ถ้าเดิมเขาใส่ 7.5 ก็ควรใส่ 7.5 กลับไปนะครับ อย่าไปใส่มากกว่า เพราะฟิวส์ มันรับภาระ การตัดวงจร เมื่อมีปัญหาอยู่ ให้ใส่ใหญ่ขึ้น มันก็รับภาระได้มากขึ้น แต่มันจะกลายเป็นว่าส่วนอื่นจะรับภาระแทนฟิวส์ตัวนี้ นั้นหมายความว่า มันจะไปมีปัญหาที่จุดอื่นแทนนะ แล้วเราก็จะหาไม่เจอว่าเป็นที่จุดไหนกันแน่
รีเลย์ไฟเลี้ยว โดยปกติ จะทำหน้าที่ ตัดต่อวงจร โดยใช้ แม่เหล็กเหนียวนำ โดยมันจะต้องมีโหลด หรือหลอดไฟ ที่มีกำลังวัตต์มากพอ ถึงตัดต่อวงจร ถ้ามีวัตต์มากก็จะช้า มีวัตต์น้อย ก็จะ เร็ว
คราวนี้ถ้ามันกระพริบเร็ว แสดงว่า มีหลอดบางตัวไม่ติด ก็เป็นไปได้ว่า หลอดที่ใส่ไปล่าสุดไม่ติด หรืออาจจะมีสายไฟบางจุดไปลงตัวถัง ที่น่าสงสัยสุด ก็คือตัวล่าสุด คราวนี้ต้องไปใส่ฟิวส์ใหญ่ขึ้น อาจจะทำให้ สายไฟบางจุดละลายแล้วก็ได้ และไปช๊อตตัวถังอยู่
ระวังนิดนะครับ ของผมวันก่อน ทำไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้างเอง เดินสายไฟ แล้วพับกระจกไปมา หลายวันก็ไม่เป็นไร แต่วันหนึ่งรู้สึกว่า ไฟเลี้ยวกระพริบเร็ว ก็คิดว่าหลอดขาดธรรมดา แต่ที่ไหนได้ สักพักได้กลิ่นไหม้ รีบจอดรถแถบไม่ทัน มีควันขึ้นที่แก้มซ้าย รับถอดไฟเลี้ยว แล้วดึงสายไฟทั้นที ปรากฎว่า สายไฟกำลับละลายครับ เหตุเพราะว่า
1.ผมก็ใส่ฟิวส์ใหญ่ขึ้นจากเดิม บางที่ขี้เกียจหาฟิวส์ ก็เอาสายไฟพันขาฟิวสฺเอาครับ อย่าเอาเป็นตัวอย่างนะ
2.สายไฟที่ผมเพิ่มไป เส้นเล็ก และเมื่อมันมีการกดทับ และพับไปพับมาก เกิดการขาด เล็ก และช๊อตลงตัวถัง แต่ไม่ได้ช๊อตทันที่ ช๊อตบางไม่ช๊อตบาง ไฟเลี้ยวเลยกระพริบเร็ว และเกิดความร้อนสะสมในสายไฟ เลยสายไฟละลาย
อีกเหตุการ์ที่ผมเคยเจอ คือ ปิดไฟฉุกเฉินนานเกิน อยู่ดีดี ไฟก็ไม่ติด คราวนี้ไฟเลี้ยวทั้งระบบไม่ติดด้วย ไล่เท่าไรก็ไม่เจอ จนต้องถึงมือหมอ ปรากฎว่า สวิทย์ไฟฉุกเฉินละลายครับ
ขอบคุณคร๊าบน้า และ ทุกๆที่ช่วยเหลือคับ
ถามอีกอย่างคับตัว flasher นี้คือตัวอะไรอ่อคับ