AE. Racing Club
21 ตุลาคม 2024 18:33:17 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
  แสดงกระทู้
หน้า: [1] 2  » 
1  AE Racing Club - FreeStyle / Free Style - AE Racing Club / Re: E-85 พลังงานทางเลือก มาช่วยกันแชร์ความเห็นครับ เมื่อ: 22 สิงหาคม 2012 00:14:58
ผมก็ขอโทษล่ะกันครับในส่วนที่คุณกับผมเข้าใจไม่ตรงกันครับ คุณ PUISHiCooL

ส่วนเรื่อง A/F ปากกา ก็ขอโทษอีกครับในส่วนที่ผมตั้งใจให้กับคนทั่วๆไปเขาได้มีไว้ใช้งานกันครับ


ในส่วนของการระเหยจากถัง ถ้ามันระเหยจนมีผลขนาด A/F เพี้ยนมากๆ ระบบมันต้อง Leak แล้วครับหรือไม่ก็แรงดันตกจน
น้ำมันไม่มาถึงหัวฉีดแล้วครับ มันถึงระเหยได้อย่างที่คุณกล่าวถึง มันต้องมาเร็วไปเร็วครับ
และถ้าหัวฉีดรั่วมันก็ออกมาเป็นในรูปของเหลวแล้วครับจะให้มันระเหยก็คงต้องรอสักพัก

และการระเหยในห้องเผาไหม้มีแน่นอนครับ เพราะผมก็จับด้วยกล้อง High Speed มาแล้ว (ผมก็นึกว่าคุณคุยถึงจุดนี้ ผมขอโทษอีกทีครับ)

คำว่าระเหย คือการที่ของเหลวจะเปลี่ยนสถานะเป็นไอครับ เมื่อเราฉีดเข้าไปในห้องเผาไหม้ จะมีน้ำมันส่วนหนึ่งที่อยู่ในสถานะไอครับ
ซึ่งจะเป็นส่วนที่จุดติดก่อน ฉะนั้นการออกแบบหัวฉีดจึงต้องจำกัดจุดนี้เพื่อรักษารูปแบบการลามไฟในห้องเผาไหม้ครับ
ผมขอพอแค่นี้นะครับ พิมพ์ไปอีกก็จะโดนเหน็บว่า อวดรู้ อวดเก่งแน่นอน (คนไทยเก่งครับแต่พอเจอแบบนี้คนไทยถึงไม่กล้าแสดงออกครับ)

อธิบายกันดีๆก็ได้ครับ เป็นผู้มีความรู้กันทั้งนั้น ผมมาคุยที่นี่ก็เพราะเห็นลูกค้าที่ซื้อหัวฉีดเขาสนใจในเชื้อเพลิง E85 ผมจึงเข้ามาแชร์ประสบการณืที่ผมมีความรู้อยากให้ใช้ได้ถูกทาง ช่วยชาติ ช่วยพ่อของเราครับ

แต่ถ้ามันกลายเป็นดาบสองคม ทำร้ายตัวผมเอง และคนที่ยังไม่เข้าใจ ผมก็ขอยุติเพียงเท่านี้ครับ
2  AE Racing Club - FreeStyle / Free Style - AE Racing Club / Re: ชุดจุดระเบิด PowerCDi ดีมั้ยครับ สำหรับรถใช้แก็ส เมื่อ: 21 สิงหาคม 2012 19:35:48
ส่วนใหญ่จะใช้กับเครื่องยนต์ดีเซลที่แปลงใช้แก๊ส NGV ครับ
รถหัวลากเนี่ยใช้เพียบเลย
3  AE Racing Club - FreeStyle / Free Style - AE Racing Club / Re: E-85 พลังงานทางเลือก มาช่วยกันแชร์ความเห็นครับ เมื่อ: 21 สิงหาคม 2012 14:29:58
เขาถึงบอกกันว่า น้ำมันใกล้หมดถังห้ามซัดครับ (เพราะน้ำมันมาไม่เต็มราง)

ลองดูเล่นๆก็ได้ครับ ใครที่ต่อ A/F ปากกา หรืออะไรก็ได้ สำหรับท่านที่ใช้น้ำมันและแก๊ส พอใกล้จะหมดถัง A/F จะขยับเวอร์ๆเลยครับ


เรื่องการระเหย ไม่มีผลกระทบอะไรขนาดนั้นหรอกครับ
อีกข้อนึงคือลองตรวจสอบตรงท่อเฮดเดอร์ด้วยนะครับ ถ้าเกิดการรั่ว A/F ก็เพี้ยนครับเพราะจะมีอากาศภายนอกโดนดูดเข้าตรงจุดรั่วทำให้จูนไม่ลงตัว

การระเหย มีผล ร้อยเปอรซนต์ ครับ  มากน้อยอยู่ที่ระยะเวลาอุณภูมิการถ่ายเทอากาศที่ปล่อยทิ้งไว้
สมมุติ ว่าคุณใช้เครื่องยนต์ ฮอนด้า สามประตู โมรอม ใช้85 คุณจะไม่เห็นถึงความแตกตรงจุดนี้เพราะอะไร คุณยังใช้หลักการอ้างอิงของเซนเซอรตรวจจับไอเสียที่อยู่บริเวณก่อนแรคบริเวณคานหลังของรถ ตำแหน่งถูกต้องไหมครับ
เซนเซอรตัวนี้ไม่ต้องบอกว่าทำหน้าที่อะไร มากมั้งครับ  รายงานผลไปยังกล่อง พูดบ้านๆคือ กล่องมันชดเชยได้เล็กน้อย โตต้าเราๆเรียกว่าโครสลูบ ซึ่งเวลาซัด เอเอฟปากกา มันไม่สามารถจับได้ทันหรอกครับ  ยิ่งเวลาเดินเบาปกติ มันจะค่อยดึงค่ากลับมาปกติ ที่ประมาณ 14.7 ถ้าไม่หนามากกกก ไป หรือบางมากกกกกกกไป มันจะดึงกลับมาได้ ด้วยการทำงานของการรายงานผลจากเซนเซอรที่ท่อไอเสีย ประมวลผลที่กล่อง แล้วสั่งจ่ายไปยังหัวฉีด

มาถึงในกรณีที่คุนแพนด้าถาม รถ เค้าใช้แสตนอโลน EMS 8850  มันจึงไม่มีตรงจุดนี้ดังที่กล่าวมา ซึ่งทำให้มีผลกระทบแน่นอน
เพราะอะไร มันไม่สามารถปรับค่าด้วยตัวมันเองได้ ไม่มีเซนเซอรท่อไอเสียคอยตรวจจับปริมาตรความหนาแน่นของน้ำมันและอากาศ ครับ
 ส่วนกล่องผมที่ใช้ เป็นสแตนอโลน AEM ซึ่งได้มีการต่อเอเอฟไวด์แบนเข้าไปที่กล่อง เพื่อทำดาต้าล้อค และบันทึกข้อมูล จากนั้นตัวมันเองสามารถ ฟิชเจอริ่งกับกล่องคือ อ่านค่าจากเอเอฟ แล้วสร้างตารางชดเชย เมื่อเดินเบา หรือเร่งลอยตัวที่ความเร็วคงที่ได้ ตามที่เราได้ตั้งค่าไว้ในตาราง เรียกในกล่องว่า O2 feed back ถ้าเอเอฟบาง และอยุ่ในเงื่อนไขที่เราตั้ง ไว้ มันจะดึงค่ากลับมาที่ตารางตามที่เซตไว้  เช่น เดินเบาให้ อยู่ 14.7 ลอยตัวความเร็วคงที่ 13 เป็นต้น   แต่พอเมื่อเงื่อนไข เปลี่ยนไปเช่น กดคันเร่งเกินที่ตั้งไว้ รอบเกินที่ตั้งไว้ ก็จะกลับมาเป็นตารางตามที่จูนไว้ครับ  

ทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้ ผมศึกษาและเล่นไปกับมัน  อาจจะไม่ถูกต้องทั้งหมด มั้ง  
ปล. ผมไม่ใช่จูนเนอรอาชีพ ไม่ได้ทำรถเป็นอาชีพ แต่เอาข้อมูลมาแชร์กันเฉยๆ ครับ

ผิดถูกโปรดชี้แนะ เพิ่มเิติมเพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขและวิเคราะห์ต่อไปครับ  ขอบคุณ


การระเหยในที่นี้ผมหมายถึงในห้องเผาไหม้ครับผม มันไม่ทันจะมีผลอะไรมากมายกับการสันดาปครับ (ถ้าน้ำมัน Supply มาทันนะครับ)

ส่วนเรื่อง ฮอนด้า โมรอม OXYGEN SENSOR จะไม่ได้ใช้อีกเลยหลังจากได้รับการจูนแล้วครับ OPEN LOOP ตลอดครับ ส่วนที่ไม่เอาออกก็จะปล่อยค่าสัญญาณออกมาเฉยๆครับ
เวลา ฮอนด้า จูน เขาก็ใช้ Wide band ในการจูนครับ จูนเสร็จก็ปลดออกครับ เพราะรอมฮอนด้าจะมี 2 กราฟครับ LowCam กับ HiCam มันก็จะประมวลผลตามตารางที่จูนเนอร์ใส่เข้าไปครับผม
พูดง่ายๆคือบังคับให้มันรู้ครับ ถ้าสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงก็จะมีผลโดยตรงกับกล่องจูนรอมฮอนด้าครับเพราะมันไม่สามารถชดเชยค่าได้ (ในโปรแกรมชนิดทดลองใช้นะ)
ฉะนั้นจะเห็นได้เลยว่าเวลาแข่งขัน ฮอนด้าต้องไปเกลี่ยข้อมูลใหม่ที่สนามทุกครั้ง

ผมใช้ฮอนด้าครับ และก็ใช้ชุดพ่วงเข้ากล่องที่จูนเนอร์เขาใช้จูนรอม ต่อตรงคุมเป็น Standalone เหมือนกล่อง AEM นั่นแหล่ะครับ (ใช้โปรแกรม CROMEGOLD ควบคุม)
ซึ่งข้อด้อยที่ชุดกล่องฮอนด้าทำไม่ได้คือ การปล่อยสัญญาณแบบ Direct Coil ครับ (ทำไม่ได้เพราะมีช่องสัญญาณแค่ 1 ช่อง)
ผมก็ไม่ใช่จูนเนอร์อาชีพครับ แต่ผมเรียนมาครับ ก็แชร์ๆกันไปครับ

และที่ผมเอ่ยถึง APEXI ปากกา เพราะผมหมายถึงหลายๆท่านที่เขาใช้งานทั่วไป มีกำลังซื้อไม่มาก ก็พอที่จะเอามาดูค่าเพื่อเป็นข้อมูล โดยที่ไม่ต้องลงทุนอะไรมากมายครับ
ผมว่าหลายๆท่านเขาก็รู้นะว่ามันไม่สามารถอ้างอิงอะไรมากมายครับ
4  AE Racing Club - FreeStyle / Free Style - AE Racing Club / Re: E-85 พลังงานทางเลือก มาช่วยกันแชร์ความเห็นครับ เมื่อ: 21 สิงหาคม 2012 13:01:41
เขาถึงบอกกันว่า น้ำมันใกล้หมดถังห้ามซัดครับ (เพราะน้ำมันมาไม่เต็มราง)

ลองดูเล่นๆก็ได้ครับ ใครที่ต่อ A/F ปากกา หรืออะไรก็ได้ สำหรับท่านที่ใช้น้ำมันและแก๊ส พอใกล้จะหมดถัง A/F จะขยับเวอร์ๆเลยครับ


เรื่องการระเหย ไม่มีผลกระทบอะไรขนาดนั้นหรอกครับ
อีกข้อนึงคือลองตรวจสอบตรงท่อเฮดเดอร์ด้วยนะครับ ถ้าเกิดการรั่ว A/F ก็เพี้ยนครับเพราะจะมีอากาศภายนอกโดนดูดเข้าตรงจุดรั่วทำให้จูนไม่ลงตัว
5  AE Racing Club - FreeStyle / Free Style - AE Racing Club / Re: สอบถามเรื่องกล่อง KKT หน่อยจร้าาา เมื่อ: 19 สิงหาคม 2012 23:57:50
กล่อง ดี ถ้าจูนได้ดี เเต่เชื้อเพลิงก็อยู่ที่เราไช้นะครับ  ถ้า E85  ถ้าให้พูดจริงๆนะ ไม่เกินสี่เดือนครับ มันจะกัดกร่อน วัสดุที่เป็นมีเนียม จนเกิดอาการรั่วหัวฉีดก็ทำงานด้อยลงๆ  ถ้าจะเอาทนทาน จูน 95 ดีกว่าครับ  เเต่ถ้าใครคิดว่า อยากเล่น e85ต่อไปก็ ไม่ว่านะครับ ถ้าทนเปลี่ยนหัวฉีดเเละชุดรางน้ำมันได้


ผมใช้ E85 มา 2 ปีแล้วครับ แต่เป็นเครื่อง Honda B16+B18 ครับ (แถมติดแก๊ส LPG ด้วยนะ หัวฉีด AG)
การอ้างอิงอาจจะไม่ตรงเพราะเป็นเครื่องHonda แต่ถ้าHondaใช้ได้ Toyotaก็ต้องใช้ได้ (เพราะเครื่องToyotaอึดทนกว่าเยอะ)

- น้ำมัน E85 ไม่มีผลต่อ อัลลอยล์และเหล็กเคลือบครับ (พูดง่ายๆไม่มีผลต่อเครื่องยนต์ครับ) มีผลเฉพาะท่อยางครับ

- น้ำมัน E85 ไม่มีผลต่อหัวฉีดครับ เพราะเวลาล้างหัวฉีดเขาก็ใช้ E85-E100 ล้างหัวฉีดครับ

- หัวฉีดน้ำมันที่ใช้ทั่วไป (ส่วนใหญ่) ทน E85 ได้หมดครับ แต่ที่ต้องเปลี่ยนเพราะหัวฉีดเดิมๆติดรถไม่สามารถจ่ายน้ำมัน E85 ได้เพียงพอต่อการบริโภคครับ ใครที่เน้นประหยัดขับแบบธรรมดาก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ส่วนใหญ่จูน E-85 เน้นแรงกันทั้งนั้น ถ้าไม่เปลี่ยนก็ไม่ต่างอะไรกับรถเทอร์โบบูสเยอะจนเครื่องพังเพราะน้ำมันบาง

- หัวฉีดจะพังง่ายมากถ้าท่านใช้แก๊สจนเพลิน ไม่ยอมสลับมาวิ่งน้ำมัน (เพราะไอน้ำมันเครื่องจะมาเกาะจนทำให้อุดตันหรือวาล์วปิดไม่สนิท)

- สิ่งที่จะทำให้เครื่องพังสำหรับการใช้ E85 คือ องศาไฟ และ ปริมาณเชื้อเพลิงที่ Supply ไม่พอ
   (ใครบอกว่าหัวฉีดเดิมจูนพอ แล้วเหยียบได้เต็มที่ แรงมากๆ ก็คอยดูครับ)

- น้ำมัน E85 ไม่ได้ทำให้เครื่องเย็น องศาไฟนั่นแหล่ะที่ทำให้เครื่องเย็น (มีใครเคยจับอุณหภูมิไอเสียบ้างตอนจูน Huh?)

- องศาไฟเป็นสิ่งสำคัญครับ ศึกษากันเอาเอง จูนมั่ว แค่ Start หรือ เบิ้ลเครื่อง บรื้นๆ ก็พังแล้วครับ
6  AE Racing Club - FreeStyle / Free Style - AE Racing Club / Re: ท่อกันน้ำมัน E20/85 กับ AE101 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2012 21:43:05
ถ้าจะใช้น้ำมัน E20/E85 แนะนำให้ดู Code บนท่อสายยาง ต้องเป็น SAE R9 นะครับ ถึงจนทน E20/E85 ได้จริงๆ
(ในรูปยังเป็น SAE R7 อยู่เลย ถ้าเทียบเกรดจริงๆ จะทนได้แค่ E10 และ E20 ครับ)

จากข้อมูลของทาง SAE เขาบอกเรื่องการซึมผ่านผนังท่อยางของน้ำมัน E85 ไว้ดังนี้ครับ

เกรด R7 น้ำมัน E85 สามารถซึมผ่านผนังท่อยางได้ 70%
เกรด R8 น้ำมัน E85 สามารถซึมผ่านผนังท่อยางได้ 40% (บ้านเราน่าจะไม่มีขายนะ)
เกรด R9 น้ำมัน E85 ไม่สามารถซึมผ่านผนังท่อยางได้
เกรด R10 น้ำมัน E85 ไม่สามารถซึมผ่านผนังท่อยางได้ (เหมาะสำหรับใช้งานที่ผิวด้านนอกต้องสัมผัสน้ำมันและไอน้ำมันตลอดเวลา)

จะใช้น้ำมันพวกนี้ ถ้าต้องการใช้งานประหยัดๆ ไม่เน้นสมรรถนะมากมาย ขับเรื่อยๆ แนะนำให้บิดกะลาจานจ่ายให้ไฟแก่ขึ้นครับ ก็จะใช้ได้อย่างไม่มีปัญหา (ไม่ต้องเสี่ยงกับลูกสูบละลายจากไฟอ่อน)
แต่ถ้าหากเน้นสมรรถนะ ก็ต้องมีกล่องจูนน้ำมันและองศาไฟ เปลี่ยนหัวฉีดเพื่อรองรับปริมาณน้ำมันที่ต้องใช้เพิ่มขึ้น เปลี่ยนท่อยาง เปลี่ยนปั๊มติ๊กด้วยก็ดี

จะใช้ E85 ไม่ใช่แค่การเพิ่มน้ำมัน แต่ต้องปรับองศาไฟใหม่ด้วยครับผม จึงจะสมบูรณ์แบบ
7  AE Racing Club - FreeStyle / Free Style - AE Racing Club / Re: - - ห่อหมกวันนี้ Honda BRIO F-CON S + UNLOCK 180+ km/h !!!??? - - เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2012 10:55:35
อันนี้ก็ห่อหมกครับ (ใช้คำว่ายัดดีกว่า)

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=fYc3YAgf_so" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=fYc3YAgf_so</a>
8  AE Racing Club - FreeStyle / Free Style - AE Racing Club / Re: E-85 พลังงานทางเลือก มาช่วยกันแชร์ความเห็นครับ เมื่อ: 10 กรกฎาคม 2012 10:49:57
น้าๆครับ หัวฉีด 2เจโบ มันฉีดยกได้สุดประมาณเท่าไรครับ
ที่เห็นเค้าขายๆๆอยู่ บอกว่า 440CC ครับน้า ไม่แน่ใจนะครับผม
ขอบคุณครับน้า หัวฉีดมันน่าจะ 440 อะคับ ผมก็เห็นๆมาแบบนี้ แต่ก็ไม่ชัวร์ 555

แล้วก็เลยอยากรู้ว่ามันจะยกฉีดได้มากสุดสักกี่ cc อะคับ


หัวฉีด 2JVVTi โบ Side Feed 440cc@3bar High Ohm ครับผม (คือตั้งแรงดันน้ำมันที่ 3 bar จะมีปริมาณการฉีดที่ 440cc/min)

ถ้ามีเรกูเรเตอร์แบบปรับได้ สามารถดันแรงดันน้ำมันได้ถึง 5 bar ครับ ก็จะอยู่ที่ประมาณ 550cc ครับ

หัวฉีดตามสากล ในการออกแบบจะทนแรงดันได้ถึง 7 bar ครับ
ปั๊มติ๊กโดยทั่วไปออกแบบให้ตัดการทำงานที่ 6 bar ครับ

ทั้งนี้การจะปรับแรงดันเพิ่มควรดูสภาพและสเปคการรับแรงดันของท่อยางด้วยนะครับ
9  AE Racing Club - FreeStyle / Free Style - AE Racing Club / Re: ระหว่าง NGK - DENSO เลือกอะไรดี? เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2012 23:34:05
NGK ทำหัวเทียนให้ HKS

DENSO ผู้ถือหุ้นใหญ่ TOYOTA รถจากโรงงาน จะเป็น DENSO


HKS ใช้หัวเทียนจาก DENSO ครับผม

และบอกได้เลยครับว่าถ้าโมหนักๆไม่รอดครับ ละลายแน่นอน ไม่เข้าใจเหมือนกัน

ถ้าพูดถึงหัวเทียน  ต้อง NGK แน่นอนกว่าครับ
10  AE Racing Club - FreeStyle / Free Style - AE Racing Club / Re: E-85 พลังงานทางเลือก มาช่วยกันแชร์ความเห็นครับ เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2012 09:01:40
คันนี้ครับ KE70 Green mamba ของ Sombat Otop team ที่จูน E85 โดยช่างต้อม

มาสนามที่ 3 เอาจริงมากขึ้น ทำการปรับแต่งฝา ด้วยความช่วยเหลือของ Ball King port ครับ (เข้ามาร่วมกับพวกผมอย่างเต็มตัวครับ)

ปรับแต่งทางเดินอากาศใหม่ เพิ่มกำลังอัด และปรับแต่งรายละเอียด ต่าง ๆ อีกพอสมควร รวมถึงที่เกี่ยวกับวาล์ว



เกียร์ 3 ที่มีปัญหาเมื่อสนามที่แล้ว เกียร์ไม่ได้แตก แต่ว่ารูดจนหมดฟันเลย เพราะว่าทนแรงบิด แรงม้าที่เพิ่มขึ้นไม่ไหว

ส่วนเรื่องระบบกำลัง เราได้แก้ไขเรื่องเกียร์ใหม่แล้ว และเปลี่ยนเบอร์เฟืองท้าย ให้จัดขึ้น โหลดจะได้ดันไปถึง เกียร์ 4 ได้ ซึ่งมีฟันที่ใหญ่กว่าเกียร์ 3 รถจะได้เดินขึ้น
เหมาะกับ กำลังเครื่องที่ อาจจะเพิ่มอีก 25 - 30%



ขอแรงใจไปร่วมชมร่วมเชียร์กันหน่อยนะครับ 4A-GE20V Direct coil + E85
สนามที่ 3 นี้แข่งกันที่ แข่งกระจาน เสาร์-อาทิตย์นี้ครับ
คันนี้จะท้าชิงที่ 1 ได้หรือไม่

ย้ายท่อน้ำแล้วหรือครับ? ตอนนั้นผมไปส่งหัวฉีด ยังรอดท่อไอเสียอยู่
เป็นยังไงบ้างครับ มันวิ่งดีขึ้นไหม?
11  AE Racing Club - FreeStyle / Free Style - AE Racing Club / Re: E-85 พลังงานทางเลือก มาช่วยกันแชร์ความเห็นครับ เมื่อ: 28 มิถุนายน 2012 13:17:23

เติมน้ำมันถังใหม่ ทำไม A/F บางลงเฉยเลย งง  เวียนหัว
ทั้งที่เติมปั๊มเดิม หัวเดิม  ตาปริบๆ

แรงดันเบนซิลก็ 2.5 บาร์ ที่เดินเบาน้าาาาา เร่งๆดูเบาๆเข็มก็ดีดไป 3 บาร์บ้าง  เกา..



ถ้ากล่องเดิมและยังไม่ได้ปลด Close Loop กล่องจะทำการปรับค่าอัตโนมัติให้กลับค่ามาตรฐานตามที่กล่องมันรู้จักครับ
ต่อให้เปลี่ยนหัวฉีด ถึงน้ำมันจะหนาขึ้น แต่กล่องก็จะหาทางกลับค่าเดิมครับ

ถ้าอยากให้น้ำมันหนา ให้ถอด Oxygen sensor ออกครับ กล่องเดิมจะอยู่ในสถานะ Safe mode คือจะถ่มน้ำมันหนาครับ
แต่ไฟ Engine จะขึ้นโชว์ให้น่ารำคาญ

จะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่ครับ  อย่าไปโทษน้ำมันเลยครับ

ที่คุณ Art พูดมา็ถูกต้องครับ แต่ไม่ทั้งหมดครับ

O2 sensor ที่ใช้กันในรถบ้านเป็น Narrow band ใช้วัด Lambda ไม่ใช่ A/F ครับ

Lambda  = การวัดว่าเกิดการเผาไหม้ดีที่สุด และจะต้องเป็น 1.0
A/F = วัดว่า ใช้ ปริมาณ เชื่อเพลิง กับ อากาศ เป็นสัดส่วนเท่าไหร่

สมมุติืว่ารถเรา เดินเบาที่ 14.7 พอดี

ที่นี้เวลา เราเปลี่ยนเชื่อเพลิง เป็น E85
ถ้าไม่ปรับจูนอะไร  Lambda  จะน้อยกว่า 1 ครับ แต่ A/F ยัง 14.7 อยู่

close loop จะเข้ามาเพิ่มน้ำมัน ให้ เพื่อให้ได้ Lambda ที่อ่านจาก Narrow band O2 sensor เป็น 1.0
แต่ว่าทำไม่ได้หรอก เพราะ close loop เติมน้ำมันได้ แค่ +-20%

อาจจะไปอยู่ที่ 0.85 หรือ A/F 12.0  อะไรประมาณนั้น

ถ้าเราเปลี่ยนหัวฉีด ก็อาจจะได้กลับมา พอดี Lambda 1.0 แต่ A/F ก็จะไป 9.1  อะไรประมาณนั้น

อธิบายได้ว่า ตัว E85 มันมี O2 อยู่ในตัวมันแล้ว มากกว่า E10
ตัว O2 แบบ Narrow band มันวัดการเผาไหม้สมบูรณ์ ไม่ได้วัด A/F

ดังนั้นเมื่ออากาศมากับ E85 เยอะ เราเลยต้องเพิ่มปริมาณ E85 เข้าไป เพื่อให้ Lambda = 1

A/F ที่เด็ก ๆ ว่ากันคืออ่านจาก Apex ปากกา หรือ OBD ซึ่งมันเป็นการเปรียบเทียบ Lambda 1.0 = 14.7 AFR
ถ้าเห็นเดินเบาได้ 14.7 ที่ว่ามา คือ 9.1 เมื่ออ่านจาก Wideband ครับ


ถอด O2 sensor ออก ตารางน้ำมัน + ตามรางจุดระเบิด จากเคลื่อนไปเยอะ จาก Safe mode จูนเก็บยากกว่า
O2 sensor ช่วยเดินเบาดี และปรับ Compensate ให้เราถึง +- 20% ไม่ต้องพะวงเรื่องหยุมหยิม พวก อากาศร้อน น้ำมันเพี้ยน ความชื้อสูง
Close loop ในรถยุคก่อน ปี 2006 (ฺOBD1-OBD2) ทำงานได้แค่ 20% ครับ

ถึงจะเป็นรถแข่ง ก็ต้องไปหามาติด  ถ้ายังต้องการอ้างอิงสัญญาณกล่องหลัก แล้วนำมาใช้ปรับจูนต่อ (Piggy) ไม่งั้น ไม่ค่อยนิ่ง

เวลาเรากดคันเร่งหนัก Close loop ไม่ทำงานครับ จะอ่านจาก คันเร่ง และ Map sensor / Airflow แบบ open loop
แต่จะเอาค่า ที่ Close loop ที่เก็บไว้ช่วงเก่อนหน้านี้ มา Compensate เวลา open loop ด้วยครับ (+- 20%)




 


 










ถูกครับคุณโต้ง  น้ำมันทุกตัวจะมีค่า แรมด้าของมันครับ ecu จะประมวลด้วยค่าแรมด้าครับในเข้าที่ 1
แต่ถ้า ecu ยังเดิมๆ นั่นหมายถึงมันยังเป็นค่าแรมด้าของน้ำมัน E10 อยู่ครับ
มันจะชดเชยค่าได้แต่มันก็ไม่ถูกต้องครับ ผมลองแล้ว

ถ้าเปรียบเทียบตามตาราง

แรมด้า ที่ 1 ของ E10 จะเท่ากับ 14.7:1
แรมด้า ที่ 1 ของ E85 จะเท่ากับ      9:1

ซึ่งข้อมูลใน ECU เดิมๆจะรู้จัก แรมด้า ที่ 1 ของ E10 จะเท่ากับ 14.7:1 ครับ พอเราเติม E85 กล่อง ecu ก็จะชดเชย
จนเข้าที่ค่า 14.7 :1 ครับ  มันใช้ได้ครับ แต่ยังไม่ถึงจุด performance ของ E85 ครับ

ส่วนตัวผมใช้ OSTRICH2.0 (REALTIME HONDA) ปลด Close loop แล้วสร้าง MAP ขึ้นมาใหม่เลยครับ
ซึ่งมันจะมีโหมด Low cam High cam แยกเลยครับ จะวิ่งไม่วิ่ง จะซดไม่ซด ขึ้นอยู่กับเราเลยครับ
เมื่อปลด close loop แล้ว คราวนี้เราต้องเพิ่งพา ค่า A/F อย่างเดียวเลยครับ คือ ให้เข้าค่า 9:1 (E85) ครับ

ผมอ้างอิงค่า A/F จาก INNOVATE ครับ

ดีมากเลยครับ แชร์ข้อมูลกัน จะได้เกิดความเข้าใจกันมากยิ่งขึ้นครับ อะไรที่ผมไม่รู้ ผมก็ได้ความรู้เพิ่มขึ้น ขอบคุณครับ


ส่วนใครที่อยากมีเกจวัด A/F Wideband ดีๆ ราคาพอรับได้ แนะนำของ Autometer, AEM, INNOVATE ครับ
12  AE Racing Club - FreeStyle / Free Style - AE Racing Club / Re: E-85 พลังงานทางเลือก มาช่วยกันแชร์ความเห็นครับ เมื่อ: 28 มิถุนายน 2012 08:54:10

เติมน้ำมันถังใหม่ ทำไม A/F บางลงเฉยเลย งง  เวียนหัว
ทั้งที่เติมปั๊มเดิม หัวเดิม  ตาปริบๆ

แรงดันเบนซิลก็ 2.5 บาร์ ที่เดินเบาน้าาาาา เร่งๆดูเบาๆเข็มก็ดีดไป 3 บาร์บ้าง  เกา..



ถ้ากล่องเดิมและยังไม่ได้ปลด Close Loop กล่องจะทำการปรับค่าอัตโนมัติให้กลับค่ามาตรฐานตามที่กล่องมันรู้จักครับ
ต่อให้เปลี่ยนหัวฉีด ถึงน้ำมันจะหนาขึ้น แต่กล่องก็จะหาทางกลับค่าเดิมครับ

ถ้าอยากให้น้ำมันหนา ให้ถอด Oxygen sensor ออกครับ กล่องเดิมจะอยู่ในสถานะ Safe mode คือจะถ่มน้ำมันหนาครับ
แต่ไฟ Engine จะขึ้นโชว์ให้น่ารำคาญ

จะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่ครับ  อย่าไปโทษน้ำมันเลยครับ
13  AE Racing Club - FreeStyle / Free Style - AE Racing Club / Re: E-85 พลังงานทางเลือก มาช่วยกันแชร์ความเห็นครับ เมื่อ: 25 มิถุนายน 2012 09:32:49
ผมจะคำนวณการรองรับแรงม้าของหัวฉีดให้ดูนะครับ ระหว่างน้ำมัน E10 กับ E85
(ผมคิดที่ Duty cycle ของหัวฉีด 80% นะครับ จะยก 100 % ก็ได้ครับก็จะรองรับแรงม้ามากขึ้นอีก)

อันนี้คิดจากเครื่องยนต์ 4 สูบนะครับ ก็ลองเลือกดูครับ



หัวฉีด 1JVVTi ไม่โบ 250cc        โมแบบ    NA  E10 = 169 แรงม้า    E85 = 138 แรงม้า
                                        โมแบบ Turbo  E10 = 138.5 แรงม้า    E85 = 117 แรงม้า


หัวฉีด 1JVVTi  โบ 370cc       โมแบบ    NA  E10 = 250 แรงม้า    E85 = 205 แรงม้า
                                    โมแบบ Turbo  E10 = 205 แรงม้า    E85 = 173 แรงม้า

หัวฉีด Denso sard 420cc       โมแบบ    NA  E10 = 284 แรงม้า    E85 = 232 แรงม้า
                                     โมแบบ Turbo  E10 = 232 แรงม้า    E85 = 197 แรงม้า


หัวฉีด 550cc                     โมแบบ    NA  E10 = 372 แรงม้า    E85 = 304 แรงม้า
                                   โมแบบ Turbo  E10 = 304 แรงม้า    E85 = 258 แรงม้า


สังเกตไหมครับว่าทำไมเวลาจะจูนใช้ E85 จึงต้องเปลี่ยนหัวฉีด cc สูงๆ ก็เพราะค่าความร้อนมันน้อยครับ
จึงต้องใช้ปริมาณเชื้อเพลิงที่มากขึ้น แต่ข้อดีคือค่าออกเทนมันสูงครับ ช่วยให้เราทำกำลังอัดเครื่องได้มากขึ้นมากๆครับ
ดูจากข้อมูล มัน งง งง อ่ะครับ เพราะถ้าข้อมูลนี่ E10 ได้แรงม้ามากกว่าE85 เห็น ๆ เลยนะครับ

ก็เพราะค่า consumption (อัตราการบริโภค) มันเยอะครับ  E10 อัตราส่วน AFR อยู่ที่ 14:1  ส่วนน้ำมัน E85 ค่า AFR อยู่ที่ 9:1 ครับ จึงต้องเปลี่ยนขนาดให้ใหญ่ขึ้น
ถ้าต้องการแรงม้าเพิ่มก็ต้องเลือกหัวฉีดที่ใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับแรงม้าตามที่ต้องการครับ

น้ำมัน E10 มันแรง ป่านนี้รถ DRAG หน้ายาวก็คงใช้ โซฮอล 95 แทนน้ำมัน TOP ALCOHOL แล้วครับ




3s-gte
หัวฉีดเดิม 440 ปั๊มติ๊ก วาวโบ
ไม่ทราบว่าทน E-85 ได้มากน้อยแค่ไหนครับ

อยากใช้บ้าง
 
เติม e85 ใช้ f-con โปรแกรมใหม่ แรงกว่ากันคนละเรื่อง เครื่องไม่ร้อนครับ.. หัว 440  1.2 บาร์ มาสบายครับ แต่รอบปลายส่งบูสหนักๆ จะจ่า่ยไม่ค่อยทัน มีเขกหน่อยๆ เปลี่ยนเป็น 550 ได้ก็จะดีกว่า หรือเอาแบบประหยัดก็ ฝังหัวเพิ่มหัวเดียวก็ได้คับ..

หัวฉีด 800 ลูก j แม๊พ hks
2 บาร์ไหวไหมครับ กับ E-85

ถ้าไส้ในไหวก็ลุยเลยครับ  หัวฉีด 800cc @ 3bar DUTY80% บูสได้เท่าไหร่ไม่รู้ครับ แต่รองรับแรงม้าได้ที่ 400 แรงม้า สำหรับเครื่องยนต์ 4 สูบ เทอร์โบ



ทำความเข้าใจนะครับ เครื่องยนต์เป็นตัวสร้างแรงม้า ส่วนหัวฉีดเป็นอุปกรณ์รองรับแรงม้าที่จะเกิด  ถ้าใส่หัวฉีดโดยไม่ได้ทำอะไรเลยกับเครื่องยนต์ ไม่ได้เปลี่ยนชนิดเชื้อเพลิง ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร
รถที่ทำเครื่องยนต์ เช่น ทำกำลังอัด เปลี่ยนแคม (NA)  หรือ บูสหนักๆ (TURBO) การกระทำดังกล่าวก็เพื่อ ดึงอากาศเข้าให้ได้มากที่สุด และระเบิดให้แรงที่สุด  ในเมื่ออากาศเข้ามาแล้วก็ต้องมีเชื้อเพลิงและไฟในการจุดระเบิดเป็นองค์ประกอบของการระเบิด และทุกอย่างต้องลงตัวเหมาะสม  จะเจอบ่อยมากสำหรับคนทำรถคือ ปั๊มติ๊กไม่พอ หัวฉีดไม่พอ นั่นหมายความว่า เครื่องยนต์ยังไปได้อีก แต่มาตันที่การจ่ายเชื้อเพลิงไม่เพียงพอ จูนเนอร์ก็จะหยุดกราฟไว้เพียงเท่านั้น ถ้ายังขืนต่อไปจนเกินspecเครื่องยนต์จะพังทันที ดังนั้นจึงต้องฟังจูนเนอร์ (ผู้มีประสบการณ์)



จูนให้แรงมันง่ายครับ แต่จูนให้แรงและเหนี่ยวเป็นสิ่งสำคัญกว่า
14  AE Racing Club - FreeStyle / Free Style - AE Racing Club / Re: รบกวนสอนวิธีตั้งไฟจานจ่ายหน่อยครับ เมื่อ: 23 มิถุนายน 2012 13:02:31
เรื่องตั้งไฟหลายท่านน่าจะตั้งกันได้แล้วนะครับ


ทีนี้มาดูลักษณะอาการพังจากการตั้งไฟดีกว่าครับ จะได้ระวังกันไว้ และจะได้ไม่เข้าใจผิดกันครับ


ข้อความที่จะพิมพ์ต่อไปนี้ ไม่ได้คัดลอกมาจากที่ไหนนะครับ ผมพิมพ์เองตามความรู้ที่ผมมีครับ



ไฟแก่ (ADVANCE) คือการสั่งจุดระเบิดล่วงหน้าก่อนลูกสูบขึ้นจนถึงจุดสูงสุด ถามว่าทำไมจึงต้องจุดระเบิดก่อน?
ก็เพราะเราต้องให้เวลาของการลามไฟครับ (เหมือนจุดไม้ขีดไฟกว่าจะฟู้เต็มที่ก็ต้องมีระยะเวลาครับ) และช่วงที่ระเบิดเต็มที่ก็จะพอดีกับช่วงที่ลูกสูบกำลังเคลื่อนลงพอดี ก็เหมือนกับการถีบลงแรงๆ ทำให้เกิดกำลังสูงสุดครับ


รู้ได้อย่างไรว่าไฟแก่? เวลาเร่งเครื่องเปล่าจะติดเท้า เครื่องตอบสนองทันทีที่เหยียบ ถ้าปรับมากไปอย่างที่รู้กันคือจะได้ยินเสียงแก๊กๆ



แล้วถ้าปรับไฟแก่มากๆจะเป็นอย่างไร

เราจะได้ยินเสียงดัง แก๊กๆ ซึ่งเกิดจากการที่ช่วงการระเบิดเต็มที่เกิดก่อนที่ลูกสูบจะขึ้นถึงจุดสูงสุด (ให้นึกถึงเกมส์ฆ้อนตีตัวตุ่น)
เกิดเป็นแรงกระทำสวนทางกัน ทำให้แรงดังกล่าวกระจายออกด้านข้าง จนเกิดเป็นเสียงกระทบกันระหว่างโลหะ



ความเสียหายที่เกิดจากไฟแก่คือ หัวเทียนแตกเสียรูป หัวลูกสูบมีรอย แหวนลูกสูบแตก สลักก้านข้อเหวี่ยงหลวม ถ้าสลักก้านหลุดก็ทิ่มลูกสูบ



ไฟอ่อน (RETARD) คือการสั่งจุดระเบิดช้าจนช่วงการระเบิดเต็มที่เกิดในช่วงที่ลูกสูบเคลื่อนที่ลงไปแล้วในระดับหนึ่ง (ถีบหวืด)
ทำให้พลังงานที่เหลือจากการระเบิดคงค้างอยู่ในห้องเผาไหม้และสะสมไปเรื่อยตามรอบวัฎจักร (สะสารย่อมไม่หายไปไหนเพียงแต่เคลื่อนย้ายหรือเปลี่ยนสถานะ) ทำให้เกิดเป็นความร้อนสะสมในห้องเผาไหม้


รู้ได้อย่างไรว่าไฟอ่อน? จะเกิดการ Back Fire ปั้งๆ เวลาสับเกียร์ครับ หรือถ้ามีเกจวัดอุณหภูมิไอเสีย อุณหภูมิไอเสียจะขึ้นสูง 300กว่าองศาขึ้นไปและจะขึ้นไปเรื่อยถ้ายังเร่งไปต่อ เวลาเร่งเครื่องเปล่าจะไม่ติดเท้า คือเหยียบคันเร่งแล้วเครื่องค่อยเร่งตาม



ความเสียหายที่เกิดจากไฟอ่อนคือ

เนื่องจากเกิดความร้อนสะสมในห้องเผาไหม้ จึงทำให้เกิดอาการ วิ่งไม่ออก เครื่องร้อน ลูกสูบละลาย ทะลุ สูบติด เนื่องจากการขยายตัว



องศาไฟที่เหมาะสมสำหระบรถยนต์เกือบทุกรุ่นจะอยู่ในช่วง +10 ถึง +16 องศา ในรอบเดินเบาครับ ถ้าใช้ E85 ก็ปรับเพิ่มไปอีก
+5 ถึง +10 องศา หรือมากกว่า



ถามว่าอะไรน่ากลัวมากกว่า  สำหรับผม ผมกลัวไฟอ่อนครับ (รถที่ใช้แก๊ซแล้วบอกว่าเครื่องร้อน วิ่งไม่ออก มาจากสาเหตุนี้ครับ)
15  AE Racing Club - FreeStyle / Free Style - AE Racing Club / Re: E-85 พลังงานทางเลือก มาช่วยกันแชร์ความเห็นครับ เมื่อ: 23 มิถุนายน 2012 11:47:38
ผมจะคำนวณการรองรับแรงม้าของหัวฉีดให้ดูนะครับ ระหว่างน้ำมัน E10 กับ E85
(ผมคิดที่ Duty cycle ของหัวฉีด 80% นะครับ จะยก 100 % ก็ได้ครับก็จะรองรับแรงม้ามากขึ้นอีก)

อันนี้คิดจากเครื่องยนต์ 4 สูบนะครับ ก็ลองเลือกดูครับ



หัวฉีด 1JVVTi ไม่โบ 250cc        โมแบบ    NA  E10 = 169 แรงม้า    E85 = 138 แรงม้า
                                        โมแบบ Turbo  E10 = 138.5 แรงม้า    E85 = 117 แรงม้า


หัวฉีด 1JVVTi  โบ 370cc       โมแบบ    NA  E10 = 250 แรงม้า    E85 = 205 แรงม้า
                                    โมแบบ Turbo  E10 = 205 แรงม้า    E85 = 173 แรงม้า

หัวฉีด Denso sard 420cc       โมแบบ    NA  E10 = 284 แรงม้า    E85 = 232 แรงม้า
                                     โมแบบ Turbo  E10 = 232 แรงม้า    E85 = 197 แรงม้า


หัวฉีด 550cc                     โมแบบ    NA  E10 = 372 แรงม้า    E85 = 304 แรงม้า
                                   โมแบบ Turbo  E10 = 304 แรงม้า    E85 = 258 แรงม้า


สังเกตไหมครับว่าทำไมเวลาจะจูนใช้ E85 จึงต้องเปลี่ยนหัวฉีด cc สูงๆ ก็เพราะค่าความร้อนมันน้อยครับ
จึงต้องใช้ปริมาณเชื้อเพลิงที่มากขึ้น แต่ข้อดีคือค่าออกเทนมันสูงครับ ช่วยให้เราทำกำลังอัดเครื่องได้มากขึ้นมากๆครับ
16  AE Racing Club - FreeStyle / Free Style - AE Racing Club / Re: E-85 พลังงานทางเลือก มาช่วยกันแชร์ความเห็นครับ เมื่อ: 22 มิถุนายน 2012 09:02:17
แนะนำนะครับผม ให้ลองถอดดูสีหัวเทียนดูครับ ง่ายที่สุดเลย สำหรับท่านทั้งหลายที่ไม่มี A/F จับ (Back to basic)

สีเทา = บาง
สีน้ำตาลสนิม = พอดี  สวยเลยครับ
สีดำ  = หนา
17  AE Racing Club - FreeStyle / Free Style - AE Racing Club / Re: E-85 พลังงานทางเลือก มาช่วยกันแชร์ความเห็นครับ เมื่อ: 22 มิถุนายน 2012 08:50:14
1. พวกเครื่องตระกูล 2ZZGE จูน E85 มีเยอะครับผม MR-S MR-2 LOTUS มีหมดครับ

2. A/F 14.7:1 เป็นค่าอัตราส่วนเผาไหม้พอดีของน้ำมัน E10 ครับ  
     (A/F E20 = 13:1)
     (A/F E85 = 9:1)
     (METHANOL A/F = 7:1)
     (LPG A/F = 15:1)
     (DIESEL A/F = 14:1 จะเชื่อดีไหมเนี่ยเห็นมีแต่ควัน)

3. การปรับไฟโดยการบิดกะลาจานจ่ายเป็นการปรับแต่งที่ง่ายที่สุดครับ แต่มันจะปรับแบบยกตารางครับ จะมีช่วงบางโหลดที่ไม่ต้องการไฟแก่จะตื้อๆครับถูกต้องแล้ว แต่ถ้าพ่วงกล่องที่ปรับตารางไฟในโปรแกรมได้ ที่คิดว่ารถตัวเองวิ่งดีแล้ว ก็จะวิ่งขึ้นอีกแบบคนละเรื่องเลยครับ

4. หัวฉีด 2JVVTibo ตอนนี้มีแค่ชุด 4 หัวครับ ชุด 6 หัวต้องรอสั่งรอบหน้าครับ รอก่อนนะ


18  AE Racing Club - FreeStyle / Free Style - AE Racing Club / Re: E-85 พลังงานทางเลือก มาช่วยกันแชร์ความเห็นครับ เมื่อ: 21 มิถุนายน 2012 21:10:27
ผมเคยลองแล้วครับ E85 AFR ที่ 13-15:1 วิ่งได้ครับ แรงด้วย สักพัก อุณหภูมิไอเสียเริ่มเดิน แตะๆ 500 องศา (ปกติจะวิ่งอยู่ไม่เกิน 400 องศา) และอุณหภูมิจะเดินเร็วมากถ้าไฟอ่อน
(อุณหภูมิของอัลลอยล์ จะเริ่มละเลยที่ 600 องศา) เป็นสาเหตุของลูกสูบละลายครับ

ถ้าขับแบบลอยๆเรื่อย AFR ประมาณ 12:1 ได้เลยครับ แต่ตอนอัดเต็มห้ามเด็ดขาด
อัดเต็มผมทำได้แค่ AFR 9:1 ครับ หัวฉีดหมดก่อน (1JVVTi bo 370cc) ขี้เกียจเปลี่ยนหัวฉีดใหม่ครับ
แต่ผมก็เคยลองแล้วครับ เปลี่ยนหัวฉีดเป็น Sard 420cc AFR ลงไป 7:1 ยังแรงได้อีก  ตรงตามทฤษฎีครับ
E85 การจูนเหมือนๆกับการจูนแก๊สอะคับ มันค่อนข้างจะชอบไฟแก่ๆเลยนะคับ ไฟอ่อนเมื่อไหร่ได้เรื่องทุกทีเลยคับ ความร้อนขึ้น  สิ้นเดือนนี้ ลูกค้าผมที่ซื้อหัวฉีด 2j bo vvti ใส่20v จะมาจัดเต็มแล้วนะคับ ไว้เอาคลิปมาให้ชมด้วยนะคับ ตามมาด้วย 1J bo อีกคันคับ แต่ติดเรื่องหัวฉีดอะคับ ยังคุณอาท น่าจะหาหัวฉีดในราง 550 มาบ้างนะคับ

บอกตรงๆเลยครับ หัวฉีด 3S แบบ SideFeed (ฝั่งราง)  หายากมากครับ ที่ญี่ปุ่นถือว่าตกรุ่นไปแล้วครับ ของไม่มีมารองรับวัยแรงเลยครับ
ทุกวันนี้หาอะไรที่มากกว่า 500cc ยากมากครับ (มันไม่ผลิตแล้ว) ต้องอาศัยฝีมือจูนเนอร์เข้าช่วยครับ

แนะนำให้ปรับแรงดันเพิ่มก่อนทำการจูนครับ ปริมาณcc จะเพิ่มขึ้นตามแรงดันเรกูเรเตอร์ครับ หัวฉีด 440cc ถ้าดันที่ 4 bar จะถึง 500cc แน่นอนครับ
19  AE Racing Club - FreeStyle / Free Style - AE Racing Club / Re: อยากใช้ E-85 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2012 20:32:56
ผมเคยลองแล้วครับ E85 AFR ที่ 13-15:1 วิ่งได้ครับ แรงด้วย สักพัก อุณหภูมิไอเสียเริ่มเดิน แตะๆ 500 องศา (ปกติจะวิ่งอยู่ไม่เกิน 400 องศา) และอุณหภูมิจะเดินเร็วมากถ้าไฟอ่อน
(อุณหภูมิของอัลลอยล์ จะเริ่มละเลยที่ 600 องศา) เป็นสาเหตุของลูกสูบละลายครับ

ถ้าขับแบบลอยๆเรื่อย AFR ประมาณ 12:1 ได้เลยครับ แต่ตอนอัดเต็มห้ามเด็ดขาด
อัดเต็มผมทำได้แค่ AFR 9:1 ครับ หัวฉีดหมดก่อน (1JVVTi bo 370cc) ขี้เกียจเปลี่ยนหัวฉีดใหม่ครับ
แต่ผมก็เคยลองแล้วครับ เปลี่ยนหัวฉีดเป็น Sard 420cc AFR ลงไป 7:1 ยังแรงได้อีก  ตรงตามทฤษฎีครับ
20  AE Racing Club - FreeStyle / Free Style - AE Racing Club / Re: อยากใช้ E-85 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2012 15:08:18
ผมถามต่อนิดนึง พอดีรถผมไม่ได้ใช้งานประจำ(รถแข่งใช้เดือนละครั้ง) ถ้าเปลี่ยนเป็นถัง safety เดี่ยวๆเลย และเติมเต็มถังไว้เวลาจอด มันจะแก้ปัญหาการกัดกร่อนหรือสนิมอะไรนี่ได้ไหมครับ ผมกังวลอยู่เรื่องเดียวนี่แหละ

ถัง safety ถ้าเป็นพลาสติก ก็ไม่ต้องกังวลอะไรครับ ใช้ได้เลย จริงๆถังเดิมก็ได้นะ ไม่เป็นอะไรแน่นอน
แต่สิ่งที่ต้องเปลี่ยนแน่นอนคือท่อยางระบบน้ำมันเชื้อเพลิงครับ ต้องใช้เกรด SAE R9 ขึ้นไปครับ (R9 ใช้ในส่วนลำเลียง , R10 ใช้สำหรับแช่น้ำมัน)
เพราะเกรด R9 ขึ้นไปสามารถป้องกันเอทานอลซึมผ่านผนังท่อยางได้ 100% ครับ


ทุกวันนี้ผมก็ใช้ LPG กับ E85 อยู่ครับ (E85 เน้นซิ่ง) ผมไม่ได้ขับโยต้านะครับ ผมขับฮอนด้าครับ แต่แชร์ข้อมูลกันได้ครับ แลกเปลี่ยนกัน

จริงๆน้ำมัน E85 มันไม่ได้วิเศษอะไรหรอกครับ แต่มันช่วยลดข้อจำกัดการโมดิฟายเครื่องยนต์ได้ครับ คือเหมาะสำหรับเครื่องที่ทำกำลังอัดสูงๆ หรือบูสหนักๆ จะเห็นผลชัดเจน
คือใช้ประโยชน์จาก ออกเทน 105 ของมันครับ (LPG ออกเทนก็ประมาณนี้ ถ้าจูนดีๆก็แรงเหมือนกัน)

พระเอกของการจูนใช้งานที่หลายคนมองข้ามคือ องศาการจุดระเบิดครับ ใครจูนตรงนี้ถูก แรงมากครับ จูนไม่ดีพังครับ

เติมออกเทน100 ในราคา 20 บาท ก็โอเคนะ

จากเดิม เติมโซฮอล95 วิ่งได้ 10โล/ลิตร ครับ  พอจูนเป็น E85 วิ่งได้ 8.8 โล/ลิตร ครับ แต่แรงขึ้น 10 แรงม้า  (กดเต็มที่ A/F 9:1)

แต่ถ้าขับชิวๆก็ประหยัดนะครับ

หน้า: [1] 2  » 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!