AE. Racing Club

http://www.civicfdthailand.com/ipb_forum/index.php?s=&showtopic=114624&view=findpost&p=4417245

เจ๊แกยังแถได้อีก

อ่านแล้ว งง กับเจ๊แกจิงๆ เด๋วบอกประหยัดทุกความเร็ว เด๋วก้บอกขับเร็วๆไม่ประหยัด :emoj

555555  แบบนี้ก็เคยเห็นมาบ้าง อันนี้ตลกดี

กร๊ากกก

ฮาจิงๆ จะใช้เกียร์Dเทส

สีข้างไม่แสบไปหมดแล้วเหรอเนี่ยแถซะขนาดนั้น :emots

5555

 :emoq :emoq

คนเขาจะขายของอ่ะ

เป็นนักดริฟท์

รู้สึกว่าจะมาถึงบ้านเราแย้ว อิอิ

แบบนี้ต้องอุ้มไปทิ้งทะเล

มันจะได้แถไม่ได้อีก

การโฆษณา
ถ้าดูจากแอดผมว่า Ok นะครับ แต่การสื่อสารการตลาดเช่นการพูดคุยกับลูกค้าไม่เฉพาะในบอร์ด FD แต่รวมถึงบอร์ดอื่นๆด้วย (คงไม่ต้องระบุว่าบอร์ดไหนบ้าง) ผมว่าควรจะให้ซอฟท์ลงกว่านี้จะดีกว่า (หรือทางคุณจะมองว่าเป็นการทำตลาดให้คนสนใจอย่างหนึ่ง ก็แล้วแต่นะครับ) แต่
อยากบอกว่าคนในบอร์ดต้องการอะไรที่ตรงไปตรงมาแบบชัดเจนมากกว่าครับ ดีกว่าจะเลี่ยงตอบคำถามไปๆมาๆ เลี่ยงไม่เท่าไหร่แต่ชนกับลูกค้า
จังๆอันนี้ยิ่งไม่เหมาะเลยครับ ถูกก็ว่าไปตามถูก ผิดก็ว่ากันไปตามผิด ดีกว่ามาเถียงกันไปเถียงกันมานะครับ ยังไงเสียผมว่าหลักการที่ว่า"ลูกค้าถูกต้องเสมอ"ยังคงใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัยครับ

มองภาพรวมในตลาด
ถ้ามองตัวเลือกขณะนี้ในตลาด เอาที่มีข้อมูลไดโนให้ดูเหมือนกัน ทุกเจ้านั้นเค้าจะให้แรงม้าที่ล้อเพิ่มขึ้นหมดนะครับ(มากบ้าง น้อยบ้างแล้วแต่ชนิด
ของอุปกรณ์) เพราะฉะนั้นการที่คุณกล้าเอาผลไดโนให้ดูนั้น เหมือนฆ่าตัวตายเลยนะครับ แทนที่จะยอมรับหรือบอกลูกค้าไปเลยแต่แรกว่า
อุปกรณ์ชิ้นนี้เหมาะกับการขับขี่แบบไหน และกรณีนี้พลาดเพราะทำให้ลูกค้าคาดหวังสูงเกินไป ก็เลยลงเอยแบบนี้ (แต่ถ้าจะบอกว่านี่เป็นวิธีทาง
การตลาดอย่างหนึ่ง ก็แล้วแต่ละกันนะครับ แต่ลูกค้าส่วนมากคงไม่ชอบคนขายที่ทำตลาดด้วยวิธีนี้เท่าไหร่นัก) ค้าขายแบบตรงไปตรงมา
จะได้ใจลูกค้ากว่านี้เยอะครับ ภาพพจน์สินค้าและบริษัทก็จะดูดีตามไปด้วย



พี่เค้าพูดมาหลักการดีมากๆเลยครับ ผูจัดจำหน่ายไม่ควรมาชนกับลูกค้าแบบนี้ :emotg

การวัดแรงบนเครื่องไดนาโมมิเตอร์-Dyno Test

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า การวัดรถบน DYNO ไม่สามารถบอกถึงการกินเชื้อเพลิงที่แท้จริงได้ เพราะไม่มีโหลด ถึงแม้จะมี DYNO ที่สามารถจำลองการโหลดได้จริง ไม่ว่าจะเป็นที่ AutoCar, DYNO KING วิชัยการชั่ง, PowerLab หรืออีกหลาย ๆ ที่ อยากได้แรงม้าเยอะ ไป PowerLab อยากได้แรงม้าใกล้เคียงความจริงไป AutoCar หรือถ้าอยากหรูหน่อยก้อไป HKS แต่จาการสังเกตุระบบการสอบเทียบ(Calibration) เมื่อเทียบเคียงกับห้องปฎิบัติการการทดสอบที่มีมาตรฐานสากลควบคุมโดยเฉพาะแล้ว มักไม่มีการติดป้ายบอกสถานะ และวันที่สอบเทียบครั้งถัดไป(Working standard) ซึ่งการทดสอบด้วยระบบเครื่องวัดเหล่านี้ วัดดูค่าเล่น ๆ ได้ แต่ความน่าเชื่อถือทางมาตรฐานของห้องปฎิบัติการมีค่าไม่สูงนัก

แต่สิ่งที่คนส่วนใหญ่ต้องการคือ ความจริง ในชีวิตจริง

รถที่ทดสอบเป็นรถ Honda Civic 1,800 cc 2010 ใช้เชื้อเพลิงเป็นแก๊ส การทดสอบครั้งนี้ใช้เกียร์รองจากเกียร์สูงสุดหนึ่งระดับ

จากกราฟ

เส้นบนสุด เป็นเส้นบอกแรงบิด(นิวตันเมตร Nm) เพราะสูงสุดที่รอบช่วง 42xx rpm แล้วก็ลาดลง

เส้นที่สองลงมา เป็นแรงม้าที่เครื่องปั่นได้ ช่วง 1800-2600 rpm จะชันมาก เพราะเริ่มวัดที่รอบ 1800 แต่พอช่วงรอบ 3600 จะค่อย ๆ สูงขึ้น แล้วแรงม้ามาสูงที่รอบ 64xx แล้วแรงม้าแผ่วลงเล็กน้อย แม้รอบจะมากขึ้น

เส้นที่สาม เป็นแรงม้าลงล้อ มาแนวเดียวกับเส้นที่สอง แต่น้อยกว่าเพราะสูญเสียแรงม้าระหว่างทาง (ชุดเกียร์ หรือเฟืองท้าย หรือล้อ)

เส้นที่สี่ เป็นแรงในการวิ่งทางตรง อธิบายว่า วิ่งทางตรงได้เรื่อย ๆ ตามประสาเครื่องธรรมดาไม่มีระบบอัดอากาศ ขึ้นตามรอบ

แต่สูญเสียม้าไปกับแรงเสียดทานเยอะ แรงม้าที่ลงล้อเลยลดไปเยอะ แต่ก็ไหลไปได้เรื่อย ๆ ตามเท้าที่เหยียบ

ส่วนแรงบิดสูงสุดมาในรอบสูงคือ ช่วง 42xx แล้วลดลง แต่ช่วงรอบ 4600-5000 แรงบิดค่อย ๆ ลดค่าลง

วิเคราะห์เปรียบเทียบกราฟ ก่อนติดตั้งอุปกรณ์ และหลังจากติดตั้งอุปกรณ์ Novel Vortex หนึ่งตัว

ที่รอบเครื่องยนต์(RPM)      แรงบิด(Nm)ก่อนติดตั้ง      แรงบิด(Nm)หลังติดตั้ง     ความเร็ว(Km/hr) gear3    ความเร็วใช้งานจริง(Km/hr) gear D

1,800                                      85                            109                     30                            เริ่มออกตัว 0-60
2,000                                      100                          123                     60                             80-100         
2,600                                      150                          153                     70                             110-130
3,000                                      148                          147                     80                             131-140
4,000                                      150                         158.4                   104(ลากรอบเครื่อง)        140-150
4,200                                      160.8                       157                     107(ลากรอบเครื่อง)        160-170
6,000                                      148                          143                     160(ลากรอบเครื่อง)        180-240

-แจกแจงเปรียบเทียบตามความเร็วรอบ เนื่องจากการใช้งานจริง ไม่สามารถขับที่ความเร็วสูงสุดได้ตลอดเวลา และการเริ่มต้นต้องเริ่มจากความเร็วต่ำไล่ไป
จนความเร็วสูงเสมอ

-อัตราเร่ง(0-100 Km/hr ภายในเวลา xx วินาที)คือความชันของกราฟเส้นบนสุด หลังจากติดตั้ง Novel Vortex จะได้อัตราเร่งที่ดีกว่ารถเดิม ๆ

-รอบเครื่องที่เหมาะสมในการเปลี่ยนเกียร์ตามจังหวะ คือประมาณ 2,500-3,200 rpm ถ้ารอบสูงกว่านั้นในขณะที่ไม่ได้ใช้เกียร์สูงสุดของรถ จะเป็นการลากรอบของเครื่องยนต์ ได้กำลังจริง แต่ไม่ได้ความเร็ว หรือรอบเครื่องสูง แต่ไม่ได้วิ่งเร็วขึ้น ดังจะเห็นได้ว่าจากกราฟ ที่รอบ 4,200 rpm ได้ความเร็วที่ 107 km/hr เท่านั้น ถ้าเราใช้ gear D จะได้ความเร็วมากกว่านั้นมาก

-จากกราฟและข้อมูลที่แสดงด้านล่างกราฟนั้น เป็นการบันทึกค่าที่มากที่สุดของรอบเครื่องยนต์ กับค่าแรงบิดที่วัดในรอบนั้น ของกราฟทั้งสี่เส้นเท่านั้น ไม่ได้บอกค่าแรงบิดทุกรอบเครื่องยนต์ ซึ่งต้องลากกราฟดูค่าและอ่านเอง
 
-จากกราฟช่วง3,000 rpm ขึ้นไป เป็นช่วงที่ควรเปลี่ยนเกียร์ แต่ในการทดสอบนี้ใช้การลากรอบเครื่องแทน ทำให้ต้องเร่งวาล์วลิ้นปีกผีเสื้อจนเปิดสุด เพื่อเค้นให้รอบเครื่องขึ้นจนสุด จึงฉีดน้ำมันมากที่สุด ทำให้ได้แรงบิดสูงสุดของแต่ละกราฟในช่วงนี้

-แต่ที่รอบเครื่อง 4,xxx นั้น การติดตั้งNovel Vortex ได้แรงบิดน้อยกว่าเดิมนั้น เนื่องจากการลากรอบเครื่อง(gear3) ทำให้ต้องเปิดวาล์วลิ้นปีกผีเสื้อจนสุด ซึ่งตามหลักการทำงานของ Novel Vortex นั้นจะทำงานได้ดีในกรณีเป็นคอคอด หรือคอขวด หรือกรณีท่อ Ventury เท่านั้น ทำให้ต้องสูญเสียแรงบิดส่วนนี้้ไปประมาณ 2.xx Nm ซึ่งถ้าเป็นการใช้งานจริง(gear D) รอบเครื่องที่ต้องทำให้วาล์วลิ้นปีกผีเสื้อเปิดจนสุดนั้นมักจะเป็นความเร็วปลาย ซึ่งรอบเครื่องจะขยับสูงขึ้นจากเกียร์สาม เป็นรอบเครื่องประมาณ 5,xxx-6,xxx rpm ขึ้นอยู่กับผู้ขับขี่ว่าต้องการเร่งวาล์วลิ้นปีกผีเสื้อจนสุดเมื่อใด

-และกราฟ Dyno Test ที่วัดแรงม้า แรงบิด แบบนี้นั้น ถ้าไปปรับจูนน้ำมัน/Gas ให้ฉีดเพิ่มมากขึ้นในรอบเครื่องยนต์นั้น ๆ ก็จะได้แรงบิดของกราฟที่สูงกว่าเดิม ๆ แต่มิได้หมายความว่าจะได้ความประหยัดน้ำมันตามมาด้วย ซึ่งกลับตรงกันข้ามคือยิ่งกินน้ำมัน และสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากกว่าเก่า ซึ่งสรุปโดยรวมก็คือ กราฟ Dyno Test นี้ไม่ได้บอกความประหยัดน้ำมันเลย

-ซึ่งกราฟที่ติดตั้งอุปกรณ์ Novel vortex ที่มีค่าแรงบิดมากกว่ารถเดิมนั้น อุปกรณ์ตัวนี้ที่ติดตั้งมิได้ไปสั่งจ่ายน้ำมันเพิ่มแต่อย่างใด เพียงแต่ทำให้น้ำม้นบางส่วนที่เดิมถูกทิ้งไปทางท่อไอเสียเนื่องจากเผาไหม้ไม่หมด(อากาศไม่ทันน้ำมันบางส่วน) พอติดตั้งอุปกรณ์นี้ไป น้ำมันส่วนที่ทิ้งนั้น ไม่ทิ้ง แต่กลับมาเป็นแรงให้ในรอบเครื่องยนต์นั้น ๆ ทำให้มีแรงม้าและแรงบิดมากกว่า โดยไม่ต้องทำการปรับแต่งจูนเพื่อฉีดน้ำมันหรือแก๊สเพิ่ม ซึ่งเป็นการใช้น้ำมันและแก๊สที่ถูกฉีดออกมาให้คุ้มค่าอย่างแท้จริง ไม่ทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์

-ที่ทดสอบตามกราฟ(รูปภาพ)ที่เห็นเป็นเกียร์สามเท่านั้น  เวลาเราขับรถจริงบนถนนนั้นไม่ได้วิ่งสุดแค่เกียร์สาม(ซึ่งถ้ารอบเครื่องยนต์เกินประมาณเกือบสามพันรอบขึ้นไป
เครื่องก็จะเปลี่ยนเป็นเกียร์สี่เองโดยปกติของเกียร์ออโต้ ถ้าเป็นเกียร์ธรรมดาถือว่าลากรอบเครื่องได้กำลังจริง แต่ไม่ได้อัตราเร่งและความเร็ว แถมเปลืองน้ำมันโดยใช่เหตุ)ซึ่งรถยนต์ตอนใช้งานจริงยังมีเกียร์สูงสุดคอยทดเกียร์อีกทอดหนึ่ง ทำให้รอบเครื่องที่จะต้องเปิดลิ้นสุดจริง ๆ นั้น สูงขึ้นไป
เกินห้าพันรอบขึ้นไปอีก ซึ่งก็คือความเร็วปลายสุดของรถยนต์จริง ๆ (ซึ่งรถตอนขับจริงบนถนนคนส่วนใหญ่ไม่ได้ขับให้มีความเร็วสูงสุดที่เกียร์สามนะ นั่นมันค่าSimulation Test เท่านั้น) และในถนนที่คนปกติใช้งานทั่วไปขับกันจริง และเน้นความประหยัดจะขับไม่ถึงความเร็วปลาย (110 km/hr ตามกฎหมายกำหนด)

และวิศวกรที่ออกแบบอุปกรณ์ตัวนี้มาก็ทราบดี และเลือกให้เหมาะกับการใช้งานสำหรับคนส่วนใหญ่มากกว่าเพราะมีปริมาณมหาศาลกว่ากันมาก ประกอบกับถนนเมืองไทยซึ่งมีทั้งหลุม บ่อ และการทำถนน เป็นระยะ ๆ ทำให้การขับที่ความเร็วปลายสุดที่วาล์วจะเปิดสุดจริง ๆ จึงน้อยมาก ๆ

แต่ก็ยอมรับว่ามีคนกลุ่มนี้อยู่ มิใช่ไม่มีเสียทีเดียว ซึ่งก็ต้องเลือกเอา สรุปว่าจะเลือกคนส่วนใหญ่และตอบโจทย์กับยุคน้ำมันแพง แต่อย่างไรก็ดีการขับ
ขี่ให้ได้ความเร็วสูงสุดนั้น ไม่จำเป็นต้องขับกระทืบแบบให้วาล์วเปิดสุดเพื่อให้ได้ความเร็วสูงสุด แต่สามารถขับแบบไต่ระดับความเร็วเพื่อให้ได้ความเร็วตรงนั้นได้เช่นกัน(โดยจะสังเกตุว่า เช่นที่ความเร็ว 180 Km/hr เมื่อความเร็วถึงขาเหยียบคันเร่งก็ไม่ได้จำเป็นต้องกดจนมิดเท้าเสมอไป) ซึ่งจะทำให้ได้กำลังที่เทียบเท่ากันและได้ความประหยัดกว่าแบบที่ปล่อยให้วาล์วเปิดสุด เพราะความเร็วที่ถึงนั้น ๆ คือการสั่งจ่ายน้ำมัน ได้ความเร็วเท่ากัน แล้วจะต้องขับกระทืบเพื่อให้เปลืองน้ำม้นโดยใช่เหตุทำไม ไล่เกียร์ไปกดคันเร่งถึงความเร็วนั้น ๆ รถลอยตัวที่ความเร็วนั้น ๆ แล้วไม่จำเป็นต้องกดคันเร่งจนวาล์วเปิดสุด ยกเว้นคุณจะขับรถแข่งก็อีกเรื่องหนึ่ง (แต่มาขับแข่งบนถนนที่คนทั่วไปใช้งานปกติ เราคงไม่สนับสนุน และเป็นการทำผิดกฎหมาย และก่อความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน ให้ต้องคอยเดือดร้อนตำรวจต้องมาปิดถนนยามค่ำคืน แล้วดักจับพวกรถแต่ง รถซิ่งเพียงความสะใจเพื่อความแรง ตอบสนองอารมณ์ตนเอง) ซึ่งอันที่จริงก็ควรไปอยู่ในสนามแข่ง ซึ่งก็ต้องใช้อุปกรณ์ของเราอีกรุ่นหนึ่งที่ตอบสนองความเร็วปลาย ไม่เอาความเร็วต้นเพื่อประหยัดน้ำมัน

 และขอย้ำว่าอุปกรณ์รุ่นนี้ไม่จำเป็นต้องปรับปรุงอะไร

สรุป คือ อุปกรณ์แบบสองชั้นรุ่นนี้ เหมาะ และตอบสนองความต้องการของคนส่วนใหญ่ที่ขับใช้งานแบบปกติ ต้องการประสิทธิภาพของความประหยัดตามยุคน้ำมันแพง และนอกจากความประหยัด  สมรรถนะในการขับขี่ ก็ดี กว่า ทั้งกำลัง อัตราเร่ง ก็เพิ่มขึ้น ตามปริมาณ น้ำมันที่จ่ายออกมา

และหากสนใจ พิสูจน์ประสิทธิภาพของอุปกรณ์ สามารถทดสอบได้ทุกวัน  ไม่พอใจ ไม่ต้องจ่ายใดๆทั้งสิ้น
 ส่วนคนที่อ้างว่าสามารถขับรถแบบเหยียบรอบสูงได้ตลอดเวลา หรือเยียบคันเร่งให้วาล์วเปิดสุดได้ตลอดเวลานั้น เป็นพวกรวยจัด หรือไม่ก็เป็นพวกแก๊งขับรถซิ่งกวนเมืองที่ขับแข่งกันบนท้องถนน(ขับแบบปาดแซงไปมา คันเดียวบ้าง สองคันบ้าง เพื่อสนองว่ารถแรงกว่าใครบนถนน) ก่อความเดือดร้อนให้คนใช้รถใช้ถนนที่ขับแบบปกติ และตำรวจที่ต้องคอยมาตั้งด่านดักจับยามค่ำคืน (สังเกตุได้จากรถกลุ่มเหล่านี้จะมีการแต่งตัวรถและเครื่องให้ต่างไปจากรถปกติอย่างมากมาย)  คงไม่ต้องเสียเวลามาทดสอบ 

และอุปกรณ์ที่กล่าวถึงกันบ่อยในราคา สองร้อยถึงห้าร้อยบาท เมื่อกี่ปีที่ผ่านมานั้น มันเป็นแบบชั้นเดียว ที่ไม่มีบ่าล็อคกันลื่น (มันผิดกัน ไม่เหมือนกัน) ซึ่งอันตรายมากๆ แถมไม่เห็นผลอย่างที่รู้ๆกัน

ส่วนอุปกรณ์แบบชั้นเดียวที่มีบ่ายังงัย ก็หลักพันบาทขึ้น ซึ่งปลอดภัยกว่า แต่ก็ยังเห็นผลได้น้อยอยู่ดี

และสำหรับ Novel Vortex อันนี้เป็นดีไซน์แบบสองชั้น ได้ผลชัดเจนกว่า ทั้งความประหยัด กำลังของเครื่องยนต์

นอกจากนี้การขึ้นรูปยากและซับซ้อนกว่า ต้องใช้ความรู้ และการลงทุนที่สูง ....อีกทั้งประสิทธิภาพที่ได้ ก็ชัดเจน รวมถึงรับประกันความปลอดภัย ด้วย    ….ซึ่งเปรียบเทียบไม่ได้เลยกับของ ราคาถูกๆ ที่หลายคนอ้างถึง


แต่สำหรับใครที่คิดไม่ได้ เปรียบเทียบ ไม่เห็น อยากได้ของถูก และไม่ปลอดภัย ก็แล้วแต่ พิจารณา ส่วนตัวแล้วกัน

*****

(http://image.ohozaa.com/i/158/ndg51.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=5e2c6e4c98f6ea19958072ed3e52614f)

เคยโทรไปคุยเค้าว่า ทุกรุ่น 2500 อืม... ใช้แล้วประหยัดน้ำมันมาก

โห ตามมาแถในนี้อีก 555

ล่าสุด เธอมาเยือนที่นี่แล้ว >> http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=86359.msg2715630;topicseen#msg2715630

----------

ตอนแรกว่าจะไม่ออกความเห็นแล้ว แต่พอเห็นเจ๊แกอัพแบบไม่สงสารคนอ่าน หรือไม่สนใจคนถามแล้วก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ

คนขายของที่ไหนมันมองข้ามคนที่ถามได้ขนาดนี้วะ ! ใจทำด้วยอะไร

ถามราคาถามอะไรต่อมิอะไร คุณเธอไม่สนใจ แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาอัพด้วยข้อความเเดมๆ เต็มหน้าเหมือนเดิม...เป็นใครก็เอียนจนไม่อยากอ่าน

เช่น ข้อความ #130 แล้วก็ลงมาอีกนิด >> http://www.thaimazda3.com/forum/index.php?showtopic=57920&st=120

ผมก็ยืนยัน นอนยันให้เช่นเดิมครับว่า......

อุปกรณ์กากๆแบบนี้ เห็นมีหลุดออกมาโฆษณาเรื่อยๆละครับ แรงขึ้นอย่างนั้น ประหยัดขึ้นอย่างนี้
ทั้งๆที่เอาหลักการเพิ่มลม(อากาศ)เข้ามาช่วยนิดหน่อย แต่รายรายนี้ผลทดสอบกลับกลายเป็นอุปกรณ์นั้นไปปิดกั้นอากาศที่รอบสูงๆ
มันเลยส่งผลให้แรงม้าและแรงบิดลดลง แถมตั้งชื่อให้ดูหรูหรา vertexบ้าง chargerบ้าง คงคิดว่ากินข้าวเป็นอยู่คนเดียว

ในเครื่องยนต์นั้นเป็นวิทยาศาสตร์ เป็นศาสตร์ชั้นสูงครับ ไม่ใช่ว่าจะเอาอะไรยัดเข้าไปแล้วจะส่งผลดีไปหมด
หากใส่แค่อุปกรณ์ที่ดูคล้ายครีบบิดตัวไว้ดักอากาศ แล้วหลงเข้าใจว่าอากาศที่วิ่งผ่านครีบนั้นมันจะหมุมวน....
และแรงที่หมุนวนนั้นจะส่งผลให้การประจุอากาศเข้าเครื่องยนต์ได้เร็วและรุนแรงขึ้น มันจะส่งผลให้มีแรงม้าและแรงบิดเพิ่มขึ้น
~ ผมขอบอกเลยว่าคนที่คิดแบบนี้ ค ว า ย ครับ ~ ไม่รู้เรื่องแล้วยังจะมาผลิตอุปกรณ์เฮงซวยออกมาหลอกขายชาวบ้านอีก
หากมันใส่เข้าไปแค่นั้นแล้วส่งผลดีจริง คนออกแบบเครื่องยนต์เขาทำไปใส่รถกันตั้งแต่โรงงานแล้วครับ ต้นทุนเพิ่มขึ้น 200 เขายอมอยู่แล้ว

ดีที่คนในเวป FD เขากินข้าวกันครับ การทดสอบบนdynoนั้น ผลออกมาอย่างไร เขายอมรับกันทั่วโลกครับ
เห็นกันจะๆ ไม่ต้องเอาความรู้สึกมาตัดสิน ไม่ต้องมาอ้างหรือบิดเบือนใดๆอีก

ผมหวังว่า พี่น้องของเรา จะนำเอาหลักการทดสอบดีๆของพวกเขามาใช้ในการอ้างอิงอุปกรณ์ใดๆที่มีการโฆษณาหรือกล่าวอ้างกันนะครับ

 :emo2 :emo2 :emo2 :emo2 :emo2 :emo2 :emo2 :emo2 :emo2 :emo2 :emo2

สะใจครับน้า :emo2 :emo2 :emo2 :emo2

(http://www.bloggang.com/data/loveguru/picture/1206795390.jpg)

ถ้าผมซื้อเซตนี้มา

ติดตั้งทั้งชุดลงไป 36 ตัว

ก็ประหยัดสุดยอดเลยดิ๊ ดูดลมกันกระฉูด

มาถึงบ้านเลยเฮ้ย 555

อุปกรณ์ขี้กาก คนขายไม่มีความรู้ แล้วดันคิดว่าตัวเองรู้อีกต่างหาก

อย่ามาโชว์โง่ในนี้เลยครับ แหมมาถึงบ้านแล้วจะได้ด่าได้ถนัดหน่อย

แถมคนขายหน้าตาไม่ดีอีก ไม่มีคำว่าปราณี  ก๊ากๆๆๆๆๆๆ

ทำไมไม่ทำใส่รถสิบล้อ รถบัส ปอ. ด้วยเลยละ จะได้ประหยัดกันแม่มทั่วประเทศไปเลย หรือ ไปลองเสนอให้กับทางผู้ผลิตรถยนต์ใส่ก็ได้นะ ขายได้ปีนึงเป็นล้านๆคันเลย รวยเละเลยละครับ อย่ามาหลอกหาตังค์กับพวกผมเลยกับอุปกรณ์กากๆแบบนั้น

ไม่ซื้อ  ไม่ติด  ไม่ประหยัด  ชอบแรงๆ :emo1 :emo1 :emo1

ไม่ดีก็ลบออกจากระบบ

ถ้ามันได้ผลจริง ผมจะได้ไม่ต้อง ใส่แคมชาฟ ......อิอิ

เวปเราก็มีแบบนี้ ฮ่า ฮ่า

งง ตรงที่ แรงบิดเพิ่มในรอบต้น ทำได้ไง

วิเคราะห์เปรียบเทียบกราฟ ก่อนติดตั้งอุปกรณ์ และหลังจากติดตั้งอุปกรณ์ Novel Vortex หนึ่งตัว

ที่รอบเครื่องยนต์(RPM)      แรงบิด(Nm)ก่อนติดตั้ง      แรงบิด(Nm)หลังติดตั้ง     ความเร็ว(Km/hr) gear3    ความเร็วใช้งานจริง(Km/hr) gear D

1,800                                      85                            109                     30                            เริ่มออกตัว 0-60
2,000                                      100                          123                     60                             80-100         
2,600                                      150                          153                     70                             110-130
3,000                                      148                          147                     80                             131-140
4,000                                      150                         158.4                   104(ลากรอบเครื่อง)        140-150
4,200                                      160.8                       157                     107(ลากรอบเครื่อง)        160-170
6,000                                      148                          143                     160(ลากรอบเครื่อง)        180-240  

ฝาดำลากรอบแค่นี้แล้วแรงบิดตก จะใช้ฝาดำทำขี้กากอะไรเนี่ย
ขวางอากาศชัดๆ ยังจะแถ... :emote

โดนใจจริงๆเลยท่านประธาน ชอบๆ 555  :emo2

แล้วถ้าคนขายสวย.....พี่จะให้อภัยไหมครับ  อิอิ  :emoth

ดูจากรูปการณ์แล้ว

คนขาย คงโดนหลอกมาอีกต่อนึง เลยรับมาขายซะเยอะ คิดว่างานนี้ฟันกำไรเห็น ๆ
แต่ที่ไหนได้ งานเข้า

ไอ้ครั้นจะเลิกขายก็ทำไงได้ ลงทุนไปแล้วนิ

เอาวะ โดนด่ามั่งช่างมัน ให้ตรูข้า ขายได้คืนทุนพอแล้ว



รู้ตัวแล้วก็เลิกเถอะ พฤติกรรมแบบนี้

กด like  ตรงไหน ...
จะกดซักร้อยครั้ง ...

ถ้าแถขนาดนี้ ...

ความสวยคงช่วยไม่ได้ ...

ผมคิดว่าเขาไม่ได้โดนหลอกมาหรอกครับอู๋ เขาคงคิดว่ามันหลอกง่ายมั้ง ไม่คิดว่าจะโดนจับขึ้นขาหยั่ง...... เอ้ยยย Dyno

พอโดนมุกนี้เข้า เลยต้องกลับไปตั้งหลักกันใหม่ แล้วออกมาแถรอบสองว่า Dynoมันไม่ได้วัดว่าประหยัดอย่างไร

โดยลืมคำที่โฆษณาไปว่า แรงขึ้นประหยัดขึ้น แรงตั้งแต่ต้นยันปลาย ม้าเพิ่ม แรงบิดเพิ่ม แต่ผลออกมากลับตรงข้ามซะงั้น


เมื่อประมาณ 6 ปีที่แล้ว เคยมีคนเอาไอ้สินค้าตัวนี้แหละมาโฆษณาขายแบบนี้ อ้างอิงเวปไซท์ที่เป็นของต่างชาติ

ให้คนไทยหลงเข้าใจว่า... แม้แต่ฝรั่งยังใช้กัน แถมเอาไปฝากพวกเชียงกงบางร้านให้ขายเป็นของมือสองโดยอ้างว่าถอดมาจากรถแรงๆจากญี่ปุ่น

พวกบ้าของนอกยุคนั้นก็เลยโดนไปหลายราย แต่.... ขี้ ก็ยังเป็นขี้อยู่วันยังค่ำ ใช้งานจริงจึงรู้ว่ามันห่วย โคนรุมด่ามากๆก็เลยเงียบไป

รอบนี้กลับมาใหม่ โหมโฆษณากันหนักกว่าเดิม แถมอ้างการไปออกบู๊ทตามที่ต่างๆ (ก็มีเงินเช่าที่ เขาก็ให้ออกร้านขายแหละครับ)

ดูการโฆษณาสิ โจมตีพวกอื่นๆว่าใส่แล้วศูนย์จะไม่รับประกันเครื่องยนต์บ้าง ไม่เห็นผลบ้าง.... ของตัวเองแรงและประหยัดขั้นเทพ


สาเหตุที่สินค้าพวกนี้ยังมีคนกล้าขาย ไม่ใช่ว่ามันดีจริงหรอกครับ

แต่เพราะ กำไรมันดี.... ลงทุน 2-300 บาท ขายได้ 2500  ยอมหน้าด้านโดนด่าเพื่อหวังให้มีหมูหลงมาให้เชือดบ้างก็คุ้มแล้ว

แบ่งเปอร์เซ็นต์ให้คนขายเยอะหน่อยก็เลยยอมด้าน ยอมแถกันแบบที่เห็นๆกันอยู่แหละครับ


 

พี่อู๊ต.....ดุอะ เดี๋ยวเค้าก็กลัวหมดอะครับ

แชร์ตังกันคนละ 100 ไหมแล้วซื้อไปลองบน Dyno เลย แค่อยากรู้ว่าถ้าไม่ดีจริง จะได้ตังคืนป่ะ  :emoth

ดูท่าทางคนขายจะมาหลักวิสวกรรมมากเลยนะครับ

แบบว่า อ้างอิงจากกราฟ

แล้วที่ผมงงคือ ถ้าของเค้าดีอย่างที่โฆษณาไว้มากมายตามเว็ปต่างๆเนี่ย จำเป็นไม๊??

พี่ๆน้าๆลองคิดดูนะครับ ผมขอยกตัวอย่าง ร้านก๋วยเตี๋ยว

ร้านบางร้านทำซะใหญ่โต แต่คนร่อยหรอ โปรโมชั่นเท่าไหร่คนไม่เข้า (เพราะไม่อร่อยริง)

แต่.....

ร้านบางร้าน เก่าๆ โทรมๆ ลูกค้าเพียบ ไม่ต้องโฆษณา เหอๆ (คงไม่ต้องบอกนะครับว่ารสชาติเป็นยังไง)

เรียนผู้ขาย พิจารณาเอาเองนะครับ ว่าถ้าของคุณดีจริงๆ จะอ้างลูกค้าคนโน้นคนนี้ทำไมเอ่ย

แล้วคุณจะมาเสียเวลาตอบกระทู้ เถียงกับกลุ่มผู้บริโภคเพื่อ ?? (ถ้าของคุณดีจริงๆ)

 :emotn :emotn :emotn

แล้วจะเอารถใครไปลองอ่ะน้าหมู

พวกนี้หนากว่าที่คิดครับเบส คงไม่กลัวน้ำร้อนง่ายๆหรอก

หลังๆ ออกมาแถว่าDyno ที่มีอยู่ตามร้านทั้งหลาย ไม่น่าเชื่อถืออีก ก๊ากกกกกกกก


ขอบอกว่า ถ้าวัดความน่าเชื่อถือนั้น สิ้นค้าคุณไม่น่าเชื่อถือที่สุดครับ

ยืนยันอีกครั้งว่า ถ้ามันดีจริง เขาทำใส่รถที่ออกมาจากโรงงานแล้วละครับ

คุยกับคนขายเลยครับ แต่ผลการลองครั้งก่อนมันค้ำคอเขาอยู่นะ ...... จะยอมคืนเงินเหรอ

ถึงจะยอมคืน แต่ค่าขึ้นDyno ละครับ ใครจ่าย.....

หากต้องจ่ายค่าขึ้นDyno เอง............. ผมเอาเงินไปจ่ายค่า  ~ขึ้นห้อง~  ดีกว่าครับ

เรื่องนี้ มีคำตอบครับ ...... แต่ขอดูกึ๋นของพวกที่อ้างตัวว่าเป็นวิศวกรรออกแบบไอ้ตัว เวน โกเต็ก... นี้ก่อนครับว่ามีกึ๋นแค่ใหน

เลยอยากทิ้งคำถามไว้ให้เหล่าวิศวกรผู้ออกแบบเจ้าโกเต๊กนี้ครับว่า.....

เครื่องยนต์ 4AG 20V Standard
ที่รอบ 2000 3000 4000 5000 6000 7000 8000rpm คำนวณได้ใหมครับว่าแต่ละช่วง เครื่องยนต์มันต้องการอากาศกี่ลิตร
แล้วอุปกรณ์ของคุณ ที่รอบดังกล่าวมันทำอากาศได้เท่าไร ..... มันช่วยให้ประหยัด แรงบิดและแรงม้าเพิ่มได้อย่างไร

ตอบได้ค่อยมาโม้ว่าเป็นคนออกแบบครับ หากก๊อปเขามา ก็หุบปากซะนะ อย่ามาเขียนบทความโฆษณาโชว์โง่ในนี้เลยครับ

สุดยอดเลยน้าอุ๊ด แต่ว่ามันบอกว่าประหยัดนี่หว่า ไม่ได้บอกว่าแรง เฮ้อ ทดลองยากจริง ๆ

ง่ายสุด ขับไม่เกิน 90 รถอะไรก้อประหยัดคร๊าบ  :emotq

90>>>>>> ผมขับไม่ได้อะครับ เฮ้ย.....

วิ่ง 90 แล้วง่วงนอน จริงๆนะ

ไม่นึกว่าแมร่งจะมา เลยจัดไป 1 ดอก

web นู้นยังไม่จบ มา web นี้อีกกล้ามาก ...

เท่าที่อ่านคือ เอาอะไรบางอย่าง ไปยัดเพื่อย่อขนาดท่อไอดี ให้อากาศเข้าน้อยกว่าเดิมแค่นั้นใช่ป่าวครับ

 ถ้างี้ผมตั้งลิ้นปีกผีเสื้อ ให้เปิดไม่สุดก็ได้อดิ  ไม่เห็นต้องซื้อเลย หรือต่างกันยังไง อธิบายหน่อย  ผมไม่ค่อยมีความรู้เรื่องเครื่องยนต์

ครับ    หรือผมเข้าใจผิด.....?

ผมคิดว่าการลดขนาดท่อไอดี ก็ทำให้อากาศวิ่งเร็วขึ้นทำให้มีแรงดูดเพิ่มมากขึ้น เป็นไปได้ว่าทำให้รถมีกำลังมากขึ้น แต่ก็น่าจะทำให้รอบสูง อากาศไหลเข้าไม่ทัน ทำให้แรงตกลง ก็คล้ายๆการใส่ปากแตรละครับ

ที่แน่ๆคือ โคตรโม้ ว่าดีทั้งต้นและปลาย ประหยัดอีกต่างหาก แถมใส่แล้วรอบเครือ่งลดลงอีก? บ้ากันเข้าไป

แถมมีใบรับรองจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าด้วยนะครับ ยอดไปเลย ยังกล้ามาเถียงต่ออีก กั่กๆๆๆๆ

อ้างหลายสถาบันเหลือเกิน ผมว่าลองสอบถามไปยังสถาบันต่างๆที่เขาอ้างดูครับว่าได้รับรองจริงหรือไม่

เดี๋ยวส่งไป SME ตีแตก ดีฟร่า................. :emoth

เคยเห็นที่เชียงกง ใส่ไว้ในตะกร้ารวมๆกับเศษอะไหล่ต่างๆ หยิบมาถามเจ้าของร้านบอกขาย50บาท

จากรูปที่มีครีบแปะอยู่ข้างใน เข้าใจว่าต้องการทำองศาให้เฉียง เพื่อบังคับลมที่เข้ามาให้หมุนเป็นเกลียวอ่ะครับ หลักการมีแค่นั้น

ปกติลมถูกดูดเข้ามาตรงๆ และไร้ทิศทางเข้ามาแบบเต็มบ้องท่อยาง ก็จัดระเบียบมันซะให้เข้ามาแบบม้วนเป็นเกลียวแทน

จากความรู้สึกก็น่าจะได้มวลอากาศที่มากกว่าเดิมอยู่ล่ะ

แต่มันจะเดินทางเข้าปีกผีเสื้อช้าไปรึเปล่าเพราะมัวแต่ม้วนเป็นเกลียวสปริงอยู่

ซึ่งตรงนี้ครีบที่บังคับลมให้ม้วนเกลียวเยอะหรือน้อยล้วนมีผลต่อเครื่องแน่นอนครับ และไม่แน่ใจว่าบริษัทนี้ได้ทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่ารึยังจนได้สูตรเท่านี้ออกมาและผลิตเป็นสินค้าออกจำหน่าย

10 บริษัทผลิต ทำครีบให้ลมตีเกลียวออกมาต่างกัน ผลลัพธ์ก็ไม่เหมือนกันแล้วครับ ที่มีเพื่อนบอกว่าเห็นวางขายที่เซียงกงบ้าง อันละ 200 บ้าง เราจะรู้ได้อย่างไรว่าของจากที่ไหนดีกว่า...ตรงนี้แหละ คนที่ออกสื่อย่อมได้เปรียบในการอธิบาย

แต่รายนี้กลับชักแม่น้ำทั้ง 5 มาพูดแต่น้ำไม่มีเนื้อ เหมือนว่าตนเป็นจ้าวแรกที่ผลิต เป็นใครอ่านก็ต้องรู้สึกขัดแย้งล่ะ ที่มีคนว่าหน้าด้านก็เหตุนี้แหละ

ตรงนี้ถือว่าพลาดครับ...เสียดายโอกาสในการใช้สื่อจริงๆ (แต่เค้าก็คงคิดว่าประสบผลสำเร็จแล้วมั้ง เพราะในรูปก็มีรถเกือบร้อยกว่าคันไปติดมา)

และก็ไม่ใช่ว่าลมเข้าเยอะขึ้น แต่เชื้อเพลิงกับไฟเท่าเดิมแล้วจะวิ่งดีขึ้นนี่ ทุกอย่างต้องสัมพันธ์กันตามสูตร A/F ก็คือ 14.7 : 1 ในอุดมคติ มากหรือน้อยกว่านี้ก็บางหรือหนาไป

เอาเป็นว่ารู้กันในวงของเราแหละครับ ถ้าไม่มีใครไปแย้งในกระทู้เลยก็คงจะมีเหยื่อเป็นคนในเว็บเราด้วย  :emox

กดLike

กระทู้ใน web FD เข้าลบไปแล้วอ่า สงสัยไม่อยากเอาไว้ เปลืองเนื้อที่เว็บ.......  :emob

ตลก ตรงมีใบรับรองจากนายร้อยจุลจอมเกล้านี่แหละ ไปทำสอบทำบ้าไรใน จปร.

จิงๆมันต้องเป็นพระจอมเกล้า ผมขำแทบตายตอนอ่าน 555

เวปนั้นเค้าลบกระทู้ขาจร ทุกสิ้นเดือนครับ เป็นปกติ

หรือว่าเอาไปใส่ใน F16 !!!

 :emoa :emoa :emoa

รถถัง ต่างหากครับน้า   ฮ่าๆ

อากาศที่หมุนเป็นเกลียวนั้นไม่ส่งผลไปถึงการทำให้ส่วนผสมคลุกเคล้าได้ดีและเผาใหม้ดีขึ้น หรือส่งผลใดๆในด้านดีขึ้นเหมือนที่เขาอ้างหรอกครับ

เมื่ออากาศหมุนไหลผ่านปากลิ้นเร่ง มันจะปะทะเข้ากับตัวลิ้นเร่งทำให้ลมที่หมุนเข้ามานั้น แตกตัวแบบไร้ทิศทาง
จากนั้นอากาศมันก็จะวกเข้าที่คอไอดี ซึ่งส่วนใหญ่จะทำมุม 90องศากับปากลิ้นเร่ง การหักมุมตรงนี้ทำให้อากาศแตกตัวอีกครั้ง จนไม่เหลือการหมุนใดๆ

การประจุอากาศ (ไอดี) เข้าสู่ห้องเผาใหม้นั้น มันไม่ได้ไหลต่อเนื่อง แต่จะไหลเป็นจังหวะตามการเปิด-ปิดของวาล์ว
ดังนั้นไม่ว่าอากาศจะไหลมาในรูปแบบการหมุนแบบใด มันจะหยุดการหมุนโดยสิ้นเชิงจากการที่ไม่ได้ไหลต่อเนื่องนี่แหละ
การหมุนของอากาศที่บอกว่าช่วยให้ผสมกับน้ำมันดีขึ้นนั้น จึงไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

การผสมระหว่างอากาศกับน้ำมันนั้น
ผสมกันได้ดีจาก การฉีดน้ำมันที่เป็นฝอยละเอียดด้วยหัวฉีด แล้วไหลไปหมุนวนในห้องเผาใหม้ ( turbulence chamber )
มันจะหมุนวนได้ดีแค่ใหนขึ้นอยู่กับการออกแบบห้องเผาใหม้นั้นๆครับ อีกส่วนหนึ่งที่จะส่งดีผลต่อการจุดระเบิดคือความแรงของประกายไฟและกำลังอัด
กำลังอัดสูงๆนั้น ไม่มีประกายไฟก็เกิดการลุกใหม้ได้ เช่นเครื่องยนต์ดีเซล
ทั้งหมดนั้น เขาออกแบบเครื่องยนต์ให้ทำงานได้ดีโดยไม่ต้องติดตั้งอุปกรณ์ใดๆเข้าไปเพิ่มเติมทั้งสิ้นอยู่แล้วครับ

อีกสิ่งหนึ่งที่เราเข้าใจกันถูกต้องแล้วคือสัดส่วนการผสมระหว่างน้ำมันกับอากาศที่ 14.7 : 1
ซึ่งรถที่ออกจากโรงงานจะถูกจูนมาอย่างดีตามสัดส่วนนี้แล้ว สังเกตุว่ารถใหม่จะไม่มีควันหรือเขม่าใดๆหลงเหลือจากการเผาใหม้เลย
ดังนั้น การที่เราจะปรับเปลี่ยนส่วนผสมให้ผิดไปจากนี้ ไม่ว่าจะหนาขึ้นหรือบางลงก็ตาม
มันจะส่งผลในทางร้ายมากกว่าครับ

ส่วนรูปรถที่ติดตั้งจำนวนพอสมควรนั้น
มันเป็นแค่การแหกตาทางการตลาด ที่สามารถเอารถจากที่ใหนมาถ่ายรูปก็ได้นี่

การกล่าวอ้างว่าอุปกรณ์เขาช่วยลดรอบเครื่องยนต์ที่ความเร็วเท่ากันยิ่งเป็นไปไม่ได้
เพราะความเร็วของรถคันเดียวกัน จะขึ้นอยู่กับอัตราทดของเกียร์ , เฟืองท้าย และขนาดของล้อ
หากรถคันนั้น วิ่ง 100 กม./ชม. ที่รอบ 3000 ....... จะวิ่งสักกี่ครั้ง จะใส่อากาศหรือน้ำมันเข้าไปเท่าไรก็ตาม ก็ยังคงวิ่ง 100 ที่ 3000รอบเท่าเดิม
การที่เขาบอกว่า วิ่ง 100 ใช้รอบน้อยกว่า 3000 ....... เป็นการ โชว์โง่แบบเด็กปัญญาอ่อนครับ

พอผมไปเสริชหาข้อมูลตัว intake charger ในเวปเพื่อนบ้านเรานี่อ่ะนะ เค้าพูดขนาดว่า ใครใส่อยู่ให้ถอดด่วน ใบพัดหักวิ่งลงคอไอดี เกิดความเสียหายกับเครื่องยนตืเค้าอ่ะครับ

พอดีบังเอิญไปเจออ่ะนะ

ลูกค้าใช้แล้วไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้ขอคืนตัง แค่ถามในเว็บว่ามีใครเคยใช้บ้าง

โดน เหวี่ยง เว้ย เฮ้ย !!

แถมมีระแวงกลัวคนซื้อเอาไปก๊อปขาย โอ้....เข้าข้างตัวเองโคด ๆ

http://www.accordclubthailand.com/webboard/index.php?topic=120501.0

น่าจะลองแจ้ง สคบ ให้มาตรวจสอบ ขั้นตอนการผลิต และ การทดสอบต่างๆที่ได้โฆษณาไว้ในเวบ จำเป้นต้องเป็นผู้ใช้งานหรือเปล่าครับ หรือว่า ใครก็แจ้งได้

แล้วรูปที่ลงไว้ว่ามีรถมาติดเยอะ ก็น่าจะขอเบอร์มาถามความเห็นกันเลยว่า ติดแล้วเป็นยังไง

กลายเป็นดราม่าไปแล้ว อิอิ

http://drama-addict.com/2011/04/01/%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%9E/

http://www.accordclubthailand.com/webboard/index.php?topic=120501.180

เหนื่อยใจจะเคลียจริงๆ

ชะนีแก่ตัวนี้

ชีวิตมันจะมีความสุขมั้ยเนี่ย ต้องมาคอยตอบคำถาม แถไป แถมาแบบนี้ :emotq

^
^
เค้าคงถือว่าลับสมอง :(

เห็นรูปอุปกรณ์ชัดๆ 2500 ...

สวดยวด ...

http://www.lancer-exclub.com/forum/index.php?topic=293.0 (http://www.lancer-exclub.com/forum/index.php?topic=293.0)

http://www.xtrailclub.net/index.php?topic=3855.0 (http://www.xtrailclub.net/index.php?topic=3855.0)เอาไปอีกลิงค์ ...

อย่า พึ่ง ตก !

มีใครในนี้หลงซื้อไปแล้วมั่งเนี้ย....

ไม่ไช่ผมนะ น้าน๊อท  อิอิ

แถสุดๆๆอะ  ใช้คำว่าคนได้แรง ไร้มารยาทมากๆ

ว่าจะบอกอีกอย่าง ใครบอกว่าสแตนเลส 304 ไม่เป็นสนิม  ผมเถียงตายเลย ที่โรงงานผมขึ้นสนิมกันบานเลย ถ้า316ก็ว่าไปอย่าง

ถึงผู้ขายอุปกรณ์กากๆ Novel vertex

คุณท้าเขาทดสอบไปทั่ว......
แต่พอผมท้าคุณทดสอบที่เวปนี้และเวปของแอคคอร์ดตามลิ้งนี้ ทำใมเงียบเหมือนอมอะไรอยู่ละครับ
แหล แถ ปากดีไปวันๆ กล้าๆกะผมหน่อยสิครับ
ผมขอดูถูกสินค้าตัวนี้เลยว่า โคตรห่วย ใช้แล้วแย่ลงกว่าเดิม ความคุ้มค่าติดลบ
จะโต้แย้งได้ แต่ทำด้วยการทดสอบกันนะครับ มาเลยผมรออยู่

http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=86359.100
http://www.accordclubthailand.com/webboard/index.php?topic=120501.210

ใครว่างๆ ช่วยเข้าไปวางลิ้งนี้ ตามเวปต่างๆที่เขาไปลงโฆษณาด้วยครับ คนที่ยังไม่รู้ก็จะได้รู้ จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ



นี่คือเวปหลักของอุปกรณ์กากๆนี้ บริษัทอยู่เพชรเกษม 90 นี่เอง ไกล้จมูกเลย ฮ่าาาา
อ่านดูกันครับ เพิ่มม้าได้ 5-40 ตัวด้วยเศษสแตนเลสเน่าๆเพียวอันเดียว
แต่หลักฐานการทดสอบกลับไม่มีกราฟของdynoซะงั้น แม่มสร้างตารางมาแสดงเองเลย
http://www.aisleberley.com/Novel%20Vortex/index2.htm

จิตวิญาณแห่งการขายของเจ๊แก่กล้าจริงๆ

 :emo2
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ผมชมน้าอู๊ดนะ

มาซะละเอียด เลยนะ

เห็นมาหลายเว็ปแล้วครับ ให้เพื่อนดูเพื่อนมันบอกว่า สงสัยคนขายจะเป็นเมียของ นาย น. นามสกุล อ. ฉายาแหลลวงโลก เค้าว่ากันงั้นนะครับ

เอาให้จนมุมครับ แต่ขอวิเคราะห์น้องผู้หญิงคนขายนิดนึงนะครับ
 ดูน้องเค้ามั่นใจในผลิตภัณท์ตัวเองมากๆ เหตุเกิดจากการเทรนมาจากผู้ใหญ่ในบริษัท เหมือนกับสินค้าขายตรงหลายๆประเภทครับ
ยิ่งสินค้าขายได้แล้วด้วยยิ่งมั่นใจใหญ่ แต่ที่คนเค้าหมั่นใส้ก็ด้วยการตอบปัญหาแบบเหน็บๆของเธอนี่แหละ ครับไม่น่ารักเลย

อัพอีก

พฤติกรรมที่คนเราแสดงออกมา มันคือสันดานครับ

สิ่งที่เป็นตัวดึงดูดให้ด้านต่อคือผลตอบแทนครับ ต้นทุนไม่ถึง 200 แต่ขาย 2500   กำไรเท่าไหร่ละครับ

ที่สำคัญ ใส่ไปแล้วทำให้รถวิ่งแย่ลง

 :emoa :emoa :emoa หายจ้อย

ขนขาย แถ สุดทีนนนนนมากกกกกกก ครับ

อ่ะ ฮ้า .... อย่าพึ่งตก เผื่อคนมาทีหลังครับ :)

อัพไป

    thank you so much...

อัพไม่ให้มันผุดมันเกิด

:emo2

เค้าลบไปแล้วมั้งเนี่ย