ผมว่าร้านที่จูน เขาก็ไม่ได้จูนอะไร ดีมากมายอะไรนะครับ.. สูตรการจูนก็เหมือนๆกันกับที่มีคน โพส เอาไว้นั้นแหละครับ
และโดยส่วนตัวแล้วผม ก็ไม่ค่อยชอบ.. เพราะ จูนมาบางเหลือเกินเหยียบไม่พุ่ง จูนเองถูกใจกว่าครับ
จริงๆ ถ้าชอบทำโน้นทำนี้เองอยู่แล้ว... ผมแนะนำว่า ... ลองหา AF มาติดครับ ตัวละ ร้อย สองร้อย จะได้ดูจะจะไปเลย .. ว่า แต่ละความเร็ว เวลาอยู่บนท้องถนนจริงๆ มันหนามันบาง อย่างไรหรือบาง แล้วค่อยมาถามๆกัน
คือจริงๆแล้วผมเพิ่งซื้อรถมาใช้งานแล้วเห็นว่ารุ่นนี้มันติดแก๊สง่ายแล้วไม่มีปัญหา (4a-fe) แต่ทำไมไม่รู้ว่าเพราะอะไรไปที่ไหนเวลาจูนก็ไม่เคยได้ถูกใจเลย ตัวผมเองต้องการประหยัด อาจจะมีเหยียบ เร่งบ้าง บางจังหวะ แต่นี่รูสึกว่ามันกินมากๆเลยอะครับ ล่าสุด ผมโดนจะจะ 1ถัง 570 บาท ประมาณ 50กว่าลิตร ปัจจุบัน วิ่งเลยมาครึ่งถังแล้วได้ระยะทางที่ 200 โลครับ งงอย่างแรงครับ เลยอยากจะขอรบกวน ช่วยแนะนำหน่อยหรือถ้าจำเป็นต้องเปลี่ยนหม้อต้มจริงๆ ก็อาจจต้องยอม เพราะเห็นเขาว่า หม้อต้มของผม (Logas) มันจูนยากเลยอยากขอคำแนะนำร้านที่พอจะจูนเก่งๆหน่อยอะครับ หลายร้านละครับ ปวดหัว เจ็บใจ หลายอย่างเลยครับ
เห็นบอกว่า ทำงานแถวรัชดาด้วย...
ผมทำงานแถวอโศก... ย่านนี้ ตอนรถติดไอเสียเยอะ O2 จะต่ำครับ.. ถ้าร้านที่จูนอยู่แถวชานเมือง.. ถ้าตังจูนพอดีเวลาวิ่งเข้ามาในเมืองจะหนาตลอด เวลาจูนควรจะจูน พอดี-บาง ไว้หน่อย พอเข้ามาในเมืองจะได้พอดีหรือหนาเพียงเล็กน้อย (ถ้าเกิดวิ่งแล้วหนา... แปลว่า เราปล่อยแก๊สทิ้ง โดยไม่ได้ประสิทธิภาพเต็มที่)
เรื่องจูน... บางคนอาจจะบอกว่าเจอมือดีๆ จูนที่เดียวก็จบ.... แต่สำหรับผมไม่ค่อยอยู่สุข..มันไม่เคยจบครับ.. ส่วนหนึ่งมันอยู่กับวิธีการขับแต่ละคนด้วย.. บางคนชอบกระทืบเร่งเร็ว... อยากให้ขับมันก็ต้องจูนอีกแบบ อยากให้ประหยัดก็อีกแบบ ใช้ไปเรื่อยๆ อุปกรณ์มันก็จะเคลื่อน... ท่อแก๊สอาจะงอแล้วตีบลง มีขี้แก๊สไปติดบ้าง.. ผ้าในหม้อต้มเริ่มอ่อนลงบ้างสปริงเริ่มล้าลงบ้าง.. กรองอากาศอาจจะสกปรกบ้าง... ก็อาจจะต้องปรับจูนบ้างเล็กน้อย...
เลยอยากให้ลองดูเองปรับเองดูครับ...
รถผม เครื่อง 1500 ผมยังเอาแค่ 8-9 km/lt นะครับ เหยียบสบายดีไม่อึดอัด ถ้าอยากได้ประหยัด กด Sen ลงต่ำๆ กะทืบไม่ออก เหยียบไม่พุ่ง ก็คงประหยัดได้มากกว่านี้ ... แต่ขับแล้วเหนื่อยครับ
รถที่ติด Lamda จะมีดีกว่ารถที่เป็น Fix Mix อย่างหนึ่งก็ตรงที่ ... สามารถเปิด Sen เยอะๆให้ Lamda ปรับ Power Valve ลดแก๊สไม่ให้หนาได้.. ทำให้เร่งง่ายไม่กินแก๊สมาก.... แต่ไม่ประหยัด (เพราะมันพยายามปรับไม่ให้บางด้วย)
Sen = Sensitivity ส่วนใหญ่จะเป็นการปรับความแข็งของสปริงที่ใช้กดวาล์ว หมุนเข้าจะเป็นการกดสปริงให้แน่น ทำให้ต้องใช้แรงดูดที่สูงขึ้นถึงจะเปิดวาล์วปล่อยแก๊สออกมาได้ถ้าหมุนแน่นมากๆจะกดคันเร่งไม่ขึ้นเพราะแรงดูดไม่พอไปเปิดวาล์ล หมุนออกก็ใช้แรงดูดน้อยลงหมุนออกมากๆ... ซึมวาล์วปิดไม่สนิทเอาแน่เอานอนไม่ได้
Idle = ปกติเป็นวาล์ที่เปิดโดยไม่เกี่ยวกับแรงดูด
Power Valve = เป็นวาล์วที่จำกัด อัตราการไหลของแก๊ส เปิดน้อยเกินไป รอบปลายจะเร่งไม่ขึ้น แก๊สไหลไม่พอ
รถที่จะจูนเอาประหยัด .. จะเปิด Idle ให้บางๆ พอให้เครื่องวิ่งไม่สะดุจ แล้วปรับ Sen แข็งๆ พอให้เร่งขึ้นได้ ถ้าเอา AF จับ .. เวลาเหยียบคันเร่งขึ้นจะบางก่อนพอรอบเริ่มขึ้นถึงจะเริ่มมาทางพอดี
รถจูนแบบเหยียบเอามัน .. จะเปิด Idle น้อยๆ หรือปิด Idle ไปเลย เปิด Sen ออกมากๆ สุด .. เหยียบที่ กลิ่นแก๊สหึ่ง .. AF หนาสนิท
ผมว่า อดทนเก็บตังอีกหน่อย upgrade เป็นหัวฉีดไปเลยดีกว่า น่าจะประหยัดกว่าเร่งสะใจกว่า ..
เพราะ ผม พึ่งเปลี่ยนจาก หม้อต้ม Magic หม้อต้ม อินเดีย ที่พอใช้ได้แต่จูนยาก มาเป็น Tomasetto ที่เขาว่า จูนง่าย...
เปลี่ยนมาช่างที่อู่ จูนมาให้ .... บางสนิท ทั้ง Idle และตอนเหยียบ.. ก็วิ่งได้ไม่สะดุจ.. แต่เหยียบไม่สะใจ
พอใส่ Lamda กลับเข้าไป จูนเอง เน้นขับสบาย วิ่งออก Idle ไม่หนาไม่บาง ที่เหลือ Lamda จัดการให้ผลออกมา ... กิน พอพอกับหม้อต้มเดิม... แค่อาจจะจูนง่ายกว่าหน่อย .. คงเส้นคงวากว่า
ก็ประมาณ 8-9 Km/lite เหมือนเดิม
ผมน่ะเสียดาย.... ใจอยากได้ หัวฉีดมากกว่า ..แต่ต้องเปลี่ยนเป็นหม้อต้มไปก่อน เพราะ ตัวเก่ามีปัญหา
เปลี่ยนและจูนที่ร้านแถวไหนเหรอครับเผื่อผมจะแวะเข้าไป ให้เค้าลองจูนดูบ้าง ไม่ไหวอะครับ กินมากๆเลย 1ถังวิ่งไม่เคยเกิน 400 โลซะที (จูนมาใหม่ก็ยังไม่ถึง) แพงเหลือเกินอะครับ