OFF ไว้ (เท่ากับเีกียร์ 3 ) พอไต่เขาได้สักระยะหากรู้สึกว่า รถไม่ค่อยมีแรง รอบเริ่มตก ก้อค่อยๆ เบาคันเร่ง พร้อมกับขยับเกียร์มาตำแหน่ง 2 (เหมือนเชนเกียร์ M/T)...หากทางขึ้นยังชันอยู่ ก้อค่อยเปลี่ยนเปง L...แต่ส่วนใหญ่ ม่ะค่อยได้ใช้ตำแหน่ง L ซักเท่าไร
ส่วนตอนลงเขา ส่วนใหญ่ คาตำแหน่งเีกียร์ไว้ที่ 2 ค่อยๆ ปล่อยให้รถไหลไปเอง หากเร็วเกินไป ก้อใช้เบรคช่วยเปงระยะๆ โดยกดเบรคหนักในแต่ล่ะครั้ง ไม่เลียเบรค พยายามรักษาระดับความเร็ว และการทรงตัวของรถเอาไว้ นอกจาทางลงชัน และโค้งหักศอกที่เหงว่าอาจเปงอันตราย ก้อลดระดับโดยคาเกียร์ไว้ที่ L...ที่เหลือก้อพักรถบ้างครั้งคราว

สำหรับเส้นทางที่เคยใช้ A/T ขึ้นเขา ก้อมี ภูชี้ฟ้า-อช.ขุนน่าน-อ.ทุ่งช้าง-อ.แม่สะเรียง-อ.เมือง แม่ฮ่องสอน-อ.ปาย-ดอยสุเทพ-ดอยอ่างขาง...ดอยอ่างขางนี้เคยขึ้นทาง อ.ฝาง ที่ชันๆ ก้อไปกานสองคน...ตอนแรกก้อม่ายรู้ว่าชันขนาดไหน ก้อขับแบบที่บอกข้างต้น ปรากฏว่าหมดแรงกลางทาง เรยจอดพักรถ...พอเครื่องเยงลง ก้อเข้า L แร้วไปต่อได้ปกติ...ทุกวันนี้ก้อยังไม่มีปังหาเกี่ยวกะเกียร์

อีกเรื่องที่สำคัญสำหรับขับ A/T ขึ้นเขาก้อคือหมั่นดูแลน้ำมันเกียร์ อย่าให้พร่อง หรือ ขาดเกินก่ากำหนด รวมทั้งรอยรั่วซึมต่างๆ...หากหมั่นคอยดูแลเชื่อว่าเกียร์ก้อมีความทนทานพอสมควร...สำหรับพ้มใช้ A/T นี้มาประมานแสนหกหมื่นโลในเวลาประมาณ 2 ปี

โดยส่วนตัว รู้สึกว่าขับง่าย สบายกว่า เกียร์ M/T น่ะ...แต่ทั้งนี้ A/T อาจจาบู๊ได้ไม่มันส์เท่า M/T น่ะคับ อิอิ

สงสัยต้องขับให้เป็น ปัญหาของผมคือไม่เป็น และไม่เคยลองเกียร์ Auto บนเขาด้วยนะครับ คงต้องเก็บข้อมูลไปอีกสักพัก แต่เท่าที่ฟังพี่ ๆ มาก็คิดว่าน่าจะเป็นเกียร์ที่เล่นสนุกตัวหนึ่งเลยนะครับ

เอางี้ดีกว่าผมแซงวีโก้บนภูพานสบายๆ เพราะไม่ต้องห่วงเรื่องเกียร์กับคลัช   อาศัยไม่มีรถสวนเมื่อไหร่ก็คลิ๊กดาวเลย  แต่ทางตรงต้องยอมแพ้โก้ครับ
หมายเหตุ วีโก้ไม่ชอบทางคดเคี้ยว ช่วงล่างกะบะยังไงก็สู้รถเก๋งไม่ได้ในเส้นทางคดเคี้ยว

 :emotq  ผมใช้เกียรโอโต้มาน่าจะประมาณหนึ่งปีครับ กับระยะทางประมาณเจ็ดถึงแปดหมื่นกิโลวิ่งไปทั่วประเทศครับ ไกลสุด ๑๔๕๐ กิโล อุบล-กระบี่ ปรกติกรุงเทพเดือนละสามสี่หนครับ รองลงมาก็อุบลเชียงราย ประมาณหนึ่งพันกิโล  แรกๆก็ขับไม่เป็นครับ เพราะมันคนละเรื่องกับเกียรมือครับ ประมาณว่า เดิมเครื่องสองอีพันสามคาบูเกียรมือ มันสั่งได้ดังใจ (เร่งแซงยามคับขัน)  แต่พอปรับตัวไประยะหนึ่ง กลับมีเทคนิคที่แตกต่างจากการขับเกียรมือโดยสิ้นเชิงครับ จะเอาเทคนิคเกียรมือมาใช้กับเกียรโอโต้ไม่ได้เลยครับ   หากอธิบายให้เห็นภาพก็ประมาณ เกียรโอโต้นั้นเปรียบหมือนกับเราขับจักรยาน เวลาปล่อยคันเร่ง จะมีแรงส่ง เวลาเราผ่อนคันเร่ง ก็จะมีแรงส่งต่ออีกระยะ เหมือนกับจักรยานตอนเราไม่ถีบมันก็จะฟรีแบบนี้เป็นต้น  แต่เกียรมือเวลาปล่อยคันเร่ง เครื่องยนต์มันจะกลายเป็นเบรก ซึ่งข้อต่างนี้ผมปรับตัวอยู่เป็นเดือนครับ แบบว่าเร่งตามก้นเขาในเมือง พอยกคันเร่ง แทนที่มันจาเบรกให้เรา มันกลับไหลเข้าตูดเขาแบบนี้เป็นต้น ปรับตัวอยู่นาน วันนี้บอกได้เป็นวิทยาทานว่าเด็กๆแล้วครับ  เดินทางไกลหากเมื่อยๆ ก็เอาขาซ้ายยกขึ้นมานั่งขัดสมาธแก้เมื่อยแบบซาบายๆเลยครับ (ก็ท่านั่งขององค์พ่อจตุคามนั่นไง อิอิ) เท้าซ้ายก็เยียบคันเร่งไป ส่งมากส่งน้อย กลายเป็นสนุกแล้วลืมข้อดีของเกียรมือไปเลยครับ วันนี้ให้กลับไปใช้เกียรมือก็คงไม่เอาครับ ขนาดเจ้าเจมส์บอน(สามห่วงอีกคัน) เกียรมือมาแต่เกิดผมยังเปลี่ยนเป็นเกียรโอโต้เรียบร้อยไปแล้วครับ อืดได้ใจจริงๆไว้สำหรับวิ่งในเมืองรถติดๆครับเครื่องมันแค่พันสามเองคันนี้   เอาเป็นว่าเราจะพูดถึงสีเอพันหกเกียรโอโต้นะครับ สี่อีไม่พูดถึงแล้วกัน :emoth

 :emoth  ผมเปลี่ยนเกียรที่หกพันรอบครับ เวลาที่จำเป็นต้องทำเวลา ออกตัวพร้อมกันกับโก้ ทิ้งขาดเป็นทุ่งเลยครับ จาบอกเทคนิคให้ฟัง  เมื่อเราเข้าดีแล้ว เราจะสามารถพลักขึ้นข้างบนซึ่งเป็นเอ็น กับดึงลงล่างซึ่งเป็นสองได้โดยไม่ต้องกดปุ่มล็อคครับ  เกียรหนึ่งหรือแอลที่หกพันรอบ จะได้ความเร็วประมาณหกสิบ พอพลักมาสองรถก็จะกระโจนต่อไหลต่อเนื่องจนถึงร้อยยี่สิบที่ประมาณหกพันเศษนิดๆ แต่ส่วนใหญ่พอขึ้นร้อยสิบที่ประมาณหกพัน ผมก็โยกไปดี มันก็ไหลต่อไปจบที่ร้อยเจ็ดสิบ(สูงสุดแล้ว)ที่เกียรสามนะรอบเครื่องชี้ที่หกพันรอบพอดีเด๊ะ  หากลงเกียรสี่ความเร็วจะลดลงครับเหลือแค่ไม่เกินร้อยห้าสิบครับ วันนี้ผมก็เดินทางไปพิบูลมังสาหาร ก็กดเล่นๆกับคัมรี่ไฮบริด พอขึ้นร้อยหกเขาก็ไม่ตามเราแล้ว ปรกติขับทางไกลก็วิ่งแช่ที่ระดับร้อยสี่ตลอดการเดินทางครับ เกียรไม่เคยมีปัญหาครับ แต่ผมเปลี่ยนน้ำมันเกียรช้าสุดประมาณหมื่นกิโล แต่ปรกติทุกๆห้าพันกิโลครับหรือใกล้หมื่นก็ถ่ายทิ้งแล้วครับ เกียรเลยไม่มีปัญหาอะไรครับอึดถึก ทั้งที่เปลี่ยนเกียรที่หกพันรอบเป็นว่าเล่นเลยครับ ไม่เห็นมันพังซักที  ทีนี้หากขึ้นเขา ก็จะคลิกดาวน์มาสองกับสามครับ เกียรแอลแทบไม่ได้ใช้เลย ผมวิ่งขึ้นเขาหากเป็นทางเหนือ ช่วงน้ำหนาวก็เฉลี่ยร้อยยี่ขึ้นครับ กำลังเหลือๆ สำคัญเราใช้เกียรให้เป็นเปลี่ยนเกียรที่ช่วงกำลังของมันครับ ระดับสี่ห้าพันรอบ เขาชันขนาดไหนก็ขึ้นได้หมดครับ  แต่หากเป็นช่วงสองไปงาว ถนนแคบ ความเร็วเฉลี่ยก็จะลดลงใช้ประมาณแปดสิบที่เกียรสองครับ เวลาเร่งแซง เรามาD ตามรถช้า พอได้จังหวะก็แค่ผลักลงมาสองพร้อมกับกดคันเร่ง ก็เร่งแซงปรื๊ดขึ้นหน้าไปแบบเกียรมือเลยครับ เอาเป็นว่าช่วงความเร็วระดับหกสิบ ถึงร้อยยี่สิบ คลิกดาวน์ลงมาสอง ก็ส่งปรู๊ดขึ้นหน้ารถช้าทุกๆคันในประเทศนี้โลดครับ แต่มือเราต้องอยู่กับคันเกียรนะครับ เพราะว่ารอบมันกวาดขึ้นเร็วมากช่วงนั้น ไม่งั้นเกินหกพันครับ ต้องรีบโยกไปดีทันที รถก็กระชากต่อครับ วีโกสองพันห้าไล่ผมไม่ทันครับ สามพันก็แล้วแต่ฝีมือคนขับครับ ส่วนฟอร์จูนก็เลิกพูดเลยครับ มิวเซเว่นด้วยครับ รถหนักสองตันไล่ผมไม่ทันหรอกครับสามห่วงเราต่ำกว่าหนึ่งตันครับ ร้อยสิบแรงม้าหากรู้จักเอาลงพื้นเป็น รถที่ว่าก็ตามดูไฟท้ายเราไม่ทันหรอกครับ  หากรถหน้าเยอะๆรถพวกนี้ก็หมดสิทธิครับ

เกียรโอโต้ไม่อืดอย่างที่คิดครับ  รู้เทคนิคใช้บำรุงรักษาให้เป็น แมนวลก็แมนวลครับ สับไม่ทันหรอกมันยืดเป็นหนังกะติ๊กครับ ช่วงหนึ่งมาสอง ผมทำประจำครับ แค่ติดไฟแดง เหยียบเบรกไว้ พอเขียว ก็แค่กระทืบคันเร่งลึกๆ มันก็เปลี่ยนที่หกพันทุกเกียรแล้วครับ ต่อให้โก้สามพันก็ไล่ไม่ทันหรอกครับ หากไม่มีสิบกิโลโล่งๆข้างหน้าครับเลิกตามได้เลยทิ้งขาดเป็นสามทุ่งครับ  หากอยู่อุบลจานัดมาลองนั่งดูได้ครับ อิอิ วันนี้แลกเปลี่ยนแค่นี้คงหายลังเลแล้วหรือยังรึยังลังเลอยู่อีก คริ คริ คริ  :emo2 :emotp :emotq :emoth

ขับ 5เอ ออโต้ อยู่ครับ ขับกลับบ้าน จาก กรุงเทพ ไป เชียงรายทุกปี ก็ผ่านทาง ร้องกวาง เข้า อ.สอง เข้าพะเยา
ก็ถ้าทางมี แรงส่งก็ทำความเร็วได้สบายๆๆๆ  แต่ถ้าไม่มี ก็อืดตามความชัน นะครับ ต้องทำใจกะมันหน่อย
ถ้ารอบมันเริ่มตก ส่วนใหญ่ ผมจะกดปุ่ม O/D เข้าช่วย
สรุป ดอยตุง รถผมยังขี้นได้ แต่ต้องทำใจเรื่องความเร็ว

ปล.เดียวนี้ไม่ค่อยได้เข้าตัวเมืื่อง เข้าไปทีเปลี่ยนไปเยอะ สาวๆๆ ก็สวยเยอะ ทำไมตอนสมัยตูเรียนไม่มีสวยๆๆ อย่างตอนนี้บ้างหว่า

สงสัยจะได้โดน Auto ละ ต่อไปคงต้องหาเทคนิคการขับแล้วละครับ คงอยู่ที่คนมากกว่าละที่ต้องปรับตัวครับ

ขอบคุณพี่ ๆ ทุกคนนะครับ

ออโต้  ไปตามสภาวะเลยครับ  อืดนิดๆ

ลองดูครับ คลิปสี่เอโอโต้เขาขับแบบเอาม้าลงพื้นเต็มที่ร้อยเปอร์ ผมคะเนว่า ๐ - ๑๐๐ น่าจะต่ำกว่าสิบวินะ ออกทีล้อฟรีเลย โหดพอควรสำหรับเกียรโอโต้ ลองชมดูครับ เวลารีบๆทำเวลา ผมก็ขับฟิลนี้ล่ะครับ :emotp

http://www.youtube.com/watch?v=1DMK0bgb5Y0

ตามมาเก็บข้อมูลลลลลลลลลลลลลลลล

(http://www.bloggang.com/data/cmu2807/picture/1198413325.jpg) + (http://kbusociety.eduzones.com/th/wp-content/uploads/2010/02/unchikunpp7.jpg)

 :emotq