รบกวนขอความช่วยเหลือ แก้ปัญหาได้แล้ว อ&

[jedee]

   บทนำ 

สืบเนื่องมาจากการเดินทางใช้งานต่อเนื่องโดยตลอด ครั้งล่าสุดที่เดินทางมากรุงเทพ ขากลับ ๘ ธ.ค.นี้ อยู่ๆก็มีเสียงเขกแกรกๆๆๆๆๆเวลาเร่งเครื่อง ทั้งที่ก่อนนั้น วิ่งลื่นปรกติ ใช้ความเร็วเดินทางแช่ที่ ๑๔๐ มาเกือบๆสามร้อยกิโล กำลังหายไปยังกะวิ่งแค่สามหรือสองสูบ เบื้องต้นจอดเช็คที่ยโสธร สาเหตุเกิดจากข้างในแน่ เลยประคองรถวิ่งแค่เกียรสองกลับบ้าน  แล้วใช้รถอีกคันสี่อี คันที่พังเป็นสี่เอเอฟอีโอโต้ครับ  เมื่อวานทำการเปิดฝาท่อนบนดู ก่อนเปิดก็ทำการสตาร์ทครั้งเดียวติดได้ปรกติ ปัญหาเดิมที่เป็นที่ยโสธรยังอยู่  ปรากฎว่า ปะเก็นฝาทะลุเข้าหากันในสูบสามและสี่ วาวล์ไอเสียยันไปหกตัว สายพานไทม์มิ่งแตกกรอบ ห้าโมงเย็น ตั้งวาวล์ที่ยันจนได้ตามสเปค ๐.๒๕ มิล (ไอเสีย) จนได้ที่แล้ว เปลี่ยนปะเก็นแท้ เปลี่ยนสายพานไทม์มิ่งแท้ ลูกปืนลูกรอก  แล้วประกอบเข้าคืน ปรากฎว่าสตาร์ทยังไงก็ไม่ติด 

อาการ

ไฟไม่มาที่หัวเทียน(ไม่มีประกายไฟ)  ไฟเอนจิ้นดับสนิท ไม่ติดเลยเวลาออนสวิทซ์  ไฟไม่ส่งไปที่ปั๊มหัวฉีด และจานจ่าย เพราะตอนถอดได้ลองสตาร์ทก่อนถอด พอขันน็อตเบอร์๑๗ ที่รางหัวฉีด มีน้ำมันพุ่งออกมามากมาย  แต่เมื่อวานหลังลองสตาร์ไม่ติดแล้วคลายออกดูมันไม่มีแรงดันอะไรเลย ตอนประกอบกลับ สายไฟที่โยงมาไดชาร์ท จับดูมันกรอบ บางครั้งเราจับโยกหลบเพื่อขันน็อต ก็จะมีเสียงดังกรอบแกรบอยู่ข้างใน (เป็นไปได้ไหมว่าเส้นใดเส้นหนึ่งมันขาดใน แล้วไม่ทำให้ไฟส่งไปยังกล่อง หัวฉีด ปั๊ม แม้กระทั่งจานจ่าย )  มาตายน้ำตื้นจริงๆ ขั้นตอนประกอบกลับนั้นโอหมดนะครับ แต่ไฟมันไม่มา พอดีมืดก่อน ผมเลยไม่ได้เช็คฟิวส์ว่าขาดหรือไม่  อ้อ....ก่อนประกอบ(ยังไม่ได้เสียบปลั๊กต่างๆเข้าไป ผมดันไม่ได้ปลดขั้วแบต  )   ลืมจริงๆ ปลดสายปลั๊กต่างๆออกหมด แต่ดันไม่ปลดขั้วแบต มันจะทำให้อุปกรณ์เสียหายได้หรือไม่     เพื่อนๆลองช่วยกันวิเคราะห์ทีครับ ว่าสาเหตุที่ไฟไม่มา ปั๊ม จานจ่าย หัวฉีด แม้แต่ไฟเอนจิ้นก็ไม่ติด มันน่าจะเกิดจากอะไรได้บ้างครับ ผมเปลี่ยนไทม์มิ่งเองเป็นครั้งที่สองแล้ว ครั้งแรกประกอบกลับ เสียบปลั๊กทุกตัว ก็สตาร์ททีเดียวติดโลด แต่ครั้งนี้เอาจนแบตจะเกลี้ยงมันยังไม่ติด พอไล่ดู ไฟมันก็ไม่มาในจุดสำคัญๆดังที่บอก ขอความช่วยเหลือหน่อยครับ  ขอบคุณทุกๆคำตอบนะครับ ขอให้ร่ำให้รวย ไม่เจ็บไม่จนกันทุกคนนะครับ   

[jen@171]

ขอเดา1นะพี่  fuse EFI ขาดบ่อน้อ....

[( . )jab-ben( . )]

ไฟเดินไม่เต็มระบบแบบนี้คงต้องไล่เช็คไปทีละจุก เริ่มจากฟิว ปลั๊กต่อสายไฟต่างๆ สายไฟต่างๆคับ จะบอกว่าห้องเครื่องรุ่นเราๆนี่มันร้อนคับ พวกสายไฟ ปลั๊กต่างๆพากันกรอบแตก บางทียังไม่ทันออกแรงบีบปลั๊กแตกไปละคับ ไม่รุว่าเพราะพัดลมหม้อน้ำตัวในป่าว ที่ดูดเอาความร้อนมา อุปกรณ์ไฟฟ้าแถวนั้นส่วนมากจะไปก่อนเลย

[wolfboy]

ไม่ทราบเลยครับพี่ แต่เป็นกำลังใจให้ครับ

[Alpha]

 ก่อนเข้าปั๊มหัวฉีดและจานจ่าย มันน่าจะผ่าน ECU นะครับ
 ก่อนมา ECU ก็จะผ่านฟิวส์ก่อน

 ก็มีให้ไล่ไม่กี่จุดล่ะครับ
 ถ้าผมเป็นพี่ ผมก็เช็คฟิวส์ก่อนล่ะ เพราะมันราคาถูกที่สุด
 
 เครื่องหัวฉีด เรื่องไม่ปลดขั้วแบตนี่สำคัญพอสมควรเลยครับ

ปล. คงช่วยอะไรมากไม่ได้ครับ เพราะเครื่องหัวฉีดตัวสุดท้ายที่ผมใช้ ยังเป็นระบบแอร์โฟลวอยู่เลย (หลังจากนั้นผมก็เข็ดกับมันไปเลย)

[แอลกอฮอล์40ดีกรี]

ลองเช็คไฟ จากecu เข้าจานจ่ายดูครับ 4-5เส้นว่าไฟมาหรือป่าว

[jedee]

   ขอบคุณทุกๆความเห็นครับ  พอดีเพิ่งตื่น มะวานทำงานตั้งแต่เช้าทั้งวันยันค่ำเลย เผลอหลับลึก เพิ่งตื่นครับ ผมว่าน่าจะไม่มีอะไรมาก รถมันดีๆอยู่ อยู่ๆพอประกอบเสร็จก็ไม่มีไฟไปที่กล่อง ไฟเอ็นจิ้นดับสนิทเลย อาจจะแค่ฟิวส์ขาดครับ เด๋วสายๆเสร็จภารกิจสำคัญแล้วจะลองมาไล่เรียงดู   ตอนนี้เชื่อแล้วว่า หัวฉีด แค่ฟิวส์ขาด หากเราไม่มีความรู้ ก็มีสิทธินั่งหรือนอนกินข้าวลิงได้ 


  เคสนี้น่าจะเป็นกรณีศึกษาให้กับเพื่อนๆสมาชิกที่กำลังหัดดีไอวาย ดูแลรถด้วยตัวเอง  ครั้งแรกที่ผมลองเปลี่ยนสายพานไทม์มิ่งนั้น มันยากเย็นแสนเข็ญกันเลยทีเดียว  แต่ครั้งนี้หมูๆครับ ได้ลูกชายคนเล็ก แหะๆๆ ก็คนที่ขับพาผมกับครอบครัวไปตีลังกาลงข้างทางที่ชุมแพเมื่อ ๑๑ ต.ค.ที่ผ่านมานั่นล่ะ  มาช่วยเป็นลูกมือ

ผมเจออาการเดียวกันนี้สองครั้งแล้ว ปะเก็นทะลุเข้าหากัน เป็นที่เดียวกันเลย สูบสามกับสี่ แต่ทั้งสองครั้งผมใช้ปะเก็นเทียม(ซื้อที่อุบลทั้งสองครั้ง ซึ่งน่าจะร้านเดียวกัน)   มันน่าจะเป็นข้อบกพร่องของอะไหล่ หรือว่ารถเรามีปัญหาเรื่องความร้อนหรือไม่ ระยะทางที่ใช้งานน่าจะห่างกันประมาณสี่ห้าหมื่นกิโล  คราวที่แล้วก็จำเป็นครับ อะไหล่ปะเก็นแท้ดันมีทั้งร้านอยู่แค่ตัวเดียว เช็คตอนเช้า พอบ่ายถอดฝาแล้วไปเอา พวกดันซื้อไปเฉย เหลือแต่ของเทียมเลยจำเป็นต้องเอามาใส่  ผลก็คือเสียหายแบบเดิมๆที่เดียวกันเลย สาเหตุหลักๆก็คือเรื่องความร้อนครับ มันจะเตือนเราก่อนประมาณเดือนสองเดือนครับ น้ำเริ่มหาย(แต่ไม่มากนะ) เรียกว่าเดินทางก็เช็คแล้วเติมเรื่อยๆ  คราวนี้ก็เช่นกัน ผมเห็นฟองอากาศออกมาจากท่อในหม้อน้ำ ตั้งแต่เดินทางไปกลับเชียงรายย้อนไปหนที่สามสี่แล้ว แต่มันไม่มีเวลาทำ เรียกว่าขี่จนใจขาดกันไปเลย ส่วนเจ้าสี่อีนั้น ไม่ค่อยเอาไปไกล เอาไปเชียงรายแค่หนเดียว วันที่ ๑๒ ต.ค. หลังเกิดอุบัติเหตุ นอกนั้นใช้เจ้าเจดีย์ตลอดปีหนึ่งๆประมาณเจ็ดหมื่นถึงแสนนิดๆ  งานนี้หมดไปสองพันกว่าบาทครับ ปะเก็นแท้ ๗๕๐ สายพานไทม์มิ่งแท้ ๖๕๐ ลูกปืนลูกรอกสายพานแอร์เอ็นเอสกเค ๗๕ บาท ลูกปืนเร่งสายพานแท้ ๔๕๐ บาทวาวล์น้ำแท้ ๖๑๐ บาท แจ้งราคาไว้ครับ เป็นราคาร้านอะไหล่ที่อุบล อันนี้ซื้อเพิ่ม ที่มีอยู่แล้วก็ปะเก็นชุดใหญ่ ได้เอามาใช้ก็มีปะเก็นท่อท่อนบนสองตัว ท่อนล่างอีกตัว ตั้งวาวล์สี่เอหากเครื่องมือครบ ไม่ยากไม่ง่ายครับ ยากอีตรงมานั่งเจียรนั่งฝนแผ่นชิมให้มันบางนี่ล่ะ เพราะวาวล์มันยัน(จะยุบลงไป แผ่นชิมตอนนี้ในฝานี้ จากเดิมประมาณสามมิล ตอนนี้ผมเจียรลงไปต่ำสุดอยู่ที่ประมาณสองจุดสองแล้ว ยันจนจะทะลุแล้ว หลุดจากนี้คงปรับได้อีกครั้งสองครั้ง ก่อนที่จะเปลี่ยนฝากัน) พรุ่งนี้จะลองดูอีกที เข้ามาขอบคุณทุกคำตอบครับ ขอบคุณมากๆจากใจเลยครับ เวปนี้ไม่แล้งน้ำใจครับ 


คุณอัลฟ่า ผมใช้เครื่องหัวฉีดในเรโนลต์อาร์๒๑ ก็เข็ดๆกะมันพอสมควร นอกนั้นรถเก้าคันหักดีเชลออกเหลือเบนซินเจ็ดคัน สี่คันเป็นคาบูร์หมด แล้วอยู่กะเรานานมากยี่สิบกว่าปีไม่ก็เกือบๆสามสิบปี  ดีเซลที่ใช้งานนั้น อึดทนเอามากๆครับ เป็นโตต้ากับนิสสันเทอร์โบ ไม่เคยมีปัญหาภายในเครื่องยนต์เลยสักครั้งขับลูกเดียว นอกจากใช้งานสถานเดียวจนขายต่อไป ส่วนเบนซิน ใช้งานหนักสุดแล้วอยู่กะเรานานก็เรโนลต์อาร์สิบเก้า วิ่งไปทั่วไทยกว่าเจ็ดแสนกิโล ตอนนี้จอดปลดระวางแล้ว ทั้งที่สภาพเครื่องยังเกินแปดสิบเปอร์ ปลายท่อไม่มีเขม่าเลย ยิ่งตัวท็อปแล้วเลิกเลยครับ เสียได้ตลอดเจ้าอาร์ยี่สิบเอ็ด ล่าสุดผมเยียบจนเกียรพัง(โอโต้) ฮอลทีก็มีสองถึงสามหมื่น เกียรเปราะมาก แต่สองร้อยยี่สิบมาในพริบตา คนละเรื่องกับสามห่วงเลย  แต่พอมาใช้หัวฉีดของสามห่วงแล้ว มันอึดมันทดดีชะมัด ไม่มีปัญหาจุกจิกเหมือนเรโนลต์ที่ใช้มาสิบปีเลย แต่ข้อต่างคือระบบการทรงตัวที่เทียบกับอย่างหลังไม่ได้ แบบว่าฟ้ากะเหว  ผมทำใจอยู่ประมาณสามเดือน ซึ่งมีแต่ขับๆๆ กับเดินทางลูกเดียว แล้วก็เติมแก๊สไป กับถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะ โดยเฉพาะเครื่องสองอีนั้น ดูแลง่ายที่สุด  ผมใช้สองอี สี่อี และสี่เอโอโต้ สองอีดูแลง่ายที่สุดครับ เครื่องที่ยกลงแล้วเอาสี่เอโอโต้วางแทน ผมกำลังเตรียมเอาไปวางในเรโนลต์อาร์สิบเก้าซึ่งจอดปลดระวางมาแล้วประมาณสามปีกว่า  คราวนี้ใช้งานต่ออีกยี่สิบปีแน่ ผมก็แก่เถ้าไปตามกาลเวลาแล้วล่ะ ผมก็ยอมรับเหมือนคุณอัลฟ่าว่าไว้ ว่าคาบูร์มันดูแลง่ายกว่าหัวฉีด  แต่ยกเว้นของโตต้าเด้อ  ตอนนี้ผมกำลังจะมาตายแค่น้ำตื้นๆ เด๋วเช็คเสร็จจะมารายงานว่ามันเป็นรัย ที่อยู่ๆก็ใจขาดไปซะเฉยๆ ทั้งที่ก่อนถอดก็ลองสตาร์ทดู ทีเดียวติดทั้งที่เครื่องเย็น มันน่าจะมีสายอะไรขาด หรือฟิวส์ขาด จะได้เป็นกรณีศึกษา หากใครที่ลองทำแบบผม จะได้ระมัดระวังกว่า   


แค่เข้ามาขอบคุณเฉยๆ ล่อซะยาวเลย ยังไม่ถึงเวลาตื่น แต่ดันหลับลึก ตื่นมาพร้อมกับความโล่งเบาสบาย เด๋วไปนั่งสมาธิต่อ อิอิ

[sander]

หายไวไวครับ...พี่ (ใช้เลขไทยตลอด ) น่าจะฟิว

[gigoman]

ขอให้แก้ปัญหาเจอไวๆคับ 

[May]

กระทู้นี้...ช่างใหญ่มาถามเอง-ตอบเองเลยอ่ะ 

[jedee]

  กำ งานงอกแล้ว ผมแค่ช่างจำเป็น ช่างเหอะ ไม่ใช่ช่างใหญ่หรอกครับ ฟิวส์ขาดแค่ตัวเล็ก แต่ตัวใหญ่ไม่ขาดสี่สิบแอมป์กะร้อยแอมป์อาร์คคาติดเลย แต่ระบบมันช็อทไปหมด พรุ่งนี้ช่างคนที่วายสายให้ จะมาดูให้ครับ หมดปัญญาจริงๆ หากทำเองได้ก็คงไม่มาถามหรอกครับ  มันช็อทจนฟิวละลายอาร์คติดเลย ต้องทุบถึงออกได้ ไม่รู้ว่าอะไรเสียหายหรือไม่  บางทีคนเรามันก็ไม่รู้ไปทั้งหมดหรอกจริงไหม ได้แต่ภาวนาอย่าให้เสียหายมาก  

[gigoman]

เออะ งานเข้าใหญ่ไปเรื่อยเลยนะนี่

ยังไงก็เอาใจช่วยคับ แผงฟิวส์เซียงกงยกแผงน่าจะมีขายนะครับ 

[jen@171]

กำ งานงอกแล้ว ผมแค่ช่างจำเป็น ช่างเหอะ ไม่ใช่ช่างใหญ่หรอกครับ ฟิวส์ขาดแค่ตัวเล็ก แต่ตัวใหญ่ไม่ขาดสี่สิบแอมป์กะร้อยแอมป์อาร์คคาติดเลย แต่ระบบมันช็อทไปหมด พรุ่งนี้ช่างคนที่วายสายให้ จะมาดูให้ครับ หมดปัญญาจริงๆ หากทำเองได้ก็คงไม่มาถามหรอกครับ  มันช็อทจนฟิวละลายอาร์คติดเลย ต้องทุบถึงออกได้ ไม่รู้ว่าอะไรเสียหายหรือไม่  บางทีคนเรามันก็ไม่รู้ไปทั้งหมดหรอกจริงไหม ได้แต่ภาวนาอย่าให้เสียหายมาก  

สู้ๆพี่   รอฟังผล อิอิ

[jedee]

กำ งานงอกแล้ว ผมแค่ช่างจำเป็น ช่างเหอะ ไม่ใช่ช่างใหญ่หรอกครับ ฟิวส์ขาดแค่ตัวเล็ก แต่ตัวใหญ่ไม่ขาดสี่สิบแอมป์กะร้อยแอมป์อาร์คคาติดเลย แต่ระบบมันช็อทไปหมด พรุ่งนี้ช่างคนที่วายสายให้ จะมาดูให้ครับ หมดปัญญาจริงๆ หากทำเองได้ก็คงไม่มาถามหรอกครับ  มันช็อทจนฟิวละลายอาร์คติดเลย ต้องทุบถึงออกได้ ไม่รู้ว่าอะไรเสียหายหรือไม่  บางทีคนเรามันก็ไม่รู้ไปทั้งหมดหรอกจริงไหม ได้แต่ภาวนาอย่าให้เสียหายมาก 

สู้ๆพี่   รอฟังผล อิอิ

  ขอบใจมากครับน้องเจน  แก้ปัญหาได้แล้วครับ ช่างไหมมาดูให้ตอนเที่ยง แค่จิ้มๆไม่ถึงห้านาที ก็รู้ว่า สายกราวด์มันขาดติดขั้วเลย ขาดสี่เส้น พี่ก็ไม่รู้ว่ามันมีสายกราวด์ของอีซียูอยู่ที่เสื้อสูบด้านหลังใต้ท่อร่วมไอดี มันซ่อนอยู่ ขนาดช่างไหมชี้ให้ดูยังมองแทบไม่เห็น สงสัยตอนประกอบกลับ เจ้าตัวเล็กมันคงหนักมาก โยนโคม กระแทกตอนนั้น ดีที่ยังหาเจอ นึกว่างานงอกแล้วตรู  เปลี่ยนกล่องฟิวส์ไปสองตัว ร้อยกะสี่สิบแอมป์ ตอนนี้กลับมาปรกติแล้วล่ะ ขอบใจมากเด้อ   แล้วก็ขอบคุณทุกคำแนะนำด้วยครับ  
บทส่งท้าย ใครที่กำลังจะลองเปิดฝาสูบ เปลี่ยนไทม์มิ่ง หรือเปิดมาฮอลก็ แร่ว แต้  ข้อควรระวัง ควรถอดแบตทุกครั้ง อย่าเหมือนผม มานั่งปวดหัวอยู่สองสามวัน พอช่างอาชีพมาดู ก็แค่เอาไฟ(หลอดไฟ กะเข็มเชื่อมติดกัน แล้วก็ต่อสายปากคีบเป็นกราวด์ จิ้มแค่ไม่ถึงห้านาที จบเลยครับ ตอนนี้กลับมาปิ๊งสดใสแล้ว เสียงเงียบกว่าเดิมเยอะเลย เพราะเพิ่งตั้งวาวล์ตอนเปลี่ยนไทม์มิ่ง คงใช้ได้อีกนานล่ะ

ปิดกระทู้   พี่เวปมาสเตอร์ลบได้เลยครับ
ขอบคุณสำหรับพื้นที่ และคำตอบดีๆ ครับ

[jedee]

หายไวไวครับ...พี่ (ใช้เลขไทยตลอด ) น่าจะฟิว

ครับ ผมใช้โน๊ตบุ๊คพิมพ์ครับ พิมพ์แบบสัมพัสสิบนิ้ว เคยเรียนมาเมื่อสี่สิบกว่าปีที่แล้วครับ มันติดตัวมาตลอดไม่ยักกะลืม ทีนี้หากจะพิมพ์เลขอารบิค ก็ต้องสลับภาษาไทย กับอังกฤษครับ มันยุงยากพอควร เมื่อพิมพ์ภาษาไทยแล้ว ก็ยกแป้นกดเลขไทยโลด จะดีกว่าไหม หากเราใจร่มๆ นึกถึงตอนเรียนชั้นประถม ที่คุณครูให้เราคัดเลขไทยไงครับ อิอิอิ ขอบคุณครับสำหรับกำลังใจ ตอนนี้หายแล้วครับ ช่างที่วายสายให้ มาดูให้ถึงที่เลยครับ แค่จิ้มๆไม่ถึงห้านาทีเองครับ แกก็มาเอื้อมมือดู ที่ใต้ท่อร่วมไอดี สายที่ส่งมายังหัวฉีดทั้งสี่หัวนั่นล่ะ ใต้ลงไปมันเป็นสายกราวด์สี่เส้นครับ ขนาดช่างชี้ให้ดูผมยังมองแทบไม่เห็น มันซ่อนอยู่ข้างล่างครับ ช่างก็ต่อให้ สตาร์ททีเดียวติดโลด นิ่งเลยครับ ผมเคยตั้งวาวล์มาแล้วหนหนึ่งสำหรับเครื่องสี่เอ นอกนั้นให้ช่างทำให้หมด คราวนี้เลยสบายๆเลยครับ ยังไงก็ขอบคุณมากครับ

[( . )jab-ben( . )]

เก็บไว้ศึกษาได้คับ ผมก้อทำไว้อันนึงนะคับ ไฟเช็คเนี่ย พอดีใช้(อ่าน)มิเตอร์ไม่เปนคับ หุหุ แต่ของผมใช้ก้านลวดเชื่อมไฟฟ้า ปลายด้านล่างเจียรให้แหลม อีกปลายด้านนึงก้อเอาหลอดไปมัดไว้ ขั้ว+ต่อเข้าลวด ขั้ว-ต่อที่คีบลงดินคับ


เวลาใช้งานก้อเอาที่คีบขั้วแบต(ตัวหนีบผ้าอะคับ พอดีชั่วโมงนั้นหาไม่ได้)ไปหนีบขั้วลบ หรือลงกราว แล้วเอาปลายแหลมจิ้มไปตามจุดที่เราอยากเช็ค เช่นปลั้ก หรือที่สายไฟ(เจียรแหลมๆจะได้จิ้มเข้า)
พวกเปนช่างไดร แอบเอามาทำใช้เองคับ

[jedee]

เก็บไว้ศึกษาได้คับ ผมก้อทำไว้อันนึงนะคับ ไฟเช็คเนี่ย พอดีใช้(อ่าน)มิเตอร์ไม่เปนคับ หุหุ แต่ของผมใช้ก้านลวดเชื่อมไฟฟ้า ปลายด้านล่างเจียรให้แหลม อีกปลายด้านนึงก้อเอาหลอดไปมัดไว้ ขั้ว+ต่อเข้าลวด ขั้ว-ต่อที่คีบลงดินคับ


เวลาใช้งานก้อเอาที่คีบขั้วแบต(ตัวหนีบผ้าอะคับ พอดีชั่วโมงนั้นหาไม่ได้)ไปหนีบขั้วลบ หรือลงกราว แล้วเอาปลายแหลมจิ้มไปตามจุดที่เราอยากเช็ค เช่นปลั้ก หรือที่สายไฟ(เจียรแหลมๆจะได้จิ้มเข้า)
พวกเปนช่างไดร แอบเอามาทำใช้เองคับ

 นี่ล่ะแบบนี้เลยครับ เครื่องมือที่ช่างไหมเอามา  ต่างกันที่แกเอาเข็มเย็บกางเกงยีนส์ เชื่อมติดกับขั้วกราวด์ของหลอด  แล้วเอาอีกขั้วเชื่อมติดกับสายที่มีปากคีบ มีอันนี้ตัวหนึ่ง กรรไกร สายไฟขนาด หกมิล แล้วก็ สองมิล อย่างละประมาณสองเมตร แกมีแค่นี้ มาจิ้มๆรถผมข้างหน้าเสร็จ แล้วก็เปิดประตูคนขับ จิ้มที่แผงฟิวส์หลักด้านคนขับ ผมยังจิบน้ำที่ภรรยาเอามาให้ยังไม่ทันครึ่งแก้วเลย ช่างไหม(ชื่อของช่างเด้อ ชื่อไหมครับ)  แกก็ทราบแล้วว่าไฟมันไปที่กล่อง แต่กราวด์ไม่มี แกก็ออกมาจากในรถ แล้วก็ตรงมาที่จุดที่มันขาดเลย ซ่อนอยู่ ผมมองยังไงก็ไม่เห็น แม้ช่างไหมจะชี้ให้ดู แต่ที่เห็นมันขาดนั้นเป็นสายสีน้ำตาลสามเส้นครับ แต่ช่างไหมบอกว่ามันขาดหมดทั้งสี่เส้นเลย ไอ้สายที่ว่านี้คือสายกราวด์ของกล่องอีซียู มันจะลงกราวด์ที่เสื้อสูบด้านหลัง แล้วขันน็อตเบอร์สิบสองไว้  ใกล้ๆกับไดสตาร์ท แต่ผมก็ยังไม่เห็นอยู่ดีล่ะ ของโตต้ามันซ่อนอยู่ลึกกว่าของยี่ห้ออื่น  สรุป สายกราวด์ขาด กับลืมถอดแบตครับ นอกจากมันช็อตแล้ว กราวด์หลุด ก็จบเลย ตอนนี้หายแล้วครับ


 ทีแรก นึกไม่ถึงว่ากระทู้นี้น่าจะมีประโยชน์ เลยขอให้เวปมาสเตอร์ลบกระทู้นี้ในตอนแรก  แต่พอมาไล่เรียงอ่านดูอีกที ผมว่าน่าจะย้ายกระทู้นี้ไปหัวข้อ D.I.Y น่าจะมีประโยชน์แก่สาธารณะมากกว่าลบทิ้ง วานพี่เวปมาสเตอร์ช่วยย้ายด้วยครับ ขอบคุณล่วงหน้านะครับ

  เหมือนเช่นกระทู้ของคุณต้อมที่แก้ปัญหาเรื่องรอบเดินเบาเวลาเครื่องร้อนจนจบ จนผมได้วิชาแก้ปัญหานี้กับเครื่องสี่เอของผมนั่นล่ะ  อันนี้น่าจะเป็นข้อควรระมัดระวัง แล้วเป็นข้อสังเกตกรณีสตาร์ทไม่ติดหลังเปิดฝาประกอบแล้ว ให้กับผู้ไม่รู้ ผู้ไม่ทันได้ระมัดระวังแบบผม ได้ตระหนัก หรือได้ศึกษาถึงข้อควรระวัง ตลอดจนอาการที่มันไม่ติด เช่นไฟไม่มา ปั๊มไม่ทำงาน ไฟเอนจิ้นไม่ติด จะได้วิเคราะห์อาการเสียได้อย่างถูกตรง แม้แต่ช่างบางคนที่ยังภูมิความรู้ไม่ถึง ก็น่าจะใช้ประโยชน์ได้ครับ ช่างไหมยังบอกผมว่า ที่สายกราวด์ขาดเนี่ยยังพอรับได้  แต่ช่างอาชีพบางคน ดันไม่ขันสายกราวด์อีซียูแล้วให้ช่างไหมไปแก้นี่สิ มันน่า.....เหอะๆๆ สายมันซ่อนอยู่ลึกมาก คงไม่ตอนถอดก็ตอนประกอบนั่นล่ะ มันมีการกระชาก คงขาดตอนนั้นล่ะ แต่ฟิวส์ก็ขาดตามที่บอกด้วย     ดังนั้น การย้ายดังที่ว่า น่าจะมีประโยชน์มากกว่าครับ  ขอบคุณมากครับ 

[surachat_pea]

   ตามอ่านแล้วดีครับกับทุกๆ คำถามและคำตอบ ผมก็รู้อะไรที่ไม่รู้มากมายจากที่นี่ 

ทำเองได้บ้าง ไม่ได้บ้าง  พลาดทำเสียประจำ(งานงอกยาว)  แต่ก็ต้องพึ่งที่นี่ตลอดในการหาคำตอบที่ต้องการ

[Hunter_JIK.CZ48]

ตอนประกอบฝาขันปอนป่าวครับ

ประกอบไม่ได้สเปคมันก็มีส่วนนะประเกนทะลุเนี่ย

อีกกรณีคือ แก๊สบางเครื่องร้อนจัดฝาเลยไปบ่อย

[jedee]

ตอนประกอบฝาขันปอนป่าวครับ

ประกอบไม่ได้สเปคมันก็มีส่วนนะประเกนทะลุเนี่ย

อีกกรณีคือ แก๊สบางเครื่องร้อนจัดฝาเลยไปบ่อย

  ขันปอนด์กับน็อตฝาทุกตัวครับ คราวนี้ตั้งไว้ที่ ๘๐ ปอนด์ทุกตัวเลยครับ มากกว่านี้กลัวน็อตขาดครับ เครื่องมันเก่าแล้ว คราวที่แล้วให้ลูกน้องช่วยตอนขันปอนด์ฝาสูบ มันคงไม่เคยขันแต่คุยว่าเคย ล่อซะน็อตขาดคามือเลย ผมดูกะมันไม่ทันว่าขาดคามือที่กี่ปอนด์ แต่น่าจะเกิน๘๐ ไปไม่มาก คราวที่แล้วหลังจากเปลี่ยนน็อตที่ขาด ผมก็ต้องขันเองแต่ก็กำหนดไว้ที่ ๘๐ ปอนด์เหมือนคราวนี้ครับ เอาปลอดภัยเข้าไว้ก่อน เสียแต่ว่าปะเก็นมันแท้กับเทียมเท่านั้น ก่อนนั้นก็ใช้ปะเก็นแท้กับเทียมสลับกันครับ แต่ปัญหามักเกิดตอนเอาปะเก็นเทียมใส่นี่ล่ะ แต่จะค่อยๆสะสมเกิดหลังใช้งานไปแล้วสี่ห้าหมื่นกิโลขึ้นไปครับ  คราวนี้จดบันทึกไว้แล้ว จะได้ระมัดระวังเปรียบเทียบเก็บข้อมูลไว้ครับ    แต่ผมไม่ทราบสเปคของสามห่วงว่าฝาสูบขันกี่ปอนด์จริงๆ  เลยเอามาตรฐานทั่วไปเท่าที่น็อตมันรับได้ครับ แค่ ๗๐ ๗๕ เสียงมันก็ลั่นเป๊าะๆ เปรี๊ยๆ แล้วครับ เลยจำเป็นต้องจำกัดไว้ที่ ๘๐ ต่ำไปไหมครับ จะได้เสี่ยงกวดเข้าไปอีก แต่เสียวๆนึกถึงอีตอนที่ลูกน้องมันขันขาดคามือ กำจริงๆ ผมบอกค่อยๆอัดเข้าไปตัวละสี่ห้าปอนด์ก่อน เผลอแป๊ปเดียวมันล่อขาดคามือเลยครับ

ส่วนเรื่องแก๊สบาง ผมว่าไม่น่าใช่ครับ เพราะผมจูนเองกะมือ หากบาง(เคยจูน) นอกจากมันจะไม่วิ่งแล้ว ยังอืดเป็นเรือเกลืออีก แท็กซี่เขาชอบจูนแบบนั้น ไม่บางแน่ครับ ไม่เคยแบคไฟซักครั้ง หากบางมันต้องแบคให้เห็นครับ แล้วก็ไม่หนาจนเกินไปครับ(ดูจากสีของหัวเทียน น้ำตาลอ่อนๆ)  แต่ผมไม่ได้ใช้เอเอฟมิเตอร์จับเท่านั้น หากแต่ใช้การเทสโดยการลองวิ่งเทียบกันดู แล้วก็จูนจนได้ที่ครับ  เมื่อวานเอาออกมาเทส ดีขึ้นกว่าที่เคยใช้พอสมควรครับ(หลังจากตั้งวาวล์แล้วกะเปลี่ยนปะเก็นแท้)  รู้สึกกำลังมันเพิ่มขึ้น อัดตราเร่งทันใจขึ้นประมาณสามสี่สิบเปอร์เซนต์จากที่เริ่มออกอาการ   ตอนที่เริ่มออกอาการผมสังเกตเห็นมีฟองอากาศในหม้อน้ำตลอด เดาว่าปะเก็นฝา แต่ก็กดได้ ๑๘๐ เฉย(โอดีออฟตอนยังไม่ทำเด้อ แต่เมื่อวานเทสแค่ร้อยห้าพอมาเร็วกว่าเดิมเห็นๆครับ) ความร้อนก็ลดลงเห็นๆ ต่ำกว่าหกสิบองศาตลอด(อย่าเพิ่งตกใจนะครับ เซนเซอร์ผมติดไว้ที่ท่อล่างหม้อน้ำครับ ผมไม่ติดไว้ที่ท่อบนเลยต่ำไปนิด แต่ของเดิมที่เริ่มออกอาการนั้นอุณหภูมิน้ำบางทีขึ้นไปเกือบๆ ๙๐ องศาก็มีครับ ตอนนี้ยังไม่มีฟองอากาศครับ ปรกติแล้วผมจะกวดน็อตฝาสูบเข้าไปหรือเช็คปอนด์อีกที   ภายหลังจากใช้มาได้ระยะหนึ่ง ปะเก็นมันจะยุบตัว แต่ดันไม่ได้เช็คครับ เวลาไม่ค่อยมีเดินทางตลอด หากเช็คอย่างว่าคงได้ระยะมากกว่านี้ครับ คราวนี้เฉลี่ยประมาณห้าเดือนเองครับ แต่ระยะทางก็เกือบๆห้าหมื่นกิโลเหมือนกัน  อีกอย่างที่ไม่สะดวกทำอีกก็คือ น็อตฝาสูบเขาออกแบบมาให้อยู่ใต้แคมชาร์ฟ มันต้องถอดแคมก่อนถึงจะกวดได้ ทั้งไอดีและไอเสีย ต่างจากเครื่องสองอี กับเรโนลต์ ซึ่งออกแบบมาให้เปิดแค่ฝาแล้วกวดน็อตได้เลย ตรงนี้เลยปล่อยเลยตามเลยมาหลายครั้งแล้ว มีปัญหาก็เปิดฝามันโลดครับ ผมเข้าใจแล้วว่า ทำไมช่างที่ทำให้ถึงบอกว่าปะเก็นแบบนี้ได้ไม่นาน ห้าหกเดือน  ขอบคุณครับ สำหรับข้อสังเกต แต่ทำไมไม่บอกหรือว่าไม่ทราบครับว่า สเปคขันฝาของเครื่องสี่เอเอฟอี มันกี่ปอนด์ครับ 

 อีกประมาณหนึ่งชั่วโมง ผมจะเดินทางเข้าโคราชครับ ถือโอกาสเทสรถไปด้วยในตัว คราวนี้เดินทางไปกลับเลย พอดีเพื่อนเรียนรุ่นเดียวกันมีอำนาจวาสนาได้เป็นใหญ่เป็นโตอยู่ที่นั่นครับ แค่เป็นพ่อเมืองครับ ยังไม่ถึงกับรมต. นัดเลี้ยงรุ่นกันครับ หลักๆจะเดินทางมาจากบุรีรัมย์ กับจังหวัดใกล้เคียง คงมีผมกับเพื่อนอีกคนอยู่อุบลเลยไกลหน่อย ออกตีห้าน่าจะพอดี  ผมเองดีไอวายรถด้วยตัวเองมาตลอดยี่สิบกว่าปีหรือน่าจะมีประมาณสามสิบปีนั่นล่ะ ที่มีรถใช้กะบ้านกะเมืองเขา เรื่องร้อนคงเทียบกับเครื่องเรโนลต์ไม่ได้ครับ ไอ้เครื่องนี้หากไม่ร้อนแล้ว มันไม่วิ่งเอาซะเลย แถมยังมีสิทธิพังอีก ต้องร้อนสถานเดียว แต่มันจุกจิกมากเกินไป ค่าดูแลก็มากพอสมควรเมื่อเทียบกับสามห่วงครับ เอาเข้าศูนย์ที บิลมาจะเป็นลม  ถือว่าแลกเปลี่ยนกันนะครับ