AE. Racing Club

1. ซ่อมก่อนที่จะพัง....หมายถึง เวลามีเงินก็ค่อยๆไล่เปลี่ยนชิ้นส่วนที่สำคัญ ที่อายุใช้งานใกล้จะครบแล้ว :emom

2. พังแล้วค่อยซ่อม.....หมายถึงพังแบบไปไหนไม่ได้แล้วค่อยซ่อม...( เพื่อนๆที่ทำงานผมจัดอยู่ในข้อนี้เยอะครับ ) :emotw

ผมอยู่ในข้อ 1.ครับ  เวลาได้เบี้ยเลี้ยงออกหรือได้เงินพิเศษมาผมจะค่อยๆทยอยเปลี่ยนอะไหล่สิ้นเปลืองบางตัว หรือไม่ก็จะซื้ออะไหล่บางตัวมาเก็บรอไว้น่ะครับพอถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยน
ก็เปลี่ยนได้เลย  แต่เพื่อนๆที่ทำงานผมบอกว่าวิธีของผมมันสิ้นเปลืองประมาณว่ายังไม่พังซ่อมไปก่อนก็เสียเงินเปล่าๆ แต่ผมมองว่าวิธีของผมทำให้รถเราอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งานอยู่ตลอด เวลาจะไปไหนไกลๆจะได้ไม่ต้องนั่งระแวงว่ารถจะไปพังกลางทาง  เพื่อนๆในเวปมีแนวทางการซ่อมบำรุงรถกันแบบไหนบ้างครับ

 :emo2 :emo2 :emom

ผมมักจะอ้างอิงจากคู่มือรถอะครับน้า   
คร่าวๆที่ผมเปลี่ยน (เพระาใช้รถเยอะมไ่อยากจอดหรือสะดุดกลางทาง)
1.น้ำมันเบรค เปลี่ยนปีละครั้ง หรือ ไม่เกิน 4 หมื่นโล
2.หัวเทียน เปลี่ยนที่ 4หมื่นโลครับ
3.น้ำหล่อเย็น 3เดือนครั้ง หรือ ทุก 2 หมื่นโล
4.น้ำมันพาวเว่อร์   เปลีย่นที่ 4หมื่นโล หรือปีละครั้ง
5.น้ำมันเกียร์ออโต้ เปลี่ยนทุก 2 หมื่นโล  และ ทุก4 หมื่นโล เอากรองออกมาล้าง
6.สลับยางทุก 1หมื่นโล
7.สายพานทามมิ่งก็เปลี่ยนที่ 8หมื่นโลครับ

ส่วนอย่างอื่นผมก็ตรวจเช็ดเป็นประจำทุกอาทิตย์ครับ เอาไฟฉายส่องๆดู  ท่อยางอันไหนแตกลายงาจับเปลี่ยนเลย (เช่นที่ทำมาแล้ว มี ท่อเบนซิล ท่อหายใจของไอน้ำมันเครื่อง ตรงฝาวาวล์ ท่อหม้อลมเบรค มันแข็งๆ ก็เปลี่ยนซะ)

พวกช่วงล่างผมจะเน้นมากๆครับ เป็นอะไรเมื่อไหน่ทำทันที  ที่ทำไปแล้วก็ ยางเพลาขับ มันขาด 1 ตัว ก็จับเปลี่ยนไปเลย 4 ตัว ตั้งศูนย์ทีเดียว   ลูกหมากแร๊ค เสีย 2ข้าง ก็จับเปลี่ยนลูกหมากคันชักไปซะ  ลูกหมากกันโคลง เสียข้างนึง ก็จับเปลี่ยนไป 2 ข้าง ครับ 

ตอนคอมแอร์พัง ผมก็รื้อระบบไปเลย ให้สะอาดทีเดียว เปลี่ยน ไดเออร์ วาวล์ในตู้ แผงคอยด์ร้อน ล้างตู้ ไไปเลย จะได้จบๆทีเดียวครับ

พึ่งเปลี่ยนท่อยางหม้อน้ำกับวาวล์น้ำ ไปครับ เพราะเห็นยางตรงฝาหม้อน้ำมันขาดๆ ก็เปลี่ยนไปเลย ท่อยางมันนิ่มๆยวบๆ แต่ยังไม่รั่ว ก็จับเปลี่ยนซะ

ผมจึงไม่ได้แต่งรถซะทีครับ ด้วยความกลัวว่าเด๋วพังตอนไม่มีเงินละจะยุ่ง  (โดยที่บ้านบอกเอาแต่เงินลงรถ 555) ก็อยากให้ทุกอย่างแจ่มๆ ดูแบบว่าไม่มีอะไรให้ทำค่อยแต่ง ขอรถสมบูรณ์ก่อน ขับชิวๆ นิ่มๆเงียบๆแบบรถใหม่ครับ

ประมาณว่า ถ้่าอันไหน ต้องถอดมาเพื่อเปลี่ยนบางอย่าง แล้วถ้าอีกอย่างจะเสียด้วย ก็เปลี่ยนไปเลย ค่าแรงต่อเดียว  ถ้าเห็นว่า  อาจใช้ได้อีกซักพัก ก็เปลี่ยนเลยครับ เด๋วพังกลางทางเสียค่าลากอีก

ถ้าบางทีเงินในกระเป๋าไม่มีมันก้แย่จริงๆ 5555  อย่างตอนีน้โช๊คหน้าเริ่มเน่า ก็ยังไม่ได้ทำเลยครับ

รอช่างนัดวันยกเกียรือยู่ ซีลหน้ารั่วตัวเดียว ผมก็ซื้อมันมาทุกตัวเลย อะไรที่อยุ่ในขั้นตอนยกเกียร์ แล้่ว เปลี่ยนไปก็ทำไปเลยทีเดียวครับ

อืม...ผมเห็นด้วยกับท่าน BUT ครับ  ไหนๆรื้อแล้วก็ทำทีเดียวให้จบเสียค่าแรงช่างแค่หนเดียว ขับไปไหนก็สบายใจครับ. :emow

ของผม ซ่อมตรงนี้ พังตรงนู้น ซ่อมตรงนู้น พังตรงนั้นคร๊าบ !!

แต่ละรอบมันเว้นช่วงให้ดีใจเฉลี่ยครั้งละ 2 เดือน  :emox

ผมเห็นรถพี่แถวๆแยกเกษตร 2-3 ครั้งแล้ว  รถพี่สีจำง่ายดีครับ

ของผมจะซ่อมก็ต่อเมื่อรถเริ่มมีอาการว่าจะเสียอะครับ ส่วนมากผมก็จะตรวจเช็ครถเปิดฝากระโปรงรถตรวจสอบอยู่แล้วครับว่ามีอะไรรั่วซึมหรือเปล่า ส่วนมากผมจะให้ความสำคัญกับระบบ เบรค ช่วงล่าง น้ำมันเครื่องและก็ระบบความร้อนอะครับนอกนั้นก็ปล่อยไปตามสภาพครับว่าอะไรจะเสียอีก

ซ่อมตามอาการ และตามเงิน
หลายอย่างทีีซ่อมไม่จำเป็นต้องซ่อมก็ได้ แต่ไม่สบายใจอะ

ต้องดูว่าอะไหล่ที่จะเลี่ยนนั้นคืออะไรด้วยคับ

ของผมถ้าเป็นพวกสายพานผมเองไม่มีกำหนดอายุเลย

เข้าอู่ก็ถอดดูถ้าต้องเปลี่ยนก็เปลี่ยนมันหมดทุกเส้นเลย

ส่วนยางหุ้มเพลาแนะนำให้เปลี่ยนทีเดียวหมด ตัวนอก และใน

อย่าไปงก เพราะคุณจะเสียค่าแรงและค่าตั้งศูนย์รถหลายรอบอ่ะ

เบรคต้องทำไรมั่งครับ  ยังไม่ได้ไปดูจุดนี้เลย

เบรคยังหนึบอยู่ มีแต่เสียงอี๊ดๆ เหมือนจารไม่เท่ากัน

มีอาการแล้วค่อยซ่อมครับ :emoto :emoto

ตามตังเลยครับแต่ถ้าสุดๆจิงๆก็เอาเลย
ถ้ามีตังก็อยากทำแบบทีเดียวจบครับ
เพราะไม่ว่าจะ 92-หรือ1xx ถ้าทำจบ เครื่อง+สี+แต่งนิดหน่อย
มันสวยกว่ารถใหม่เดิมๆ ซะอีก

ไม่พังผมก็ซ่อมครับ

เพราะชอบถอดออกมาดูบ่อยๆๆ

อันไหนไม่เคยทำก็ไปให้ซ่อมเค้าทำให้แล้วก็ยืนดู

พอเป็นอีกก็ทำเองแล้ว