17 พฤศจิกายน 2024 00:57:23
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ค้นหา
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
AE. Racing Club
>
AE Racing Club - Knowledge Sharing
>
รวมบทความ ความรู้ต่างๆ
(ผู้ดูแล:
Handyman
) >
การขัด-เคลือบสีรถยนต์
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« กระทู้ที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: การขัด-เคลือบสีรถยนต์ (อ่าน 15931 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
anunt_k
นักแข่งมือสมัครเล่น
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 401
การขัด-เคลือบสีรถยนต์
«
เมื่อ:
06 มกราคม 2010 10:42:28 »
การขัดเคลือบสีรถนั้นไม่ใช่ขึ้นต้นมาก็ลงมือขัด ๆๆๆๆ กันเลย เพราะถ้าหากต้องการให้สีรถออกมาดูดีที่สุดก็ควรจะต้องทำให้ครบทุกขั้นตอน เนื่องจากกระบวนการในการขัดสีรถจะต้องเริ่มตั้งแต่การขจัดเศษฝุ่นละอองไปจนถึงการเคลือบป้องกันรังสี UV กันเลย
กระบวนการหรือกรรมวิธีเคลือบสีนี้จะแบ่งออกเป็นขั้นตอนต่าง ๆ ได้หลายขั้นซึ่งหากคุณใช้วิธีขับรถไปเข้าคาร์แคร์ก็ไม่เป็นไร เพราะเขาจะจัดการให้เสร็จเรียบร้อยทุกอย่าง (ยกเว้นเรื่องจ่ายเงิน คุณต้องทำเอง) แต่ถ้าไปเข้าร้านที่ไม่ค่อยลงทุนสักเท่าไหร่ ขั้นตอนต่าง ๆ ก็จะถูก หด ลงไป รวมทั้งคุณภาพของตัวน้ำยาที่ใช้ก็เป็นเกรดธรรมดา หรือต่ำกว่าธรรมดา (เพราะต้องการดึงราคาค่าบริการให้ต่ำลงจนดึงดูดความสนใจ) บางทีแทนที่จะเป็นการรักษาสีรถก็กลายเป็นทำลายสีรถไปเลย จึงอยากแนะนำให้เดินหาซื้อมาด้วยตนเองจะดีที่สุดเพราะเราสามารถเลือกระดับคุณภาพของตัวน้ำยาเหล่านี้ได้
ข้อควรคำนึง คือ ควรใช้ผลิตภัณฑ์ยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาล้าง ขึ้นผึ้งและครีมขัดในทุกขั้นตอน สาเหตุหนึ่งที่บอกว่าควรใช้ยี่ห้อเดียวกันก็เพราะสารประกอบที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ยี่ห้อเดียวกันนั้นจะไม่ขัดกันเองเหมือนกับการนำของต่างยี่ห้อมาใช้งานร่วมกันซึ่งบางครั้งสารเคมีที่ใช้อาจจะเป็นคนละตัวกันและมีฤทธิ์หักล้างซึ่งกันและกัน
มาเริ่มต้นที่กระบวนการขัดเคลือบสีรถกันดีกว่า ขั้นแรกคือการเลือกซื้อน้ำยาให้ครบชุด ซึ่งจะประกอบด้วย น้ำยาล้างรถชนิดที่เป็นแชมพู บางคนอาจจบอกใช้แชมพูสระผมก็ได้ อันนั้นเป็นความคิดที่ผิด อย่าไปเอาอย่างพวกล้างแท็กซี่เลย รถเราราคาตั้งหลายแสนหลายล้านแล้วก็ไม่ใช่รถสาธารณะด้วย ทำไมถึงไม่ได้ล่ะ ? จะบอกให้ว่า ตัวสูตรผสมของแชมพูทั้งสองชนิดนั้นจะมีพื้นฐานเดียวกันคือ จะมีสารที่ทำให้เกิดฟองเหมือนกันแต่ความแตกต่างอยู่ตรงที่ตัวทำความสะอาดชนิดที่ไม่ทำอันตรายแก่สีรถแล้วยังต้องช่วยรักษาความเงาของเนื้อสีเอาไว้ให้ได้ด้วย นั้นคือ คุณสมบัติที่รถยนต์ต้องการ ส่วนสำหรับเส้นผมเขาก็ต้องผสมสารต่าง ๆ มาให้เพื่อใช้กับเส้นผมโดยเฉพาะ ซึ่งสารพวกนั้นสีรถไม่ต้องการใช้ไปนาน ๆ เข้าสีรถจะเริ่มด้านขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน
เริ่มต้นขั้นตอนกันตั้งแต่การทำความสะอาดรถเสียก่อน โดยใช้ไม้ขนไก่ปัดฝุ่นผงต่าง ๆ ออกเป็นอันดับแรกด้วยวิธีปัดไล่ไปทางเดียวตรง ๆ อย่าปัดย้อนไปมาเด็ดขาดเพราะจะเท่ากับพาเอาฝุ่นผงกลับมาที่เดิม แถมเป็นการขัดสี (ให้เป็นรอย) ไปอีกด้วย จากนั้นให้ใช้น้ำยาล้างรถผสมกับน้ำเปล่าในอัตราส่วนที่เขากำหนดเอาไว้ ซึ่งปกติก็จะอยู่ประมาณ ฝ ฝาต่อ 1 แกลลอน (คิดแบบไทย ๆ ก็ 1 ฝาต่อน้ำ 1 ถัง) สำหรับรถขนาดเล็ก และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามขนาดของตัวรถที่โตขึ้น การล้างรถที่ให้ผลดีที่สุดจะต้องใช้ฟองน้ำ 2 แผ่น หลังจากฉีดน้ำเปลา เพื่อล้างฝุ่นไปรอบหนึ่งแล้ว ให้เอาฟองน้ำแผ่นแรกล้างส่วนบนของตัวรถตั้งแต่หลังคาไล่ลงมาถึงประมาณส่วนกลางของตัวรถ ล้างให้รอบคันเสร็จแล้วจึงเปลี่ยนฟองน้ำอันใหม่มาจัดการล้างส่วนด้านล่างต่อให้จบ เหตุที่ต้องให้เปลี่ยนฟองน้ำถึง 2 อันก็เพราะว่าอันแรกจะล้างส่วนบนที่ไม่ค่อยจะมีเศษฝุ่นทรายแต่ส่วนล่างจะมีฝุ่นทรายมาก หากใช้แผ่นเดียวแล้วพอนำเอามาล้างครั้งต่อไปเศษฝุ่นทรายที่ตกค้างอยู่ในฟอนน้ำจะออกมาถูกับสีให้เป็นรอยตามมาได้อีก หลังจากล้างด้วยฟองน้ำจนทั่วทุกส่วนแล้วจึงใช้น้ำสะอาดล้างฟองออกให้หมด แล้วใช้ผ้าสะอาด ๆ มาเช็ดน้ำที่ตกค้างออกให้แห้ง (ถ้าได้พวกชามัวร์มาเช็ดก็จะทำงานง่ายขึ้นเพราะผ้าชามัวส์นั้นสามารถจะซับน้ำออกได้เร็วกว่าผ้าธรรมดา)
ด่านสองต้องครีมการขจัดริ้วรอยเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่ลึกมาก อย่างที่เรียกกันว่า ขนแมวออกจะต้องใช้ยาขัดที่มีลักษณะคล้ายกับยาขัดสีของพวกอู่สีเขาแต่ต้องมีเนื้อละเอียดมากกว่าจะได้ไม่เกิดรอยใหม่ขึ้นมาแทนที่ของเดิม ครีมที่ใช้นี้จะเป็นครีมสูตรเดียวกับของวงการเครื่องประดับที่เขาใช้ขัดรอยขีดข่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ ออก เมื่อสำรวจตรวจหารอยจนครบแล้ว หากต้องการจะขัดออกก็ให้ใช้ครีมชนิดนี้พร้อมกับผ้าสำลี (ใช้งานดีที่สุด) มาขัดเบา ๆ ตามแนวของรอยขีดนั้น ๆ ไม่ต้องออกแรงมากมายเหมือนซักรองเท้าผ้าใบ แล้วเราก็จะเห็นว่ารอยขึดข่วนเล็ก ๆ เหลือน้อยลงหรือหายไปเลย ลบรอยกันแล้วก็มาถึงการขัดสีด้วยครีมขั้นตอนแรกกัน ครีมที่ใช้จะเป็นแบบที่ผสมด้วย น้ำมันคาร์นูบา เพื่อใช้สำหรับขัดทำความสะอาด ขจัดคราบสกปรก และคราบสนิมรวมทั้งคราบเขม่าจากท่อไอเสีย (รถบางรุ่นจะโดนเขม่าจากท่อไอเสียเป็นปกติจากโรงงานเลย) วิธีการขัดให้ใช้ฟองน้ำหรือผ้าแตะน้ำยาเล็กน้อยทาในลักษณะวน ๆ ให้เป็นก้นหอยให้ทั้วทั้งคัน ครบทุกส่วนที่เป็นสีก็พอดีกับจุดที่เราเริ่มทายาขัดแห้งใช้การได้พอดีแล้ว ขั้นตอนนี้ยากที่สุดเนื่องจากการขัดสีรอบนี้จะต้องออกแรงมากพอสมควรเพื่อปรับสภาพพื้นผิวให้เรียบขึ้นและยังต้องกำจัดเอาเศษคราบสกปรกที่ฝังติดแน่นออกให้หมด (ไอ้เจ้าเศษสิ่งสกปรกที่ติดมานั้น ส่วนใหญ่ก็จะมาจากเศษน้ำมันปนกับเขม่าควันและฝุ่นละอองในทุกแห่งที่รถของเราผ่านไปนั้นเอง ซึ่งไม่มีทางหลีกเลี่ยงเสียด้วย) และในทันทีที่ออกแรงขัดออกหมดแล้วก็จะเห็นว่าสีของรถคุณเริ่มขึ้นเงาและผิวสีจะลื่นขึ้นจนสังเกตได้
ด่านสามอุดและเคลือบ หวังว่าคงยังไม่เหนื่อยกันนัก .. มาเริ่มต้นขั้นตอนต่อไปเลยดีกว่า หลังจากที่เราจัดการกับรอยขนแมวและคราบสิ่งสกปรกบนพื้นผิวเสร็จไปอีกหนึ่งขั้นตอนแล้วถึงตรงนี้ถ้าหากปล่อยเอาไว้อย่างนั้นไม่ลงมือขั้นต่อไปก็จะเท่ากับเราได้ขัดสีรถแล้วปล่อยเอาไว้เฉย ๆ เมื่อนำรถออกไปใช้งาน บรรดาสิ่งสกปรกต่าง ๆ ในบรรยากาศก็จะเข้ามาเกาะติดกับสีรถได้อีก ดังนั้น เพื่อให้การขัดสีครั้งนี้ไม่เสียเปล่าจึงจำเป็จะต้องขัดด้วยครีมหรือขึ้ผิ้งเคลือบสีอีกรอบหนึ่ง ในขั้นตอนการเคลือบสีนี้เราสามารถจะเลือกใช้ได้ทั้งแบบครีมและขึ้ผิ้งเนื่องจากทั้งสองชนิดทำจากเรซิ่นที่มีความหนืดสูง และมีความไวต่ออากาศ พร้อมด้วยส่วนประกอบของสารเทฟล่อน สุดท้ายก็จะเป็นสารสำหรับชักเงาทำให้การขัดสีง่ายขึ้น
เราสามารถแยกคุณสมบัติต่าง ๆ ของสารที่เติมเข้าไปมาได้คร่าว ๆ ดังนี้ เรซิ่นพิเศษที่ผสมอยู่นี้จะยึดติดกับผิวสี ช่วยอุดลบร่องรอยขีดข่วนเล็ก ๆ ทำให้สีรถดูเรียบ เป็นเงา และกลายเป็นผิวเคลือบที่เป็นเงาใส ๆ เพิ่มความเงางามให้กับสีรถได้อีกส่วนหนึ่ง และสารเทฟล่อนจะทำหน้าที่ช่วยให้เกิดความลื่น เคลือบสีให้เกิดความคงทนยิ่งขึ้น รวมทั้งช่วยป้องกันสีรถจากการกัดกร่อนของพวกกรดหรือด่างในน้ำในขี้นกในยางไม่ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย จุดเด่นอีกประการหนึ่ง คือ สามารถป้องกันรังสี UV (Ultra violet) อันเป็นตัวการทำลายสีรถให้ซีดจางได้ด้วย กรรมวิธีการขัดให้ทำเช่นเดียวกับที่ลงมือไปเมื่อรอบที่แล้วคือ ใช้ฟองน้ำที่มีมาอยู่ในกล่องแตะครีมหรือขี้ผึ้งเล็กน้อยค่อย ๆ วน ๆ เป็นก้นหอย ทาให้ทั่วทั้งคัน จากนั้นจึงใช้ผ้าสำลีสะอาด ๆ มาเช็ดออกอีกทีหนึ่ง งานรอบนี้จะเบาแรงขึ้นพอสมควรที่เยวเพราะเศษสิ่งสกปรกถูกกำจัดออกไปแล้วครั้งหนึ่ง
ขั้นตอนสุดท้าย งานขัดเคลือบสีในขั้นตอนสุดท้ายนี้จะเป็นการเคลือบเงาปิดท้ายอีกชั้นหนึ่งเพราะขึ้นผิ้งตัวสุดท้ายนี้จะมีคุณสมบัติในการป้องกันผิวสีให้มีความคงทน เงางามเป็นประกาย และยังช่วยป้องกันรังสี UV จากแสงแดด ไม่ให้ทำอันตรายต่อสีรถได้อีกระดับหนึ่งที่เหนือไปกว่าขั้นที่แล้ว (เรียกว่าชัวร์กันไปเลย) กระบวนการขัดครีมขั้นสุดท้ายนี้ จะเป็นขั้นตอนที่เบาแรงขึ้นมาอีกชั้นหนึ่ง เพราะขึ้ผิ้งตัวนี้เราจะใช้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ค่อย ๆ ขัดเบา ๆ เป็นก้นหอยให้ทั่ว แล้วเช็ดออกด้วยผ้าสำลีสะอาด ๆ เพียงเท่านี้สีรถที่เคยหม่นหมองก็จะกลับมาเงาวับในทันที
ขอเดือนเอาไว้สักหน่อยว่า การทำงานทั้งหมดนี้จะต้องปฏิบัติในร่มในเงาของหลังคาเท่านั้น หากไปเล่นขัดสีกันกลางแสงแดดจะทำให้ยาขัดแห้งไม่เท่ากัน และเห็นผล (ร้าย) ได้ตอนที่เมื่อเช็ดออกแล้วสีจะเงาไม่เสมอกัน นอกจานั้นยังทำให้ระยะเวลาที่น้ำยาจะทำปฏิกิริยากับผิวสีมีน้อยลงซึ่งเป็นเรื่องสำคัญพอสมควร เราสามารถทำเมื่อไรก็ได้ตามต้องการ แต่การขัดและเคลือบสีนั้น ไม่จำเป็นจะต้องทำทุกครั้งที่ล้างก็ได้เพราะเมื่อขัดและเคลือบครั้งหนึ่งแล้วจะมีอายุยืนยาวไปได้ถึงประมาณ 6 เดือน
credit club1500cc.net
บันทึกการเข้า
: Long Live The King :
ปังปอนด์...TZ
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 666
4A-GE 20V only!!!
Re: การขัด-เคลือบสีรถยนต์
«
ตอบ #1 เมื่อ:
06 มกราคม 2010 12:31:46 »
อืม....ได้ความรู้ขึ้นมาอีกหน่อยนึงครับ ขอบคุณมาก
บันทึกการเข้า
Step 1: 4E-FE
Step 2: 4A-GE 20V BT 6MT LSD
Step 2.1:with หัวฉีด 1JZ-GTE+ปั้มติ๊ก 2JZ-GTE+เรกูเลเตอร์ SARD+KKT V2 tuned E85 by ไก่ มหาชัย
Step 3: 3S-GTE with KKT V2 (coming soon)
gerrard_ss
มือใหม่หัดขับ
ออฟไลน์
กระทู้: 36
Re: การขัด-เคลือบสีรถยนต์
«
ตอบ #2 เมื่อ:
06 มกราคม 2010 15:27:47 »
อ่านดูแล้วเหนื่อยจัง แต่ว่าจะลองทำเองดูบ้างครับ
บันทึกการเข้า
man@บุญรักษา
นักแข่งมือสมัครเล่น
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 392
Re: การขัด-เคลือบสีรถยนต์
«
ตอบ #3 เมื่อ:
07 มกราคม 2010 22:11:23 »
บันทึกการเข้า
สายพ่วงเเบตเตอรี่ พ่วงเเบตเตอรี่รถยนต์ทุกชนิด สายใหญ่ 25-50 SQ.MM. สายทองเเดงเต็มเส้นฉนวนหนาเเข็งเเรง
ทนกระเเสไฟฟ้า DC 150 - 500Amp เเรงดันไฟฟ้า 12-24Volt ของเเท้คุณภาพสูงใช้งานได้จริง
www.syncbattery.com
popeye.zaza
มือใหม่หัดซิ่ง
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 77
Re: การขัด-เคลือบสีรถยนต์
«
ตอบ #4 เมื่อ:
13 มกราคม 2010 18:16:04 »
บันทึกการเข้า
cmos"79
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1,250
Re: การขัด-เคลือบสีรถยนต์
«
ตอบ #5 เมื่อ:
30 มีนาคม 2010 14:02:09 »
ขอบคุณคับ
บันทึกการเข้า
ไม่ได้เปลี่ยนแค่ตัว..
ใจเราก็เปลี่ยนไป...
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« กระทู้ที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
AE Racing Club - Activity & Gallery
-----------------------------
=> กิจกรรมต่างๆ ของชาว AE Racing Club
=> Meeting Gallery
===> รูปกิจกรรมโซนรามอินทรา
===> รูปกิจกรรมโซนศรีนครินทร์
===> รูปกิจกรรมโซนพระนคร
===> รูปกิจกรรมโซนธนบุรี
===> รูปกิจกรรมโซนแจ้งวัฒนะ
-----------------------------
AE Racing Club - FreeStyle
-----------------------------
=> Free Style - AE Racing Club
=> Free Style ช่างภาพ
-----------------------------
AE Racing Club - กรุงเทพฯ ปริมณฑล
-----------------------------
=> โซนรามอินทรา
=> โซนศรีนครินทร์
=> โซนพระนคร
=> โซนธนบุรี
=> โซนแจ้งวัฒนะ
=> โซนหนองจอก
-----------------------------
AE Racing Club - ต่างจังหวัด
-----------------------------
=> โซนต่างจังหวัด
===> โซนหาดใหญ่-สงขลา
===> โซนอยุธยา-อ่างทอง
===> โซนโคราช
===> โซนภาคตะวันตก
===> โซนตรัง-พัทลุง
===> โซนอุบลราชธานี
===> โซนลพบุรี-สระบุรี
===> โซนปทุมธานี
=> โซนชลบุรี
=> โซนระยอง
=> โซนภาคเหนือตอนบน
=> โซนภาคเหนือตอนล่าง
-----------------------------
AE Racing Club - Knowledge Sharing
-----------------------------
=> รวมบทความ ความรู้ต่างๆ
=> รวมบทความ ความรู้ ปัญหาต่างๆ ของรถใช้แก๊ส
=> บทความ D.I.Y (Do It by Yourself)
-----------------------------
AE Racing Club - Classified
-----------------------------
=> ประกาศซื้อ
=> ประกาศขายสินค้าและบริการ (เกี่ยวกับรถยนต์)
=> ประกาศขายรถยนต์
=> ประกาศขาย (ของทั่วไป)
=> Update ราคาอะไหล่ ประดับยนต์
-----------------------------
Web Board Comments and Problem Report
-----------------------------
=> เสนอแนะ และแจ้งปัญหาการใช้งาน Web Board
กำลังโหลด...