30 พฤศจิกายน 2024 09:58:30
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ค้นหา
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
AE. Racing Club
>
AE Racing Club - FreeStyle
>
Free Style - AE Racing Club
(ผู้ดูแล:
Oon_Resist .CZ
,
DARKSTAR
,
[[Badd]]
,
PANDA RACING
) >
แบ่งปันเล่าประสพการณ์โหด ฝ่าพายุหกชั่วโมงให้อ่านเล่นๆกันครับ จุ๊บๆ รักนะ อิอิ
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« กระทู้ที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: แบ่งปันเล่าประสพการณ์โหด ฝ่าพายุหกชั่วโมงให้อ่านเล่นๆกันครับ จุ๊บๆ รักนะ อิอิ (อ่าน 2252 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
jedee
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
ออฟไลน์
กระทู้: 2,490
ได้หมดถ้าสดชื่น
แบ่งปันเล่าประสพการณ์โหด ฝ่าพายุหกชั่วโมงให้อ่านเล่นๆกันครับ จุ๊บๆ รักนะ อิอิ
«
เมื่อ:
21 มีนาคม 2014 08:24:13 »
เมื่อวานผมมีภารกิจทั้งที่บ้านอุบล บุรีรัมย์ และโคราช เสร็จธุระที่อุบลประมาณสิบโมงเช้า ก็ตรงเข้าบุรีรัมย์เลย ก็นัดเพื่อนที่นั่นไปทานข้าวกลางวันกัน เสร็จแล้วก็ทำภารกิจที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์จนบ่ายสามโมงกว่า ก็ตรงเข้าโคราช ตอนที่กำลังจะถึง ภรรยาโทรเข้ามาว่า มีพายุฤดูร้อนเข้าโคราช บ้านพังเป็นร้อยหลัง ให้ระวัง อยู่ที่ประมาณขามทะเลสอ ผมก็เอาสามห่วงไปขนน้ำหมักชีวภาพของหลวงปู่วันป่าคูเมืองเก่า จัดได้หกสิบห้าแกลลอน บวกน้ำหนักตัวผมและสัมภาระที่ติดไปด้วย กะถังแก๊สเต็มถังที่อยู่ข้างหลัง รถผมน่าจะแบกน้ำหนักอยู่ที่ประมาณหกถึงเจ็ดร้อยกิโลโดยประมาณ ซ่ึ่งเกินพิกัดที่โรงงานกำหนดมาพอสมควร แต่ช่วงล่างไม่ใช่ของเดิมแล้ว ปรับแต่งให้สามารถรับน้ำหนักได้ แบบว่านั่งห้าคนท้ายไม่ยุบครับ สปริงหลังเจ็ดของของแวนกะสเปเซอร์ยาง ข้างหน้าก็ยกแพของเลวินมาทั้งยวงแล้วปรับแต่งสปริงจนได้ที่หลายครั้ง เอาเป็นว่าผ่านเรื่องนี้ไปแล้วกัน พอขนเสร็จก็รีบเข้าไปกราบคุณพ่อคุณแม่ซึ่งท่านอายุมากแล้ว ทานข้าวกับท่าน เอาของฝากที่ท่านชอบให้กับปัจจัยเล็กๆน้อยๆตามกำลังเรา แล้วบอกต้องรีบกลับ เดียวอีกไม่กี่วันมาอีก เพราะเช้านี้ต้องไปรับเณรบุตรชาย ซึ่งกำหนดจะสึกในวันนี้ พรุ่งนี้ก็มีงานรออีก เลยต้องจำเป็นต้องลากสังขารกลับ เมื่อวานอุบล บุรีรัมย์ โคราช และโคราช อุบล รวดเดียวเลย แต่ขากลับเปลี่ยนเส้นทาง เลยเจอพายุเต็มกว่าหกชั่วโมง แต่ตอนที่ลาท่านกลับ ผมก็เห็นแววแล้วมันมืดมิดทางทิศเหนือกะตะวันตก ตะวันออกมิดใกล้เคียง ส่วนทิศใต้ยังสว่างอยู่ ออกจากโคราชประมาณหกโมงเย็น ก็เจอพายุลูกนี้ไล่หลังมาตลอดจนเกือบถึงอุบล มาหยุดที่แค่กันกรารมย์ครับ หลังจากนั้นมีแต่ลม กะแห้งสนิท ตั้งแต่ขับรถมา มีคืนวานต่อคืนนี้ กลาคืนก่อนเที่ยง ผมเจอประสพการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในการขับขี่รถ อยากจะเล่าแป่งปันให้อ่านกัน แต่ตลอดการเดินทางไม่มีอุบัติเหตุร้ายแรงใดๆแม้แต่รายเดียว ยกเว้นผมคนเดียว แต่รอดมาได้ครับ ยังไม่ได้ลงไปดูเจ้าสามห่วงว่าตกถนนลงไปสูงประมาณหนึ่งฟุต มันจะเสียหายอะไรมากไหม แต่พอหลุดออกมามันก็ยังวิ่งได้ร้อยสามร้อยสี่เฉยเหมือนตอนไปอยู่ ในช่วงที่ไม่มีฝนแล้ว (อันนี้ผมขี้เกียจพิมพ์อีกเน้อ เลยเซฟที่คุยกะเพื่อนสมาชิกท่านหนึ่งมาทั้งดุ้นให้อ่านกันครับ ไม่มีเจตนาอะไร หากแต่อยากแบ่งปันให้ฟัง คืนว่าต่อคืนนี้เมื่อแปดเก้าชั่วโมงที่ผ่านมา ผมดูเหมือนว่าเขาจงใจจะให้เกิดอุบัติเหตุ แต่ยังดีที่มีสิบล้อมาเป็นตัวตายตัวแทนติดอยู่ตรงนั้นแทน แบ่งปันครับลองอ่านดู เรื่องจริงเล็กๆที่เพิ่งเกิดที่ยังจดจำได้แล้วเปลี่ยนเป็นตัวหนังสือให้ได้สัมผัสกันครับ
เมื่อคืนก็ลุยฝน(พายุฤดูร้อนที่ถล่มโคราชนั่นล่ะ) มันพัดไล่หลังผมมาตลอดเลย ฝ่าพายุหกชั่วโมงกว่า ตกจนมองทางแทบไม่เห็นแถมลมแรงจนพัดต้นไม้หักมาตลอดทาง ตลอดหกชั่วโมง เป็นอะไรที่เพิ่งเคยประสพจริงๆ ไฟฟ้าดับหมดตลอดทางครับ เริ่มตั้งแต่ออกจากโคราชข่วงหกโมงเย็นก็เจอแล้ว แล้วก็หนักขึ้นๆๆๆตลอดทาง มาถึงตลาดแค ฟ้าผ่าเปรี๊ยงเดียว ไฟดับ(ไฟส่องทาง) เป็นช่วงๆ ตลอด พิมายก็เจอแบบเดียวกัน แต่พอเลี้ยวเข้าพิมายยิ่งหนัก ทั้งอำเภอ ทั้งตำบล ทั้งหมู่บ้าน ไม่มีแสงไฟแม้แต่ดวงเดียวครับ ดับสนิทเลย ผมก็เห็นมาตลอด ฟ้าผ่าก็ดับพรึบๆ จนดับสนิทที่เลยชุมพวงไปนิดเดียว ลำทะเมนชัย มืดมิดทั้งอำเภอ ทางพาด สตึก แยกพายัคภูมิพิสัย ชุมพลบุรี(ตอนนี้ไปไหมไหวแล้วมืดก็ต้องจอดนอนข้างป้อมตร.) แยกท่าตูม ท่าตูมทั้งอำเภอ รัตนบุรี ไฟฟ้าดับสนิททั้งเมืองเลยครับ เป็นประสพการณ์ครั้งแรกที่เจอครับ เซเว่น ปั๊ม ธุรกิจที่เปิดยี่สิบสี่ รีสอร์ท ดับมืดมิดหมดครับ เข้าหรือผ่านแต่ละอำเภอยังกะเมืองร้างครับ ถึงอุบลตีหนึ่ง เป็นอะไรที่น่าวิตกจริงๆ เหมือเขาจะเตือนให้เรารู้ว่า หากภัยพิบัติมาถึง ก็ประมาณที่ผมกำลังเห็นอยู่ต่อหน้านี่ล่ะ ไฟสปอร์ตไลท์ ไฟหน้ารถ ช่วยอะไรไม่ได้เลยครับ ผมเกิดอุบัติเหตุสองครั้งในระหว่างเดินทางในทริ๊ปนี้ครับ
ครั้งแรกชนท่อนไม้ไม่เล็กไม่ใหญ่มาก มันหักขวางถนนช่วงจะเข้าชุมพวงจังหว่ะมีรถสวนเลยมองไม่เห็น กิ่งสูงกว่าหลังคารถครับ จัดเต็มๆเลยไม่ได้หักหลบ สปอร์ตไลท์ข้างซ้ายหลุดไปเลย แต่ยังค้างในกันชน ต้องจอดรถที่ชุมพวง ซึ่งไฟฟ้าเริ่มจะดับหมดแล้ว พอออกมาแค่นิดเดียว มันเห็นกะตาเลย ฟ้าผ่าทีก็ดับไปเรื่อยทั้งแถบ ไฟส่องทาง ไฟบ้านเรือนร้านค้าดับสนิทหมดทั้งเมืองแบบข้ามจังหวัดกันเลย โคราช บุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษ มืดมิดหมดตลอดทางที่ผมผ่านไป เว้นแต่ไฟกระพริบที่ใช้โซล่า ยังกระพริบให้เราได้เห็นเป็นระยะๆครับ นั่นครั้งแรก ครั้งที่สองวิ่งๆมาดีๆ มองทางก็ไม่เห็น ป้ายเตือนอะไร ลมมันก็พัดปริวหายหมด เขากำลังสร้างถนนสี่เลนส์ที่รัตนบุรี ผมวิ่งมาดีๆ รถก็ตกลงไปเลย โครม
ดังสนั่นลั่นถนน แข่งกะเสียงลมเสียงฝน แต่ไม่มีใครซักคนออกมาดู ทางก็มองไม่เห็นทั้งที่ฝนมันไล่หลังเราตลอด ลมไล่หลังรถครับ แรงกว่ารถมาก เพราะทำให้ต้นไม้หักได้ ก็พายุดีๆนี่ล่ะ ที่มันถล่มโคราชจนบ้านเรือนพังเป็นร้อยหลังนั่นล่ะ ผมอยู่ในนั้นแล้วมันไล่หลังกลับอุบล กำ เมื่อไรจะหมดซะที ไปไวกว่าเราอีก เลยเจอตลอดหกชั่วโมงเต็มๆ ทั้งลมทั้งฝนโหดสุดเท่าที่เคยเจอมาในชีวิต ดีหน่อยที่ผมวิ่งแค่สี่สิบ พอลงโครม สัญชาติญาณของเราก็กดเบรกเลย หยุดทันที แต่เดินหน้าไม่ได้ ถึงได้เห็นว่า ทางขวา มันลาดยางเรียบร้อยแล้ว แต่สูงน่าจะครึ่งเมตรไม่มีทางหักขึ้นไปได้ เฉพาะส่วนที่เป็นราดยางที่มันตัดตรงก็มีฟุตขึ้น รถไม่มีทางขึ้นได้เลย แต่ทางขวาเป็นทางซึ่งปูหินคลุกไว้ เป็นสโล๊ป ผมก็เดินหน้า แต่รถไม่ไปแล้ว ตรงกลางระหว่างถนนซ้ายขวาเป็นร่องซึ่งผมตกลงไป ขนาดเท่ากะรถเราหรือใหญ่กว่าหน่อย เอาไงดีเดินหน้าไม่ได้ ตั้งสติแล้วเข้าเกียรถอย มันถอยได้ ผมก็พยายามหักซ้ายออกไป มีรถปิ๊คอั๊พ กะเก๋งจอดอยู่ แต่มีช่องให้ผมไปได้ กำ.....ข้างหน้ามันขุดเป็นร่องไว้อีก ไปไม่ได้ครับ ผมก็จำเป็นต้องโยกถอยเดินหน้าถอยหลังกลับรถย้อนกลับมา อีตอนกลับมานี่สิ ลมมันวิ่งเข้าหาเราเต็มๆ พร้อมกับฝน มันมองทางไม่เห็นเลย กว่าจะผ่านรถสองคันที่จอดตอนเกิดอุบัติเหตุออกมาได้ ก็เกือบยี่สิบนาที ถึงได้รู้ว่าทั้งลมทั้งฝนมันแรงสุดฤทธิ์ทีเดียว โชคดีที่มีสิบล้อสวนมา ทำให้เห็นทางที่เราจะยูเทรินกลับไป ทีแรกกะจะตามไฟท้ายสิบล้อไปให้มันผ่านไปก่อน ผมก็เลี้ยวซ้ายมามา แค่ไม่ถึงนาที สิบล้อคันที่หวังจะเดินทางไปเป็นเพื่อนด้วย มันก็ไปลงตรงเดียวกันกับที่ผมลงเมื่อกี้ครับ กำจริงๆ ผมก็เปิดกระจกซ้ายกะจะช่วยมัน แต่มันก็ไม่กล้าเปิดกระจกเหมือนกัน เราก็เข้าใจวาระจิตของมัน คงทั้งตกใจ ทั้งกลัวเราไม่รู้ว่าจะมาช่วยจริงหรือมาซ้ำมันจริง ของที่ขนมาเต็มรถคงมีค่ามาก มันถึงไม่ยอมเปิดกระจกเลยครับ ไม่มันก็คงกลัวเปียกฝนเพราะเทลงมายังกะฟ้ารั่วแล้วลมก็แรงสุดฤทธิ์(เราก็คิดในทางดีไว้ก่อน) เห็นแต่พยายามถอยหลัง แรกๆก็เห็นขยับได้ รถหนักบรรทุกเต็ม ผมก็หนังเต็มลำเหมือนกัน แต่เป็นสามห่วง อิอิ ทนได้จัยจริงๆแต่พอผมทำไรไม่ได้ ผมก็ล่วงหน้าออกไปเลย ไม่เห็นตามมาเลยทั้งที่วิ่งแค่ยี่สิบ สงสัยติด เป็นประสพการณ์โหดที่ได้พบเจอด้วยตัวเองเมื่อคืนวานต่อคืนนี้ เลยเอามาเล่าแบ่งปันก่อนที่จะเซฟไปแบ่งปันคนที่ยังไม่เคยเจอกับประสพการณ์นี้ มีรัยหากผมพอช่วยเหลือได้ ก็พีเอ็มมาได้ตลอดครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ
เมื่อคืนผจญภัยมาครับ เล่าให้ฟังเฉยๆครับ ขอบคุณที่อ่านนะครับ
บันทึกการเข้า
เคลิ้มสมาคม ™
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
ออฟไลน์
กระทู้: 6,671
หล่อไม่จริง ก็เลยหยิ่งไม่เป็น...
Re: แบ่งปันเล่าประสพการณ์โหด ฝ่าพายุหกชั่วโมงให้อ่านเล่นๆกันครับ จุ๊บๆ รักนะ อิอิ
«
ตอบ #1 เมื่อ:
21 มีนาคม 2014 08:25:53 »
ยาวไป ไม่อ่าน
บันทึกการเข้า
" ~ หาเรื่องเที่ยว ~ "
jedee
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
ออฟไลน์
กระทู้: 2,490
ได้หมดถ้าสดชื่น
Re: แบ่งปันเล่าประสพการณ์โหด ฝ่าพายุหกชั่วโมงให้อ่านเล่นๆกันครับ จุ๊บๆ รักนะ อิอิ
«
ตอบ #2 เมื่อ:
21 มีนาคม 2014 08:34:22 »
ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
เคลิ้มสมาคม ™
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
ออฟไลน์
กระทู้: 6,671
หล่อไม่จริง ก็เลยหยิ่งไม่เป็น...
Re: แบ่งปันเล่าประสพการณ์โหด ฝ่าพายุหกชั่วโมงให้อ่านเล่นๆกันครับ จุ๊บๆ รักนะ อิอิ
«
ตอบ #3 เมื่อ:
21 มีนาคม 2014 08:39:56 »
อ้างจาก: jedee ที่ 21 มีนาคม 2014 08:34:22
ขอบคุณครับ
แซวเล่นครับ อ่านจบแล้ว ไม่รู้ทางโชคชัยบ้านผมโดนบ้างมั้ย
บันทึกการเข้า
" ~ หาเรื่องเที่ยว ~ "
jedee
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
ออฟไลน์
กระทู้: 2,490
ได้หมดถ้าสดชื่น
Re: แบ่งปันเล่าประสพการณ์โหด ฝ่าพายุหกชั่วโมงให้อ่านเล่นๆกันครับ จุ๊บๆ รักนะ อิอิ
«
ตอบ #4 เมื่อ:
21 มีนาคม 2014 08:48:31 »
บันทึกการเข้า
ntp@wz
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 2,814
Re: แบ่งปันเล่าประสพการณ์โหด ฝ่าพายุหกชั่วโมงให้อ่านเล่นๆกันครับ จุ๊บๆ รักนะ อิอิ
«
ตอบ #5 เมื่อ:
21 มีนาคม 2014 09:07:22 »
น่ากลัวครับน้าต้อง ผมล่องบ้านแฟนที่ปากพนัง เจอฝนที่ไหนหาปั้มจอดเลยครับ
จะขับต่อ หันมองหน้าคนข้างๆกะข้างหลัง ไม่กล้าครับ เค้าฝากชีวิตไว้กะเรา เสียเวลานิดหน่อยช่างมัน
ครั้งสุดท้ายไป ร่างกายพักผ่อนน้อย ไปฟุบหลับคาพวงมาลัยที่ท่าศาลา ดีที่ขับเข้าปั้มแล้ว
ถามคนข้างๆ บอกว่ามาถึงปั้มเราก้อฟุบคาพวงมาลัยไปเกือบ 2 ชั่วโมง
บันทึกการเข้า
หอยน้อยๆ สร้างฝันได้
วาง & วาย by ntp@wz
รับแก้ไขแอร์ไม่เย็น เย็นสู้แดดไม่ได้ อาการต่างๆของเออี
0867590745 พื้นที่ สมุทรสาคร นครปฐม ราชบุรี สมุทรสงคราม และใกล้เคียง
ล้าง แก้ไข แอร์บ้าน รถยนต์ ราคากันเอง
เคลิ้มสมาคม ™
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
ออฟไลน์
กระทู้: 6,671
หล่อไม่จริง ก็เลยหยิ่งไม่เป็น...
Re: แบ่งปันเล่าประสพการณ์โหด ฝ่าพายุหกชั่วโมงให้อ่านเล่นๆกันครับ จุ๊บๆ รักนะ อิอิ
«
ตอบ #6 เมื่อ:
21 มีนาคม 2014 09:57:21 »
อ้างจาก: ntp@wz ที่ 21 มีนาคม 2014 09:07:22
น่ากลัวครับน้าต้อง ผมล่องบ้านแฟนที่ปากพนัง เจอฝนที่ไหนหาปั้มจอดเลยครับ
จะขับต่อ หันมองหน้าคนข้างๆกะข้างหลัง ไม่กล้าครับ เค้าฝากชีวิตไว้กะเรา เสียเวลานิดหน่อยช่างมัน
ครั้งสุดท้ายไป ร่างกายพักผ่อนน้อย ไปฟุบหลับคาพวงมาลัยที่ท่าศาลา ดีที่ขับเข้าปั้มแล้ว
ถามคนข้างๆ บอกว่ามาถึงปั้มเราก้อฟุบคาพวงมาลัยไปเกือบ 2 ชั่วโมง
เมา ?
บันทึกการเข้า
" ~ หาเรื่องเที่ยว ~ "
ae 101
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1,485
Re: แบ่งปันเล่าประสพการณ์โหด ฝ่าพายุหกชั่วโมงให้อ่านเล่นๆกันครับ จุ๊บๆ รักนะ อิอิ
«
ตอบ #7 เมื่อ:
21 มีนาคม 2014 10:59:12 »
สุดยอด ทั้งคนทั้งรถ เสน่ห์ของสามห่วง ทน อึด
บันทึกการเข้า
But@_Bless
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 521
AE again
Re: แบ่งปันเล่าประสพการณ์โหด ฝ่าพายุหกชั่วโมงให้อ่านเล่นๆกันครับ จุ๊บๆ รักนะ อิอิ
«
ตอบ #8 เมื่อ:
21 มีนาคม 2014 11:11:42 »
ปวดตาเลย อ่านจากมือถือ สุดๆ เลยนะครับ
บันทึกการเข้า
jacky31
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1,541
1,300 CC ครับ
Re: แบ่งปันเล่าประสพการณ์โหด ฝ่าพายุหกชั่วโมงให้อ่านเล่นๆกันครับ จุ๊บๆ รักนะ อิอิ
«
ตอบ #9 เมื่อ:
21 มีนาคม 2014 13:13:39 »
สุดยอดครับพี่ ผมก็เดินทาง ไป-กลับ อุบล 8 ริ้วเหมือนกันครับ
3ห่วง ทนหายห่วงจริงๆ ครับ ยอมรับเลยครับ
บันทึกการเข้า
http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=124988.0
-หา v-bar มือ2 ครับ
ko@92GTi
นักแข่งมือสมัครเล่น
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 366
Re: แบ่งปันเล่าประสพการณ์โหด ฝ่าพายุหกชั่วโมงให้อ่านเล่นๆกันครับ จุ๊บๆ รักนะ อิอิ
«
ตอบ #10 เมื่อ:
21 มีนาคม 2014 14:07:48 »
อ้างจาก: เคลิ้มสมาคม ™ ที่ 21 มีนาคม 2014 08:39:56
อ้างจาก: jedee ที่ 21 มีนาคม 2014 08:34:22
ขอบคุณครับ
แซวเล่นครับ อ่านจบแล้ว ไม่รู้ทางโชคชัยบ้านผมโดนบ้างมั้ย
โชคชัยน่าจะปกติ วันนี้น้าชายยังถ่ายรูปยายนั่งกินหมากสบายใจส่งมาให้ดูอยู่เลย
บันทึกการเข้า
ntp@wz
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 2,814
Re: แบ่งปันเล่าประสพการณ์โหด ฝ่าพายุหกชั่วโมงให้อ่านเล่นๆกันครับ จุ๊บๆ รักนะ อิอิ
«
ตอบ #11 เมื่อ:
21 มีนาคม 2014 14:43:11 »
อ้างจาก: เคลิ้มสมาคม ™ ที่ 21 มีนาคม 2014 09:57:21
อ้างจาก: ntp@wz ที่ 21 มีนาคม 2014 09:07:22
น่ากลัวครับน้าต้อง ผมล่องบ้านแฟนที่ปากพนัง เจอฝนที่ไหนหาปั้มจอดเลยครับ
จะขับต่อ หันมองหน้าคนข้างๆกะข้างหลัง ไม่กล้าครับ เค้าฝากชีวิตไว้กะเรา เสียเวลานิดหน่อยช่างมัน
ครั้งสุดท้ายไป ร่างกายพักผ่อนน้อย ไปฟุบหลับคาพวงมาลัยที่ท่าศาลา ดีที่ขับเข้าปั้มแล้ว
ถามคนข้างๆ บอกว่ามาถึงปั้มเราก้อฟุบคาพวงมาลัยไปเกือบ 2 ชั่วโมง
เมา ?
ช้านทำงานดึกหย่ะ ม่ายได้มาวซักหน่อย
บันทึกการเข้า
หอยน้อยๆ สร้างฝันได้
วาง & วาย by ntp@wz
รับแก้ไขแอร์ไม่เย็น เย็นสู้แดดไม่ได้ อาการต่างๆของเออี
0867590745 พื้นที่ สมุทรสาคร นครปฐม ราชบุรี สมุทรสงคราม และใกล้เคียง
ล้าง แก้ไข แอร์บ้าน รถยนต์ ราคากันเอง
แอลกอฮอล์40ดีกรี
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
ออฟไลน์
กระทู้: 1,458
Re: แบ่งปันเล่าประสพการณ์โหด ฝ่าพายุหกชั่วโมงให้อ่านเล่นๆกันครับ จุ๊บๆ รักนะ อิอิ
«
ตอบ #12 เมื่อ:
21 มีนาคม 2014 19:16:16 »
น้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา ถนนเส้นนั้นเปลี่ยวจะตายไปน้าน้ายังกล้าขับไปอีก
สุดยอด แต่อย่าทำอีกนะมันอันตรายผมยังฮอล์เครื่องไม่จบเลยเป็นไร
ไปใครจะบอกผมละ555
ดีครับน้ากลับบ้านอย่างปลอดภัยไม่มีใครเป็นอะไร รถไม่เสียกลางทางเป็นใช้ได้/แต่หวิดติดหล่มแน่
บันทึกการเข้า
ซ่อมแอร์รถยนต์ครับ ปรึกษาได้ครับไม่ฟันไม่กัดครับใจดี0852622362
BOURDAENG
มือเก่าหัดแข่ง
ออฟไลน์
กระทู้: 192
Re: แบ่งปันเล่าประสพการณ์โหด ฝ่าพายุหกชั่วโมงให้อ่านเล่นๆกันครับ จุ๊บๆ รักนะ อิอิ
«
ตอบ #13 เมื่อ:
21 มีนาคม 2014 21:40:07 »
....อ่านแล้วเห้นภาพเลย ผมก็ลดวิ่งตอนกลางคืนเหมือนกัน สายตาไม่เหมือนเก่า....
บันทึกการเข้า
jedee
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
ออฟไลน์
กระทู้: 2,490
ได้หมดถ้าสดชื่น
Re: แบ่งปันเล่าประสพการณ์โหด ฝ่าพายุหกชั่วโมงให้อ่านเล่นๆกันครับ จุ๊บๆ รักนะ อิอิ
«
ตอบ #14 เมื่อ:
22 มีนาคม 2014 05:46:45 »
ผมไม่เป็นอะไรหรอกครับ ท่านดูแลผมตลอดครับ(สิ่งศักดิ์สิทธิ์) ผมเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่า ผมตกลงไปตรงนั้น แล้วขึ้นมาได้ยังไง แต่คำตอบมันอยู่ที่สิบล้อคันที่ตามหลังมาเมื่อผมย้อนกลับมาแล้ว มันก็ตกตุ๊บไปแล้วอยู่เลยครับ ไม่ได้แตะเบรกแบบผม เพราะไม่เห็นไฟเบรกมันครับ(ขับตามหลังมาทิ้งระยะห่างพอสมควร(ปลอดภัย) มันไม่แตะเบรกเลยครับ เห็นแต่ลงไปแล้วหยุดทันทีเลย ไม่ก็เครื่องดับ (มันไม่ได้ยินเสียงอะไรนอกจากเสียงลมกะฝนในตอนนั้น มันลงมาแบบมืดฟ้ามัวดินเลย ) เขาคงตกใจ หรือกลัว หรือตั้งสติไม่ทัน ถึงไม่ยอมเปิดกระจก ผมก็ทำได้แค่ส่งสัญญาณมือให้ถอยๆๆๆลูกเดียว แบบที่กรุทำเมื่อกี้ ผมก็เดินหน้าไม่ได้ แต่เห็นมันถอยแล้วแค่ขยับเฉย (เราก็นึกว่ามันจะมาได้ คงติดแล้วครับ) ผมแค่ค่อยๆเคลื่อนออกมาจากต่ำแหน่งนั้น ตอนนี้ก็ยังนึกไม่ออกว่าหล่นลงไปแล้ว ยังถอยออกมาแล้วกลับบ้านได้ยังไง
ผมเองก็หลายครั้งครับเล่าไม่หมดหรอก แต่ละครั้งหนักกว่านี้เยอะครับ จะเล่าให้ฟังนิดก็ได้ ทนอ่านหน่อยเน้อ อิอิ
ก่อนตกลงไปล่าสุดก็ ให้เจ้าตัวเล็ก ตอนนี้เพิ่งสึกจากเณรไปรับมาเมื่อวาน ขณะพิมพ์ก็นอนอยู่ข้างๆนี่ล่ะ ช่วยขับให้(สามห่วง) ตอนนั้นรับคดีใหญ่ที่เชียงราย คดีฆ่าคนตายโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อน(โทษถึงประหารชีวิต ศาลชั้นต้นไม่ให้ประกันตัวเลยล่ะ) ผมจำได้วันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๕๔ ขึ้นศาล ผมเดินทางก่อนสองวัน ซึ่งตรงกับวันเสาร์ ที่ ๘ ตอนนั้นตอนนี้ก็ไม่ต่างกันคือทำงานตลอดจนแทบไม่มีวันพัก แค่ขับรถออกจากอุบล มาถึงมหาสารคาม ผมก็ง่วงจนจะหลับให้ได้ ผมก็ให้เจ้าตัวเล็กมาช่วยขับให้ แล้วก็บอกว่าค่อยๆไปนะลูก ตามท้ายรถหลังไปไม่ต้องแซง วิ่งแค่แปดเก้าสิบก็พอ แรกๆเขาก็ทำตาม หลังๆก็ทำตามเหมือนกัน แต่ดันไปตามทั้ายฮอนด้าแจ๊ส ซึ่งมันวิ่งอยู่ร้อยสามสิบ เจ้าตัวเล็กมันก็ร้อยสามสิบตามก้นมันดิ คุณแม่ก็คงหลับ พี่สาวก็คงหลับ ผมไม่ต้องถาม หลับสนิทเลย แต่ที่จำได้ภาพยังติดตาอยู่เลย ก็คือรถมันสบัด อยู่ๆก็หักหลบซึ่งไม่รู้หลบอะไร แต่ตอนหลังถึงทราบจากปากเจ้าตัวเล็กว่า ผมหักหลบงู มัชูคอแผ่แม่เบี้ยอยู่กลางถนนขวางทางรถที่เราจะไปอยู่ เขาหักซ้ายทีแรก รถมันก็ดริฟเลยครับ(ประมาณคริปแขกบ้าที่มันขับรถดริฟที่พวกเราเอามาลงนั่นล่ะ แต่เจ้าตัวเล็กผมมันดริฟที่ร้อยสามสิบครับ) แล้วหักขวาครั้งที่สอง ผมก็ตื่นลืมตาพอดี เห็นไมล์รถุร้อยสามสิบเต็มตา (ซึ่งเจ้าตัวเล็กมันยังเถียงผมว่าไม่ถึง แค่ร้อยยี่สิบเก้าเองป๊า เหอะๆๆๆ เอากะมันสิ) อีตอนขวานี่สิ รถเจ้าเจดีย์สามห่วงคันเก่งของผม มันก็จะปีนเกาะไปฝั่งโน้นซึ่งรถสวนมาตรึมสิ อยู่ๆมันก็หักซ้ายอีกที คราวนี้ก็ตีลังกาหมุนลงข้างทางด้านซ้ายหลายตลบเลยครับ พลเมืองดีที่นั่งรอรถโดยสารอยู่ที่ศาลารอรถ ก็กระโดดศาลาหลบมันหนีตายเหมือนกัน หวิดอยู่ไม่ถึงคืบ ก็ม้วนลงไปตะแคงซ้ายพาดต้นสะเดาหักทั้งต้นพิงอยู่อย่างนั้น จากถนนหากวัดตรงๆก็มีห้าหกสิบเมตรขึ้นหรืออาจจะมากกว่า เพราะสลิงที่เขาเอามาลากมันไม่พอ ต้องกลับไปเอามาอีกหลายเส้น หากไม่มีต้นสะเดา ก็คงหลุดเข้าไปในบ้านใครก็ไม่รู้ ไม่รู้จะเป็นยังไง ลองนึกภาพดูสิ ร้อยสามสิบ กลิ้งลงไป สี่ชีวิต ไม่มีใครเป็นอะไรเลย แม้แต่รอยแมวข่วน รถมันก็ตะแคงซ้ายอยู่อย่างนั้นล่ะ ข้าวของก็กระจัดกระจาย มีผมคนเดียวที่ปีนลงมาทางประตูขวา ประตูซ้ายเปิดไม่ได้เพราะตะแคงลงดินไปแล้ว ลูกเมียผม พลเมืองดี รวมทั้งพวกนั่งรอรถที่ศาลาที่ว่า พอตั้งสติได้ก็รีบวิ่งเข้ามาช่วย ก็ช่วยกันอุ้มลูกเมียงผมลงรถ ผมก็ค่อยๆปีนลงมาครับ แต่มีเสียงหนึ่งถามว่า รถใช้แก๊สหรือน้ำมัน กำ.......ไม่มีใครคิดได้เลย เครื่องมันยังไม่ดับครับ ทั้งที่ตะแคงอยู่อย่างนั้น เครื่องยังเดินเบาอยู่เฉยและดูเหมือนมันจะไม่เป็นอะไรเลยครับ แถมเงี่ยบจนไม่มีใครนึกว่ามันกำลังติดเครื่องอยู่ ผมก็ต้องปีนขึ้นไปดับเครื่องยนต์อีกครั้ง แต่เกียรมันโยกไปอยู่พี่ได้ยังไง
อีตอนที่มันตั้งอยู่ สงบแล้ว ผมเห็นเจ้าตัวเล็กมือสองข้างจับที่พวงมาลัยเหมือนกำลังช็อคว่าโดนอะไร ตามองไปข้างหน้า แต่สายเบลท์รั้งตัวเขาไว้ไม่ให้ตกลงมาแบบผมกะพี่สาว รถผมไม่มีเบลท์หลัง(เป็นตัวพันสาม ใส่พันหกครับ) พี่สาวเจ้าตัวเล็กซึ่งนั่งหลังขวาก็ตกลงมาทับผมกอดไว้ไม่เป็นอะไร ส่วนคุณแม่ก็ช็อคไปเลยพูดอะไรไม่ออกไปหลายนาที มีผมคนเดียวที่มีสติ กดรีโมทเปิดล็อคประตูสี่บาน ชาวบ้านพลเมืองดีถึงปีนเปิดประตูช่วยลูกเมียผมทีละคนได้ ทุลักทุเลเหลือเกินครับ แต่ในตอนนั้น ก็เหมือนเมื่อคืนว่า ตรงที่ลงไป มันเป็นน้ำขังนิดๆ ดินมันนุ่ม กะหญ้าที่ขัึนสูง เลยเหมือนเป็นเบาะรับรถไว้ รถผมไม่เสียหายมาก นอกจากคันชักคด ล้อเลยคดถ่างออก พอเขาช่วยกันผลักลงมา ก็มีกันชนหน้าหลุด นอกนั้นปรกติ ประตูซ้ายก็ยุบนิดหน่อย แต่ไม่มาก งานนั้นผมทำสีเองทั้งคันเลย ที่ดินที่ผมลงไป อยู่เกือบถึงชุมแพอีก ๑๙ กิโล เป็นของนักการเมืองท้องถิ่นที่นั่นครับ ท่านใจดีมากเลย ให้ลูกน้องเอารถหกล้อมาลากรถผมขึ้นมาถนนใหญ่ แต่พอมาถึง สลิงมันก็ยาวไม่ถึง ได้ย้อนกลับไปอีก พอสลิงได้ มันก็เอาขึ้นไม่ได้ครับ แรงไม่พอ ทีนี้ก็ย้อนกลับไปเอาสิบล้อมาจัดเลยครับ ดีงทีเดียงไหลขึ้นมาทั้งคันเลย แล้วท่านยังสั่งให้ลูกน้องว่า มาช่วยผมแล้วห้ามรับเงินทองผมเป็นอันขาด เจ้าลูกน้องของท่านสี่ห้าคน มันก็ซื่อสัตย์ทุกคน ไม่ยอมรับเงิน จนผมบอกว่า เอ็งก็อย่าไปบอกลูกพี่เอ็งสิ อันนี้เป็นน้ำใจซึ่งผมซาบซึ่งมากจะตอบแทนให้แล้วผมจะไปบอกลูกพี่มิงเองไม่ต้องห่วง เอ็งไม่พูดแล้วลูกพี่เองจะไปรู้ได้อย่างไร ผมสัญญาว่าจะเป็นคนบอกเอง เขาถึงยอมรับเงินน้ำใจจากผม ผมก็ให้ไปคนละห้าร้อยๆจนครบทุกคน แล้ววันหลังผมก็ไปบอกลูกพี่เขาเอง จนเป็นกัลยาณมิตรกันถึงวันนี้ล่ะครับ วันนั้นยังมีกัลยาณมิตรอีกคนซึ่งผมไม่เคยลืม เจ้มาลีเจ้าของกิจการมาลีน้ำดื่ม ซึ่งอยู่ติดกันกับที่ดินที่ผมไปลงนั่นล่ะ ท่านช่วยเหลือครอบครัวผมที่ประสพอุบัติเหตุในครั้งนั้น แล้วยังเป็นญาติกับนักการเมืองใจดีท่านนั้นด้วยครับ ผมก็ขับรถสามห่วงกลับอุบล เพื่อมาเปลี่ยนเอาสามห่วงอีกคันไปต่อครับ พอใกล้จะถึงอุบล ล้อที่มันถ่าง มันก็เบียดยางแตกอีก ตอนนั้นตีหนึ่งเหมือนเมื่อคืนวานที่ถึงอุบลเลย ผมก็จนปัญญาว่ากรุจะทำยังไงดี เหลือแค่สิบกิโลก็จะถึงบ้านแระ แค่นึกเฉยๆ ก็มีวัยรุ่นกลุ่มใหญ่ ขับรถแมงกาไซค์มาจอดเทียบ(ทีแรกนึกว่าจะมาปล้น อิอิ) แล้วอาสาว่าจะช่วยเหลือ กลุ่มหนึ่งก็ย้อนไปท้ายรถ ไปให้สัญญาณรถที่ตามมา ผมยางแตกตอนสุดโค้งพอดี จำชื่อหมู่บ้านไม่ได้ แต่น้องๆกลุ่มนี้อยู่ชมรมรถเก่า(จักรยานยนต์)เมืองอุบล ที่เห็นมีแต่ซีเจ็ดสิบ ฮอนด้าป๊อป เป็นรถที่เกินสามสิบปีทั้งนั้น ผมเคยขับเมื่อตอนเด็กๆ เขาอนุรักษ์ไว้ เขาเห็นผมตั้งแต่ยางแตก แล้วรีบเข้ามาช่วยเลย งานนั้นทั้งขึ้นแม่แรง ทั้งยกยางอะไหล่ ทั้งเปลี่ยนให้เสร็จสรรพเลย เขาอยู่งานศพข้างหน้า นั่งดื่มกันอยู่ ยังกะเป็นบริวารของเราในอดีตชาติ พอมีเหตุคับขัน ก็ตรงเข้ามาช่วยเหลือทันที ซึ่งชีวิตผมเป็นเช่นนี้มาตลอด หากเล่าหรือเขียนให้อ่านกัน ก็คงเป็นหนังสือเล่มใหญ่ เป็นหลายพันหน้าแน่ๆครับ สำหรับคนในคลับชมรถรถจักรยานยนต์เก่า(ผมจำชื่อชมรมเขาไม่ได้จริงๆ) อะไรประมาณนี้ล่ะ ผมซาบซึ้ง และขอบใจเขาทุกคน เป็นวัยรุ่นที่สนใจเรื่องรถเก่า อนุรักษ์ไว้ ไม่ได้ยกพวกไปตีกัน หรือมีเรื่องมีราวกัน เหมือนเช่นหลายๆคนที่พ่อแม่มันให้ผมไปว่าความให้ เป็นอะไรที่ดีมากๆในด้านบวกเลยครับ ผมเอาเงินให้ เขาก็ไม่เอาทุกกรณี จนผมจนปัญญา นอกจากจะขอบคุณๆ แล้วก็จดจำไว้ไม่ลืม น้ำใจประเสริฐจริงๆ เพราะว่าแต่ละคนๆนั้น ตึงๆกันทั้งนั้นครับ พอทำเสร็จ มันมีอยู่คน บอกว่า ส่างเลยกรุ สงสัยต้องไปซดต่อ (เอากะมันดิ) ผมไม่เคยลืมคนดีๆในกลุ่มนี้ครับ เวลาเดินทาง หากเจอพวกเขา หรือเข้าใจว่าใช่ (เอกลักษณ์) จะประมาณว่าเป็นรถรุ่นคุณปู่ที่เราเคยใช้ ยี่สิบสามสิบปีขึ้น แล้วนำมาทำใหม่ ทำสี ทำทุถอย่างใหม่หมด แล้ววิ่งไปเป็นหมู่คณะ ผมว่าใช่เลย ผมจะระมัดระวังให้เขาเป็นพิเศษ หากมาเร็วก็จะรีบลดความเร็วหลบให้ แล้วให้ทางพวกเขาไปอย่างปลอดภัย คนดีๆยังมีอีกมากในสังคมนี้ครับ ถึงอุบลก็ประมาณตีสามครับ ก็สลบเลย วันรุ่งขึ้นก็เอาเจ้าเจมส์บอนด์ขับไปว่าความที่เชียงรายต่อเลยครับ พอวันจันทร์ขึ้นศาล ผลการพิสูตรแพทย์ก็เข้าสำนวน จำเลยซึ่งศาลไม่ให้ประกันตัวมาตลอด แพทย์ก็ส่งผลตรวจพิสูจน์ว่า เป็นโรคจิตเภท(บ้า)เนื่องจากการเสพสุรา ผมก็ปิ๊งเลยว่า (แต่จริงๆปิ๊งตั้งแต่ลงข้างทางไปแล้วว่าคดีต้องชนะ แต่ก่อนชนะต้องใช้หนี้กรรมให้เขาก่อน เป็นทุกข์ลาภ ก็ลงที่รถไปครับ ส่วนคนไม่เป็นไร งานนั้นพ่อของจำเลยก็ให้เงินพิเศษนอกเหนือจากที่ต้องจ่ายให้ผมเป็นค่าเดินทาง มาอีกสองหมื่นเพื่อซ่อมรถครับ ) คดีเสร็จศาลพิพากษายกฟ้องชนะขาดเลยครับแต่ไม่ได้ยกฟ้องเพราะเหตุจำเลยเป็นบ้านะครับ ยกฟ้องในเนื้อหาแห่งคดีจนปิดทางอัยการอุทธรณ์ฏีกาไปเลยครับ เค้า(พ่อของจำเลย)ก็นอกจากให้เงินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่งตอบแทนผมแล้ว ยังยกที่ดินให้อีกหนึ่งแปลง ไม่มากหรอก แต่อยู่หน้าเขานางนอนพอดีเลย วิวสวยมาก อากาศก็ดีมาก เขาที่ว่าเป็นผู้หญิงนอนยาวเลยหน้าที่ดินติดถนนดำอีกต่างหาก พอเขาโอนให้ภรรยาผมแล้วถึงได้ทราบว่ามันราคาเท่าไร อิอิ ผมไม่มีทรัพย์สินอะไรหรอก ยกให้ภรรยาไปหมดครับรถห้าคันก็เป็นขื่อภรรยาหมด ติดแต่ว่าจะไปบวชเขาไม่ให้ไปเท่านั้นครับ
ไม่งั้นก็คงได้อยู่ป่าไปแล้ว เด้ สิ บอก ไห่
ยังคิดว่าจะไปปลูกบ้านอีกสักลังไว้พักผ่อนยามแก่เถ้าที่นั่น(แม่สาย) แต่แค่คิดเท่านั้น
ผมไม่เป็นอะไรหรอกเน้อ ไม่ต้องห่วง ยังอยู่กะพวกเราคอยตอบคำถามกวนๆได้อีกนาน มีอะไรให้รับใช้ก็ยินดีเสมอเน้อ ยกเว้นเรื่องขอยืมเงินเน้อ บ่อมี ไปขอเมียผมโลด เหอะๆๆ แต่สิได้บ้อ อิอิอิ ปฏิหาริย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงครับ ผมไม่เคยเชื่อ แต่พิสูจน์ด้วยตัวเองมาแล้วเมื่อเกือบสามสิบปี ผมยืนยัน นอนยัน นั่งยันเลยว่า มีจริง แล้วท่านคอยช่วยเหลือเราเสมอครับ แบ่งปันเล็กๆแค่นี้ล่ะ ขอให้สุขๆๆๆทุกผู้ทุกคนนะครับ
ป.ล. อีตอนที่ตีลงกาม้วนหมุนหลายตลบลงข้างทางนั้น ความรู้สึกของผมมันเหมือนกับเวลาในโลกมนุษย์ มันหยุดไปเลย เหมือนกับผมไม่ได้อยู่ในมิตินี้ หลุดออกไปอีกมิติเลยครับ รู้สึกเช่นนั้นจริงๆ เหมือนมีอะไรมาดึงเราให้หลุดพ้นออกมาจากตรงนั้น กายอาจจะอยู่ในรถ แต่ความรู้สึก เหมือนอยู่อีกโลก(อธิบายไม่ถูก ไม่รู้จะใช้คำอะไรดี) มันเหมือนมีอะไรที่เราไม่รู้ มาดึงเราออกมาแค่เสี้ยววินาที พอรถนิ่งตะแคงซ้ายสงบดังที่บอก ความรู้สึกดังกล่าวก็หายไป ผมกลับมายังโลกอีกครั้ง แล้วนอนไม่เป็นท่าไม่มีท่าอะไรเลย มือสองข้างกอดลูกสาวเอาไว้ตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ แล้วเห็นเจ้าตัวเล็ก นั่งตาค้างเบลท์ก็ยึดติดเบาะอยู่อย่างนั้น ลูกสาวตกใจตื่นไม่ได้สติ ผมก็ปลอบให้สติกลับคืนมาก่อน แล้วค่อยเรียกสติภรรยาซึ่งยังไม่ได้ปริปากซักคำ กะเจ้าตัวเล็ก แล้วถามว่าเป็นอะไรไหม เจ็บตรงไหนไหม ไม่มีใครเป็นอะไรมาก ผมไม่เป็นอะไรเลยครับ นอกจากเจ้าตัวเล็ก ที่โดนสายเบลท์รัดเป็นรอยแดงๆที่หน้าอกหน่อย นอกนั้นปลอดภัยทุกชีวิตครับ เราโชคดีจริงๆ โชคดีมากๆ ขอกราบขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองเราในวันนั้นและทุกๆวัน ขอบคุณกัลยาณมิตร ที่ร่วมเข้าไปให้การช่วยเหลือทุกครั้งที่ผจญกับภัยพิบัติ หรือเรื่องร้ายๆ เช้านี้แบ่งปันแค่นี้เน้อ ขอบคุณจะนั๊กๆๆๆ ที่ทนอ่านนะครับ
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22 มีนาคม 2014 06:18:57 โดย jedee
»
บันทึกการเข้า
jedee
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
ออฟไลน์
กระทู้: 2,490
ได้หมดถ้าสดชื่น
Re: แบ่งปันเล่าประสพการณ์โหด ฝ่าพายุหกชั่วโมงให้อ่านเล่นๆกันครับ จุ๊บๆ รักนะ อิอิ
«
ตอบ #15 เมื่อ:
22 มีนาคม 2014 05:49:23 »
บันทึกการเข้า
แอลกอฮอล์40ดีกรี
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
ออฟไลน์
กระทู้: 1,458
Re: แบ่งปันเล่าประสพการณ์โหด ฝ่าพายุหกชั่วโมงให้อ่านเล่นๆกันครับ จุ๊บๆ รักนะ อิอิ
«
ตอบ #16 เมื่อ:
22 มีนาคม 2014 16:00:09 »
อ่านตอนจบเหมือนกันเลยเรา อิอิ ดีที่น้าและทุกๆรอดมาได้ กรรมดียังช่วยไว้ คีใจด้วยครับ
บันทึกการเข้า
ซ่อมแอร์รถยนต์ครับ ปรึกษาได้ครับไม่ฟันไม่กัดครับใจดี0852622362
But@_Bless
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 521
AE again
Re: แบ่งปันเล่าประสพการณ์โหด ฝ่าพายุหกชั่วโมงให้อ่านเล่นๆกันครับ จุ๊บๆ รักนะ อิอิ
«
ตอบ #17 เมื่อ:
22 มีนาคม 2014 16:04:55 »
พระคุ้มครองรอดปลอดภัย
บันทึกการเข้า
offkung
มือเก่าหัดแข่ง
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 228
Re: แบ่งปันเล่าประสพการณ์โหด ฝ่าพายุหกชั่วโมงให้อ่านเล่นๆกันครับ จุ๊บๆ รักนะ อิอิ
«
ตอบ #18 เมื่อ:
22 มีนาคม 2014 19:25:06 »
สิ่งนี้สำหรับผม ผมเชื่อมากๆครับเพราะประสบกับตัวเองบ่อยๆ ในการเดินทาง
และผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเราจะโชคดีทุกครั้งหรือปล่าว
บันทึกการเข้า
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« กระทู้ที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
AE Racing Club - Activity & Gallery
-----------------------------
=> กิจกรรมต่างๆ ของชาว AE Racing Club
=> Meeting Gallery
===> รูปกิจกรรมโซนรามอินทรา
===> รูปกิจกรรมโซนศรีนครินทร์
===> รูปกิจกรรมโซนพระนคร
===> รูปกิจกรรมโซนธนบุรี
===> รูปกิจกรรมโซนแจ้งวัฒนะ
-----------------------------
AE Racing Club - FreeStyle
-----------------------------
=> Free Style - AE Racing Club
=> Free Style ช่างภาพ
-----------------------------
AE Racing Club - กรุงเทพฯ ปริมณฑล
-----------------------------
=> โซนรามอินทรา
=> โซนศรีนครินทร์
=> โซนพระนคร
=> โซนธนบุรี
=> โซนแจ้งวัฒนะ
=> โซนหนองจอก
-----------------------------
AE Racing Club - ต่างจังหวัด
-----------------------------
=> โซนต่างจังหวัด
===> โซนหาดใหญ่-สงขลา
===> โซนอยุธยา-อ่างทอง
===> โซนโคราช
===> โซนภาคตะวันตก
===> โซนตรัง-พัทลุง
===> โซนอุบลราชธานี
===> โซนลพบุรี-สระบุรี
===> โซนปทุมธานี
=> โซนชลบุรี
=> โซนระยอง
=> โซนภาคเหนือตอนบน
=> โซนภาคเหนือตอนล่าง
-----------------------------
AE Racing Club - Knowledge Sharing
-----------------------------
=> รวมบทความ ความรู้ต่างๆ
=> รวมบทความ ความรู้ ปัญหาต่างๆ ของรถใช้แก๊ส
=> บทความ D.I.Y (Do It by Yourself)
-----------------------------
AE Racing Club - Classified
-----------------------------
=> ประกาศซื้อ
=> ประกาศขายสินค้าและบริการ (เกี่ยวกับรถยนต์)
=> ประกาศขายรถยนต์
=> ประกาศขาย (ของทั่วไป)
=> Update ราคาอะไหล่ ประดับยนต์
-----------------------------
Web Board Comments and Problem Report
-----------------------------
=> เสนอแนะ และแจ้งปัญหาการใช้งาน Web Board
กำลังโหลด...