วันนี้ (14 กุมภาพันธ์) พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น. กล่าวว่า ราชกิจจานุเบกษาได้ลงประกาศ พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่
พ.ศ. 2551 เพิ่มข้อบังคับใน (9) มาตรา 43 ตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซึ่งกฎหมายดังกล่าวกำหนดห้ามใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถยนต์ เว้นแต่ใช้อุปกรณ์เสริม
ทั้งนี้ หากผู้ใดฝ่าฝืนจะมีโทษปรับตั้งแต่ 400 ? 1,000 บาท โดยมีผลบังคับใช้ภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ออกประกาศคือ ตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม นี้ เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต. ภาณุ กล่าวอีกว่า ได้ปรึกษาแล้วกับ พล.ต.ต.วิษณุ ม่วงแพรสี ผบก.ตำรวจจราจร ได้ข้อสรุปแนวทางบังคับใช้ผู้ขับขี่ โดยมีเกณฑ์ปฏิบัติคือ หากตำรวจจราจรใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถยนต์ หรือขี่จักรยานยนต์จะจับกุมทันที เพราะเป็นเหตุซึ่งหน้า นอกจากนี้ ยังเตรียมจัดซื้อกล้องถ่ายภาพดิจิตอลขนาดเล็กมอบให้ตำรวจจราจร 88 สน. ทั่วกรุงเทพฯ ประมาณ 3 พันนาย ไว้ใช้บันทึกภาพผู้ฝ่าฝืนขณะตั้งด่านตรวจบนถนน คาดต้องใช้งบประมาณ 5 ล้านบาท
"ในทางปฏิบัติยังอนุโลมให้ตำรวจจราจรใช้กล้องดิจิตอล โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพผู้ฝ่าฝืน ใช้โทรศัพท์มือถือไว้เป็นหลักฐานและนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ท้องที่ เพื่อออกหมายเรียกผู้ต้องหาได้ถึงบ้านและนำตัวมาดำเนินคดีได้ในภายหลังแม้จะขับรถหลบหนีไปได้" พล.ต.ต.ภาณุ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้กำชับสารวัตรจราจรทั้ง 88 สน.ให้เร่งประชาสัมพันธ์ไม่ให้ผู้ขับขี่ฝ่าฝืน ก่อนจะเริ่มกวดขัน จริงจัง อยากให้ประชาชนเคารพกฎหมายไม่ต้องคอยหลบหลีกเจ้าหน้าที่ เพียงแค่ใช้อุปกรณ์เสริม เช่น บลูทูธ หรือสมอลทอล์ก ไม่อยากให้ต้องถูกจับกุม แต่ตำรวจขอให้มีจิตสำนึกด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากกว่า
ข้อมูลจากไทยโพสต์
ไปเห็นมาจาก
http://rcweb.net/forums/showthread.php?t=447664 ช่วยกันดูหน่อยคับ จริงเท็จประการใด