[ค่า Excess คืออะไร ?]

                       มือใหม่หัดทำประกันรถยนต์อาจจะไม่เข้าใจ ว่าค่า Excess คืออะไร ? แล้ว ทำไมต้องมีค่า Excess ? บทความนี้ Mr.OOHOO มีคำตอบเกี่ยวกับกับเคลมประกันรถยนต์ และความรู้เกี่ยวกับ ค่า Excess มาฝากกัน



                       การเคลม (Claim) เป็นการใช้สิทธิ์ตามเงื่อนไขของประเภทประกันที่ทําไว้ ซึ่งประกันรถยนต์แต่ละประเภทจะให้ความคุ้มครองแตกต่างกัน เพื่อน ๆ สามารถเช็กความคุ้มครองประกันรถยนต์แต่ละประเภทได้ ตั้งแต่ ประกันรถยนต์ชั้น 1ไปจนถึงประกันรถยนต์ชั้นประหยัดได้ที่หน้าเว็บไซต์ OOHOO.io ซึ่งลักษณะการเคลมจะแบ่งออกเป็นเคลมสด และเคลมแห้ง และรูปแบบจะเป็นการเคลมความเสียหาย เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
- นำรถยนต์เข้าซ่อม (ห้าง/ศูนย์, อู่)
- การหาของใหม่มาทดแทน
- การคืนทุนประกัน

                       โดยปกติแล้วการแจ้งเคลมสมควรที่จะมีคู่กรณี หรือสามารถระบุเหตุการณ์ที่เกิดความเสียหายขึ้นได้เช่น วัน เวลา สาเหตุ และหลักฐานอื่น ๆ เท่าที่มี แต่สำหรับการเคลมแบบไม่สามารถระบุที่มาของความเสียหายได้ ผู้เอาประกันจะต้องรับผิดชอบเอง เรียกว่า ค่าเสียหายส่วนแรก “Excess” นั่นเองครับผม

ค่า Excess คืออะไร ?
                       ค่าเสียหายส่วนแรก หรือ ค่า Excess คือ ราคาที่ผู้เอาประกันต้องจ่าย อนุมัติโดย คปภ.*อนุญาตให้บริษัทประกันสามารถเรียกเก็บกับผู้เอาประกันได้ กรณีแจ้งเคลมโดยไม่สามารถระบุที่มาของความเสียหายได้ชัดเจน เป็นจำนวนเงินตั้งแต่ 1,000 – 8,000 บาทขึ้นอยู่กับความเสียหายที่ได้รับ
*สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
ทำไมต้องมีค่า Excess ?

                       สาเหตุที่ต้องมีการเรียกเก็บค่า Excess ก็เพราะบริษัทประกันภัยกลัวว่าผู้เอาประกันจะ “ลักไก่” ใช้อุบายลวงให้อนุมัติเคลมทั้งที่ไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจริง เพื่อมีเจตนาในการซ่อมรถฟรี เช่น อยากทำสีรถใหม่ เลยแกล้งขับรถเสยเสาไฟฟ้าเพื่อให้มีรอยอุบัติเหตุ เป็นต้น
                       ด้วยเหตุนี้ หากเพื่อน ๆ ไม่ได้มีเจตนาที่จะลักไก่ แต่ดันพลาดไม่รู้ว่านำรถยนต์ไปใช้งานแล้วเกิดรอยรอบคันได้อย่างไร ก็มีโอกาสที่บริษัทประกันภัยจะเรียกเก็บค่า Excess ได้

[สายมูรีบเช็ก! ใส่เสื้อสีอะไรไปลอยกระทง เสริมดวงความรัก]

สายมูรีบเช็ก! ใส่เสื้อสีอะไรไปลอยกระทง เสริมดวงความรัก

 


                  ปล่อยใจ ปล่อยจอย  ใส่เสื้อสีมงคลเสริมดวงเรื่องความรักไปลอยกระทงกัน! พึ่งพรหมลิขิตอย่างเดียวก็คงไม่ไหว Mr.OOHOO เลยเอาใจสายมูที่เชื่อเรื่องดวงความรักมาฝากกันในบทความนี้ ไหน ๆ ก็มีเทศกาลประจำปี วันลอยกระทง 2567 แล้ว มาดูว่า ใส่เสื้อสีอะไรไปลอยกระทง เสริมดวงเรื่องความรัก

                  เตรียมกระทงให้พร้อม ลอยกระทง 2567 ปีนี้ ตรงกับวันที่ 15 พฤศจิกายน  2567 ปล่อยใจ ปล่อยจอย พร้อมเดินทาง อย่าลืมเช็กประกันรถยนต์ก่อนไปร่วมกิจกรรมลอยกระทงกันด้วย สะดวก ปลอดภัย ต้องมีประกันรถยนต์คุ้มครอง!

คนเกิดวันจันทร์
สีดำ, สีครีม , สีชมพู

คนเกิดวันอังคาร
สีดำ, สีเขียว, สีฟ้าอ่อน

คนเกิดวันพุธ
สีขาว, สีครีม, สีเหลือง

คนเกิดวันพฤหัสบดี
สีดำ, สีแดง

คนเกิดวันศุกร์
สีชมพู

คนเกิดวันเสาร์
สีเขียว, สีฟ้าเข้ม

คนเกิดวันอาทิตย์
สีเขียว, สีเทา

 

                         ปล่อยใจปล่อยจอยไปลอยกระทง ประกันรถยนต์ต้องไม่ขาด แหล่งรวมประกันรถยนต์ OOHOO.io พร้อมเป็นเพื่อนคู่ใจยามฉุกเฉิน เปรียบเทียบรวมประกันรถยนต์จากหลากหลายบริษัทประกันชั้นนำ ราคาดี ทุนประกันสูง คุ้มครองครบ ต้อง ที่ OOHOO.io ประกันออนไลน์เท่านั้น!

[รถชน แจ้งใครบ้าง? วิธีรับมือเมื่อเกิดอุบัติเหตุ]

รถชน…แจ้งใครบ้าง? วิธีรับมือเมื่อเกิดอุบัติเหตุ



แจ้งใครบ้าง? เมื่อเกิดอุบัติเหตุ
                   การเกิดอุบัติเหตแบ่งออกเป็น 3 กรณี คือ เมื่อเราเป็นฝ่ายผิด ฝ่ายถูก และไม่สามารถระบุได้ว่าใครเป็นฝ่ายผิด  มาดูกันว่า ในแต่ละกรณีมีวิธีรับมือเมื่อเกิดอุบัติเหตุยังไงบ้าง
1. กรณีเป็นฝ่ายถูก
- แจ้งบริษัทประกันภัยเพื่อทำการสำรวจอุบัติเหตุและสภาพความเสียหาย
- ควรจดทะเบียนรถคู่กรณี ชื่อ ที่อยู่ โทรศัพท์ ของผู้ขับขี่ และเจ้าของรถยนต์ในกรณี 
- ให้คู่กรณีรับผิดโดยการลงชื่อในใบคำขอยอมรับผิด แล้วจึงเคลื่อนย้ายรถออกจากที่เกิดเหตุเพื่อไม่ให้กีดขวางการจราจร
- ถ้ามีพยานในที่เกิดเหตุ ควรจดชื่อ ที่อยู่ โทรศัพท์ของพยานเอาไว้ด้วย 
2. กรณีเป็นฝ่ายผิด
- แจ้งบริษัทประกันภัยเพื่อทำการสำรวจอุบัติเหตุและสภาพความเสียหาย
- ให้เขียนชื่อ ที่อยู่ โทรศัพท์ ให้แก่คู่กรณี
- เคลื่อนย้ายรถออกจากที่เกิดเหตุเพื่อไม่ให้กีดขวางการจราจร
3.ไม่สามารถระบุได้ว่าใครเป็นฝ่ายผิด
- แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ที่เกิดอุบัติเหตุ
- รอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบและทำเครื่องหมายบริเวณอุบัติเหตุ แล้วเคลื่อนย้ายรถออกจากที่เกิดเหตุเพื่อไม่ให้กีดขวางการจราจร
- ไม่ควรลงชื่อในเอกสารใด ๆ กับคู่กรณี
- แจ้งบริษัทประกันภัยทันทีเพื่อทำการสำรวจอุบัติเหตุ และสภาพความเสียหาย
                   เบื้องต้นวิธีรับมือเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ต้องแจ้งบริษัทประกันภัยทำการสำรวจอุบัติเหตุและสภาพความเสียหาย เพราะเราจะได้เคลมประกันรถยนต์ตามที่กำหนดในกรมธรรม์ แต่หากมีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ควรทำตามขั้นตอนดังนี้
มีผู้ได้รับบาดเจ็บเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
1. ให้นำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลโดยด่วน โทร. 1669 จากนั้นแจ้งบริษัทประกันภัย
2. แสดงหลักฐานให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลทราบว่ามีประกัน พ.ร.บ. รถยนต์
3. ไม่ควรตกลงค่าเสียหายกับคู่กรณี โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันภัย
4. แสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรณีเรื่องถึงสถานีตำรวจ
มีผู้เสียชีวิตในอุบัติเหตุ
1. ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและแจ้งบริษัทประกันภัยทันที
2. มีความผิดทางอาญา ส่วนความผิดทางแพ่งบริษัทประกันภัย จะเข้าร่วมเจรจาและให้คำปรึกษา พร้อมทั้งรับผิดชอบค่าเสียหายตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์
3. ปรึกษาเจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัยในการตกลงค่าเสียหายกับคู่กรณี
*กรณีถูกชนแล้วคู่กรณีหนี จดจำทะเบียน ยี่ห้อ รุ่น สี และแจ้งสถานีตำรวจท้องที่ที่เกิดเหตุ

เบอร์โทรฉุกเฉินที่ควรรู้ 
เบอร์โทรฉุกเฉินด้านการแพทย์
1669 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ
1196 เมื่อพบเจออุบัติเหตุทางน้ำ
1554 หน่วยแพทย์กู้ชีวิต วชิรพยาบาล
1691 โรงพยาบาลตำรวจ

แจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย
191 ติดต่อแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ
192 ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ
199 ศูนย์วิทยุพระราม เพื่อแจ้งอัคคีภัย/สัตว์ร้ายบุกรุกบ้าน
1418 มูลนิธิป่อเต๊กตึ๊ง กทม.
192 ศูนย์ปราบขโมยรถ (สตช.)
1193 ตำรวจทางหลวง - 1195 กองปราบ (สายด่วนแจ้งเหตุอาชญากรรม คดีร้ายแรงเป็นภัยต่อประเทศ)
1300 ศูนย์ช่วยเหลือสังคม

เบอร์โทรฉุกเฉินเกี่ยวกับการเดินทาง
1137 วิทยุ จส.100 (เบอร์โทรฉุกเฉินแจ้งเหตุด่วนบนท้องเพื่อประสานงานต่อ)
1146 กรมทางหลวงชนบท (ติดต่อเรื่องท้องถนนเฉพาะพื้นที่ต่างจังหวัด)
1197 ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจรตำรวจ
1644 สวพ. FM91 (รายงานสภาพจราจรและแจ้งเหตุด่วนบนท้องถนน)
1690 การรถไฟแห่งประเทศไทย (สอบถามสายรถไฟ ตั๋ว และอื่น ๆ )
1584 กรมการขนส่งทางบก
1586 สายด่วนกรมทางหลวง
1543 การทางพิเศษแห่งประเทศไทย

                   เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ควรรับมืออย่างมีสติ เรื่องประกันรถยนต์ก็ให้อย่าขาด! มองหาแหล่งต่อประกันรถยนต์ Mr.OOHOO ขอป้ายยาแหล่งรวมประกันรถยนต์ OOHOO.io มีให้เลือกหลากหลายแพ็กเกจ ทั้งซ่อมอู่ ซ่อมห้าง ทุนประกันสูง ประกันรถยนต์ชั้น 1 ผ่อน 0% นาน 10 เดือน*หารเท่า คุ้มครองครอบคลุม ราคาสุดคุ้ม แถมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินแบบจัดเต็ม 


ที่มาข้อมูล : thonburihealthvillage / สถาบันขับขี่ปลอดภัย

[ทำไมต้อง “ล้างท้อง” ก่อนกินเจ?]

          เทศกาลกินเจเป็นงานประจำปีที่ผู้คนงดเว้นจากผลิตภัณฑ์จากสัตว์และกินเฉพาะอาหารมังสวิรัติที่ไม่มีส่วนผสมกลิ่นฉุน คนไทยเรียกเทศกาลนี้ว่า “กินเจ” เป็นเวลา 9 วันตามปฏิทินจันทรคติ โดยเริ่มในวันที่ 1 ของเดือน 9 ตามจันทรคติ ซึ่งตรงกับเดือนกันยายนหรือตุลาคมในแต่ละปี บทความนี้ Mr.OOHOO พาไปเช็ก เทศกาลกินเจ เริ่มวันไหน กินยังไงให้ถูกต้อง
 
ความหมายของคำว่า “เจ”
          ในภาษาจีนคำว่า "เจ" หมายถึงการปฏิบัติตามความบริสุทธิ์ เหมารวมทั้งร่างกายและจิตใจ มีจุดประสงค์เพื่ออุทิศตนทางศาสนาหรือการถวายเครื่องบูชาและบูชาเทพเจ้าทั้งเก้าองค์ ชาวจีนแผ่นดินใหญ่เรียกเทศกาลนี้ว่า "เทศกาลเทพเจ้าจักรพรรดิองค์ที่ 9" ซึ่งเฉลิมฉลองเทพเจ้าทั้ง 9 องค์ที่เคารพนับถือ



          ปี 2567 นี้เทศกาลกินเจจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 ตุลาคม ถึง 11 ตุลาคม เพื่อน ๆ ที่ตั้งใจจะเริ่มกินเจอาจจะต้องทำความเข้าใจขั้นตอนการกินเจให้ดีก่อน เพราะหากไม่ทำการ “ล้างท้องก่อนกินเจ” อาจเกิดอันตรายกับร่างกาย หรือเรียกว่า โหมหนักเกินไป ว่าแต่… วิธีการ “ล้างท้อง” คืออะไร หาคำตอบได้ จากข้อมูลด้านล่างนี้ได้เลย

ทำไมต้อง “ล้างท้อง” ก่อนกินเจ?
          บางคนอาจเริ่มเตรียมตัวสำหรับเทศกาลกินเจด้วยการ “ล้างท้อง” เพื่อทำความสะอาดร่างกายตั้งแต่เย็นวันก่อนเริ่มเทศกาลโดยเริ่มจากการกินอาหารมังสวิรัติ 1-2 วันก่อนเริ่มเทศกาลจริงเพื่อให้ร่างกายค่อยๆ ปรับตัวและคุ้นเคยกับการกินอาหารมังสวิรัติมากขึ้น และช่วยให้การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างราบรื่น

ที่มาของเทศกาลกินเจ ทำไมต้องกินเจ?
          มีตำนานหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของเทศกาลกินเจ แต่โดยทั่วไปเชื่อกันว่าเริ่มต้นจากผู้ก่อตั้งลัทธิเต๋า ก่อนที่เทศกาลนี้จะกลายเป็นเทศกาลประจำปีของชาวจีน คนส่วนใหญ่ก็ตั้งข้อสังเกตว่าเทศกาลนี้ มีจุดประสงค์เพื่อสะสมบุญและอุทิศการกระทำส่งต่อให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว เพื่อรับมือกับการสูญเสีย การกินเจจึงถูกจัดขึ้นอย่างเป็นทางการเป็นงานประจำปี

          ทั้งนี้ ช่วงเวลาแร้นแค้นในอดีตที่หาเนื้อสัตว์ยาก หรือพืชพรรณต่าง ๆ อุดมสมบูรณ์จึงมีการจัดเทศกาลกินเจขึ้นเพื่เฉลิมฉลองด้วยประการนี้ก็เป็นไปได้ แต่หากมองในมุมความเป็นสากล จากการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ที่ต้องใช้วัตถุดิบและสูญเสียพลังงานในการผลิตออกมามากการงดเนื้อสัตว์ และให้ความสำคัญกับการกินมังสวิรัตจึงนิยมมากขึ้นไม่ใช่กับแต่เฉพาะประเทศจีนเท่านั้น

            เทศกาลกินเจในประเทศไทยเป็นประเพณีที่สืบทอดมาจากลูกหลานชาวจีน เมื่อเวลาผ่านไปความเชื่อพร้อมวัฒนธรรมการกินเจก็ผสานเข้ากับผู้คนในท้องถิ่น ทำให้เกิดประเพณีอันโดดเด่นที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นในหมู่ลูกหลานชาวจีนในประเทศไทย

          ในช่วงเทศกาลกินเจในประเทศไทย คนไทยเชื้อสายจีนมักจะจัดงานเฉลิมฉลองครั้งใหญ่เพื่อฟื้นฟูความเชื่อของบรรพบุรุษ ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก สถานที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักมากที่สุด คือ เทศกาลกินเจเยาวราชในกรุงเทพฯ และเทศกาลกินเจในภูเก็ต
เทศกาลกินเจในกรุงเทพฯ
          ย่านเยาวราช หรือรู้จักกันดีในชื่อ ไชน่าทาวน์ (Chinatown) เป็นจุดรวมตัวหลักสำหรับการเฉลิมฉลองเทศกาลกินเจตลอดทั้งสัปดาห์ แผงลอยขายของชั่วคราวตั้งขายอาหารไร้เนื้อสัตว์ ของไหว้เจ้า และขนมหวานมากมาย ตามข้อกำหนดของเทศกาล ร้านที่ขายอาการเจ หรือ มังสวิรัตมักจะติด “ธงเจ” สีเหลือง หรือ สัญลักษณ์ภาษาจีน ไว้หน้าทางเข้า เวลาที่ดีที่สุดที่จะแวะไปคือช่วงเย็นประมาณ 17.00 น. เป็นต้นไป รับรองว่าเพลิดเพลินกับของกินที่ตั้งเต็มทางเดินทั้งคืนแน่นอน
          สายแฟร์ที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ สามารถชมการแสดงงิ้วจีนตามวัดที่ตั้งในย่านนั้นได้ หนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในการเฉลิมฉลองเทศกาลกินเจ คือซอย 20 ของถนนเจริญกรุง การแสดงงิ้วจีนจัดขึ้นทุกวันระหว่างเวลา 18.00 น. - 19.00 น.
เทศกาลกินเจในภูเก็ต
          นอกจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยสีสันตลอดทั้งปี ภูเก็ตยังถือเป็นศูนย์กลางของเทศกาลกินเจของไทย เนื่องจากประชากรมากกว่า 30% มีเชื้อสายจีน พิธีกรรมในช่วงที่เทศกาลนี้คึกคัก ได้แก่ การฟันลิ้นและเดินเท้าเปล่าบนถ่านที่ร้อนจัด หากเพื่อน ๆ อยากไปสัมผัสประสบการณ์แบบ Unseen ที่หาชมยาก ภูเก็ตช่วงเทศกาลก็ถือเป็นหนึ่งจุดเยี่ยมชมที่ขาดไม่ได้เช่นกัน
กินเจยังไงให้ถูกต้อง?
          เทศกาลกินเจเป็นการเฉลิมฉลองของชาวจีนต่อเทพเจ้าจักรพรรดิทั้ง 9 พระองค์ คนที่เคร่งมาก ๆ จะถือข้อปฏิบัติอย่างเข้มงวด โดยละเว้นเนื้อสัตว์ สัตว์ปีก อาหารทะเล หรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ใดๆ เช่น นมและไข่ รวมถึงกระเทียม หัวหอม กระเทียมหัวเดียวของจีน และกุ้ยช่ายจีน นั่นหมายถึงว่า งดเว้นอาหารประเภทที่ส่งกลิ่นแรง
ข้อควรปฏิบัติกินเจ
1.กินเฉพาะอาหารมังสวิรัตเท่านั้น
อาหารที่กินได้แต่ไม่แนะนำได้แก่  เครื่องดื่มอัดลม (โซดา) , ผงปรุงรส (ผงชูรส) , ช็อคโกแลต เป็นต้น
2.หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสจัด เช่น อาหารรสเผ็ด หวาน เปรี้ยว และเค็ม รวมถึงผักที่มีกลิ่นแรง ใช้ภาชนะและภาชนะแยกต่างหากสำหรับอาหารมังสวิรัติโดยเฉพาะ
3.รักษาศีลห้า ทำใจให้บริสุทธิ์ ทำบุญและการกุศล ไหว้เทพเจ้า และนั่งสมาธิ
4.งดเว้นจากการใช้คำหยาบคาย
5.งดกิจกรรมทางเพศ
6.สวมเสื้อผ้าสีขาวในช่วงเทศกาล
7.เข้าร่วมพิธีทางศาสนาต่าง ๆ ที่วัด

          การท่องเที่ยวช่วงเทศกาลก็ย่อมคึกคักเป็นพิเศษ ถ้าเพื่อน ๆ เดินทางด้วยรถยนต์ก็ต้องระมัดระวัง เตรียมพร้อมก่อนออกจากบ้าน มีสติและเช็กเส้นทางที่ไปให้ดี ที่สำคัญ เช็กประกันรถยนต์ ว่าขาดหรือไม่? เพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉิน ยังมีประกันรถยนต์คอยคุ้มครอง OOHOO.io แหล่งรวมประกันรถยนต์จากหลายบริษัทประกันชั้นนำยอดฮิต เทียบเบี้ยหลายตัวเลือก เช็กราคาได้ฟรี!!! ตลอด 24 ชั่วโมง

[แบบใหม่แบบสับ! อัปเดตล่าสุด ใบขับขี่แบบใหม่ 2567 ไฉไลกว่าเดิม]

แบบใหม่แบบสับ! อัปเดตล่าสุด… ใบขับขี่แบบใหม่ 2567 ไฉไลกว่าเดิม



ประกาศจาก ราชกิจจานุเบกษา ให้ปรับใบขับขี่รูปแบบใหม่ 2567 เพิ่มเครื่องหมายกาชาด แสดงสัญลักษณ์บริจาคอวัยวะ เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ 7 กันยายน 2567 Mr.OOHOO สรุปมาให้แล้ว มีอะไรน่าสนใจบ้าง? ไปดูพร้อม ๆ กันเลย!

                    ใบขับขี่แบบใหม่ เป็นความร่วมมือระหว่าง กรมการขนส่งทางบก และ สภากาชาดไทย ภายใต้โครงการชื่อ “กรมการขนส่งทางบก สภากาชาดไทย เชิญชวนร่วมบริจาคอวัยวะ สร้างกุศลผู้ให้ สร้างชีวิตใหม่ผู้รับ” สำหรับขยายฐานผู้บริจาคอวัยวะ โดยกรมการขนส่งทางบกได้จัดทำสัญลักษณ์ของสภากาชาดไทย ปรากฏเป็น “กากบาทแดงบนพื้นสีขาว” และเพิ่มข้อความ “บริจาคอวัยวะ” บนหน้าใบขับขี่ กรณีที่เจ้าของใบขับขี่ร่วมบริจาคอวัยวะกับสภากาชาดไทย

                    อัปเดตเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2567 จากข้อมูล เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง กำหนดแบบใบอนุญาตขับรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2567 ระบุว่า

                    ตามที่ได้มีประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง กำหนดแบบใบอนุญาตขับรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ พ.ศ. 2567 ลงวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2564 ไว้แล้วนั้น

                    โดยที่แบบใบอนุญาตขับรถตามประกาศดังกล่าวกำหนดเครื่องหมายกาชาดไว้ที่ด้านล่างของใบอนุญาตขับรถเพื่อออกให้แก่ผู้ได้รับใบอนุญาตขับรถที่บริจาคอวัยวะกับสภากาชาดไทย แต่หน่วยงานหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องอาจไม่เข้าใจว่าเครื่องหมายกาชาดดังกล่าวแสดงถึงความประสงค์ของผู้ได้รับใบอนุญาตขับรถที่บริจาคอวัยวะ ดังนั้น เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการให้เป็นไปตามความประสงค์ของผู้ได้รับใบอนุญาตขับรถที่บริจาคอวัยวะ จึงเห็นสมควรปรับปรุงแบบใบอนุญาตขับรถในส่วนของการแสดงการเป็นผู้บริจาคอวัยวะให้ชัดเจนยิ่งขึ้น อาศัยอำนาจตามความในข้อ 13 แห่งกฎกระทรวง การขอและการออกใบอนุญาตขับรถ และการต่ออายุใบอนุญาตขับรถ พ.ศ. 2563 อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ประกาศกำหนดแบบใบอนุญาตขับรถไว้ ดังต่อไปนี้
                    ข้อ 1 ให้ยกเลิกแบบใบอนุญาตขับรถที่แนบท้ายประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง กำหนดแบบใบอนุญาตขับรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ พ.ศ. 2564 และให้ใช้แบบใบอนุญาตขับรถตามแบบแนบท้ายประกาศนี้แทน
                    ข้อ 2 ใบอนุญาตขับรถที่ออกไว้แล้วก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ ให้ใช้ได้ต่อไปจนกว่าจะสิ้นอายุ
                    ข้อ 3 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป



ผู้ที่บริจาคอวัยวะถือใบขับขี่แบบเก่าต้องรีบทำใบขับขี่แบบใหม่หรือไม่?
                    เพื่อน ๆ ที่บริจาคอวัยวะกับสภากาชาดไทยและกำลังถือใบขับขี่ฉบับเดิมก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะถ้ามีใบขับขี่ฉบับเดิมอยู่ ก็สามารถใช้งานได้ปกติจนใบขับขี่หมดอายุ จากนั้นให้ดำเนินทำใบขับขี่ใหม่ พร้อมแจ้งเรื่องขอใบขับขี่ที่มีเครื่องหมายกาชาด แสดงสัญลักษณ์บริจาคอวัยวะได้

ถ้าต้องการเปลี่ยนใบขับขี่ใหม่ ต้องทำยังไง?
                    สามารถแจ้งขอเปลี่ยนแปลงได้ โดยจะมีใบออกมาให้กรอก จากนั้นต้องโชว์หลักฐาน เช่น บัตรประจำตัวการบริจาคอวัยวะและดวงตาของเราให้กับเจ้าหน้าที่ หรือหากเคยบริจาคแบบออนไลน์ ก็สามารถเปิดแอปพลิเคชันให้เจ้าหน้าที่ดูได้ ณ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 และสำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ

                    อู้หู! แบบใหม่แบบสับ ใบขับขี่ฉบับอัปเดต 2567 ที่ราชกิจจานุเบกษาประกาศใช้ถือว่าอำนวยความสะดวกให้ประชาชน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกันมากขึ้น แน่นอนว่าคนที่ต้องใช้งานรถยนต์ต้องมีใบขับขี่เพื่อเป็นหลักฐานผ่านการอบรมและเข้าใจขั้นตอนการขับขี่บนท้องถนน ส่วน ประกันรถยนต์ ก็เป็นอีกหนึ่งความสำคัญที่เราไม่ควรละเลย นอกจากคุ้มครองรถ และคุ้มครองคนแล้ว ยังคุ้มครองคู่กรณีแม้เกิดเหตุไม่คาดฝัน สนใจต่อประกันรถยนต์ ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ แค่เข้ามาที่เว็บไซต์ OOHOO.io แหล่งรวมประกันรถยนต์ชั้นยอดจากหลายบริษัทประกันภัยชั้นนำ  มีแพ็กเกจหลากหลายให้เลือก