เครื่องยนต์ในสภาวะปกติจะให้เสียงเครื่องเรียบและจังหวะสม่ำเสมอ และเสียงจะเปลี่ยนไป โดยสัมพันธ์กับอัตราเร่ง และเมื่อใดก็ตามเสียงรถที่ขับอยู่เป็นประจำเปลี่ยนไป นั่นแสดงว่ามีความผิดปกติกับรถของคุณแล้ว และวันนี้เราจะอธิบายว่าเสียงแต่ละอย่างบ่งบอกถึงอะไร เพื่อให้คุณหาทางแก้ไข ก่อนมันจะลุกลามส่งผลเสียหนักหนาขึ้นกับรถคุณ
เสียงกรี๊ดแหลมเสียงนี้จะสังเกตได้ง่ายช่วงรถติดใหม่ๆ ซึ่งที่มาของเสียงมักมาจากสายพานขับเคลื่อนข้างเครื่อง เช่น สายพานปั้มพวงมาลัยพาวเวอร์ สายพานไดชาร์จ สายพานคอมเพรสเซอร์แอร์ ถ้าสายพานเก่าเกินไปสายพานก็จะกระด้าง และมีเสียงกรี๊ดแหลม มาจากเสียงสีกันของร่องพูเลย์ และหน้าสัมผัสด้านข้างของสายพาน
เสียงรัวคล้ายโลหะกระทบกันเมื่อได้ยินเสียงคล้ายโลหะหลายชิ้น กระทบกันโดยไม่ดังมากแต่จังหวะสม่ำเสมอ และพอเปิดฝากระโปรงฟังดูเสียงจะมาจากเหนือฝาสูบ โดยมากมักจะเป็นเสียงของวาล์ว เช่นระยะห่างระหว่างกระเดื่องวาล์วกับก้านวาล์ว ห่างเกินไป
อาการนี้ ถ้าเกิดกับรถใหม่ ก็เป็นเพราะการตั้งระยะห่างของวาล์วคลาดเคลื่อน แต่กับรถเก่าจะเกิดจากการสึกหรอตามอายุการใช้งาน
หมายเหตุ : ระยะวาล์วห่างมากเกินไปไม่สร้างความเสียหายให้กับเครื่องยนต์ แต่จะทำให้ลดประสิทธิภาพเครื่องยนต์ลง
เสียงเคาะหนักๆ แน่นๆถ้าได้ยินเสียงดังหนักๆ คล้ายค้อนมาเคาะให้ห้องเครื่อง เป็นระยะ ให้รีบหาที่จอดทันที ตอนนี้เครื่องยนต์ของคุณเจอปัญหาหนักแล้ว ซึ่งเสียงแบบนี้มักมาจากชิ้นส่วนในเครื่องยนต์สึกหรอมากจนการเครื่องไหวเสียสมดุล เช่น ลูกสูบ เพลาข้อเหวี่ยง แบริ่งก้านสูบ สลักลูกสูบ ไปกระทบกันในมุมที่เราไม่ต้องการ หรืออีกกรณีหนึ่งคือเครื่องยนต์ทำงานโดยไม่มีน้ำมันเครื่องหล่อลื่นอยู่เลย
เสียงท่อไอเสียกับปัญหาเสียงที่ดังมาจากท่อไอเสีย มักสังเกตไม่ยาก เพราะเสียงมันดังเด่นชัด แถมดังเผื่อแผ่ไปไกลหลายบ้านทีเดียว ซึ่งมักจะเป็น หม้อพักไอเสียที่ไส้ล้ม หรือมีการรั่วของระบบไอเสีย ในจุดต่างๆ
เสียงดังเมื่อเหยียบเบรกเมื่อคุณเบรกแล้วได้ยินเสียงโลหะสีกัน นั่นคือเสียงเตือนว่าผ้าเบรกใกล้หมด
ในกรณีของดิสเบรก ผ้าเบรกทุกตัวจะมีลิ้นเหล็กยื่นออกมาข้างๆ ตัวผ้าเบรก ถ้าผ้าเบรกใกล้หมด ลิ้นตัวนี้ก็จะยิ่งเข้าใกล้จานเบรกขึ้น และเมื่อกดเบรกลิ้นก็จะไปสีกับจานเบรกจนเกิดเสียง เสียดสีแหลมๆ เตือนให้เราได้รู้
กรณีของดรัมเบรก จะไม่มีลิ้นโลหะที่จะส่งเสียงเตือนแบบดิสเบรก แต่ถ้าใกล้หมดก็จะได้ยินเสียงเช่นกัน แต่เสียงจะต่างออกไป คือเสียงเสียดสีแบบ หนักๆ ผืดๆ มาจากล้อหลัง
เสียงดังปัง ๆขณะขับรถ ถ้าได้ยินเสียงดังปัง คล้ายเสียงประทัด ดังเป็นระยะ และจะได้ยินบ่อยขึ้นเมื่อเร่งเครื่อง บ่งบอกว่าการจุดระเบิดของเครื่องยนต์ ไม่ถูกต้อง ซึ่งเสียงอาจจะออกมาจากเครื่องยนต์เลย หรือไปออกด้านท้ายคือท่อไอเสียก็ได้แล้วแต่จังหวะ
ซึ่งเสียงดังปังนี้มักจะตามมาด้วยอาการเครื่องสะอึก สั่นดับ และการจุดระเบิดไม่ถูกต้องนี้ มีสาเหตุมาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงไม่สมบูรณ์ โดยมักจะพบในรถเก่า โดยเฉพาะรถคาร์บูเรเตอร์ ที่อุปกรณ์เริ่มเสื่อมสภาพ
และอุปกรณ์ที่เป็นสาเหตุของปัญหานี้ก็มีหลายตัวให้ต้องค้นอีกด้วย ตั้งแต่ หัวเทียน สายหัวเทียน จานจ่าย คอลย์จุดระเบิด แอร์โฟล์ ลิ้นปีกผีเสื้อ กรองอากาศ วาล์วจ่ายน้ำมัน หรือรถใช้แก็สก็ต้องมาตรวจระบบแก็สเสริมไปอีก ว่าตัวไหนกันแน่ที่เสีย
เสียงจากหัวเพลาขับขณะเลี้ยวรถ ถ้าได้ยินเสียงแกร็กๆ จากล้อหน้า แสดงว่าตลับลูกปืนในหัวเพลาสึกหรอ เพราะยางที่หุ้มหัวเพลาฉีกขาด จนฝุ่นและน้ำสามารถเข้าไปในตลับลูกปืน ทำให้จาระบีที่หล่อลื่นลูกปืนเสื่อมสภาพ และสึกหรอ จึงส่งผลให้มีเสียงดังขณะเลี้ยว ถ้าปล่อยไว้จะยิ่งหนักขึ้น จนถึงขั้นลูกปืนติดตายหรือแตก ไม่สามารถเลี้ยวได้
ข้อมูลจาก
วิธีประเมินอาการผิดปกติ จากเสียงของรถยนต์http://www.toyotanon.com