Dual VVT-i เป็น เทคโนโลยี่ ที่ Toyota กำลังจะทิ้งแล้วครับ มีมาใหม่กว่านั้่น คือ Vavlematic (เอาลิ้นปีกผีเสื้อออก แล้วควบคุมการ กระทุ้ง ตื้น-ลึก และ overlap เอาเพื่อควบคุมไอดี) ซึ่งจริงแล้วมันก็มีข้อดีอยู่พอสมควร VVT-i ฝั่งไอเสียที่ติดตั้งมามันจะช่วยการลดมลพิษ เพราะสามารถควบคุมการไหลของไอเสีย ออกไปจากห้องเผาไหม้ได้ ช่วยเรื่อง EGR คือ เพิ่ม overlap เพื่อให้ไอดี ไหลไปรวมกับไอเสีย เพื่อขจัด Nox ซึ่งจะทำให้ Catalyzer ทำงานได้ดีขึ้น
กำลังที่เพิ่มขึ้นจาก Dual VVT-i จาก VVT-i ด้าน intake ด้านเดียวนั้น เพิ่มขึ้นไม่้เท่าไหร่ แต่การตอบสนองแรงบิด ต่อรอบเครื่องนั้นจะทำได้ดีขึ้น และความประหยัด ก็ไม่ได้มากขึ้นเท่าไหร่ แต่ก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดคือเรื่องมลพิษที่ลดลงไปเยอะ ซึ่งคนไทยอาจจะไม่มอง มองกันแค่ความแรง
เห่อ ๆ ดี ๆ ๆ ทิ้งได้ แล้ว VVT-i เปลี่ยนเป็น VVTL-i ให้หมด
ทำตลาด new vios 1.5 VVTL-i 149 แรงม้า
โอกาศ กลับไปทำ VVTL-i คงเป็นไปได้ยากมากแล้วครับสำหรับ Toyota เพราะอย่างที่ผมบอกมุมมอง VTEC ที่ Toyota มอง
นอกจากจะไม่ลด Pumping lose แล้วยัง เป็นตัสสร้างมลพิษ เพราะโปรแกรมระยะกดลงของวาล์วแบบ Step ไม่ได้
ทำได้คือ กดลึก กับไม่ลึก 2 step แต่แรงม้าได้มากขึ้นแน่ ๆ ไม่ประหยัด และมีมลพิษ
Toyota มุ่งไปที่ Valvematic มากกว่าครับ คือการรวมกับของ Dual VVT-i กับ VTEC ที่โปรแกรมระยะกดวาล์วได้แบบ
ละเอียดมาก ซึ่งก็ทำให้สามารถถอด Throttle ออกไปได้เลย ใช้วิธีการกดคันเร่งแล้วกล่อง ECU จะไปสั่งให้วาล์วไอดี เปิดตื้นหรือ ลึก หรือ
offset timing เรียกกว่าคุมได้แบบ 3 มิติโดยแท้เลย