[ตู้เย็นมีปัญหา]

ตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สำคัญสำหรับทุกบ้านจริงๆ นะคะ ไว้แช่น้ำดื่ม ของสด กับข้าว ขนม ฯลฯ  หากเกิดตู้เย็นมีปัญหาขึ้นมาคงเกิดเรื่องไม่ใช่น้อย ไม่ว่าจะเป็นค่าซ่อม  และของต่างๆที่แช่ไว้ในตู้เย็นอาจจะเสียได้ บางทีอาจจะต้องต้องซื้อตู้เย็นใหม่เลยก็ว่าได้ ซึ่งก็อาจจะต้องเสียเงินตามมา แต่ก่อนที่จะเสียเงินลองซ่อมเองแบบง่ายๆ ด้วยฉบับแม่บ้านที่เรานำมาแนะนำในวันนี้ค่ะ
- เปลี่ยนยางขอบประตูตู้เย็น
ก่อนอื่นให้ลองทดสอบสภาพการใช้งานของยางขอบประตูตู้เย็น โดยใช้กระดาษ หรือธนบัตรมาสอดเข้าไปตรงขอบประตูตู้เย็น หากกระดาษติดแน่นอยู่กับที่ ไม่เคลื่อนไปไหน ดึงออกก็ลำบาก แสดงว่ายางขอบประตูตู้เย็นไม่ใช่ปัญหา แต่ในกรณีที่ปิดประตูตู้เย็นแล้ว กระดาษร่วงลงมาตามแรงโน้มถ่วงโลกอย่างง่ายดาย แบบนี้ต้องซื้อยางขอบประตูตู้เย็น ขนาดและรุ่นเดียวกับตู้เย็นของเรามาเปลี่ยนแล้วล่ะ เพราะยางขอบประตูตู้เย็นมีปัญหา เสื่อมสภาพแล้ว

วิธีทำก็ไม่ยากอย่างที่คิด เริ่มจากถอดปลั๊กตู้เย็นออกก่อน จากนั้นใช้ไขควงคลายตัวนอตตรงขอบประตูตู้เย็น เพื่อให้เราสามารถดึงยางขอบประตูตู้เย็นอันเก่าออกมาได้ จากนั้นก็สวมยางขอบประตูตู้เย็นอันใหม่เข้าไป ไขนอตกลับเข้าที่ ให้แน่นอย่างเดิม เท่านี้ก็เรียบร้อย

- ไขนอตให้แน่นทุกจุด
บางทีปัญหาประตูตู้เย็นปิดไม่สนิท ก็อาจจะมาจากอะไหล่ตรงส่วนนอตยึดประตูหลวม หรือประตูตกและหย่อน เนื่องมาจากการใส่ของตรงประตูตู้เย็นหนักเกินไปก็ได้ ดังนั้นลองใช้ไขควงหมุนเกลียวนอตบริเวณนั้นดู หากยางขอบประตูไม่บวม หรือเสื่อม เราจะสามารถไขน็อตยึดประตู (มักจะอยู่ขอบด้านล่างของตู้เย็น) ได้อย่างไม่ยากนัก

-เปลี่ยนตัวควบคุมอุณหภูมิตู้เย็น
สำหรับ ตู้เย็นที่มีปัญหาไม่ตัดไฟ แสดงว่าตัวควบคุมอุณหภูมิตู้เย็นอาจเสีย ซึ่งคุณสามารถหาซื้ออะไหล่ส่วนนี้ มาเปลี่ยนได้ง่าย ๆ เพียงแค่ขันนอตออก ย้ายตัวควบคุมอุณหภูมิตู้เย็นมีปัญหาอันเก่าออกไป แล้วเปลี่ยนใส่ตัวควบคุมอุณหภูมิตู้เย็นอันใหม่แทนเท่านั้นเองค่ะ หรือถ้าไม่ทราบว่าตัวควบคุมอุณหภูมิตู้เย็นอยู่ตรงไหนลองดูคู่มือของตู้เย็นประกอบไปด้วยได้ค่ะ

- ละลายน้ำแข็ง
อีกหนึ่งสาเหตุที่แม่บ้านหลายท่านละเลย เพราะมัวแต่ยุ่งกับการเข้าครัวและทำความสะอาดจนลืมกดละลายน้ำแข็งที่เกาะติดผนังตู้เย็นออกไป จนทำให้ตู้เย็นมีปัญหาต่าง ๆ ตามมา ดังนั้นพอรู้อย่างนี้แล้ว ก็ควรหมั่นดูแลตู้เย็นอยู่เสมอ เมื่อมีปริมาณน้ำแข็งเกาะตู้เย็นหนาแน่น ควรรีบกดปุ่มละลายน้ำแข็งทันที

หากเป็นปัญหาพื้นฐานอย่างที่กล่าวมาข้างต้น ตู้เย็นพัง ๆ ของเราคงไม่ต้องถึงมือช่าง เพราะเราสามารถซ่อมบำรุงเขาด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ แต่ในกรณีที่ตู้เย็นมีปัญหาตรงส่วนมอเตอร์ ที่มีเกราะกำบังคลุมอยู่ อย่างนี้ควรยกหน้าที่ให้ช่างซ่อมที่ชำนาญการ แก้ไขปัญหาแทนเรานะคะ

[แอร์ห่วย]

ส่วนใหญ่ปัญหาแอร์เสีย แอร์ห่วย มักมีปัญหาเรื่องแอร์เสียงดัง ก็จะเรียกช่างมาซ่อมเพราะแอร์เสียงดังรบกวนคนที่อาศัยอยู่ในห้องนั้นๆ หากเป็นห้องนอนก็นอนไม่หลับ หากแอร์เสียงดังในออฟฟิศคนทำงานก็รำคาญไม่มีสมาธิทำงาน ดังนั้นก็ต้องแก้ไขให้มันเงียบซะ ถึงแม้ว่าแอร์เย็นฉ่ำแล้ว ไม่มีน้ำรั่ว น้ำหยดแล้ว แต่หากยังมีเสียงดังรบกวนอยู่ก็ต้องทำให้แอร์เงียบ หากปล่อยไว้นานวันโดยไม่ใสใจ ไม่เป็นไร รับได้ ทนได้ แอร์หรือเครื่องปรับอากาศของท่านอาจเสียหายมากกว่าเดิม และต้องเสียเงินซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอะไหล่อีก
สรุปสาเหตุแอร์เสียงดังเกิดมาจาก 3 สาเหตุใหญ่ๆ คือ
1.   แอร์เสียงดังเพราะลมแรงเกินไป ก็สามารถเกิดเสียงดังได้ เสียงที่ออกมาจะมีเสียงรบกวน สาเหตุนี้อาจจะเกิดมาตัวแอร์เองที่ไม่ได้คุณภาพ และบางครั้งสำหรับแอร์ที่ใช้ท่อดักท์ส่งลมเย็นออกแบบและบีบท่อดักท์ให้เล็กเกินไปทำให้ความเร็วลมเพิ่มขึ้น และลมปะทะกับท่อดักท์ ข้องอ จุดหักเลี้ยวของท่อดักท์ จนกระทั้งมาปะทะกับกริลล์(หน้ากากแอร์) ก็ทำให้เกิดเสียงดังขึ้น
2.   แอร์เสียงดังเพราะชิ้นส่วนประกอบของเครื่องปรับอากาศหลวม ปัญหาเรื่องแอร์ห่วย เสียงดังแบบนี้มักเกิดกับแอร์ที่มีอายุการใช้งานมานานหลายปี ทำให้ชิ้นส่วนต่างๆสึกหร่อไปตามอายุการใช้งาน โดยมากจะเกิดกับชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวได้ เช่น มอเตอร์พัดลม, ใบพัดลม, พูเล่ หรือลูกปืนมอเตอร์แตก ทำให้ชิ้นส่วนที่แตกหักไปเสียดสีกับแกนใบพัดลม และบางครั้งเกิดจากชิ้นส่วนอื่นที่ชำรุดเสียหาย แตกหัก ไปเสียดสีกับโครงแอร์ก็ทำให้แอร์เสียงดังได้เช่นกัน และอีกสาเหตุหนึ่งที่แอร์มักจะเสียงดังหลักจากการล้างแอร์ หรือซ่อมแซมส่วนอื่นของเครื่องปรับอากาศเสร็จแล้ว ช่างแอร์อาจจะประกอบชิ้นส่วนไม่ดี ลืมขันน็อตบางตัว หรือล็อคชิ้นส่วนไม่เข้าก็เป็นสาเหตุทำให้แอร์เสียงดังได้เช่นกัน
3.   แอร์เสียงดังจากแค๊ปทิ้ว(Capilary Tube) ปกติแล้วแค๊ปทิ้วของเครื่องปรับอากาศขนาดเล็กจะถูกออกแบบและติดตั้งไว้ที่คอนเด็นซิ่ง เพื่อป้องกันเสียงดังเวลาคอมเพรสเซอร์ทำงานและฉีดน้ำยาแอร์ แต่สำหรับแอร์บางรุ่นหรือแอร์รุ่นเก่าๆมักติดตั้งแค๊ปทิ้วไว้ที่แฟนคอยล์ทำให้เกิดเสียงดัง “วี๊ดๆ” ในตอนที่คอมแอร์เริ่มทำงาน แต่สำหรับแอร์รุ่นใหม่ๆจะไม่มีปัญหาเสียงดังจากแค๊ปทิ้วแล้ว เพราะผู้ผลิตต่างๆได้ติดตั้งไว้ที่คอนเด็นซิ่งหมดแล้ว
แล้ววิธีแก้อาการแอร์ห่วยเสียงดังทำไง?
1.   แอร์เสียงดังเพราะลมแรง วิธีแก้ไขเบื้องต้นที่พอจะทำได้ก็คือปรับพัดลมให้เบาสุด อาจจะลดเสียงได้บ้างแต่ก็ยังมีเสียงอยู่ ก็ให้ล้างแอร์และทำความสะอาดท่อลม เพื่อลดแรงปะทะของลมจากแฟนคอยล์ได้บ้าง แต่วิธีป้องกันที่ดีควรคำนึงตั้งแต่เริ่มออกแบบขนาดท่อดักท์ ความเร็วลมที่เหมาะสม ไม่แรงและเร็วเกินไปเพราะจะทำให้เสียงดัง และไม่ควรให้ลมเบาเกินไปเพราะอาจจะทำให้ท่อดักท์คอนเด็น (Condensation) คือมีน้ำเกาะที่ท่อลมเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้ ที่เป็นข่าวล่าสุดคือเชื้อ“โรคลีเจียนแนร์” ที่ทำให้คนตายไปหลายคนเพราะเชื้อโรคจากเครื่องปรับอากาศนี่แหละครับ ดังนั้นไปควรมองข้ามตั้งแต่การออกแบบ
2.   แอร์เสียงดังเพราะชิ้นส่วนประกอบของเครื่องปรับอากาศหลวม วิธีแก้ไขก็คือตรวจเช็คว่าชิ้นส่วนตรงไหนชำรุด หลุด หลวม ก็ทำการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ ให้ความสำคัญกับชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวได้เป็นอันดับแรกก่อน แล้วค่อยตรวจเช็คชิ้นส่วนอื่นๆ และผมขอแนะนำสำหรับท่านที่ยังไม่มีอาการแอร์เสียงดังควรบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันอาการชำรุด แถมยังยืดอายุการใช้งานเครื่องปรับอากาศของคุณให้นานขึ้นอีกด้วย ทั้งการหยอดน้ำมันหล่อลื่น และหลังจากล้างหรือซ่อมแซมเครื่องปรับอากาศควรชิ้นส่วนต่างๆให้ครบและแน่นหนาเพื่อป้องกันชิ้นส่วนต่างๆเสียดสีกันเพราะขันน๊อตไม่แน่น หรือลืมขันน็อตไปบางตัว
3.   แอร์เสียงดังจากแค๊ปทิ้ว อย่างที่บอกไปแล้วว่าแอร์ที่เสียงดังจากเสียงฉีดน้ำยาแอร์ของแค๊ปทิ้วมักจะเกิดกับแอร์เก่า และดังเป็นช่วงเริ่มต้นทำงานของคอมเพรสเซอร์เท่านั้น สำหรับแอร์รุ่นใหม่จะไม่มี การแก้ปัญหาเสียงดังจากแค๊ปทิ้วทำได้โดยการย้ายแค๊ปทิ้วไปไว้ที่คอนเด็นซิ่ง จะต้องปล่อยน้ำยาแอร์ทิ้ง  แล้วเติมน้ำยาเพิ่มใหม่หลังจากการย้ายแค๊ปทิ้วแล้ว อาการแอร์เสียงดังจากแค๊ปทิ้วก็จะหายครับ

คงพอได้ทราบสาเหตุและวิธีการแก้ไขแอร์ห่วยเสียงดังไปแล้ว จะได้แก้ปัญหาได้ตรงจุดครับ
ขอบคุณที่มา: http://www.watcharaaircon.com/

[แอร์ไม่เย็น]

คงจะเถียงไม่ได้ว่าเมืองไทยบ้านเราอากาศร้อนทั้งปี จนแทบจะเรียกได้ว่าเมืองไทยมี 2 ฤดู คือ ร้อนและร้อนมาก ซึ่งส่วนใหญ่แทบทุกบ้านก็จะติดแอร์กันทั้งนั้น พอใช้แอร์ไปสักระยะก็จะมีปัญหาแอร์ตัน ลมไม่ออก หรือแอร์ไม่เย็น เราก็จะเรียกช่างมาล้างแอร์ โดยทั่วไปค่าล้างแอร์ประมาณ 400-500 บาทซึ่งราคานี้ก็ถือว่าถูกมากแล้ว ช่างไม่ค่อยได้อะไรเลย แล้วช่างจำนวนมากที่ขาดจรรยาบันในงานช่างก็มักเพิ่มรายได้ด้วยการหาเรื่องเช็คน้ำยา แล้วเป็นอะไรก็ไม่รู้ น้ำยามันจะขาด ต้องเติมเพิ่มทุกทีไป ค่าเติมก็ปอนด์ละ 15-20-30 บาท
มารู้เท่าทันช่างแอร์กันไว้ด้วยนะครับ บางที่ช่างอาจจะทำให้เราเข้าใจผิดได้ว่าแอร์ห่วย ต้องทำนั่นนี่ ต้องเติมน้ำยาแอร์  คอยสังเกตดูว่าเวลาช่างต่อ เกจ์วัดเข้ากับแอร์ จะมีน้ำยารั่วออกมาทุกครั้ง จะรั่วมาก รั่วน้อยก็แล้วแต่ว่าช่างทำเร็วแค่ไหน ตอนปลดเกจ์วัดออกจากแอร์ก็จะรั่วอีกครั้ง โดนวัดน้ำยาบ่อยๆ แรงดันน้ำยาตกแน่ๆ ทางที่ดีบอกช่างที่มาล้างแอร์ทุกครั้งว่า ห้ามวัดน้ำยาแอร์ ห้ามเปิดจุดปิดรูวัดน้ำยาเด็ดขาด เพราะเดี๋ยวมีแอบปล่อยน้ำยาอีก ที่ต้องห้ามเพราะอาจโดนแอบปล่อยน้ำยา จะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตามแต่
ในบางที่คนที่ไม่รู้ ก็ไปเรียกช่างแอร์ประเภทที่ติดสติ๊กเกอร์เกลื่อนตามหมู่บ้านว่า ล้างแอร์ครั้งละ 300 บาท ปรากฏว่าพอมาแล้วล้างแบบลวกๆ คอยล์ร้อนก็ไม่ล้าง จ้องจะวัดน้ำยาท่าเดียว พอวัดแล้วก็บอกว่าขาด ต้องเติม ปอนด์ละ 30 บาท พอเราบอกไม่เติม ได้เรื่องเลย คืนนั้นแอร์ไม่เย็น คิดดูสิว่าบางคนเคยแอร์ไม่ต้องเติมน้ำยามา 12 ปี พอช่างมาครั้งเดียวน้ำยาหายเกือบหมด พอโทรไปถามก็บอกว่าแอร์รั่วมั้ง ค่าซ่อม 1800 บาท คือจะหาเรื่องเอาค่าซ่อมให้ได้ สุดท้ายลองเติมน้ำยาเอง เติมเสร็จเย็นเหมือนเดิม ค่าน้ำยาไม่ถึง 100 บาท
แอร์ทำงานโดยปกติ จะวัดแรงดันน้ำยาได้แถวๆ 68-70 ปอนด์ และแอร์เป็นระบบปิด หมายถึงน้ำยามันจะไม่รั่วไปไหน ถ้าช่างไม่แอบไปปล่อยตอนวัดน้ำยา มีแอร์บางบ้านอายุ 12 ปีไม่เคยต้องเติมน้ำยา ไม่เคยวัดน้ำยา มันก็เย็นสู้อากาศร้อนได้สบายๆ 
น้ำยาถูกๆ ที่ช่างแอร์ทั่วไปใช้ราคา กิโลละ 50-70 บาท เป็นน้ำยาแอร์คุณภาพต่ำ น้ำยาพวกนี้มีปัญหาคืออาจมีสารปลอมปนสูง มีความชื้นในน้ำยาสูง ความชื้นและสารปลอมปนจะทำให้แอร์ไม่เย็น หรือถ้าชื้นมากๆ ถึงกับทำให้วาล์วฉีดน้ำยาตัน เพราะความชื้นไปจับตัวเป็นน้ำแข็งในระบบแอร์เลย ถ้าวาล์วตัน ความเย็นก็ไม่เหลือ
มีวิธีดูน้ำยาแอร์ปลอม หรือดูว่าน้ำยามีความชื้นสูงไหมด้วยตัวเองมั๊ย??  มีแต่น่าจะยากครับ เพราะมันต้องใช้เครื่องตรวจสอบน้ำยาเครื่องละหลายแสนบาท ส่วนใหญ่ที่จะรู้ว่าโดนน้ำยาแอร์ปลอมคือ เติมไปจนเต็มแล้วแอร์ไม่เย็น หรือเย็นน้อยนั่นล่ะ โดนเข้าไปแล้วครับ
ตอนนี้มีน้ำยาแอร์ R22 จากจีนซึ่งมีราคาถูกทะลักเข้ามามาก ช่างแอร์ชอบเพราะราคาถูกดี กิโลละ 50 บาท แต่มีความชื้นและสารปลอมปนสูงมาก ถ้าขืนเติมเข้าไปปนกับน้ำยาแท้ๆ จากโรงงานล่ะก็ แอร์จะทำความเย็นได้ลดลง กินไฟมากขึ้น แอร์ดีๆ กลายเป็นแอร์ห่วยได้ง่ายๆ เลยครับ
น้ำยาแอร์ดีๆ ของแท้กิโลละ 150 บาท มีช่างจำนวนไม่มากนักใช้ ช่างพวกนี้ฝีมือดี รู้ขั้นตอนในการทำงาน ราคาการให้บริการสูง และหาตัวช่างแบบนี้ยากหน่อย ฝากไว้สำหรับคนที่จะล้างแอร์งวดหน้า อย่าเติมน้ำยาแอร์เด็ดขาด และเลือกใช้บริการจากช่างแอร์ที่เชื่อถือได้ด้วยนะครับ

ขอบคุณที่มา : yutc.blogspot.com

[Samsung Smart TV]

Samsung Smart TV มอบประสบการณ์ความบันเทิงที่ทันสมัยและง่ายดาย คุณจะได้สัมผัสกับคุณภาพของภาพที่เหนือกว่า พร้อมการแสดงผลและสีสันที่โดดเด่น ช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับการชมฟุตบอลโลกได้มากยิ่งขึ้น

Samsung Smart TV คือทีวีแห่งการปฏิวัติ
ในโลกที่เคลื่อนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วนี้ เป็นเรื่องยากที่จะปรับเทคโนโลยีของเราให้ทันสมัยอยู่เสมอ Smart Evolution ขจัดความกังวลนี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถรักษาความทันสมัยให้กับ ซัมซุง สมาร์ททีวี ของคุณอยู่เสมอ ชิปเซ็ตที่ติดตั้งได้อย่างง่ายดายจะอัพเกรดส่วนประกอบสำคัญของทีวีของคุณเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้รับประสบการณ์ความบันเทิงที่ล้ำสมัยที่สุด โดยไม่ต้องซื้อทีวีเครื่องใหม่ * Evolution Kit มีจำหน่ายแยกต่างหาก

ปฏิวัติประสบการณ์การรับชมกีฬาโดยไม่ต้องลุกจากโซฟา
คุณเคยนึกอยากกรอกลับภาพการทำประตูที่คุณเพิ่งพลาดไปบ้างหรือเปล่า? หรือคุณอาจอยากแชร์ภาพความตื่นเต้นกับเพื่อนหรือคนในครอบครัว Soccer Mode ช่วยให้คุณใช้ชอร์ตคัตได้ง่ายๆ โดยจะเชื่อมโยงคุณเข้ากับเพื่อนๆ ของคุณผ่าน samsung apps for tv หรือกรอกลับเมื่อคุณพลาดช็อตเด็ด และจะปรับปรุงคุณภาพของภาพและเสียง เพื่อให้คุณดื่มด่ำประสบการณ์ความบันเทิงได้อย่างเต็มอารมณ์

ประตูสู่ประสบการณ์ความบันเทิงที่เหนือชั้น
สัมผัสแอ็คชั่นสุดมันส์ Smart Hub ของ Samsung สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุดสำหรับความบันเทิงระดับสุดยอด ด้วยการเข้าถึงโปรแกรม วิดีโอ และเพลงอย่างฉับไว คุณจะไม่รู้สึกโดดเดี่ยวอีกต่อไป เพลิดเพลินโปรแกรมที่ยอดเยี่ยมจาก ซัมซุง สมาร์ททีวี เชื่อมต่อกับแวดวงทางสังคมด้วยหน้าโซเชียลของ Smart Hub และดูคลิปวิดีโอที่เพื่อนของคุณโปรดปรานผ่านทาง Facebook และ Twitter พร้อมทั้งเข้าถึงภาพถ่าย วิดีโอ และคลิกบนอุปกรณ์ทั้งหมดที่เข้ากันได้ เช่น พีซี หรือกล้อง

เลือกสรรตามความชื่นชอบในการรับชมของคุณ
เพลิดเพลินกับการเข้าถึงโปรแกรมทั้งหมดที่คุณคาดหวังว่าจะได้รับจาก Samsung Smart TV ด้วยการดาวน์โหลดผ่าน app ทีวี คุณจะสามารถจัดเก็บโปรแกรมทั้งหมดที่คุณโปรดปรานบนหน้า Apps

[ทีวีห่วยแตก]

สมาร์ททีวีที่แสนจะอัจฉริยะของคุณสามารถทำได้ทุกอย่างไม่ว่าจะท่องเน็ต ดู Youtube ได้ไม่มีสะดุด แต่ถ้าเกิดอยู่ดีๆ เกิดอาการทีวีห่วยแตก ขึ้นมา ต่ออินเตอร์เน็ตไม่ได้  เพื่อนๆ ก็ใจเย็นๆ ก่อนนะครับ ลองมาขั้นตอนการตรวจสอบเบื้องต้นกันก่อน ทำเหมือนว่าคุณเพิ่งซื้อสมาร์ททีวีมาใหม่
วันนี้จะมาสอนการทำให้ Smart TV สุดห่วย ที่บ้านท่านสามารถเชื่อมต่อเข้ากับอินเตอร์เน็ตได้นะครับ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 วิธีหลักๆ คือแบบมีสายหรือการใช้สาย LAN เสียบเข้าหลังเครื่อง และแบบไร้สายที่ต่อผ่านสัญญาณ Wireless ภายในบ้าน ท่านไหนพร้อมแล้วมาดูตามกันไปที่ละขั้นตอนกันเลย!
วิธีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบมีสาย (Wired Connection)
1.เสียบสาย LAN เข้าที่หลังเครื่องทีวีครับ
2. กดปุ่ม Menu ที่รีโมท แล้วเลือกไปที่หน้า Network > Network Settings
3.เลือก Network Type ให้เป็น Wired ครับ
4.รอให้โทรทัศน์ทำการเชื่อมต่อกับเครือข่ายให้เรียบร้อย จนขึ้น Complete ก็เป็นอันเสร็จครับ
วิธีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบไร้สาย (Wireless Connection)
เสียบสาย LAN เข้าที่หลังเครื่องทีวีเป็นการแก้ปัญหาคำพูดที่ว่า ทีวีห่วยแตก
1.เช็คดูให้เรียบร้อยว่าอุปกรณ์เครือข่ายในบ้านได้เปิดใช้งานครบทุกตัวแล้วหรือยัง
2.เข้าไปที่หน้า Network Settings แล้วเลือกเป็น Wireless ครับผม
3.เลือกชื่อเครือข่ายในบ้านเรา แล้วกดใส่รหัสเครือข่าย
4.รอจนระบบทำการเชื่อมต่อเสร็จสิ้น จนขึ้น Complete ก็แสดงว่าทีวีของเราได้ต่ออินเตอร์เน็ตเรียบร้อยจบเรื่องสมาร์ททีวีสุดห่วยแล้วครับ
สำหรับท่านไหนที่อยากจะเช็คอีกทีว่าทีวีได้ทำการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้สำเร็จหรือเปล่า สามารถเข้าไปเช็คได้ที่เมนู Network > Network Status โดยตัวเครื่องจะทำการเช็คสัญญาณและรายงานค่าต่างๆให้เราได้ดูตามรูปด้านบนครับ ถ้าขึ้นอารมณ์คล้ายๆกัน ก็แสดงว่าระบบได้ทำการต่อเน็ตให้เราอย่างเสร็จสมบูรณ์แล้ว
และนี่ก็คือขั้นตอนการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเบื้องต้นที่สามารถทำตามได้ง่ายๆครับ ทั้งนี้เราอ้างอิงอยู่บนพื้นฐานของระบบอินเตอร์เน็ตแบบภายในบ้านซึ่งมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ไม่ซับซ้อนจนเกินไป เนื่องจากตัวสมาร์ททีวีถูกออกแบบมาให้ใช้งานภายในบ้าน ทำให้อาจจะยังไม่รองรับการใช้งานในระบบป้องกันที่มีความซับซ้อนมากนัก

ที่มาข้อมูล : http://www.lcdtvthailand.com/

[แอร์ไม่เย็น]

วันนี้ขอระบายหน่อยนะครับ ตอนนี้ผมกำลังประสบกับปัญหาแอร์ไม่เย็นครับ คือเรื่องของเรื่อง ผมซื้อแอร์มาใหม่มาติดในห้องนั่งเล่นเมื่อ 3-4 เดือนที่แล้ว แรกๆก็ใช้ดีปกติทุกอย่างครับ เปิดปุ๊บเย็นปั๊บชื่นใจ แต่แล้ววันนึงที่ผมเปิดแอร์ มันไม่เย็นเลยครับ ผมลองปรับอุณหภูมิก็แล้ว ปรับเป็น 18 องศาก็ยังไม่เย็น ผมเริ่มหงุดหงิดเพราะอากาศวันนั้นร้อนมาก แล้วอยู่ๆทำไมแอร์มันจะมาเจ๊งมาห่วยอะไรตอนนี้ ผมไม่รู้จะทำยังไง เลยถอดฟิลเตอร์ออกมาล้างก่อนครับ ก็ล้างแอร์เบื้องต้นเสร็จเรียบร้อย มันก็กลับมาเย็นแล้ว ผมก็ไม่ได้ติดใจอะไร ผ่านไปสองวัน แอร์ผมมันกลับมาห่วยอีกแล้วครับ ทีนี้ผมมั่นใจแล้วว่าไม่ได้เกี่ยวกับขี้ฝุ่นแน่ๆ มันต้องมีปัญหาที่ตัวแอร์ห่วยๆเครื่องนี้นี่แหละ ผมเลยโทรไปที่ศูนย์ พนักงานก็รับเรื่องไว้แบบขอไปที แล้วก็พูดตัดบทว่าเดี๋ยวจะส่งช่างมาดูให้ ผมก็รอ สองสามวันก็ยังไม่มาจนผมต้องโทรไปอีก ทีนี้พนักงานบอกผมว่ายังไงรู้มั้ยครับ พนักงานบอกว่า ช่างแอร์ยังไม่ว่างแวะไปดูให้ คิวเยอะ ผมก็แบบ เฮ้ย! ตอบแบบนี้ได้ไง ยังไม่ว่างมาดูให้ ผมไม่ได้ขอแอร์มาฟรีๆนะ ทำไมตอบแมวๆแบบนี้ ผมเลยเม้งแตกไปชุดใหญ่ ทีนี้พูดดีเลยครับ บอกว่าไม่เกินเย็นนี้ ผมก็เลยรอ มาจริงครับทีนี้ รีบกุลีกุจอแกะแอร์รื้อแอร์ห่วยๆที่ผมซื้อมันมา ผมก็ยืนดูช่างนะ แต่ผมก็ไม่เห็นเขาจะทำอะไรมากมายเลย เหมือนถอดฟิลเตอร์ออกมาล้าง แล้วก็วุ่นๆกับในตัวเครื่อง แล้วก็บอกผมว่าซ่อมเสร็จแล้ว ผมก็อ้าว ทำไมพี่ซ่อมแค่นี้ ผมเพิ่งจะล้างฟิลเตอร์ไปเมื่อวันก่อน นี่พี่มาล้างอีกแล้ว ผมว่าผมแจ้งไปที่ศูนย์แล้วนะว่ามันเป็นที่ตัวเครื่อง พนักงานก็พูดย้ำอยู่นั่นแหละว่าเสร็จแล้วๆ ผมเลยทดลองเปิด มันก็เย็นครับ ผมเลยว่าอะไรมากไม่ได้ก็เลยปล่อยให้ช่างกลับไป หลังจากนั้นอาทิตย์นึง แอร์ห่วยมันก็กลับมาไม่เย็นอีกแล้วครับ ทีนี้ผมเริ่มโมโหจริงๆแล้ว คือซ่อมยังไงก็กลับมาเป็นอีก มีใครทราบบ้างมั้ยครับว่าสาเหตุห่วยๆเนี่ยมันเกิดจากอะไร เพราะผมอยากได้วิธีแก้ปัญหาแอร์ห่วย เพื่อที่เวลาผมไปเม้งแตกในพนักงานจะได้จี้ถูกจุดครับ