AE. Racing Club

พี่ๆ ครับ ในภาพ มันใช่สปริงหลอดหรือเปล่าครับ

(http://i330.photobucket.com/albums/l428/chaiyasita/120820113366.jpg)

ใช่ครับ เป็นสตรัทปรับเกลียว

แบบในรูปคือสปริงหลอดครับ
อีกแบบคือสปริงฐาน หน้าตาก็เหมือนของเดิมๆติดรถเรานั่นล่ะครับ

(http://i1219.photobucket.com/albums/dd428/osk100/IMG_0340.jpg)

เเล้วสปริงคู่ทางขวามือเขาเรียกสปริงหลอดหรือเปล่า
มันจะเป็นทรงกรวย  ใช้กับ tein ha ครับ

ไม่น่าจะใช่ครับ น่าจะเป็นแบบ โปรเกสซีฟมากกว่า จะให้ความนุ่มนวลเวลาใช้มากกว่า สปริง หลอดแบบด้านซ้ายครับ

ปล.ในรถผมก็ใช้สปริงรุ่นนี้เหมือนกันทั้ง 4 อันเลยครับ หุหุ TEIN HR AE101

โปรเกสซีฟความห่างของขดสปริงจะไม่เท่ากัน   
ส่วนตามรูปด้านบนขดเท่ากันก็จัดว่าเป็นโปรเกสซีฟเหมือนกันหรือครับ

(http://i1219.photobucket.com/albums/dd428/osk100/spd_20080118125709_b.jpg)

(http://i1219.photobucket.com/albums/dd428/osk100/19032011261.jpg)

น้าๆ ครับ ในภาพ เป็นสปริงอะไรครับ
(http://i330.photobucket.com/albums/l428/chaiyasita/DSC_1056.jpg)

มันใส่อยู่ในสตรัทแบบนี้ครับ
(http://i330.photobucket.com/albums/l428/chaiyasita/DSC_1057.jpg)
(http://i330.photobucket.com/albums/l428/chaiyasita/DSC_1067.jpg)

ภาพนี้เทียบกับ สปริง ST191 ของใหม่ครับ
(http://i330.photobucket.com/albums/l428/chaiyasita/IMG-20120608-WA0000.jpg)

คือ ล้อหลังเวลาลงเนิน หรือนั่งหลัง 3 คน ทุกของด้วยมันจะขูดซุ้มล้อขวา แต่ซ้ายไม่ติด ช่างบอกว่า สปริงล้า จะให้ผมเปลี่ยนสปริง เลยลองเอาของ ST191 มาลองเทียบ แต่ใส่ไม่ได้ ของ 191 มันยาวกว่ามาก ช่างจะตัดสปริง ผมไม่ok เลยให้ปรับขวาขึ้น 2 รอบเกลียว แต่ก็เหมือนจะติดอยู่

ถ้าผมจะเปลี่ยนสปริง เอามาใส่สตรัทตัวนี้และล้อหลังแข็งหน่อยไม่ยุบง่ายเวลาลงเนินหรือนั่งหลายคน ต้องทำยังไงบ้างครับ

รบกวนน้าๆ ด้วยนะครับ

ใส่ล้อขอบเท่าไรครับ ผมใส่ล้อของ 15 เสริมสเปเซอร์บนเบาโช๊คครับ นั่งสามคนไม่ติดครับ

ส่วนใหญ่เรียกสปริงฐานครับ ที่ผมเห็น ผมว่าตัวโช้คมันสภาพไม่ค่อยดีนะครับ ตัวเกลี่ยวก็ล้มแล้ว แล้วที่ใส่ไม่ได้ น่าจะแกนมันสั้นด้วย ดูแล้วน่าจะเหมาะกับพวกสปริงโหลด เพราะว่าสปริงมันสั้น แต่แข็ง ถ้าจะใส่กับ สปริง ST191 หาโช้คแกนยาวๆ เช่น โช็คเดิมดีกว่าครับ

น้าครับ หมายถึงว่า เอาเจ้าสตรัทปรับเกลียวนี้ออก (เลิกใช้ไปเลย) แล้วซื้อชุดสตรัทเดิมๆ ของ AE มาใส่ แล้วเปลี่ยนสปริงเป็น ST191 ใช่ป่ะครับ

ขอตอบแทนนะครับ 
คือว่าตัวโช๊คที่น้าใสอยู่แกนมันสั่นไปครับเหมาะกับใส่สปริงโหลดครับ
แต่ถ้าจะใส่ สปริงst191 ต้องหาเดิมหรือโช๊คlevinแกนใหญ่ มาใส่ครับ รับรองst191 แข็งมากผมเคยใส่แต่รถผมไม่ติดแก๊ซ สูงมาก+แข็งมากครับ

น้าครับ คือแบบว่า ไม่ต้องสปริงของ 191 ก็ได้นะครับ แค่อยากจะเปลี่่ยนสปริงใหม่เข้าไป ที่ทำให้ล้อหลังมันห่างจากซุ้มล้อมากขึ้น แล้วก็แข็งพอไม่ทำให้ยางขูดซุ้มล้อเวลาขึ้นลงเนินหรือตอนนั่งมาเต็มคันอะครับ

จะเปลี่ยนสปริง หรือจะไปหาเทียบ ก็ไม่รู้จะเทียบยังไง ค่า K เดิมก็ไม่รู้ แต่วงดูเหมือนจะใหญ่กว่าของ ST191 สักครึ่งนิ้วได้ น่าจะเท่าๆ กับของ AE เดิมๆ อะครับ

เมื่อก่อนมันก็ไม่ติดนะครับ แต่เดี๋ยวนี้เริ่มติดแล้ว สปริงคงล้าจริงอย่างที่ช่างเขาว่าอะครับ

แจ่มเลย

(https://fbcdn-sphotos-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn1/529126_442716982410039_1361572344_n.jpg)

อันนี้ คือสปริงหน้าใช่ป่ะครับ น้า

น้าพอมีสปริงหลังป่ะครับ คือใส่กะสตรัทเดิมของผมครับ

รบกวนด้วยนะครับ แบบว่า วิ่ง ตจว ถนนไม่ค่อยดี อยากได้ยกสูงหน่อยครับ

จำได้ว่าไอ้สปริงทรงกรวยคว่ำๆหงายๆพวกนี้ มันออกแบบมาเพื่อเลี่ยงตอนที่มันยุบตัวแล้วเส้นขดสปริงมันจะไม่กระทบกันนะ เรื่องแข็งอ่อนจะเป็นคนละเรื่องกันอ่ะครับ.

tein ชุดข้างบนที่คุยกันอยู่นี่ ถ้ามั่นใจว่าสภาพสมบูรณ์ แล้วสูงไม่พอ (ผมขอข้ามเรื่องสปริงล้าไปนะ) เป็นแนวของผมจะเสริมหัวเอาครับ แต่ถ้าคุณไม่เกี่ยงเรื่องแข็งให้ลองบีบสปริงขึ้นไปอีก ดูซิว่าจะลงมาอีกไม๊.

สเปเซอร์ใช่ป่ะครับน้า

ไม่ใช่ครับ หลังครับ ผมใช้ 8 โลครับ หน้าคือ 10 โลนี้ครับ  :emotq

(https://fbcdn-sphotos-a.akamaihd.net/hphotos-ak-snc6/284133_266576106690795_5671424_n.jpg)

(https://fbcdn-sphotos-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash4/320692_293834770631595_106375650_n.jpg)
(https://fbcdn-sphotos-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn1/564773_449001601781577_796348930_n.jpg)


http://www.swiftsprings.net/advantage.html

น้า COROLLABOY ถ้าสปริงแบบของน้า จะใช้กับ สตรัทหลังเดิมของผมได้หรือเปล่าครับ

17 นิ้วครับ แบบในภาพลายเซ็นต์เลยครับ

รองสเปเซอร์ 1 นิ้วจบครับ
แต่กลัวจะติดปัณหาเรืองแกนสั่นครับเพราะถ้าเลื่อนฐานสูงสุดแล้วต้องลองเอาสปริงวางแล้วลองดึงแกนโช็คว่าขึ้นเลยสปริงได้อีกไหมถ้าขึ้นได้อีกรองสเปเซอร์เลยครับ
แต่ถ้ามันสุดได้แค่นั้นก็มีทางเลือกคือหาโช๊คใหม่เพื่อให้สูงขึ้น หรือ อัดโช๊คอันเก่าอัดให้แข็งแล้วตัดปิง191 ใส รับรองแข็งน้องๆjicเลยครับ
พอดีเคยลองกับโช๊คเยอะเพราะเคยใส่แม็ก16 ติดกระจุยตอนนี้ไปจบที่15แทนละครับใวกว่านิ่มกว่าสบายกว่า
ผิดประการใดขออภัยด้วยนะครับ

ผมเห็นด้วยกับน้า เรื่องอาจต้องเปลี่ยนโช๊คครับ

แต่อนาคตคงเปลี่ยนแม็ก 15 แน่นอน (ประมาณปีหน้า)

ได้ครับ แต่ต้องดัดแปลงเยอะเลยครับ สปริงหลอดจะเหมาะกับพวกสตัทปรับเกรียวมากกว่าครับ

ค่า k โหดแท้

สตรัทหน้าหลัง ของผมเป็นปรับเกลียวครับ

ฐานสปริงหลังมัน โมมาใช่ป่ะครับ

สปริงฐานที่ไม่เหมาะกับ สตรัทเพราะ ตัวฐานมันนี่และที่ทำให้ติดล้อ ทำให้โหลดได้ไม่เยอะ ถ้าให้โหลดเยอะ ก็ต้องใช้สปริโหลดอยู่ดี เลยทำให้ส่วนใหญ่มันจะแข็ง และระยะก็น้อยตามไปด้วย
ไม่เหมือนกับสปริงหลอด ที่ไม่ต้องแข็งมากเท่าไรก็ได้ ตัวฐาน มันจะหลบล้อโดยอัตโนมัติ และระยะการให้ตัวมากกว่าครับ

หมายถึงว่า สปริงหลังของผม น่าจะเรียกว่า "สปริงโหลด" ใช่ป่ะครับน้า ขนาดมันมาตรฐานหรือเปล่าครับ ผมกำลังหาซื้อใหม่ ของเก่ามันล้ามาแล้ว ล้อกับซุ้มขูดกันครับ

ด้านหลัง เป็นสปริงฐานแบบสปริงโหลด ตัวโช็ค ก็น่าจะแกนสั้น สำหรับสปริงโหลด  ด้านหน้าเห็นเป็นสปริงหลอดแล้ว หาด้านลังอีกสักคู่ แล่มเลย

+1 แต่หาอยาสปริงหลอดค่า k ต่างกันมากนะครับเดียวจะดีดหน้าดีดหลัง

ค่าจะอธิบายอีกเรื่องด้วยครับ ค่าของโช๊คที่ใช้กับสปริงหลอดและสปริงฐานนั้น เค้าจะ set มาไม่เหมือนกันด้วยนะครับ ค่าบั้มและลีบราวก็ไม่เหมือนกันนะครับ และระยะการทำงานก็ไม่เท่ากันอีก ตรงนี้ต้องดูด้วยครับ สปริงหลอดจะออกแบบมาให้มีการ Pre Load น้อยๆครับ แต่ใช้ค่า K ที่สูงกว่าสปริงฐาน ส่วนสปริงฐานจะมีค่า K ที่ไม่สูงมากครับ แต่ Pre Load จะสูงมากๆครับ เพราะการทำงานไม่เหมือนกันครับ

รถผมดันค่า K ให้สูงแต่ไปปรับวาวที่โช๊คให้ ค่าบั้มน้อยลงครับ เพราะให้รถมีการคงตัวที่ดีคับ
และยังมีค่าของจังหวะ Hi Speed อีกที่ปรับให้น้อยลงเพื่อให้ตอนรถกระแทกหลุมไม่กระเด่งครับ ทำให้รูดผ่านได้ดีครับ จาก set โช๊คกับสปริงนั้นมันประกอบด้วยหลายอย่างครับถ้าเข้าใจว่า set ยังไงก็ไม่ยากครับ

อ่านแล้ว ผมไม่เข้าใจที่น้าเล่ามาเลยครับ (ความรู้ผมไม่พอ) แต่ทำให้ต้องคิดมากขึ้นในการทำโช๊คจริงๆ ครับ

น้าครับ ทำไงถึงรู้ค่า K สปริงหน้า ครับ เพราะผมพยายามดูแล้ว แต่ไม่ระบุเลยครับ

ไอเดียแจ่มเลยครับ น้า

ถ้าต้องการแบบไม่ปวดหัวให้ซื้อชุดสำเร็จรูปจะดีกว่าครับ มันจะออกแบบมาลงตัวพอสมควรครับ

หาค่า K ของสปริง ได้จากสูตร  F=-Kx   คือ
แรงที่กดลงไป F=ma หรือ F= mg หรือ W หรือน้ำหนัก เลย
x ระยะในแนวแกน x  ถ้าเราตั้งสปริงขึ้น ก็เป็นระยะ ที่ สปริงยุบลงมาก็ได้ครับ  

ดั้งนั้น   K  คือ เอา น้ำหนักที่กดลง หารด้วย ระยะที่สปริงยุยลงมาครับ  

หาข้อมูลมาให้ต่อนะครับ
ค่า K ของสปริงรถยนต์คืออะไร
ขอบคุณที่มา : http://manager.co.th | 7 ก.ย. 2549 เวลา : 19:03:09 น.



ค่า k ของสปริงรถยนต์คือค่าความแข็งของ ขดสปริงรถยนต์หรือคอลย์สปริง ที่ใช้ในระบบรองรับน้ำหนักรถยนต์
       
       สำหรับผู้ผลิตรถยนต์ เมื่อทำการออกแบบระบบรองรับน้ำหนักรถยนต์ วิศวกรจะต้องกำหนดค่า k ของคอลย์สปริงให้เหมาะสมกับการใช้งานและน้ำหนักของรถยนต์ เพื่อให้ได้สมรรถนะการขับขี่และยึดเกาะถนนที่ดี รวมถึงการทรงตัว และความนุ่มนวลในการขับขี่ โดยสอดคล้องกับการใช้งานจริง
       
       รถยนต์ในแต่ละยี่ห้อจะมีค่า k ที่แตกต่างกันออกไป ถึงแม้ในรถบางรุ่นที่ใช้ตัวถังเดียวกัน แต่ต้องดูว่ามีอะไรแตกต่างกันบ้าง เช่น ขนาดของเครื่องยนต์ ตำแหน่งการจัดวางเครื่อง การออกแบบระบบขับเคลื่อน ระบบกันสะเทือน น้ำหนักรถยนต์รวมทั้งความสามารถในการรับน้ำหนักบรรทุกขณะใช้งาน



ค่า k ของสปริงแข็ง เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ใช้ความเร็วสูง จะช่วยให้ยึดเกาะถนนทรงตัวดี แต่หากใช้กับการใช้งานทั่วไปที่ความเร็วต่ำจะขาดความนุ่มนวลไปบ้าง แต่ก็ขึ้นกับปัจจัยอื่นประกอบ
       
       ค่า k ของสปริงอ่อน เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ใช้งานในความเร็วต่ำๆ ซึ่งจะให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ แต่เมื่อใช้ความเร็วสูงๆ จะทำใหรถมีอาการโยนตัวหรือโคลงได้
       
       ปัจจุบันจะเห็นได้ว่า หลายคนเมื่อซื้อรถยนต์ใหม่ก็อยากที่จะไปตกแต่งระบบกันสะเทือนใหม่ โดยใช้วิธีเปลี่ยนล้อ เพิ่มขนาดล้อ ดัดแปลงคอลย์สปริงด้วยการตัดหรือเปลี่ยนใหม่ แม้กระทั่งยกชุดเปลี่ยนโช้คอัพใหม่ทั้ง 4 ตัว ตามร้านประดับยนต์ทั่วไป
       
       ดังนั้น หากผู้ใช้รถมีความประสงค์ที่จะดัดแปลงระบบช่วงล่างให้แตกต่างจากโรงงานกำหนด ควรคำนึงถึงค่า k ว่าเหมาะสมกับการใช้งานจริงหรือไม่ หรือสอบถามผู้ที่ชำนาญก่อนตัดสินใจ

-- -- - - - -- - -- - - - -- - -
เพิ่มเติมเองอีกนิดนะครับ  ตามที่ได้ข้อมูลมาจากหนังสืออีกเล่ม(นิตยสาร FMM  NO:11 JUNE 2007)   เดี๋ยวจาพิมพ์ให้อ่านกัน  Grin
ไอ้ตัวค่า K ที่พูดกันมันก็คือ  Sping Rate ซึ่งค่านี้จะมีผลกับความนุ่มนวลของช่วงล่างโดยตรง

Sping rate (k) คือค่าความแข็ง-อ่อนคงที่ของสปริงที่จะยุบตัวเป็นส่วนตามน้ำหนักที่กดทับ  โดยทั่วไปของญี่ปุ่น จะใช้หน่วยเป็น Kg/mm.  กิโลกรัม/มม.
ซึ่งบ้านเราจะคุ้นเคยกับหน่วย Kg/mm. มากกว่า   แต่ก็มีบ้างที่ใช้หน่วยเป็น N/mm. และ lbf/in...
โดย 1Kg/mm. จะเท่ากับ 56 lbs/in และ 9.86 N/mm. นั่งเอง

ยกตัวอย่าง
คอยล์สปริงของรถรุ่นเดียวกัน แต่ค่า k ต่างกัน คือ

ตัวแรกอยู่ที่ 8Kg/mm.
ตัวที่สองอยู่ที่ 12 Kg/mm.

เท่ากับว่า สปริงตัวแรกจะยุดตัวลง 1มม. เมื่อมีน้ำหนัก ขนาด 8 กก. มากดทับ  ในขณะที่ตัวที่สอง ต้องใช้น้ำหนักถึง 12 กก. สปริงจึงจะยุบตัวลง 1 มม.

ซึ่งนั่นเท่ากับว่าสปริงตัวที่ 2 แข็งกว่าสปริงตัวแรกนั่นเอง


มีข้อวิเคราะห์คร่าวๆ ได้ด้วยตาเปล่าครับ

1.ความโตของสปริง ที่ยิ่งข้อใหญ่ก็จะยิ่งแข็งนั่นเอง
2.เส้นผ่าศูนย์กลางของคอยล์สปริง หากได้โดยเอาเส้นผ่าศูนย์กลางด้านนอกของคอยล์สปริง "ลบ" ด้วยความโตของเส้นสปริง (หน่วยเป็น มม.)  ก็จะได้ตัวเลขของ
เส้นผ่านศูนย์กลางของคอยล์สปริงนั่นเอง  ซึ่งถ้าตัวเลขของเส้นผ่านศูนย์กลางยิ่งมาก (วงกว้างขึ้น) ค่า k ก็จะยิ่งลดลง
3.จำนวน และรูปแบบของขดสปริง   สปริงที่มีจำนวนขดน้อยกว่า จะมีค่าความแข็งสูงกว่า  แต่ก็ยังมีตัวแปรในส่วนของรูปแบบของขดสปริงเกี่ยวข้องอีก  โดยสามารถแบ่งได้เป็น 3 แบบ
   3.1 Linear spring ก็คือ สปริงที่มีระยะห่างระหว่างขดเท่ากันโดนตลอดทั้งชิ้น  สมมติว่าสปริงแต่ละขดห่างกัน 15 มม. มันก็จะห่างเท่ากันยังงั้นตลอดทั้งเส้น  ซึ่งค่า k ของสปริงแบบนี้จะเป็นค่าเดียว
   3.2 step spring สปริงแบบนี้จะมีระยะห่างแต่ละขด แบ่งออกเป็น 2 ระยะคือ  มีทั้งขดถี่และห่าง ในวงเดียวกัน  เช่น 15 กับ 30 มม. เท่ากับว่ามีค่า k 2 ระดับในคอยล์สปริงขดเดียว  คือ  เมื่อมีน้ำหนักมากดทับที่ตัวสปริง ขอที่ถี่จะยุบตัวก่อน(ค่า k น้อย)   จนเมื่อน้ำหนักมากขึ้น ขดสปริงที่ห่าง (ค่า k สูงกว่า) ก็จะเข้ามารับผิดชอบต่อ  เป็นการผสานซึ่งความลงตัวของความนุ่มนวลในขณะคลานและมั่นคงในการขับขี่ยามกระหน่ำคันเร่งหนักๆ  ได้อย่างดี
   3.3  Progressive Sping  แบบนี้จะมีระยะห่างระหว่างขดไม่เท่ากันเลย คือ จะชิด แล้วค่อยๆเพิ่มระยะความห่างไปเรื่อยๆ  ค่า k ของสปริงแต่ละขดก็จะไม่เท่ากันด้วย  เท่ากับว่าสปริงแบบ Progressive  จะนำเสนอตั้งแต่แรงกดน้อยๆ  แล้วค่อยๆ เพิ่มอย่างต่อเนื่องไปจนถึงค่า k สูงสุดเลยทีเดียว

    จาสรุปแล้วนะครับ  เพราะเมื่อยละ หุหุไม่ได้พิมพ์งานนานละ   

การเลือกใช้สปริงแต่งที่ตรงกับรูปแบบการใช้งานนั้น  นอกจากจะทำให้เกิดตัวรถเตี้ยลงแบบพอดีๆ แล้ว  (ใช้งานไม่ลำบาก) ยังช่วยให้การทรงตัวของรถดีขึ้น  ควบคุมได้ง่าย และนิ่งกว่า  แต่ก็ต้องยอมรับกับความแข็ง และความหนืดที่เพิ่มขึ้นมา  เนื่องจากระยะการทำงานของตัวช็อค และสปริงน้อยลง  ค่าความแข็งของสปริงก็ต้องเพิ่มขึ้นเพื่อกันไม่ให้ล้อ  และซุ้มล้อมาชนกัน  เพราะฉะนั้นจะให้นุ่มสบายเหมือนของเดิมติดรถคงจะไม่ได้.. อยู่ที่คุณแล้วหล่ะว่าจะเลือกแบบ ...นุ่มนวล หรือ  นิ่งหนึบ

ชอบนุ่ม แต่ไม่อยากติดซุ้ม สงสัยต้องจัดสตรัทที่ใช้กับสปริงหลอดซักชุดแล้วมั๊ง แต่ต้องพิมพ์แบงก์ก่อน  แต่ว่าแต่ว่า ต้องเตรียมกี่ตังค์ล่ะครับ น้าๆ

เลวิ่นแกนใหญ่ไปโลด

ล้อ 17 จะติดซุ้มอะเปล่าน้า หรือใส่สปริง 171 หรือ 191 แล้วรองเสปเซอร์ดีครับ

ถ้าซื้อสปริงมาแล้ว ก็น่าสนใจนะครับ

มันสวนทางนะครับ ถ้าจัดสตรัท ความนุ่มไม่ได้แน่นนอน

เรื่องติดซุ้มผมว่าแก้ไม่ตรงจุดนะครับผมว่าไปพับหรือเจียออกจบกว่า ใส่โช๊คแข็งเมื่อบรรทุกหนักๆ ก็โดนอยู่ดีครับหรือจั้มแรงก็โดน แข็งมากก็ขับไม่ไหวครับไส้แตกพอดี

น้าครับ คือเมื่อก่อน มันไม่เคยติดเลยครับ เพิ่งเป็นเดือนกว่ามานี้เองครับ คือ อยากเอาแค่กลับไปเหมือนที่เคยก็พอครับ แต่เดิมที่ขับอยู่ก็ไม่ค่อยนุ่ม ออกแนวหนึบๆ แน่นๆ อะครับ แต่ก็พอรับได้อยู่

สปริง 191 คืนเขาไปแล้วอะครับ

ถ้าว่า็โช้คยัง OK ก็หาสปริงใหม่ ให้สูงกว่า นี้อีกนิด ถ้าหาไม่ได้ก็สเปเซอร์รองหัวโช๊ค

ถ้าว่า็โช้คยัง OK ก็หาสปริงใหม่ ให้สูงกว่า นี้อีกนิด ถ้าหาไม่ได้ก็สเปเซอร์รองหัวโช๊ค-----> เห็นด้วยครับน้าจากประสบการณ์ที่ผมเคยเป็นเหมือนเจ้าของกระทู้ ของผมเปลี่ยนโช๊คหลังใหม่เบิกมาแกนใหญ่ครับแล้วซื้อสปิงใหม่ กับรองสเปเซอร์จบครับแต่ติดที่ว่าล้อผมขอบ 15 ครับ แต่น้าเจ้าของกระทู้ขอบ 17 ครับ 

ถ้างั้น ถ้าไม่อยากสิ้นเปลืองมาก ผมควรใช้สปเซอร์รองเบ้าโช๊ค แต่คงต้องเปลี่ยนน๊อตเบ้าโช๊คให้ยาวใช่ป่ะครับ

จริงๆเลยถ้าเกลี่ยวไม่มีปัญหา หมุนเกลียวขึ้นก็ได้แล้ว แต่เห็นสภาพเกลี่ยวแล้ว น่าจะมีปัญหาแน่ๆเลย

เกลียวมันเลอะดินนิดหน่อยน้า แต่หมุนขึ้นลงคล่องอยู่ครับ

ถามเพิ่มนิดนึง ถ้าผมเอาสปริงเดิม AE101 ใส่แทน สปริงโหลด มันน่าจะเข้าได้เปล่าครับ

ถามเพิ่มนิดนึง ถ้าผมเอาสปริงเดิม AE101 ใส่แทน สปริงโหลด มันน่าจะเข้าได้เปล่าครับ------>สปริงใส่แทนกันได้ครับน้าฐานโช๊คเหมือนกันครับ

สปริงฐาน = สปริงติดโช๊คเดิมโรงงาน   รูปร่าง ขนาดวง ฐาน จะใหญ่  

อยากเตี้ย ใส่สปริงฐานโหลด  อยากสูง เสริมสเปเซอโช๊ค อยากปรับความสูงได้ เอาไปทำปรับเกรียว  อยากแข็งเอาไปอัดน้ำมัน เบอร์แข็งสุด



สปริงหลอด = สปริงโช๊คสตัส ปรับเกรียว รถซิ่ง  รูปร่าง ขนาดวง ฐานจะเล็ก  ขดใหญ่ ยิ่งแข็ง   ขดเล็กจะไม่แข็งมาก  


เอาสปริงหลอด (วงเล็ก)  ไปใส่กับโช๊คโรงงาน (ฐานใหญ่) ไม่ได้  มันคนละขนาด

อ้าวดูสภาพนึกว่าหมุนไม่ได้แล้ว ถ้าหมุนได้ ไม่หมุนขึ้นอ่ะครับ ทำเองก็ได้ไม่สิ้อเปลืองเลย

ชัดเจนเลยครับ น้า

ไม่มีเครื่องมือเลยครับ น้า

เรื่องมีอยู่ว่า ไปร้านทำโช๊ค ช่างเขาจะให้เปลี่ยนสปริงอย่างเดียวเลย ทั้งที่จริงๆแล้วผมต้องการแค่ยกสูงขึ้นอีก 1 cm เท่าอีกข้างนึงก็ไม่ติดแล้ว

แล้วจริงๆ แล้วก็อยากได้สเปเซอร์ด้วย ยกมัน 2 ข้างขึ้นสักนิ้วไปเลย ดีป่ะครับ น้า

ของผมคู่หน้าก็ไม่มีเครื่องมือ ผมใช้ ไขควงตอกกับฆ้อน เลยครับ แล้วเอาตลับเมตรวัดเอาครับ ยกล้อให้ลอยก่อนนะ

ฐานโช๊คหลังผม มันอยู่ในร่องเกลียวอะครับน้า คือ ถ้าจะยกขึ้น ต้องหมุนฐานโช๊คขึ้นก่อน แล้วถึงจะหมุนแหวนขึ้นตามได้ ไม่รู้โมมายังไง

เหมือนช่างบอกว่า ต้องรื้อออกมาปรับข้างนอกเลยอะครับ ยุ่งดีแท้ เซ็งครับ...

น้าครับ ความยาวของสปริง ของ AE101 ไม่รู้มันจะยาวกว่า สปริงโหลดของผมหรือเปล่า กลัวว่า เวลาเอามาวางลงฐานโช๊คแล้วเอาเบ้าโช๊คมาปิดหัว แล้วจะหมุนน๊อตเบ้าโช๊ค มันจะกดสปริงไม่ลงอะครับ (คือแกนโช๊คผมมันสั้นกว่าแกนโช๊คเดิม) หรือช่างเขาทำได้อะครับ

แกนโช๊คที่ดัดแปลงมาแล้วไม่สามารถใส่กับสปริงเดิมได้แน่ครับเพราะสปริงเดิม 101 คดมันยาวกว่าสปริงโหลดอยู่แล้วครับน้าผมว่าใส่ไม่ได้หลอกครับ

ครับน้า

ตอนนี้ผมคิดว่าจะลองใช้สเปเซอร์เบ้าโช๊คครับ
ตามกระทู้ใหม่เลยครับ

http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=113145.0