แต่ก่อนใช้ยัวซ่าเกือบได้3ปีอีกเดือนกว่าๆ แต่ตอนนี้ใช้GSแล้ว เพราะยากูซ่ามันแพง

GS อยู่ได้ปีกว่า ไม่เก็บไฟแล้ว กลับไปคบยัวซ่าต่อ ทนดี

ก็ติดแบบหัวฉีดสิครับ
ลงทุนทีเดียวจบ
มีเงินเยอะก็ NGV(CNG)
รถเบนช์ รถเล็กซัส เขายังติดกันเลย
รวยขนาดซื้อเบนช์ยังไม่มีเงินจ่ายค่าน้ำมันเลยต้องไปติดแก็ส
รถใหม่จากโรงงานผลิตก็ยังมีแก็สติดมา
ไม่ว่าจะเป็น อัลติส CNG หรือ เบนช์ NGV ก็มี
วีโก้CNG ติดจากโรงงานก็จะออกแล้ว ช่างศูนย์เขาไปอบรมกันเยอะแยะ
ร้านติดตั้งใหญ่ๆ เขาติดกันที่วันละมากกว่า 10 คันที่ออกไป
ไหนจะรอคิวติดกันอีก ผมเห็นกับตามากแล้ว ร้านสมายแก็ส ลาดปลาเึ้ค้า
ที่ พวก TAGAS เขาอยู่กัน ผมไปดูร้านที่พวกเขาทำงานทุกวันมาแล้ว
รถที่จอดรอติดแก็สเยอะมากๆ ประมาณ 50 คันได้
ผมถามเขาที่นี่มีช่างกี่คน เขาตอบว่า 30 กว่าคน
นี่มันเยอะกว่าศูนย์บริการโตโยต้าบางที่อีกนะเนี้ยะ
หมดยุคใช้น้ำมันแล้วครับ ประหยัดพลังงานน้ำมันกันหน่อย
เมื่อ 5 ปีที่แล้ว อ. มหาลัยเป็น ดร. ขับ นิสสัน เทน่า ออกสอนที่ศูนย์ต่างๆ
รถเขาติดแก็สแล้วประหยัดติดใจ บอกให้นร. ติดเถอะอย่าโง่ใช้น้ำมันอยู่เลย
หรือจะรอให้น้ำมันลิตรละร้อยถึงจะเลิกใช้น้ำมันกัน
เดี๋ยวจะได้ใจขึ้นไปลิตรละ 50 บาท
อย่างที่เคยทำ 40 กว่านะ
ตอนนั้นดีเซลก็แพง พวกวีโก้ที่ยังไม่มีเครื่องเบนชินลง
พวกก็ซื้อดีเซลไปยกเครื่องออกขายแลกกับเครื่องเจ ลงกันเยอะแยะ เพราะดีเซลแพง
แก็สก็บอกจะขึ้นเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ที่น้ำมันขึ้นไป 40 กว่า
ช่วงนั้นผมยากติดมากก็ไม่กล้าติด เพราะเห็นบอกแก็สจะขึ้น ก็ไม่ขึ้นสักที กลัวอาหารแพงขึ้นตาม
พึ่งติดหัวฉีดมาได้ 6 เดือน ก่อนติดค่าน้ำมันเดือนละ 8-9 พัน
หลังจาก 6 เดือนที่ผ่านมา เดือน 2-3 พัน เก็บเงินได้เดือนละ 6พัน กับการลงทุนครั้งเดียว
รู้อย่างนี้ติดตั้งแต่ อ. ดร. บอกแล้ว ผมขอโทษ อ.ที่ผมไม่เชื่อฟัง

โปรดใช้วิจาจักรยานในการอ่านครับ

http://www.thaiagclub.com/home/index.php?topic=4188.0
ลองดูครับไม่ยากครับ

ต้องเปลี่ยนการต่อครับ
ปกติระบบกันขโมยจะใช้สัญญาณ ON กุญแจเป็นตัวบอกให้ปลดล็อคประตู
ขณะที่ไทเมอร์ทำงานคือส่งไฟ ON ไปใช้ในระบบกันขโมยก็รู้ว่ารถคุณติดเครื่องอยู่
พอคุณออกจากรถแล้วล็อคประตู ไทเมอร์หมดเวลาเมื่อไหร่ กันขโมยก็จะรู้ว่าคุณดับเครื่อง
แล้วปลดล็อคประตูให้อัตโนมัติ
รถผมก็ติดกันขโมยและมาติดไทเมอร์ทีหลัง  แรกๆก็งงแล้วก็ได้วิธีแก้คือ
จากที่กันขโมยเอาสัญญาณ ON ไปใช้
ให้เปลี่ยนเป็นเอาสัญญาณ ACC ไปใช้แทน
ผลที่ได้คือ ดับเครื่องจาก ON ไป Acc กันขโมยยังไม่ปลดล็อค
ต้องบิดสวิตช์กุญแจไปที่ตำแหน่ง LOCK ถึงจะปลดล็อคให้
ลองทำดูครับ แล้วกันขโมยยังจะปลดล็อคเองตอนเครื่องยนต์ดับอีกไหม
ถ้าไม่เข้าใจในการอธิบายของผม โทรมาครับ 0849002811 ARM

ต้องเปลี่ยนการต่อครับ
ปกติระบบกันขโมยจะใช้สัญญาณ ON กุญแจเป็นตัวบอกให้ปลดล็อคประตู
ขณะที่ไทเมอร์ทำงานคือส่งไฟ ON ไปใช้ในระบบกันขโมยก็รู้ว่ารถคุณติดเครื่องอยู่
พอคุณออกจากรถแล้วล็อคประตู ไทเมอร์หมดเวลาเมื่อไหร่ กันขโมยก็จะรู้ว่าคุณดับเครื่อง
แล้วปลดล็อคประตูให้อัตโนมัติ
รถผมก็ติดกันขโมยและมาติดไทเมอร์ทีหลัง  แรกๆก็งงแล้วก็ได้วิธีแก้คือ
จากที่กันขโมยเอาสัญญาณ ON ไปใช้
ให้เปลี่ยนเป็นเอาสัญญาณ ACC ไปใช้แทน
ผลที่ได้คือ ดับเครื่องจาก ON ไป Acc กันขโมยยังไม่ปลดล็อค
ต้องบิดสวิตช์กุญแจไปที่ตำแหน่ง LOCK ถึงจะปลดล็อคให้
ลองทำดูครับ แล้วกันขโมยยังจะปลดล็อคเองตอนเครื่องยนต์ดับอีกไหม
ถ้าไม่เข้าใจในการอธิบายของผม โทรมาครับ 0849002811 ARM

ง่ายเลยครับ
1 ถอดปลั้กที่มอเตอร์ออก
2 บิดสวิตช์กุญแจon
3 เปิดสวิตช์ปัดน้ำฝนไปที่ตำแหน่ง HI
4 วัดไฟ12v ที่ปลั้กมอเตอร์ ขั้วที่ 2 สีน้ำเงิน-ส้ม เป็นไฟ +12v
ขั้วที่ 1 สีขาว-ดำ เป็น กราวต์
5 ถ้าไฟมา 12v ที่ขั้วที่ 2 แสดงว่ามอเตอร์เสียครับ
ไม่ต้องสนใจขั้วที่ 1 เพราะจังหวะ LOW มอเตอร์ทำงาน แสดงว่าขั้ว 1 กราวต์ปกติ
6 ถ้าไฟ 12v ไม่มาที่ปลั้กมอเตอร์ ให้ไป
ดูที่สวิตช์ปัดน้ำฝนว่าขั้วที่ 13 สีน้ำเงิน-ส้ม ขณะที่เสียบปลั้กอยู่มีไฟ 12v ออกมาไหม
ถ้าไฟ 12v ออกมาแล้ว แต่ไฟไปไม่ถึงปลั้กที่มอเตอร์ แสดงว่ามีการขาดของสายไฟสี น้ำเงิน-ส้ม
ถ้าไฟ 12v ไม่ออกมาแสดงว่า สวิตช์ปัดน้ำไฟเสียครับ

ถ้าไม่เข้าใจโทรมาครับ 0849002811 ARM

รถผมเก่า
เครื่องก็เก่า
ชีลตีนวาล์วก็เก่าแข็งหมดแล้ว
ทำให้มีน้ำมันเครื่องไหลซึมลงมาเลี้ยงบ่าวาล์วเวลาจอดรถนานๆ
เช่นจอดข้ามคืน จะสังเกตุได้ว่าสตาร์ทเครื่องทีแรกตอนเช้า
ควันขาวสัก5-6วินาทีก็หมดไป
แต่น้ำมันเครื่องวิ่ง 5000 กม. เติมเพิ่มไปครึ่งลิตร
ไปข้อดีที่ชีลตีนวาล์วแข็งตัว

งะ ทำไมตอนออกไม่ 1 หละคับ ตอนวิ่ง 40 เกียร์ 3 ก็สุงไปนะ ยังไง ถ้ารองไล่เกียร์ ตามรอบ หายไหม

ถ้าไม่หาย รองดูที่คลัช คับ หรือ เวลาวิ่งช้าๆ พยามเลี้ยงคลัชไว้หน่อย

อาจจะแค่ตั้งคลัช ใหม่ก็ได้คับ รองง่ายๆ ก่อน

ออกตัว1 ครับแต่เวลาเข้า2ไป3รู้สึก 2กับ3 2เกียร์นี้ มันกระตุก แต่ตอนนี้ไปเปลี่ยนหัวเทียนมาแล้วหายไปนิสหน่อยแต่ยังมีอีกนิสสสสหนึ่ง เกือบหายหมดแล้วไม่รุ้ว่ามันปกติยังหรือมันต้องมีมั้งของรถเกียร์ ธรรมดา แต่เวลาผมลองเข้าเกียร์3 รถวิ่งที่40 ผมลองลดเกียร์ลง แล้วใช่เกียร์2วิ่งรู้สึกมันไม่นิ่มตอนเวลาปล่อยคันเร่งแล้วก็กดคันเร่งขึ้นเบาๆมันกระตุกแบบว่ารู้ว่ากระตุกอ่ะครับ กระตุกแบบโยกหน้าโยกหลังสัก3-4ทีแบบคนข้างๆรู้เลยว่ากระตุก ช่างก็บอกถ้าอยากลองดูในเครื่องยนต์เลยก็ได้จะทำให้แต่ให้ช่างเช็คให้วันก่อนแล้วเค้าบอกว่าบ่าวาลว์มีรอยนิดหน่อยแต่ไม่มีอะไรมาก เค้าบอกให้ลองขับไปก่อนถ้ามันขับไปแล้วมันหายแต่ถ้ามันหนักก็กลับมาทำใหม่ แต่พอขับๆดูมันก็ไม่มีอะไรหนักหนานะครับ แต่มีอยู่ที่ผมว่านั้นละครับ  มีนิสหนึ่งบางจังหวะที่มันกระตุกโยกหน้าโยกหลัง3-4ที   แปลกๆ เด๋วต้องลองไปดูอย่างพี่ว่าดู ขอบคุณครับ

ถ้าคิดว่าเป็นที่วาล์ว ก็วัดกำลังอัดกระบอกสูบสิครับ
จะได้รู้ว่าสูบไหนกำลังอัดเท่าไหร่อยู่ในค่าที่กำหนดไหม
ถ้าไม่อยู่ เติมน้ำมันเครื่อง 1 ฝา และวัดอีกที ค่ากำลังมากขึ้นแสดงว่า
กำลังอัดเสียไปที่แหวนลูกสูบ ถ้าไม่ดีขึ้น แสดงว่า วาล์วรั่ว
ที่ว่า ช่างเช็คให้วันก่อนแล้วเค้าบอกว่าบ่าวาลว์มีรอยนิดหน่อย
จะดูบ่าวาล์วได้นี่ต้องถอดวล์วออกมาดูเลยนะครับ ถึงจะเห็น
แสดงว่าช่างเค้าเปิดฝาสูบแล้วหรอ
อาการกระตุกเป็นได้หลายสาเหตุ
การหายสาเหตุก็ควรหาจากง่ายไปยาก
อย่างเช่นคุณเปลี่ยนหัวเทียนไปแล้ว เป็นลำดับแรกที่ต้องทำ
แต่ถ้าไม่หายก็ต้องลำดับต้องไป เช่นสายหัวเทียนรั่วไหม
หรือคอนเด็นเซอร์ในจานจ่ายละลายมากไหม
ถ้าคุณไม่มีสายหัวเทียนให้ลองหรือไม่อยากซื้อใหม่เพราะกลัวจะไม่หาย
ผมยินดีให้สายหัวเทียนผมไปลองใส่แล้ววิ่งดู เครื่อง 4A-FE นะ
หรือจะขับรถผมลองดูว่าการขับรถและการเปลี่ยนเกียร์ของคุณจะกระตุกไหมถ้าขับรถคนอื่น
ถ้าหายเป็นปกติคุณก็ไปซื้อสายหัวเทียนใส่ใหม่
ถ้าไม่หายคุณก็ไปดูจุดที่คิดว่าจะเสียต่อไป
จะได้จบไปทีละอย่างๆ

ผมอยู่ประชาอุทิศ 33 ถ้าว่างเข้ามาได้ครับ
0849002811

คุณ TA23 ครับคือจุกที่รั่วของผมในรูป ลักษณะการรั่วที่ไหลลงบริเวณพื้นที่จอดนะครับประมาณของรอยที่พื้นประมาณเหรีญสิบบาทครับ แล้วสองสามวันนี้ก็ไม่พบรอยที่พื้นครับ ขอถาม ว่าเป็นไปได้ไหมที่การรั่วจะหายไปเหตุผลผมไม่ทราบ มีความเป็นได้ไหมครับ ขอบคุณล่วงหน้านะครับ

ถ้ารั่วแล้วยังไม่ได้แก้ไขอะไรก็ต้องรั่วได้อีกนะครับ
เพราะบางทีที่คุณวิ่งหรือขยับรถมากหรือน้อยก็ทำให้รั่วมากและน้อยได้
เช่นถ้ารั่วจุดบนสุดที่ชีลเฟืองไมล์และโอริงต้องขับรถวิ่งต้องความเร็วให้
น้ำมันเกียร์หมุนขึ้นไปถึงจะรั่วออก
หรือรั่วที่ชีลเพลาขับด้านซ้ายก็ต้องให้เพลาหมุนถึงจะมีน้ำมันออกมาก็ได้
ถ้าชีลแข็งมากๆไม่มีการกักน้ำมันเกียร์ได้แล้วไม่ต้องวิ่งก็รั่วได้
สรุป ให้ช่างดูดีกว่าครับ และทำการแก้ไข
ถ้าปล่อยไว้นาน น้ำมันรั่วออกหมดในเกียร์ เด๋วงานใหญ่ครับ

ถ้าอยู่ใกล้กันให้ผมดูก็ได้ครับ ฟรี ประชาอุทิศ 33 ครับ 0849002811
 

บริเวณที่รั่ว เป็นน้ำมันเกียร์
รั่วได้ 3 อย่าง ถ้ารั่วสูงสุดคือบนสุด คือ
โอริงเฟืองไมล์ กับ ชีลเฟืองไมล์ เป็นชุดเดียวกัน
รองลงมา ชีลเพลาขับด้านซ้าย
ลงมาอีก ปะเก็นน็อตถ่ายน้ำมันเกียร์

ทำไมช่างถึงขี้เกจียดจัง
น็อตท่อแป็ปเบอร์ 14 ใช้แหวนผ่าขันออกง่ายจะตาย
น็อตท่อเข้ารางหัวฉีด เบอร์ 17 ใช้บล็อก17 และต่อข้อต่อ
ขึ้นมาขันให้สูงๆ แค่นี้ก็ขันได้แล้ว
น็อตเบอร์ 10 ยึดตัวกรองอีก2 ตัว ออกแล้ว
ค่าแรงที่ศูนย์บริการ 0.6 ชม.
แล้วแต่ศูนย์ว่าคิดค่าแรงชม. ละเท่าไร
450-550

ผมหมดปัญญา ที่จะเช็คแล้วครับ อีกอย่างผมอยู่ต่างจังหวัด (สุราษฎร์) จะหาอู่ที่เก่งๆ AE ยากจัง

ศูนย์โตโยต้าสุราษ ครับเก่ง
ทีมแข่งขันทักษะช่างโตโยต้า พวกเขาติดหนึ่งในสามทุกปี

ไม่ยากครับไม่ต้องห้อยคานกลางด้วย
เด๋วจัดให้วันนี้ขอพักผ่อนก่อนครับ
จะถอดแร็คทำไมคนละส่วน
ค่าแรงศูนย์เขาคิดแค่0.6ชม.เอง
ชม.ละ450-500บาท
ก็แค่ตัวละ 270 บาทเอง ค่าแรงศูนย์นะเนี้ยะ

รออยู่นะครับ

ขอโทษที่ให้รอนานครับ
พอดียุ่งๆเรื่องอู่อยู่ไม่ได้เข้าเวปเลย
1 ยกรถขึ้นให้สูงๆสำหรับคนที่ที่ไม่ได้ใช้ลิฟท์ ถอดยางยึดท่อไอเสียท่อนกลางออก
2 คลายนัทเบอร์ 17ยึดยางแท่นเกียร์ตัวหลัง ที่อยู่ติดกับคานกลาง ให้ตัวนัทเสมอกับน็อตตัวผู้
แล้วใช้ค้อนตีให้น็อตร้อยหลุดออกจากเหล็กที่ยึดทำอย่างนี้ทั้ง3ตัว 2ตัวหน้ายังจะเอาน็อตร้อยออกไม่ได้
เพราะติดแบ็กเก็ตยึดยางแท่นเกียร์อยู่
3 ถอดน็อตเบอร์17ยาว ที่ร้อยยางแท่นเกียร์ตัวหลังกับแบ็กเก็ตเกียร์ออก
4 ยกตูดเกียร์ตรงห้องเฟืองท้ายขึ้นพอที่น็อตร้อยยางแท่นเกียร์ตัดหลังอีก 2 ตัวจะเอาออกได้
แล้วหยิบน็อต 2 ตัวนั่นออก
5 เอาแท่นเกียร์ตัวหลังออกมา

1 เวลาใส่กับให้ตีน็อตร้อยออกก่อน โดยใช้นัทตัวเมียขันเข้าให้เสมอตัวผู้แล้วตี
ถ้าเป็นของแท้จะตีออกยากหน่อยต้องหาอะไรแข็งๆมารอง
ถ้าของเทียมใช้มือจับแล้วตีน็อตไม่กี่ทีก็ออก
2 ใส่ยางแท่นเกียร์ตัวหลัง แล้วใส่น็อตร้อยตัวสั้นที่ตีออกมา ขันนัทตัวเมียคาไว้3-4 เกลียว
(ถ้าใส่แน่นเลยจะทำให้ใส่น็อตร้อยเบอร์ 17 ยาก
3 ใส่น็อตร้อยเบอร์17 ตัวยาวขันเกือบสุดแต่ไม่ต้องแน่น
4 ขันนัทตัวเมียเบอร์ 17 ที่ติดคานใต้เครื่องให้แน่น 3 ตัว
5 ขันน็อตร้อยเบอร์ 17 ให้แน่น
6 เอารถลง เสร็จแล้วครับ

ปลั้ก10ช่อง  ใช้ึึ 7 ขั้ว
1 สีเขียวอ่อน ลำโพง + หน้าขวา
2 สีชมพู ลำโพง + หน้าซ้าย
3 สีเทา ไฟสวิตช์กุญแจำแหน่ง ACC ผ่านฟิวส์ CIG & RADIO
4 สีน้ำเงิน-เหลือง ไฟ12Vตรง ผ่านฟิวส์ DOME
5 สีน้ำเงิน ลำโพง - หน้าขวา
ุุ6 สีม่วง ลำโพง - หน้าซ้าย
ึ7 สีน้ำตาล กราวน์
8 9 10 ไม่ใช้
ปลั้ก 6 ช่อง ใช้ 4 ขั้ว
1 สีแดง ลำโพง + หลังขวา
2 สีดำ ลำโพง + หลังซ้าย
3 สีขวา ลำโพง - หลังขวา
4 สีเหลือง ลำโพง - หลังซ้าย
5 6 ไม่ใช้

เด๋วสแกนให้ครับ

เครื่องรุ่นอะไรครับ 4A-FE ae101 111
1.ลองดูปลั้กที่ตรงหลังปั้มน้ำที่ท่อมิเนียมเข้าตูดปั้มแถวที่เติมนม.เพาเวอร์
จะมีเซ็นเซอร์ส่งสัญญาณไปที่เก์ความร้อนที่หน้าปัทม์ ดูว่าหลุดไหม
ถ้าหลุดก็เสียบให้แน่นครับ
ถ้าไม่หลุดหรือสายไฟไม่ขาดดูที่ข้อ2
2. ดึงปลั้กที่เซ็นเซอร์ส่งสัญญาณไปที่เก์ความร้อนที่หน้าปัทม์ ออกแล้วต่อลงกราวน์กับตัวถังรถยนต์
เปิดสวิตช์กุญแจon ให้ไฟต่างๆโชว์ (ไม่ต้องติดเครื่อง) ดูว่าเข็มความร้อนตีขึ้นสุดไหม
ถ้าตีขึ้นสุด แสดงว่า เกจ์ที่หน้าปัทม์ไม่เสีย แต่เซ็นเซอร์ส่งสัญญาณไปที่เก์ความร้อนที่หน้าปัทม์ เสีย
ถ้าไม่ตีขึ้นเลย ดูที่ข้อ3
3. วัดความต่อเนื่องของสายไฟจาก เซ็นเซอร์ส่งสัญญาณไปที่เก์ความร้อนที่หน้าปัทม์ ไปที่ขั้วต่อที่หน้าปัทม์
ข้อต่อสีเทา 10 ช่อง ขั้วที่2 ขั้วตัวเมียหันปลั้กเข้าหน้าเรานับจากซ้าย สายไฟสีเหลืองเขียว
ถ้าไม่ต่อเนื่องแสดงว่าสายไฟขาด
ถ้าต่อเนื่องไปที่ข้อ4
4. วัดค่าความต้านทานของเกจ์ความร้อนตามรูป ที่มีขั้วเกจ์A B C ไม่อยู่ในค่าเกจ์เสียครับ

เด๋วจัดให้ครับไม่ยากมีสายไฟกี่เส้นครับที่ได้มาและสีอะไรบ้างถ่ายรูปลงก็ได้เด๋วแนะนำให้ครับ

ไม่ยากครับไม่ต้องห้อยคานกลางด้วย
เด๋วจัดให้วันนี้ขอพักผ่อนก่อนครับ
จะถอดแร็คทำไมคนละส่วน
ค่าแรงศูนย์เขาคิดแค่0.6ชม.เอง
ชม.ละ450-500บาท
ก็แค่ตัวละ 270 บาทเอง ค่าแรงศูนย์นะเนี้ยะ

ขอบคุณมากครับคุณTA23
นึกภาพออกแล้วครับ ตอนที่แล้วผมลองคลำดู
ผมว่ามันไม่มีน็อตตัวเมียที่ให้ขันออกนะ อย่างไงเดี๋ยว
ไปดูใหม่ครับ แต่คงต้องซื้อด้ามขันยาว4หรือ8 นิ้วเพิ่ม
เพราะไม่มี ขอบคุณมากนะครับ แล้วยางแท่นเครื่องตัวที่
บนเกียร์เอาออกอยากหรือเปล่าครับผมยังไม่ได้ลองทำดู

น็อตตัวเมีย ศัพท์ทางการเรียกนัตครับ มีรูแบบโดนัท
ด้ามขันยาว4หรือ8 นิ้ว ต้องใช้ต่อยาวด้วยนะครับ ที่ต่อลุกบล็อกกับด้ามขัน

ไม่มีอะไรยากหรอถ้าคุณมีความตั้งใจที่ต้องการจะทำอะไรก็ทำได้หมดแหล่ะ
ผมเป็นช่างมา 5 ปี เป็นหัวหน้าช่างมาอีก 5 ปี
ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ถ้าเราคิดจะทำครับ
มีช่างใหม่ๆมาทุกปีบางคนขี้เกียจบอกทำโน้นทำนี้ไม่เป็น
ผมก็สอนว่าถ้าคุณไม่เริ่มทำหรือไม่คิดจะทำคุณก็จะพบกับคำว่าทำไม่เป็นทำไม่ได้
ถ้าคุณเริ่มทำหรือคิดจะทำคุณก็จะพบกับคำว่าทำเป็นทำได้แล้ว ดีใจจัง
เริ่มกันเลยแล้วกัน หมุนพวงมาลัยซ้่ายสุด
1. ฝาครองหม้อกรองมีเหล็กล็อคหม้อกรอง4ตัว
2. ถอดปลั้กเซนเซ็อร์อุณหภูมิอากาศออก
3. ถอดน็อตเบอร์10 ที่ยึดท่อยางที่ลิ้นปีกผีเสื้อแล้วยกออกพร้อมกันฝาครอบกับท่อยาง เอากรองอากาศออก
4. ถอดน็อตฐานหม้อกรองมีน็อตเบอร์12 3ตัว จะมีพร้อมคลิปล็อคสายไฟด้วยใช้ไขควงแบนงัดออก ยกฐานหม้อกรองออก
เราจะเห็นยางแท่นเกียร์แล้ว มีเหล็กค้ำแท่นเกียร์กับเสื้อเกียร์ยึดโดยน็อตเบอร์12 2ตัว มีน็อตเบอร์ตัว 14 ตัวบน1ตัว ตัวล่างมุมเอียง45องศาอีก2ตัว และน็อตร้อยรูเบอร์ 17หนึ่งตัว
5. ถอดน็อตเบอร์12 2ตัวและคลายน็อตเบอร์ 17 ออกประมาณ2เกลียว โดยใช้ด้ามขันหรือแก็กแกร็ก ไม่ต้องออกเอาต้องใช้หิ้วเครื่องไว้ก่อน
6. ถอดแผงกันใต้เกียร์ออกน็อตเบอร์10 ประมาณ6-7ตัว
7. ขึ้นแม่แรงที่เกียร์ถ้าออโต้ให้ขึ้นแม่แรงที่เป็นเสื้ออลูมิเนียมกลางรถที่ติดกับอ่างใช้พลาสติกแกนลอนน้ำมันเก่าหรือขึ้นที่ขอบอ่างนม.เกียร์ก็ได้ใช้แกนลอนรองด้วยแต่แนะนำวิธีแรกดีกว่า
    เกียร์m/tขึ้นเสื้อเกียร์กลางรถได้เลยขึ้นประมาณเกียร์เริ่มขยับขึ้น
8. ถอดน็อตเบอร์14 ตัวล่าง2ตัวก่อน โดยใช้ต่อยาวประมาณ8นิ้วกับด้าขัน แล้วมาถอดตัวบนเบอร์14
9. ปล่อยแม่แรงใ้ห้พอมีระยะที่เอายางแท่นเกียร์ออกได้
10.ถอดน็อตร้อยเบอร์17ออกแล้วก็เอายางแท่นเกียร์สำเร็จ
ข้อควรระวัง
ตอนใส่กลับให้ใส่น็อตร้อยเบอร์17ก่อนไม่ต้องแน่นสัก5-6เกลียว ถ้าขันแน่นเลยตอนลงแม่แรงจะทำให้บูชยางบิดตัวมาก
แล้วใส่น็อตเบอร์14 ตัวล่าง2ตัวก่อน ขึ้นแม่แรงให้พอดีนะครับ ระวังเกลียวน็อต2 ตัวนี้รูด ขันคาเกลียวให้มากแต่ไม่ต้องแน่น
ไม่ไงเบอร์14ตัวบนใส่ยากครับ ใส่เบอร์14ตัวบน แล้วขันเบอร์14ให้แน่นทุกตัว เอาแม่แรงลง แล้วขันน็อตร้อยเบอร์19ให้แน่น
ประกอบทุกอย่างให้เรียบร้อย จบ คุณทำได้แล้ว ดีใจด้วยครับ
วิธีที่ผมบอกอาจจะไม่ดีหรือเหมือนกับช่างคนอื่นถอด
แต่จุดมุ่งหมายเดียวกันคือถอดแล้วประกอบ ลองพิจารณาหรือปรับปรุงว่าวิธีไหนเร็วและสะดวกที่สุด
ปกติชม.ที่ศูนย์จะตกอยู่ที่ตัวละ 0.6 ชม. แล้วแต่ศูนย์ไหนค่าแรงชม.ล่ะเท่าไหร่
อู่ทั่วไปก็ตัวละ100
คุณกล้าทำไม่กลัวมือเลอะก็ไม่ต้องเสียเงินครับ