แบตเสื้อม หรือว่า สัญญาญกันโขมยกินไฟ

[pans]

เรื่องของเรื่องคือว่า จอดรถทิ้งไว้ 2-3 วันติดต่อกันโดยไม่มีการสตารท์เครื่องยนต์เลย พอจะสตาร์ทไฟแบตตเหลือแค่ 8-9 โวลล์ ทำให้ไม่สามารถสตารท์รถได้ ไฟไม่พอ ตอนแรกคิดว่าไฟรั่วลงกราวด์ เข้าร้านเช็คไม่พบไฟรั่วแต่อย่างใด ลองชาจร์แบตจนเต็ม ทิ้งไว้โดยที่ยังไม่ต่อขั้วบวกขั้วลบ ทิ้งไว้ 5 วัน ลองเอามาต่อสายปรากกฎว่าไฟยังอยู่ 12 โวลล์ รถสามารถสตารท์ได้ ลองทิ้งไว้ใหม่โดยไม่ถอดขั้วแบตออก ไม่เกิน 3 วันแบตตหมดอีกแล้ว เอาเข้าไปเช็คที่ร้าน (เป็นคนละร้านกับร้านแรกลองเปลี่ยนช่างดู) ช่างวัดไฟได้ 30 มิลลิแอมป์ ช่างบอกว่าปกติไม่มีไฟรั่ว รถโดยปกติจะมีไฟไปเลี้ยงวงจรต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา เราก็อธิบายว่าแล้วทำใมเวลาถอดขั้วแบตตออกแล้วทำใมไฟในแบตเตอรรี่ถึงไม่หมด (ถ้าแบตเสื่อมเก็บไฟไม่อยู่) ช่างเขาอธิบายว่า ถ้าไม่ได้ต่อพ่วงสายไว้ ไฟไม่ได้ถูกใช้เลย ก็ไม่หมด แต่ถ้ามีการต่อพ่วงสายเมื่อไร แบตที่เก็บไฟไม่ดีอยู่แล้ว จะหมดเร็วกว่าปกติ แต่ถ้าขับทุกวันไม่มีปัญหาอะไรครับ ตอนนี้ผมกำลังจะไปหาช่างร้านที่ 3 ถ้าตรวจแล้วไม่พบไฟรั่ว ผมคงต้องเปลี่ยนแบตใหม่แน่ ๆ เลย อ้อแบตที่ใช้อยู่อายุ 1 ปีกับอีก 3 เดือน ครับ

[smilegames]

ถ้าคิดว่าเป็นที่กันขโมย ลองถอดกันขโมยออก  แต่ผมว่ามันกินไฟนิดเดี่ยวนะ เครื่องเสียงลองเช็คดูหรือยังครับ ไฟรั่วบ่อยนะ