AE. Racing Club
21 ตุลาคม 2024 09:25:05 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: วันครู สำคัญอย่างไร  (อ่าน 10233 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Aj.Moo
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,899



ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 16 มกราคม 2012 14:42:01 »

ในวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499 คณะรัฐมนตรีมีมติให้วันที่ 16 มกราคมของทุกๆ ปี เป็นวันครู และ การจัดงานวันครู ได้มีขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2500 และให้ดำเนินเรื่อยมาทุกปี นับตั้งแต่บัดนั้นมา โดยจัดให้มี วันครู ขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศ 

ความหมายของครู

          ครู หมาย ถึง ผู้อบรมสั่งสอน ผู้ถ่ายทอดความรู้ ผู้สร้างสรรค์ภูมิปัญญา และพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองของสังคมและประเทศ ชาติ

ความสำคัญของครู

          ใน ชีวิตของคนเราถือว่า บิดามารดา เป็นผู้มีพระคุณอันสูงสุด เพราะท่านเป็นผู้ให้ชีวิต ให้ความรัก ให้ความเมตตา มีความห่วงใย และเสียสละเพื่อลูก นอกจาก บิดามารดา แล้ว ก็มีครูเป็นผู้มีพระคุณคล้าย บิดามารดา คือ เป็นผู้อบรมสั่งสอนถ่ายทอดวิชาความรู้ให้ รวมทั้งให้ความรัก ความเมตตาต่อศิษย์ทุกคน นับได้ว่าครูเป็นผู้เสียสละที่ไม่แพ้บุพการี

          ครู จึงนับเป็นปูชนียบุคคลที่มีความสำคัญอย่างมาก ในการให้การศึกษาเรียนรู้ ทั้งในด้านวิชาการ และประสบการณ์ ตลอดเป็นผู้มีความเสียสละ ดูแลเอาใจใส่ สั่งสอนอบรมให้เด็กได้พบกับแสงสว่างแห่งปัญญา อันเป็นหนทางแห่งการประกอบอาชีพเลี้ยงดูตนเอง รวมทั้งนำพาสังคมประเทศชาติ ก้าวไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง ฉะนั้นวันที่ 6 ตุลาคม จึงได้เป็นวันครูสากล เพื่อคนที่เป็นครูทั่วโลกที่เสียสละนำพาเราทุก ๆคน ไปถึงฝั่งฝันนั่นเอง

ประวัติความเป็นมา

          วันครู ได้ จัดให้มีขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2500 สืบเนื่องมาจากการประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษาเมื่อปี พ.ศ.2488 ซึ่งระบุให้มีสภาในกระทรวงศึกษาธิการเรียกว่า คุรุสภา เป็นนิติบุคคลให้ครูทุกคนเป็นสมาชิกคุรุสภา โดยมีหน้าที่ในเรื่องของสถาบันวิชาชีพครูในขณะเดียวกัน ก็ทำหน้าที่ให้ความเห็นเรื่องนโยบายการศึกษา และวิชาการศึกษาทั่วไปแก่กระทรวงศึกษาธิการ ควบคุมจรรยาและวินัยของครู รักษาผลประโยชน์ ส่งเสริมฐานะของครู จัดสวัสดิการให้ครู และครอบครัวได้รับความช่วยเหลือตามสมควร ส่งเสริมความรู้ และความสามัคคีของครู

          ทุก ปีคุรุสภาจะจัดให้มีการประชุมสามัญคุรุสภาประจำปี เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้แทนครูทั่วประเทศแถลงผลงานในรอบปีที่ผ่านมา และซักถามปัญหาข้อข้องใจต่างๆ เกี่ยวกับการดำเนินงานของคุรุสภาโดยมีคณะกรรมการอำนวยการคุรุสภา เป็นผู้ตอบข้อสงสัย สถานที่ในการประชุมสมัยนั้นใช้หอประชุมสามัคคยาจารย์ หอประชุมของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และในระยะหลังใช้หอประชุมคุรุสภา

          พ.ศ.2499 ในที่ประชุมสามัญคุรุสภาประจำปี จอมพล ป.พิบูล สงคราม นายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภากิตติศักดิ์ ได้กล่าวคำปราศรัยต่อที่ประชุมครูทั่วประเทศว่า

          "ที่อยากเสนอในตอนนี้ก็คือว่า เนื่องจากผู้เป็นครูมีบุญคุณเป็นผู้ให้แสงสว่างในชีวิตของเราทั้งหลาย ข้าพเจ้าคิดว่า วันครู ควร มีสักวันหนนึ่งสำหรับให้บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายได้แสดงความเคารพสักการะต่อ วันสงกรานต์ เราก็นำเอาอัฐิของผู้มีพระคุณบังเกิดเกล้ามาทำบุญ ทำทาน คนที่สองรองลงไปก็คือครูผู้เสียสละทั้งหลาย ข้าพเจ้าคิดว่าในโอกาสนี้จะขอฝากที่ประชุมไว้ด้วย ลองปรึกษาหารือกันในหลักการ ทุกคนคงจะไม่ขัดข้อง"

          จาก แนวความคิดนี้ กอปรกับความเห็นของครูที่แสดงออกทางสื่อมวลชนและอื่นๆ ที่ล้วนเรียกร้องให้มีวันครูเพื่อให้เป็นวันแห่งการรำลึกถึงความสำคัญของครู ในฐานะที่เป็นผู้เสียสละ ประกอบคุณงามความดีเพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชนเป็นอันมาก ในปีเดียวกันที่ให้มีวันครูเพี่อเสนอคณะกรรมการอำนวยการต่อไป โดยได้เสนอหลักการว่า เพื่อจะได้ประกอบพิธีระลึกถึงคุณบูรพจารย์ ส่งเสริมความสามัคคีธรรมระหว่างครูและพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่าง ครูกับประชาชน

          คณะมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2499 ให้วันที่ 16 มกราคมของทุกปีเป็น วันครู โดยถือเอาวันที่ประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2488 เป็น วันครู และให้กระทรวงศึกษาธิการสั่งการให้นักเรียนและครูหยุดในวันดังกล่าว

          งานวันครูได้จัดเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2500 ในส่วนกลางใช้สถานที่ของกรีฑาสถานแห่งชาติเป็นที่จัดงาน ได้กำหนดเป็นหลักการให้มีอนุสรณ์งานวันครูไว้แก่อนุชนรุ่นหลังทุกปี อนุสรณ์ที่สำคัญ คือ หนังประวัติครู หนังสือที่ระลึกวันครู และสิ่งก่อสร้างที่เป็นถาวรวัตถุ

รายชื่อประเทศที่มี วันครู

ประเทศที่มี วันครู ที่ไม่ใช่วันหยุด

          - อินเดีย วันครูตรงกับวันที่ 5 กันยายน
          - มาเลเซีย วันครูตรงกับวันที่ 16 พฤษภาคม
          - ตุรกี วันครูตรงกับวันที่ 24 พฤศจิกายน

ประเทศที่มี วันครู เป็นวันหยุด

          - แอลเบเนีย วันครูตรงกับวันที่ 7 มีนาคม
          - จีน วันครูตรงกับวันที่ 10 กันยายน
          - สาธารณรัฐเช็ก วันครูตรงกับวันที่ 28 มีนาคม
          - อิหร่าน วันครูตรงกับวันที่ 2 พฤษภาคม
          - ละตินอเมริกา วันครูตรงกับวันที่ 11 กันยายน
          - โปแลนด์ วันครูตรงกับวันที่ 14 ตุลาคม
          - รัสเซีย วันครูตรงกับวันที่ 5 ตุลาคม
          - สิงคโปร์ วันครูตรงกับวันที่ 1 กันยายน
          - สโลวีเนีย วันครูตรงกับวันที่ 28 มีนาคม
          - เกาหลีใต้ วันครูตรงกับวันที่ 15 พฤษภาคม
          - ไต้หวัน วันครูตรงกับวันที่ 28 กันยายน
          - ไทย วันครูตรงกับวันที่ 16 มกราคม
          - สหรัฐอเมริกา วันอังคารในสัปดาห์แรกที่เต็ม 7 วันในเดือนพฤษภาคม
          - เวียดนาม วันครูตรงกับวันที่ 20 พฤศจิกายน

เครดิต : http://variety.teenee.com/foodforbrain/42201.html
บันทึกการเข้า
May
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 627


88ม้า+1แมว


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 16 มกราคม 2012 14:51:11 »

 สุดยอด ได้โปรด.. คำนับ
บันทึกการเข้า
Superpak 92
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14,194


" สงสัย ให้ถาม " อย่า... คิดไปเอง


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 16 มกราคม 2012 15:08:18 »

 สุดยอด สุดยอด สุดยอด
บันทึกการเข้า

ข้ า ว มั น ไ ก่ & เ ตี๋ ย ว ไ ก่ ม ะ ร ะ   ลุ ง เ ล็ ก !!!
สมาชิก DORAEMONSTER 9X
กระทู้หาของ92 http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=79623.msg1111987#msg1111987
Big_PraYooN~
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,706


4A-FE MT เดิมๆ กังๆ


ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 17 มกราคม 2012 00:57:22 »

 สุดยอด สุดยอด สุดยอด
บันทึกการเข้า

*เด็กหัดถ่าย
น้าเช
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 531



ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: 17 มกราคม 2012 02:06:30 »

ความรู้ล้วนๆ คำนับ
บันทึกการเข้า

@@..ตะต้อมรักในหลวง..@@
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,126



ดูรายละเอียด
« ตอบ #5 เมื่อ: 17 มกราคม 2012 02:46:32 »

 คำนับ
บันทึกการเข้า

▀▄▀▄ ชุบโครเมี่ยมไฟหน้า เงาวิ้งๆ ▀▄▀▄  http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=152635.new#new
jedee
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,490


ได้หมดถ้าสดชื่น


ดูรายละเอียด
« ตอบ #6 เมื่อ: 17 มกราคม 2012 05:26:16 »

 เหอๆๆ ความสำคัญของวันนี้ผมว่า น่าจะสอนให้เรารู้จักความกตัญญู ต่อผู้มีพระคุณ โดยเฉพาะครูบาอาจารย์พูดง่ายๆก็คือไม่ให้เราลืมพระคุณของครูบาอาจารย์ครับ    ถอนหายใจ

 ถอนหายใจแต่....คนทุกวันนี้โดยส่วนใหญ่ มักไม่ค่อยหรือไม่เคยคิดถึง ไม่คำนึงถึงเรื่องนี้แล้ว คิดอยู่เรื่องเดียวคือ ทำยังไงให้กรุรวย(ในสมมุติที่เรียกว่าเงิน) แล้วก็รวยๆ มุ่งแต่หาสิ่งนี้ จนลืมสิ่งดีๆที่กล่าวถึงแต่แรกไปหมด  เกือบทุกคนเลยมุ่งแต่สิ่งเดียว    แบบว่าเหมือนปตท.ยุคนี้ กรุก็มุ่งที่จะขึ้นราคาน้ำมัน แก๊สลูกเดียว กำไรสองแสนล้านไม่พอ ก็มุ่งที่จะเอากำไรสามแสนล้าน ห้าแสนล้าน ใครจะเดือดร้อนก็ช่างหัวมัน ขอให้กรุรวยๆๆ เป็นพอ เฉกเช่น เทสโก้โลตัส ก็มุ่งแต่จะเปิดสาขากันให้ทั่วประเทศ ตอนนี้แทบจะทุกอำเภอ ต่อไปก็ต้องทุกตำบล ไม่ก็ทุกหมู่บ้าน เหมือนเซเว่น ลองมีหลักคิดแบบนี้ คนส่วนใหญ่ในประเทศ ซึ่งเป็นคนยากคนจน ก็ต้องเดือดร้อน เพราะถูกคนเหล่านี้เบียดเบียนเอาส่วนที่มีอยู่น้อยนิด ไปเป็นของตัว ไม่มีอะไรที่ได้มาโดยไม่แก่งแย่ง ยกเว้นการสร้างบารมี ได้มาด้วยตัวท่านเอง ไม่ได้แก่งแย่งกับใคร เป็นอาริยทรัพย์ติดตัวไปได้ตลอด แต่เงินทองนั้นเอาไปไม่ได้ มันหนัก แค่เป็นเครื่องมือชนิดหนึ่งซึ่งเราสมมุติขึ้น แต่ผู้คนก็หลงไหลไปกับมัน เราควรใช้เท่าที่จำเป็น ควรมีเท่าที่จำเป็นแก่การดำรงค์อยู่ มากไปเราก็คืนลงมา ไม่ใช่เท่าไรก็ไม่พอ ลองแบบนี้ก็ต้องมีการเบียดเบียนกัน หนักเข้าๆ ธรรมชาติก็มาเอาคืนพร้อมดอกเบี้ยทบต้น มีนาที่แล้ว ซินามิ ที่ญี่ปุ่น เป็นยังไง ต่อไปน่าจะหนักกว่าครับ ยกธงขาว
เป
 เหอๆๆ คำนับแต่แท้จริงแล้ว ความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณในที่นี้คือครูอาจารย์นั้น เป็นสิ่งที่ดีมาก เป็นสิ่งที่ประเสริฐสุด เป็นสิ่งที่เราทุกคนควรทำหรือต้องทำกันเลยทีเดียว เป็นธรรมขั้นต้นที่เราทุกคนต้องมีประจำใจซึ่งส่วนใหญ่ละเลยครับ  แต่ไม่ใช่ทำแค่วันครูเพียงวันเดียว หากแต่เราควรทำทุกวันตลอดไปครับ รู้ไหม ครูคนแรกของเรานั้นก็คือ พ่อพระ แม่พระ คุณพ่อคุณแม่ ป่าป๊าหม่าม้า ที่อยู่ที่บ้านเราไงครับ    เรากลับไปกราบไหว้ท่านแล้วหรือยังในวันครูครับ เราทำสิ่งดีๆให้ท่านแล้วหรือยัง เราทำให้ท่านยิ้มได้ตลอดเวลาแล้วหรือยัง เราทำสิ่งที่ดีที่สุดให้ท่านแล้วหรือยังครับ เราทดแทนบุญคุณท่านแล้วหรือยัง  ถ้ายัง หากท่านทั้งสองยังมีชีวิตอยู่ ก็ควรรีบๆไปทำซะ ก่อนที่ท่านจะจากเราไป แล้วไม่มีโอกาสได้ทำ    แม้แต่หลักคิดนี้(หลักคิดที่เห็นแก่ตัวเอง ไม่รู้จักแบ่งปัน ไม่รู้จักกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ ด้งที่บอกนี้) มันได้แผ่ขยายแซกซึมเข้าไป แม้แต่ในรั้วของมหาวิทยาลัยครับ ทั้งที่บ้านเราเป็นเมืองพุทธแท้ๆ  อนิจจาสังคมเรา ยกธงขาว

คนทุกวัน เชื่อแต่สิ่งที่ตาเนื้อเห็นเท่านั้น(สิ่งหยาบๆ)  แต่ไม่เชื่อในสิ่งที่ละเอียดกว่า ที่ตาเนื้อมองไม่เห็น แต่เห็นได้ด้วยตาใน หรือทิพจักษุ ทั้งที่การจะเห็นได้หรือไม่นั้น มันอยู่ที่ตัวท่านเองทุกคน เขาหรือเธอจะหาเหตุผลสารพัดมาอ้าง ว่าสิ่งละเอียดที่กล่าวถึงนั้นไม่มีเพราะอย่างนั้นเพราะอย่างนี้ แต่ทำไมเชื้อโรคมันมีล่ะ เราก็มองไม่เห็นไม่ใช่หรอ ก็เพราะมันเล็ก มันละเอียดใช่ไหม แล้วทำไมไวรัสมันมีล่ะ ก็เพราะมันเล็กมันละเอียดกว่าเราถึงไม่เห็นใช่หรือไม่ ทำไมอะตอมมันมีล่ะ แล้วทำไมท่านมองไม่เห็นแต่ก็เถียงไม่ได้ว่าอะตอมมีจริง แต่อะตอมท่านคิดว่าเล็กสุดแล้วหรอ น่าจะใช่เพราะเครื่องมือที่มนุษย์สร้างขึ้นมาได้ ก็คงเห็นแค่อะตอม แล้วสำคัญไปเองว่ามันเล็กสุดแล้ว ทีนี้สิ่งที่ละเอียดกว่าอะตอมก็มี ทำไมคุณไม่เอาจิตไปส่องมันล่ะ คนที่พูดก็เพราะไม่เห็น คนที่เห็นส่วนใหญ่จะไม่พูด เป็นเรื่องปัจจัตตังไป


ขอยกสิ่งดีๆให้กับ ครูบาอาจารย์ของข้าพเจ้า ทั้งที่ยังมีชีวิตและที่ได้ล่วงลับไปแล้ว รวมทั้งมนุษยชาติที่ยังหลงในวัตตะสงสาร  ขอสิ่งดีๆได้บังเกิดกับสังคมนี้ ได้เปลี่ยนวิธีคิดของผู้คนส่วนใหญ่ ให้กลับคืนมาเป็นสมมาทิฏฐิ คำนับ
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!