ขอความเห็นเรื่องน้ำมันเครื่องครับ

[nic_tz]

ส่วนใหญ่ใช้สังเคราะห์100%หรือกึ่งสังเคราะห์กันครับ พอดีผมลองคิดเล่นๆปกติผมใช้กึ่งเปลี่ยนทุก4000โลเปลี่ยนกรองเครื่องทุกครั้ง งบเปลี่ยนครั้งนึง900-1000
แต่ถ้าผมเปลี่ยนไปใช้ใช้สังเคราะห์100%เปลี่ยน8000โลรวมกรองด้วยก็1100-1200 อย่างหลังจะดีกว่าไหมครับ หรือว่าใช้กึ่งแต่เปลี่ยนบ่อยดีกว่า ในแง่ของการบำรุงรักษาเครื่องนะครับ แต่ถ้าคิดในแง่ราคาก็ประหยัดได้มากอยู่

[smilegames]

ส่วนตัวใช้กึ่งสังเคราะห์ ผมเปลี่ยนประมาณ 8500-10000 กิโล ตาเลขกิโล หรือ น้ำมันเครื่องหมดก่อนครับ

เคยใช้ สังเคราะห์ 100 เปอร์เซ็น วิ่งดีมากเลย ลากยาวไป 15000 เลยครับ 4+1 ลิตร

[Fong-(le)vin 92]

ผมใช้กึ่งสังเคราะห์ของ shell HX7 ลากไป 7000 โล ตลอด ส่วนกรองถ้าใส่ของแท้ประมาณ 200 ก็จะเปลี่ยน ครั้งเว้นครั้ง ถ้าของเทียบ ราคา 80 บาท จะเปลี่ยนทุกครั้งครับ

ครั้งล่าสุด ลองล้างพวกน้ำมันเครื่องที่หลงเหลือ ด้วยฟรัชชิ่งออย์ รู้สึกเครื่องลื่นขึ้น พึ่งล้างครั้งแรกด้วย 

[New.]

งบถึงแนะนำสังเคราะห์ 100% ครับ

[jedee]

  ขอนุญาตแบ่งปันอีกมุมมอง.......ปัจจุบัน น้ำมันเครื่องได้พัฒนาไปไกลมากแล้ว.......ย้อนหลังไปเมื่อหลายปีก่อน ที่มาตราฐานของน้ำมันเครื่องสูงสุดแค่ SJ ผมได้ทำการทดลองน้ำมันเครื่องที่มีอยู่ในท้องตลาดแทบจะเกือบทุกยี่ห้อที่มีขายและจำหน่ายในประเทศไทย ทั้งธรรมดา กึ่งสังเคราะห์ และเพียวซินเทติค(สังเคราะห์ร้อยเปอร์)   ในขณะนั้น ตัวสังเคราะห์ ๑๐๐% ยุคโน้นมันโม้ มันคุยว่าใช้ได้ยาวถึง ๔๐,๐๐๐ กิโลเมตร บางเจ้าผสมสารเคลือบเข้าไปด้วย ไม่อยากเอ่ยยี่ห้อ สีดำสนิท ใครเคยใช้ก็คงทราบดีว่ายี่ห้อไร โดยเฉพาะยี่ห้อนี้เครื่องผมพังเลยครับ เจ้าสารเคลือบเครื่องยนต์เนี่ย(สีดำสนิท) ใช้ไปนานๆแล้วมันไปอุดรูฉีดน้ำมันหล่อลื่นเฟืองแคมชาร์ฟ พอมันตันไม่ฉีด เฟืองของผมก็รูดเรียบร้อยโรงเรียนน้ำมันเครื่องสังเคราะห์เลย งานนั้นต้องยกเครื่องใหม่เฟืองไฟเบอร์รูดจนไม่เหลือฟัน ดีที่วาวล์ไฮดรอลิคมันไม่เป็นวาวล์นักเลง ไม่งั้นก็คงเปลี่ยนทั้งเครื่อง (หกสูบแถวเรียง) ผมก็เลิกใช้ตั้งแต่นั้น มันบอกแต่ข้อดี แต่ไม่เคยมีบริษัทไหนบอกถึงข้อเสียหรือข้อพึงระวังเลย มันโฆษณาขายลูกเดียว ทีนี้พอมาถึงน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ยุคใหม่ ก็มาแนวเดียวกันอีก ประมาณว่า เติมทีอยู่ได้ สี่ห้าหมื่นโล(เซลมันหลอกขายเราแบบนั้นจริงๆ) ตัวนี้เครื่องก็เกือบพังเหมือนกัน ดีที่เคยมีบทเรียนมาก่อน ก็เลิกใช้ไปอีก เพราะมันใช้งานได้ดีจริง(ประสิทธิภาพสูงสุด)ตามที่มันโฆษณาไว้ น่าจะไม่เกิน ๗ ถึง ๘ พันกิโลเองครับ ไม่ใช่ได้ถึงสี่หมื่นกิโลหรอก เอาเป็นว่าผมลองเกือบหมดแทบทุกยี่ห้อในท้องตลาดเลยครับ  

  สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปสำหรับการเอารถตัวเองหลายๆคันไปเป็นหนูลองยา     ว่า.......น้ำมันเครื่องในปัจจุบันดีใกล้เคียงกัน สังเคราะห์ กึ่ง หรือธรรมดา แต่จะมีระยะการใช้งานได้ดีเยี่ยมในระดับหนึ่งเท่านั้น สังเคราะห์ก็ประมาณ ๗ พันโล ก็เริ่มเสื่อมแบบเรารู้สึกได้แล้ว กึ่งก็ประมาณ สี่ห้าพันกิโล ธรรมดาก็ลดลงมาประมาณสองพันห้าถึงสามพันกิโล   แต่.............................เท่าที่ลองแล้วลองอีก....น้ำมันเครื่องธรรมดา ที่มีขายในท้องตลาดทั่วไป เกรดตั้งแต่ SJ ขึ้นไป หากเราเปลี่ยนบ่อย แบบว่าทุกๆสองพันหรือสองพันห้าร้อยกิโล พร้อมกับเปลี่ยนกรองน้ำมันทุกครั้ง กลับใช้งานได้ดีกว่าครับ  แต่วันนี้ผมก็ใช้กึ่งสังเคราะห์นะครับ เพราะวิ่งแป๊ปเดียวก็สองพันโลแล้ว ไม่ค่อยมีเวลาไปเปลี่ยนบ่อยๆครับ เกรดที่ใช้ก็ SM , SL แต่ถ้าใครเงินเหลือ หรือต้องใช้รอบสูงๆตลอด ซินเทติคร้อยเปอร์ไปเลย  


                                        ด้วยจิตคาระวะ

[-TOR@RAYONG-]

ผมใช้กึ่งสังเคราะห์ BP  เน้นเปลี่ยนบ่อยๆครับ 4000-4500 โล ก็เปลี่ยนแล้ว

[ROCK]

 
     เปลี่ยนบ่อยๆก็ดีนะครับ....ลูกสาวเจ้าของอู่น่ารักดี....อิอิ

[smilegames]

ขอนุญาตแบ่งปันอีกมุมมอง.......ปัจจุบัน น้ำมันเครื่องได้พัฒนาไปไกลมากแล้ว.......ย้อนหลังไปเมื่อหลายปีก่อน ที่มาตราฐานของน้ำมันเครื่องสูงสุดแค่ SJ ผมได้ทำการทดลองน้ำมันเครื่องที่มีอยู่ในท้องตลาดแทบจะเกือบทุกยี่ห้อที่มีขายและจำหน่ายในประเทศไทย ทั้งธรรมดา กึ่งสังเคราะห์ และเพียวซินเทติค(สังเคราะห์ร้อยเปอร์)   ในขณะนั้น ตัวสังเคราะห์ ๑๐๐% ยุคโน้นมันโม้ มันคุยว่าใช้ได้ยาวถึง ๔๐,๐๐๐ กิโลเมตร บางเจ้าผสมสารเคลือบเข้าไปด้วย ไม่อยากเอ่ยยี่ห้อ สีดำสนิท ใครเคยใช้ก็คงทราบดีว่ายี่ห้อไร โดยเฉพาะยี่ห้อนี้เครื่องผมพังเลยครับ เจ้าสารเคลือบเครื่องยนต์เนี่ย(สีดำสนิท) ใช้ไปนานๆแล้วมันไปอุดรูฉีดน้ำมันหล่อลื่นเฟืองแคมชาร์ฟ พอมันตันไม่ฉีด เฟืองของผมก็รูดเรียบร้อยโรงเรียนน้ำมันเครื่องสังเคราะห์เลย งานนั้นต้องยกเครื่องใหม่เฟืองไฟเบอร์รูดจนไม่เหลือฟัน ดีที่วาวล์ไฮดรอลิคมันไม่เป็นวาวล์นักเลง ไม่งั้นก็คงเปลี่ยนทั้งเครื่อง (หกสูบแถวเรียง) ผมก็เลิกใช้ตั้งแต่นั้น มันบอกแต่ข้อดี แต่ไม่เคยมีบริษัทไหนบอกถึงข้อเสียหรือข้อพึงระวังเลย มันโฆษณาขายลูกเดียว ทีนี้พอมาถึงน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ยุคใหม่ ก็มาแนวเดียวกันอีก ประมาณว่า เติมทีอยู่ได้ สี่ห้าหมื่นโล(เซลมันหลอกขายเราแบบนั้นจริงๆ) ตัวนี้เครื่องก็เกือบพังเหมือนกัน ดีที่เคยมีบทเรียนมาก่อน ก็เลิกใช้ไปอีก เพราะมันใช้งานได้ดีจริง(ประสิทธิภาพสูงสุด)ตามที่มันโฆษณาไว้ น่าจะไม่เกิน ๗ ถึง ๘ พันกิโลเองครับ ไม่ใช่ได้ถึงสี่หมื่นกิโลหรอก เอาเป็นว่าผมลองเกือบหมดแทบทุกยี่ห้อในท้องตลาดเลยครับ 

  สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปสำหรับการเอารถตัวเองหลายๆคันไปเป็นหนูลองยา     ว่า.......น้ำมันเครื่องในปัจจุบันดีใกล้เคียงกัน สังเคราะห์ กึ่ง หรือธรรมดา แต่จะมีระยะการใช้งานได้ดีเยี่ยมในระดับหนึ่งเท่านั้น สังเคราะห์ก็ประมาณ ๗ พันโล ก็เริ่มเสื่อมแบบเรารู้สึกได้แล้ว กึ่งก็ประมาณ สี่ห้าพันกิโล ธรรมดาก็ลดลงมาประมาณสองพันห้าถึงสามพันกิโล   แต่.............................เท่าที่ลองแล้วลองอีก....น้ำมันเครื่องธรรมดา ที่มีขายในท้องตลาดทั่วไป เกรดตั้งแต่ SJ ขึ้นไป หากเราเปลี่ยนบ่อย แบบว่าทุกๆสองพันหรือสองพันห้าร้อยกิโล พร้อมกับเปลี่ยนกรองน้ำมันทุกครั้ง กลับใช้งานได้ดีกว่าครับ  แต่วันนี้ผมก็ใช้กึ่งสังเคราะห์นะครับ เพราะวิ่งแป๊ปเดียวก็สองพันโลแล้ว ไม่ค่อยมีเวลาไปเปลี่ยนบ่อยๆครับ เกรดที่ใช้ก็ SM , SL แต่ถ้าใครเงินเหลือ หรือต้องใช้รอบสูงๆตลอด ซินเทติคร้อยเปอร์ไปเลย 


                                        ด้วยจิตคาระวะ

เปลี่ยนทุก 2000 กิโลเมตรเลยหรือครับ เร็วมากๆเลยนะ

[BUT_AE101 ~Lx~]

ทุกวันนี้ผมใช้กึ่งสังเคราะห์  เปลี่ยนทุก 5 พันโลครับ วิ่งแปปเดียวจริงๆ ก็เหนมันดำไวน่ะครับ

[AT35 TZ#054]

ผมใช้กึ่งสังเคราะห์ของ shell HX7 ลากไป 7000 โล ตลอด ส่วนกรองถ้าใส่ของแท้ประมาณ 200 ก็จะเปลี่ยน ครั้งเว้นครั้ง ถ้าของเทียบ ราคา 80 บาท จะเปลี่ยนทุกครั้งครับ

ครั้งล่าสุด ลองล้างพวกน้ำมันเครื่องที่หลงเหลือ ด้วยฟรัชชิ่งออย์ รู้สึกเครื่องลื่นขึ้น พึ่งล้างครั้งแรกด้วย 

ใช้ตัวเดียวกันเลยครับ