มีเรื่องอยากจะเล่าให้ฟัง
เมื่อหลายปีก่อน เกือบจะสิบปีแล้ว ผมและเพื่อนๆ ได้ถูกให้ไปช่วยพัฒนาโรงเรียน ตำตรวจตะเวนชายแดนที่แสนจะห่างไกล เพราะอีกหนึ่งเดือนต่อมา สมเด็จพระเทพฯ จะเสด็จเยี่ยมโรงเรียนนั้น
เส้นทางที่จะไปโรงเรียนตำตรวจตะเวนชายแดน นั้นในช่วงแรกๆที่พวกผมไปกัน เรียกได้ว่าเป็นชุดบุกเบิกก็ว่าได้ ทางโคตรลำบาก หนาวก็หนาว ฝนก็เจือกตกอีก กว่าจะเดินทางไปถึงก็ใช้เวลากือบวันแล้ว กว่าจะทำอะไรได้ก็แสนจะลำบาก ในใจก็คิดว่า"ส่งกูมาลำบากทำไม" (ใครอยากด่าผมก็ด่านะในประโยคต่อจากนี้)"แค่คน คนเดียวจะมาตรวจงาน แล้วต้องทำให้กี่คนต้องลำบาก" กว่าโรงเรียนจะปรับปรุงเสร็จ กว่าถนนเข้าสู่หมู่บ้าน เข้าสู่โรงเรียน จะสร้างเสร็จก็ใช้เวลาเกือบเดือน
ในวันที่สำเด็จพระเทพฯ มาตรวจเยี่ยมโรงเรียนตำตรวจตะเวนชายแดน ท่านใช้เวลาประมาณ สองชั่วโมงกว่าในการเดินทาง และอีกหนึ่งชั่วโมงในการตรวจเยี่ยมโรงเรียน(วันที่ท่านเสด็จพวกผมก็ไม่ได้รับโอกาสให้ไปรับเสด็จอีก) ตอนนั้นก็คิดในใจว่า"งานพวกนี้เป็นงานที่ทำเอาหน้ากันทั้งนั้น"
แต่พอเวลาผ่านมา ความคิดเริ่มมี โตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น กลับไปคิดเรื่องเมื่อก่อน ทำให้คิดได้ว่า ที่ท่านเสร็จไปที่ไหนท่านไปตรวจงาน แต่ท่านไม่ได้ทำเพื่อตัวท่านเอง ท่านทำเพื่อคนในหมู่บ้าน เพราะถ้าท่านไม่เป็นคนที่จะเสด็จไปตรวจเยี่ยมด้วยตัวท่านเอง โรงเรียนก็ไม่ได้ถูกพัฒนาอย่างรวดเร็ว ถนนที่ใช้เวลาเป็นวันในการเดินทาง กลับทำให้ถูกใช้เวลาในการเดินทางแค่สองชั่วโมง แล้วคนที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คือคนที่อยู่ในหมู่บ้าน เด็กๆที่อยู่ในโรงเรียน นี่ต่างหากคือเหตุผลที่ท่านต้องเส็จไปเยี่ยมในที่ห่างใกล้ทั่วไทย
ตอนนี้กลับนำเรื่องนี้มาคิด จึงคิดได้ว่า"เป็นบุญแค่ไหนแล้วที่ได้ทำงานรับใช้ ใต้ร่มพระบารมีของราชวงศ์จักรี"

ถึงจะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ผมก็ภูมิใจ ว่าในชีวิตหนึ่ง คนอย่างผม จะได้ทำงานรับใช้ท่าน ได้สักกี่ครั้งเอง
