AE. Racing Club
15 กันยายน 2024 05:39:02 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า:  «  1 [2]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เกียร์ at แบบไม่มีกล่อง สามารถทำให้แรงเท่า เกียร์ mt ได้ไหมครับ  (อ่าน 3550 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
yoshio ae
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 7,654


4a-gze only


ดูรายละเอียด
« ตอบ #20 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2012 13:16:29 »

ผมก็คนนึงที่อยากกลับไปขับเกียร์ออโต้เหมือนกัน
บันทึกการเข้า

AE has brought us to MEET

Red devil tr
นักแข่งมืออาชีพอันดับสอง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 791


ดูรายละเอียด
« ตอบ #21 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2012 13:24:28 »

เหอๆๆ ราคาเกียรโอโต้ตอนนี้มันกระโดดไปมาก แล้วพวกเราก็กลับบ้านเก่ากันเยอะมากด้วยช่วงนี้ ผมว่าอย่าไปทำเลยครับ ได้ไม่คุ้มเสีย ของผมก็เกือบๆสามแสนกิโลแระ เจ้าของเดิมที่ยกลงก็ไม่รู้ใช้มาเท่าไร ที่รอดมาได้เท่าทุกวันนี้ ก็เพราะกล้าลงทุนใส่หัวเชื้อเพียวซินเทติคลงไป เลยอึดทนขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว หากขับแบบผม แล้วไม่มีเครื่องช่วยที่ว่า พังมาทีตอนนี้กระเป๋าแฟบไปตามๆกัน ราคาต่อลูกตอนนี้น่าจะว่ากันที่หมื่นบาทขึ้น  ปีที่แล้วผมได้มาพร้อมเครื่องแค่เจ็ดพันห้า แต่ค่าขนส่งล่อไปสามพัน แต่มันได้ทั้งเครื่องทั้งเกียร ตอนนี้ก็เก็บไว้ รอลูกนี้กลับบ้านเก่าก่อน ลำพังประสิทธิภาพของมัน หากใช้งานจริงๆ แล้ว ขับดีๆเข้าใจมัน เกียรธรรมดาแทบไล่ไม่ทันอยู่แล้วครับ แค่เรากดลึกๆหน่อยก็พอ ของผมมันเป็นเกียรสาย ไม่กล่อง หากกดลึก เกียรหนึ่งก็เปลี่ยนที่หกพัน สองก็หกพัน(หากแช่ยาวๆคลิ๊กดาวค้างไว้) ก็ร้อยยี่สิบแล้วครับ พลักขึ้นดี ก็กระโจนต่อ มันรบได้กับเกือบทุกรุ่นอยู่แล้วล่ะ เฉพาะถนนเมืองไทย ที่มีแต่หลุม แต่สิ่งกรีดขวางที่เราไม่คาดคิด หารถมาต่อกรกับเรายากครับ ยิ่งความเร็วระดับเกินร้อยสี่สิบไปแล้ว และยิ่งในถนนหลวงด้วยแล้ว หากรถที่ใช้ความเร็วนี้น้อยมากๆครับ  แล้วยิ่งวิ่งๆไปทุกวันนี้ ประเด๋ววก็ด่านๆๆๆ      สำหรับผมแล้ว เห็นน้องๆเกียรโอโต้พัง ก็ยังเสียวๆเหมือนกัน แต่ผมซื้อเก็บตอนมันถูกๆไว้สี่ห้าลูก (เหอะๆๆ ไม่ได้ขายเน้อ เล่าให้ฟังเฉยๆ)  แต่ลูกที่ใช้อยู่ก็อึดมากครับ ตอนนี้น่าจะเกินสองแสนห้าไปแล้วครับ ยิ่งผมใช้หัวเชื้อพิเศษด้วย งานนี้ไม่รู้จะไปพังตอนกี่แสน แต่ก่อนมันพังก็มักจะเตือนกันเสมอไม่ใช้หรอครับ เท่าที่อ่านศึกษาดู ตอนนี้ยังปรกติครับ หากไม่มีหัวเชื้อที่ว่าอย่าไปลากแบบผมเด้อ พังแน่ครับ ไม่ช้าก็เร็ว ผมรอดเพราะเคล็ดล้บไม่ลับนี้ครับ ใช้มาน่าจะยี่สิบกว่าปี จนมันพัฒนาไปไม่รู้กี่สเตปครับ เอ็กวันอาร์เป็นสารเด็กๆเลยหากเทียบกับที่ผมใช้อยู่ครับ

หัวเชือของอะไร ราคาเท่าไรครับ
บันทึกการเข้า
Jay หมอศรี @ WZ Zone
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,819



ดูรายละเอียด
« ตอบ #22 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2012 14:56:02 »

โดยโครงสร้างกลไกภานในเกียร์ ทำไม่ได้
แต่จะขับให้อัตราเร่งใกล้เคียงกัน ต้องลองศึกษาวิธีใช้ L 2 ในรอบเครื่อง ความเร็วที่เหมาะสม ก็ขับมันดี
ถ้าจะออกตัวเร็ว ก็พอทำได้ แต่จะเอาล้อฟรี ทำยาก (ทำได้แต่เกียร์พังเร็วเอาไหม) กดมิดตั้งแต่ออกตัว เกียร์จะเปลี่ยนที่ 6000รอบ 2เกียร์แรก เกียร์3 5000รอบก็ปาเข้าไป 130-140แล้ว จะไปเร็วกว่านี้เลยหรือ

แล้วถ้าออกแบบนี้เกียร์จะมีปัญหาไหมครับพี่    ขอบคุณครับ

รอฟังอีกครับมีข้อมูลอีกไหมครับ

เกียร์พังนะครับ
ถ้าออกล้อฟรีน่ะ พังแน่ เพราะเกียร์ ออโต้ไม่ได้ออกแบบมาไว้ให้ทำอย่างนั้น (จริงๆ MT ก็ไม่ได้ออกแบบมาหรอก

หากแต่ว่า MT มันคุมด้วยเท้าของเรา ถ้าปล่อยคลัจช์มันก็จับ เหยียบคลัตช์มันก็ปล่อย) ส่วนเกียร์ออโต้

มันออกแบบมาให้ใช้แบบ Automatic คือทำงานเป็นอัตโนมัติ เหยียบคันเร่งแล้วเปลี่ยนไปเรื่อยๆ

และข้อสำคัญที่ Auto มักจะมีรอบต่ำกว่า้เกียร์ธรรมดาในทุกๆด้านคือ

-ขับเรื่อย ความเร็วลอยตัว ไหลๆไปในรอบต่ำ
-ไม่นิยมรอบสูงบ่อยๆ เพราะเกียร์ออโต้มีแรงดันน้ำมัน ไว้คอยคุม Torque Converter อีกที
ถ้ารอบสูงมาก มันก็เหมือนเรา เปิดพัดลม ตัวนึงใส่อีกตัวนึงที่ไม่ได้เปิด พัดลมตัวที่ไม่ได้เปิดจะค่อยๆหมุนตาม
หากเราเปิดพัดลมตัวแรกแรงเกินไป ก็จะมีแต่แรงดันที่ไหลทิ้ง แต่อีกตัวก็ยังไม่วิ่งตาม และแรงดันที่เกินออกมานั้น
อาจจะไปทำอันตรายภายในเสื้อเกียร์ และ Torque Converter ก็เป็นได้ครับ

เพราะงั้นไม่ใช่ Auto ไม่แรง แต่เ้กียร์ออกแบบมาให้ใช้งานต่างกัน


ยกเว้นจะเป็ฯ เกียร์ออโต้สมัยใหม่ ที่เรียกว่า Dual Clutch อันนั้นมันเป็น Auto กึ่ง Manual

คือไม่ได้ใช้ Torque Converter แต่ใช้แผ่นคลัตช์มาค่อยคุมการเปลี่ยนเกียร์เหมือน MT นั่นแหละครับ

ตัดต่อกำลังโดยใช้ Clutch คู่นั้นเอง
บันทึกการเข้า
jedee
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,490


ได้หมดถ้าสดชื่น


ดูรายละเอียด
« ตอบ #23 เมื่อ: 10 กรกฎาคม 2012 07:21:57 »

เหอๆๆ ราคาเกียรโอโต้ตอนนี้มันกระโดดไปมาก แล้วพวกเราก็กลับบ้านเก่ากันเยอะมากด้วยช่วงนี้ ผมว่าอย่าไปทำเลยครับ ได้ไม่คุ้มเสีย ของผมก็เกือบๆสามแสนกิโลแระ เจ้าของเดิมที่ยกลงก็ไม่รู้ใช้มาเท่าไร ที่รอดมาได้เท่าทุกวันนี้ ก็เพราะกล้าลงทุนใส่หัวเชื้อเพียวซินเทติคลงไป เลยอึดทนขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว หากขับแบบผม แล้วไม่มีเครื่องช่วยที่ว่า พังมาทีตอนนี้กระเป๋าแฟบไปตามๆกัน ราคาต่อลูกตอนนี้น่าจะว่ากันที่หมื่นบาทขึ้น  ปีที่แล้วผมได้มาพร้อมเครื่องแค่เจ็ดพันห้า แต่ค่าขนส่งล่อไปสามพัน แต่มันได้ทั้งเครื่องทั้งเกียร ตอนนี้ก็เก็บไว้ รอลูกนี้กลับบ้านเก่าก่อน ลำพังประสิทธิภาพของมัน หากใช้งานจริงๆ แล้ว ขับดีๆเข้าใจมัน เกียรธรรมดาแทบไล่ไม่ทันอยู่แล้วครับ แค่เรากดลึกๆหน่อยก็พอ ของผมมันเป็นเกียรสาย ไม่กล่อง หากกดลึก เกียรหนึ่งก็เปลี่ยนที่หกพัน สองก็หกพัน(หากแช่ยาวๆคลิ๊กดาวค้างไว้) ก็ร้อยยี่สิบแล้วครับ พลักขึ้นดี ก็กระโจนต่อ มันรบได้กับเกือบทุกรุ่นอยู่แล้วล่ะ เฉพาะถนนเมืองไทย ที่มีแต่หลุม แต่สิ่งกรีดขวางที่เราไม่คาดคิด หารถมาต่อกรกับเรายากครับ ยิ่งความเร็วระดับเกินร้อยสี่สิบไปแล้ว และยิ่งในถนนหลวงด้วยแล้ว หากรถที่ใช้ความเร็วนี้น้อยมากๆครับ  แล้วยิ่งวิ่งๆไปทุกวันนี้ ประเด๋ววก็ด่านๆๆๆ      สำหรับผมแล้ว เห็นน้องๆเกียรโอโต้พัง ก็ยังเสียวๆเหมือนกัน แต่ผมซื้อเก็บตอนมันถูกๆไว้สี่ห้าลูก (เหอะๆๆ ไม่ได้ขายเน้อ เล่าให้ฟังเฉยๆ)  แต่ลูกที่ใช้อยู่ก็อึดมากครับ ตอนนี้น่าจะเกินสองแสนห้าไปแล้วครับ ยิ่งผมใช้หัวเชื้อพิเศษด้วย งานนี้ไม่รู้จะไปพังตอนกี่แสน แต่ก่อนมันพังก็มักจะเตือนกันเสมอไม่ใช้หรอครับ เท่าที่อ่านศึกษาดู ตอนนี้ยังปรกติครับ หากไม่มีหัวเชื้อที่ว่าอย่าไปลากแบบผมเด้อ พังแน่ครับ ไม่ช้าก็เร็ว ผมรอดเพราะเคล็ดล้บไม่ลับนี้ครับ ใช้มาน่าจะยี่สิบกว่าปี จนมันพัฒนาไปไม่รู้กี่สเตปครับ เอ็กวันอาร์เป็นสารเด็กๆเลยหากเทียบกับที่ผมใช้อยู่ครับ

หัวเชือของอะไร ราคาเท่าไรครับ

ชื่อยี่ห้อนั้นเขาเปลี่ยนไปเรื่อยครับ  สารตั้งต้นนำเข้าจากสหรํบอเมริกา ตัวที่ใช้อยู่ดีที่สุดในตลาดตอนนี้ครับ ราคาข้างกล่องติดไว้ ๒,๔๐๐ บาท ราคาขายทั่วไป ประมาณ ๑,๐๐๐ - ๑,๔๐๐ บาทต่อขวด ๓๐๐ ซึซึ  แต่ผมซื้อทียกกล่องใหญ่ เลยได้ในราคาต่อขวด ๖๐๐ บาทครับ  ยี่ห้อผมไม่แน่ใจ เด๋วพิมพ์ตามกล่องก็แล้วกัน ตามนี้ครับ

SERIE' 1  nano technology ENGINEproteceion

 แหะ.. แหะ..ไม่ได้ค่าโฆษณาเด้อ แต่ขี้เกียจตอบพีเอ็ม ตอบมันในนี้ล่ะ พีเอ็มไปถามผมเยอะเหลือเกิน ผมไม่ได้ขายเน้อแต่อนาคตอนางอไม่แน่เหมือนกันเน้อ แต่เคยแบ่งให้น้องในเวปนี้ไปลอง แต่จนแล้วจนรอด ก็ยังไม่ได้ลองซักกะทีครับ เด๋วผมเล่าให้ฟังเลยดีกว่าครับ จะได้เป็นวิทนายทาน เหอะๆๆ ไปหาคัดที่ตอบพีเอ็มมาเล่าดีกว่าชักไม่อยากพิมพ์แร้ว อิอิอิ ยังไงก็ต้องขออนุญาตคุณอัลฟ่ามา ณ ที่นี้ด้วยเด้อ ที่พาดพิง ขี้เเกียจพิมพ์จริงๆเน้อ อิอิ ยาวหน่อยก็อ่านเอาเน้อ ความรู้จากประสพการณ์ตรงจริงๆทั้งนั้น

นาซ่า มันยุคยี่สิบปีแล้วครับ พัฒนาออกมาฆ่าเคเอ็มที ซึ่งเป็นเทปล่อน(ตัวหลังเนี่ยสีดำสนิทเลย) แต่สารนี้มีข้อเสีย หากใช้นานเข้าๆ(หลายปี) มันจะไปอุดท่อทางเดินน้ำมันหรือท่อฉีดน้ำมัน ผมใช้ต่อเนื่องกันมาไม่ต่ำกว่าสี่ห้าปี เจอปัญหานี้ครับ หยุดใช้ทันที เครื่องพัง เฟืองไฟเบอร์(เครื่องโฮลเด้น มันไม่มีสายพานไทม์มิ่ง แต่ใช้เฟืองไพเบอร์แทน อีซูซุก็ลอกแบบมาครับ(มังกรทอง)แต่ดันเอาเฟืองเหล็กแทนไฟเบอร์ เสียงเลยดังกราวเลย เมื่อไม่มีน้ำมันไปฉีดตรงนี้ ก็แตกละเอียดเลยครับ ผ่าออกมาถึงได้เห็นข้อเสียมัน แล้วก็มีนาซ่าออกมาฆ่าตัวนี้ครับ ดีกว่า แต่ไม่นาน เอ็กซ์วันอาร์ก็ออกมาฆ่านาซ่าครับ วันนี้เอ็กซ์วันอาร์ไม่ได้พัฒนาต่อแล้วครับ เป็นพวกสารนาโนเข้ามาฆ่าเอ็กซ์วันอาร์ครับ มีหลากหลายยี่ห้อ หลากหลายเกรดครับ ปัจจุบันมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องซึ่งผมใช้มาต่อจากเอ็กซ์วันอาร์มาโดยตลอด หากกล่าวถึงสั้นๆก็คือสามสเตปแล้วที่พัฒนามา ผมใช้สเตปที่สองและสามครับ สเตปแรกไม่มั่นใจว่าดีกว่าเอ็กซ์วันอาร์ เลยยังใช้เอ็กซ์วันอาร์อยู่ครับ แต่พอหลังๆเอ็กซ์วันอาร์ชักโกงลูกค้า เล่นเอาน้ำมันเครื่องไปผสมผมก็เลิกใช้ครับ แล้วยังมีอีกซึ่งผมหอบขึ้นเครื่องบินกลับอุบล ตัวนี้เอาสารตั้งต้นของเอ็กซ์วันอาร์มากรอกขวด ผมจำชื่อมันไม่ได้แล้วครับ แต่ราคาโหดกว่าเยอะครับ ขายตรงให้ในหมู่เศรษฐีที่ใช้รถราคาแพง ผมเคยใช้แต่ก็ไม่ผ่านครับ หลงเชื่ออยู่ระยะหนึ่งเกือบเครื่องพังเหมือนกันเลยหยุดใช้ไปนานทีเดียวแล้วใช้สูตรใหม่ ถ่ายน้ำมันเครื่องพร้อมกรองทุกสองพันกิโล ประหยัดกว่า การสึกหรอน่าจะพอกันแต่ก็สึกหรอครับ ตรงนี้สิ้นสุด(การใช้)ในยุคของเรโนลต์ครับ ผมซื้อน้ำมันเครื่องทีเป็นกล่อง กรองเครื่องทีเป็นกล่อง ถ่ายทิ้งทุกสองพันกิโลมาหลายปีทีเดียว ใช้สูตรรถบัส รถทัวร์ครับ พวกนี้จัดการถ่ายเอง วิ่งอุบลกรุงเทพไปกลับ ประมาณสองเที่ยว ก็ถ่ายทิ้งพร้อมกรองเลยครับ วิ่งเป็นล้านๆกิโลเครื่องก็ยังปิ๊งอยู่เลย ผมลองใช้สูตรนี้ครับ แต่.........ปัจจุบันสู้สูตรที่กำลังจะบอกไม่ได้ครับ

เมื่อซักสามถึงห้าปีที่ผ่านมา สารที่กล่าวถึงแต่แรก ได้พัฒนาไปไกลมากครับ จนมีประสิทธิภาพสูงสุดในการหล่อลื่นเลยก็ว่าได้ครับ ทีนี้มาเริ่มกันที่สามห่วงสองคันนี้ กับเรโนลต์ในยุคสุดท้ายก่อนเลิกใช้ ผมได้สารนี้มาในราคาขายส่งครับ หากเราซื้อปลีกในสามปีที่แล้วตกขวดละแปดร้อยบาทครับ แต่ผมซื้อทียกกล่องเลยครับเลยได้ราคาถูกลงมาอีก ใช้ต่อเนื่องกันคุ้มกว่ามากครับ    ครั้งแรกที่ลองใช้(เปลี่ยนจากสูตรรถทัวร์เปลี่ยนทิ้งทุกสองพันกิโล)  ในข้างกล่องมันบอกว่าเคลือบได้สามแสนไมล์(นาซ่าบอกได้ประมาณหนึ่งแสน)  ผมก็เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องปรกติ(ปัจจุบันเกรดมันพัฒนาไปถึงเอสเอ็ม,เอสแอลแล้วครับ เดิมที่เปลี่ยนทิ้งทุกสองพันเกรดยังแค่เอสเจเองครับ) ผมก็แค่ยืดระยะออกมาอีกเป็นทุกห้าพันเปลี่ยนทิ้งพร้อมกรอง แล้วเติมสารนี้ที่ได้มาเป็นโหลหนึ่งขวด กับการถ่ายน้ำมันเครื่องสี่ครั้ง(ไม่รอให้สามแสนไมล์ดังที่มันโม้ไว้ครับ) ใช้ต่อเนื่องมาเป็นปีๆเลย วิ่งไปทั่วไทย แต่ไม่เคยโพสต์บอกเคล็ดลับนี้จนกระทั่งมีคนมาถาม ถึงเข้าไปโพสต์บอก เท่านั้นล่ะ พีเอ็มเพียบ แล้วคนเหล่านั้นที่ถามผมวันนี้เขาแฮ๊ปปี้ครับ หลายคนมั่นใจในน้ำมันเครื่องสังเคราะห์เพียวซินเทติค แต่ผมเคยใช้มาหมดแล้ว มันไม่ได้เจ๋งอย่างที่มันคุยไว้หรอก ดีแค่ระยะหนึ่งเท่านั้น แต่อีตอนมันเริ่มเสื่อมนี่สิ เครื่องยนต์เราพร้อมที่จะกลับบ้านเก่าได้เลยครับ   

แต่ล่าสุดที่เพิ่งได้ทดลองใช้ขวดแรก(ซื้อยกโหลอีกเช่นกันแต่ตัวนี้เป็นตัวปัจจุบันล่าสุดที่พัฒนาไปสเตปที่สามแล้วครับ ลื่นกว่าตัวที่ใช้แล้วเติมทุกสองหมื่นตามที่บอก เกาะแน่นกว่านานกว่า สลายตัวอยากกว่าอันนี้ใช้แล้วยืนยันได้เลยครับ)  มันต่างกันเห็นๆ วิ่งไปมุกเมื่อวานซืนรู้สึกได้เลยครับ ทีนี้คนขาย นอกจากมันขายแล้วยังใช้ตัวใหม่ล่าสุดนี้อีก ที่ร้านมันมีทุกเกรดทุกราคาเลยครับ ตัวนี้ดีที่สุด ณ วันนี้ อันนี้ไม่ต้องพูดถึงนาซ่า หรือเอ็กซ์วันอาร์ที่เล่าแต่แรกนะ มันกลายเป็นเด็กอนุบาลไปแล้วครับ ตัวที่ผมใช้เนี่ย ระดับปรมาจารย์เลยทีเดียว ผมเห็นเขาเทสใช้ลูกเหล็กสามสี่ลูก น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แพงๆ ได้สองสามลูกก็ดีมากแล้ว ส่วนใหญ่ไม่ผ่านครับ แม้แต่โมบิลวันก็ตามครับ ที่ผ่านแต่มันหาซื้อยากมากมีอันเดียวคือโอเมก้าครับ(ผมก็เคยใช้ซื้อทียกแกลลอนเลยเกือบๆสี่พันสมัยยี่สิบปีที่แล้วโน่นเด้อ) แต่มันก็ยังห่างไกลกับสารตัวนี้มากครับ ตัวนี้ที่ลองสิบสองลูก เครื่องเทสยังวิ่งเฉยลื่นเหลือล้นจริงๆ แต่ตัวที่ผมบอกเติมเพิ่มทุกสองหมื่นนั้น ได้แค่หกลูกครับ ผมถึงยอมจ่ายเพิ่มไงครับ งานนี้สงสัยคงมีการแบ่งปันแน่ครับ ผมซื้อจากตัวแทนที่อุบล จากราคาปลีกที่เขาขายขวดละหนึ่งพันถึงหนึ่งพันสี่ร้อยบาท ผมได้มาขวดละหกร้อยบาทครับ ตัวแรกได้มาขวดละห้าร้อยบาทครับหากซื้อปลีกก็มีเจ็ดแปดร้อยบาทขึ้นครับ ที่ขายในเวปเราน่าจะเป็นสเตปแรกหรือสองครับ หากสเตปสามเนี่ยต้องมีหนึ่งพันบาทต่อขวดขึ้นครับ

ต่อๆ   เจ้าคนขายมันบอกสูตรใหม่ครับ มันบอกว่าพี่ในข้างกล่องมันบอกว่าเคลือบอยู่ได้นานล้านไมล์ พี่ทำแบบผมเลย รับรองช่างโอเวอร์ฮอลไม่ได้รับประทานเงินพี่หลายปีเลยล่ะ แต่อย่างอื่นเสียไม่เกี่ยวเด้อ มันโม้ให้ผมฟังก่อนเปลี่ยนใจขยับสเตปมาเป็นตัวนี้ครับ แล้วก็จ่ายเงินเพิ่มให้มันอีกขวดละร้อยตามที่บอก ผมจะแบ่งกันใช้กับน้องชาย ซื้อทีก็ผมหก น้องชายหกขวด ตอนนี้เหลืออยู่ห้าขวดทดลองแล้วครับหนึ่งขวด ว่างเด๋วจัดเต็มเลยตอนนี้ยังติดงานต่อเนื่องอยู่ ไม่รู้ตอนไหนเหมือนกัน  คนขายมันบอกว่า พี่ใช้น้ำมันเครื่องที่พี่เคยใช้นั่นล่ะ แล้วเวลาถ่ายพร้อมกรองก็เอาเจ้าเนี่ยเติมลงไปหนึ่งขวดพร้อมกันเลย จากที่พี่เคยถ่ายทิ้งทุกห้าพัน พี่ก็ยืดมันออกไปเป็นหมื่นกิโล แล้วก็ถ่ายทิ้งพร้อมกรองแล้วเติมเจ้าเนี่ยลงไป ทีนี้ก็เลิกกันเลยเรื่องการบำรุงรักษา(ไม่สึกหรอ พี่ลองนึกดูสิมันรับได้สิบสองลูก(เที่ยบกับระยะใช้งานที่เครื่องเทสมันเร่งให้เราเป็นล้านๆกิโลนะพี่อันนี้มันโม้ไว้ ผมก็ฟังหูไว้หูก่อนล่ะ แต่สิบสองลูกเนี่ยผมก็ยิ้มอยู่ในใจแล้วครับคุณอัลฟ่า เหอะๆๆๆ) พี่ไม่ต้องไปเสี่ยงใช้เป็นล้านๆไมล์แบบมันโฆษณาหรอก ตัวแรกที่ผมใช้ก็ระบุไว้หน้ากล่องเลยว่าสามแสนไมล์ มันยังบอกผมให้เอาแค่สามหมื่นก็พอ แต่ผมก็ลดลงมาเหลือสอง ตัวนี้มันมาสูตรใหม่ซึ่งผมเพิ่งได้ลองวิ่งไกลก็แค่มุกดาหารเอง แอร์เพิ่งเสร็จ แต่ผมกล้าบอกได้ว่า มันลื่นกว่าเดิม เจ้าเจมส์บรอนด์สายพานแอร์มันดังเอี๊ยดๆๆๆ เวลาสตาร์ทตอนเช้า ผมแค่เอาไปป้ายนิดเดียว เงี่ยบสนิทเท่าทุกวันนี้เลย มันก็เคลือบอยู่นั่นล่ะ

น่าซ่าผมซื้อที่งานมอร์เตอร์โชว์ ได้ขวดละไม่ถึงพันนะจำไม่ได้แล้วปีไหนแต่ก็เกือบๆพัน นี่ขายกันพันเจ็ดเลยหรอครับ กำของคนใช้จริงๆ    ที่กำลังจะบอกซึ่งผมก็ไม่เคยขายอะไรนอกจากธุรกิจของครอบครัวที่ลงในกระทู้เดียวนั่นล่ะ หากจะเคยเห็น เป็นริชชี่เวย์อุบลราชธานี ผมกำลังจาบอกกับคุณอัลฟ่าว่า จาแบ่งเอาไปใช้ทดลองดูไหม แต่หากเอาก็อย่าเอาทีละขวดเอาทีสามขวดนะ เพราะผมไม่ค่อยมีเวลาไปส่งให้ หากบอกแฟนก็คงโดนบ่นอีกนั่นล่ะคงให้แฟนไปส่งให้ครับ ปรกติเค้าก็ส่งสินค้าเพื่อสุขภาพให้ลูกค้าอยู่แล้วครับ ผมคิดเท่าที่ได้มาล่ะในเวปเราเขายังขายแพงกว่านี้แต่เกรดต่ำกว่ามากครับ ขวดละหกร้อยสามขวดก็พันแปดใช้ยาวๆสามหมื่นกิโล หรือถ่ายน้ำมันเครื่องซักเจ็ดแปดครั้งค่อยเติมก็ได้ แต่สูตรแรกน่าจะดีกว่าแน่ครับ เปลืองหน่อยแต่เจ๋งกว่าแน่นอนครับ แบบนี้พอไหวไหม วางเครื่องหมดไปหลายหมื่น แต่ค่ารักษาแค่นี้ให้มันอยู่กะเรานานๆผมว่าไม่แพงนะ ที่ผมบอกว่าเปลี่ยนทีเกือบๆสองพันบาท ก็ทั้งเกียรก็ใส่ครับ แต่ผมยังไม่ว่างทำเท่านั้น ใส่เข้าไปในเกียรก็ได้นะครับ ยิ่งขับหลังน้องผมมันใส่ในเฟืองท้ายอีกครับ แต่เฟืองท้ายใส่ครึ่งเดียว เกียรใส่ขวดหนึ่งครับ จากพันเจ็ดเหลือหกร้อย แบบนี้เป็นยังไง อันนี้ผมแบ่งปันในฐานะที่ได้ราคามาพิเศษครับ ผมไปเอาอีกก็ได้ราคานี้ครับ น้องผมมันมีรถหกล้อ ไฮแลนเดอร์ กับสามห่วง หกขวดของมันแป๊ปเดียวก็หมดครับ เฉพาะไฮแลนเดอร์ก็สองแล้ว สามห่วงอีกหนึ่ง อ้อ ตอนนี้มันขายหกล้อไปแล้ว กับมังกรทองอีกคัน(อันนี้ไม่แน่ว่าขายไปยัง)  เด๋วก็มาบอกให้ผมไปจัดมาให้อีกครับ  สนใจก็บอกครับ ไม่ก็ไม่เป็นไร เอาของดีๆแบ่งปันกันไปใช้ อ้อ หากเอาก็ขอค่าแพ็ค ค่าส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนอีกร้อยก็แล้วกันเด้อ รวมเสร็จสามขวด พันเก้า เลขกำลังดี งานนี้เอาไป เครื่องหนึ่ง น้ำมันเกียรอีกหนึ่ง อีกหนึ่งไว้ครบหมื่นค่อยจัด  ผมเองยังสองจิตสองใจอยู่ว่า จะเอาลงขายในเวปดีไหมยอมรับว่ามันเจ๋งจริงๆ ระดับเทพเลยครับ แต่หากลงก็คงขายใกล้เคียงกับที่เขาขายนั่นล่ะ มันมีผลกระทบหลายอย่าง เค้าให้เราในราคานี้เพราะเราเป็นลูกค้าวีไอพีเค้า แล้วดันจะมาขายตัดราคาเค้าเนี่ย ผมก็ยังคิดอยู่ว่ามันจะมีผลยังไง แต่กับคุณอัลฟ่า ไม่เป็นไรแบ่งปันให้ก็แล้วกัน เพราะรู้กันในวงในไม่ได้เปิดเผย แล้วคนขายมันก็รู้ว่าผมกับน้องมีรถกี่คัน แล้วซื้อที่มันประจำครับ แล้วมันยังรู้ว่าผมเดินทางตลอดทั้งปี แป๊ปเดียวก็แสนกิโลแล้ว ดังนั้นไม่แปลกที่ผมจะไปซื้อมันบ่อยๆครับ ไว้คิดนานๆอีกที กับลองใช้ให้มันถึงหมื่นกิโล น่าจะแค่เดือนเดียวสำหรับรถผมนะ ค่อยมาว่ากันถึงเรื่องธุรกิจ สำหรับผมเงินไม่ใช่ตัวตั้งครับ เป็นแค่เครื่องมือชนิดหนึ่งแต่ไม่ได้สำคัญที่สุดครับ สุขภาพที่ดี กับจิตที่ดีคิดดีทำดีต่างหากครับ แล้วการเสียสละเฉลี่ยเจือจานแบ่งปัน เป็นสิ่งที่สำคัญกว่าครับ 

 สุดยอด สุดยอด สุดยอด สุดยอด สุดยอด สุดยอด สุดยอด สุดยอด สุดยอด คำนับ

บันทึกการเข้า

หน้า:  «  1 [2]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!