17 กุมภาพันธ์ 2568 00:34:57
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ค้นหา
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
AE. Racing Club
>
AE Racing Club - FreeStyle
>
Free Style - AE Racing Club
(ผู้ดูแล:
Oon_Resist .CZ
,
DARKSTAR
,
[[Badd]]
,
PANDA RACING
) >
แรงอัดในกระบอกสูบเหลือ ประมาณ 98 PSI ซ่อมหรือทิ้งดี
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« กระทู้ที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: แรงอัดในกระบอกสูบเหลือ ประมาณ 98 PSI ซ่อมหรือทิ้งดี (อ่าน 15010 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Quixotic
นักแข่งมือสมัครเล่น
ออฟไลน์
กระทู้: 382
แรงอัดในกระบอกสูบเหลือ ประมาณ 98 PSI ซ่อมหรือทิ้งดี
«
เมื่อ:
16 กันยายน 2557 19:04:14 »
คือวันนี้ได้มีโอกาศวัดแรงอัดในกระบอกสูบเล่นๆ ใช้เกจวัดธรรมดาๆ ทั่วไป
ผลปรากฏว่า แต่ละสูบวัดได้แค่ 90 - 98 PSI หรือประมาณ 6.7 บาร์ ไม่ยอมถึง 100 T_T
พอผมไปหาข้อมูลแรงอัดที่เหมาะสม ปรากฏว่าเขาอยู่กันที่ 190 PSI + หรือ 10 Bar+
อาการขนาดนี้ พอจะประเมิณได้ไหมครับว่า อะไรเน่าไปแล้วมั่ง
อาการรถ ความเร็วปลายตายที่ 140 ต้นเหมือนจะปกติ
เครื่อง 4A-GE รุ่นโชว์สายหัวเทียน
บันทึกการเข้า
ที่เห็นจอดนิ่งๆ เพราะวิ่งไม่ได้ T_T
แอลกอฮอล์40ดีกรี
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
ออฟไลน์
กระทู้: 1,458
Re: แรงอัดในกระบอกสูบเหลือ ประมาณ 98 PSI ซ่อมหรือทิ้งดี
«
ตอบ #1 เมื่อ:
16 กันยายน 2557 19:06:16 »
อ้างจาก: Quixotic ที่ 16 กันยายน 2557 19:04:14
คือวันนี้ได้มีโอกาศวัดแรงอัดในกระบอกสูบเล่นๆ ใช้เกจวัดธรรมดาๆ ทั่วไป
ผลปรากฏว่า แต่ละสูบวัดได้แค่ 90 - 98 PSI หรือประมาณ 6.7 บาร์ ไม่ยอมถึง 100 T_T
พอผมไปหาข้อมูลแรงอัดที่เหมาะสม ปรากฏว่าเขาอยู่กันที่ 190 PSI + หรือ 10 Bar+
อาการขนาดนี้ พอจะประเมิณได้ไหมครับว่า อะไรเน่าไปแล้วมั่ง
อาการรถ ความเร็วปลายตายที่ 140 ต้นเหมือนจะปกติ
เครื่อง 4A-GE รุ่นโชว์สายหัวเทียน
ใช้ไปจนวิ่งไม่ได้ดีก่วาครับ
บันทึกการเข้า
ซ่อมแอร์รถยนต์ครับ ปรึกษาได้ครับไม่ฟันไม่กัดครับใจดี0852622362
supernooky
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
ออฟไลน์
กระทู้: 2,310
Re: แรงอัดในกระบอกสูบเหลือ ประมาณ 98 PSI ซ่อมหรือทิ้งดี
«
ตอบ #2 เมื่อ:
16 กันยายน 2557 23:54:36 »
เช็คถูกวิธีหรือเปล่า
กำลังอัดต่ำขนาดนี้ แม้จะสตาร์ยังไม่ติดเลยครับ
บันทึกการเข้า
ปั้น AE ดีก่า ^^
Quixotic
นักแข่งมือสมัครเล่น
ออฟไลน์
กระทู้: 382
Re: แรงอัดในกระบอกสูบเหลือ ประมาณ 98 PSI ซ่อมหรือทิ้งดี
«
ตอบ #3 เมื่อ:
17 กันยายน 2557 00:10:36 »
ทำตามในเวปน่ะครับ
ถอดหัวเทียนให้หมด เสียบอแดปเตอร์ ตอนสตาร์ทก็เหยียบคันเร่งค้างไว้ให้สุด
รึว่าจะโทษเกจวัดเสียดี
บันทึกการเข้า
ที่เห็นจอดนิ่งๆ เพราะวิ่งไม่ได้ T_T
tu_ranong
นักแข่งมืออาชีพอันดับสอง
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 794
Re: แรงอัดในกระบอกสูบเหลือ ประมาณ 98 PSI ซ่อมหรือทิ้งดี
«
ตอบ #4 เมื่อ:
17 กันยายน 2557 08:53:58 »
อ้างจาก: Quixotic ที่ 16 กันยายน 2557 19:04:14
คือวันนี้ได้มีโอกาศวัดแรงอัดในกระบอกสูบเล่นๆ ใช้เกจวัดธรรมดาๆ ทั่วไป
ผลปรากฏว่า แต่ละสูบวัดได้แค่ 90 - 98 PSI หรือประมาณ 6.7 บาร์ ไม่ยอมถึง 100 T_T
พอผมไปหาข้อมูลแรงอัดที่เหมาะสม ปรากฏว่าเขาอยู่กันที่ 190 PSI + หรือ 10 Bar+
อาการขนาดนี้ พอจะประเมิณได้ไหมครับว่า อะไรเน่าไปแล้วมั่ง
อาการรถ ความเร็วปลายตายที่ 140 ต้นเหมือนจะปกติ
เครื่อง 4A-GE รุ่นโชว์สายหัวเทียน
เกจ์ธรรมดาที่น้าวัดเป็นแบบไหน แบบที่ช่างเค้าใช้กันป่าว แล้วถอดหัวเทียนถอดทุกสูบหรือถอดสูบที่จะวัด สรุป คือน้าต้องหาเกจ์ที่วัดแรงอัดโดยเฉพาะถอดหัวเทียนสูบที่จะวัดออกขันเกจ์วัดในรูหัวเทียนสูบที่จะวัด สตาร์ทเครื่องให้เครื่องหมุน เอากระดาษมาจดว่าได้ค่าแรงอัดที่เท่าไหร่ทำแบบนี้ทุกสูบ แล้วเอาค่าแรงอัดที่ได้มาหา มาหาค่าแรงอัดมาตรฐานของเครื่องนั้นๆว่ามันควรอยู่เท่าไหร่
บันทึกการเข้า
Quixotic
นักแข่งมือสมัครเล่น
ออฟไลน์
กระทู้: 382
Re: แรงอัดในกระบอกสูบเหลือ ประมาณ 98 PSI ซ่อมหรือทิ้งดี
«
ตอบ #5 เมื่อ:
17 กันยายน 2557 11:53:17 »
เป็นเกจที่ช่างเขาใช้วัดกันอ่ะครับ ในหน้าปัดมันก็เขียน Compression tester นะครับ
ผมลองทั้งแบบ ถอดทีละสูบ และ ถอดทุกสูบ ผลที่ได้ไม่ต่างกันมากครับ
ส่วนค่ามาตรฐานของ 4A-GE 16v ผมยังหาไม่เจอ เจอแต่แบบที่เขาว่ากันว่ามาตรฐานของเครื่อง NA ไม่ควรต่ำกว่า 10 Bar
หากใครมีข้อมูลรบกวนชี้เป้าทีครับ
บันทึกการเข้า
ที่เห็นจอดนิ่งๆ เพราะวิ่งไม่ได้ T_T
~ Funky_nu_NoO :
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 5,930
: ถ้าไม่รีบ ทำไมไม่ออกพรุ่งนี๊ !!!!
Re: แรงอัดในกระบอกสูบเหลือ ประมาณ 98 PSI ซ่อมหรือทิ้งดี
«
ตอบ #6 เมื่อ:
17 กันยายน 2557 15:11:45 »
ถอดหัวเทียนแค่สูบที่แหย่ไม่ใช่เหรอครับ ถอดทีละหัว ?
บันทึกการเข้า
>> ท่อตรงยิงสด 101 = 1,500.-
..
>> แผ่นไมล์แต่ง 2,300 เหลือ 1,300...ที่นี่ !
..
>> เครื่องเตือนปืนจับความเร็ว COBRA สองเครื่อง 2,500.-
Quixotic
นักแข่งมือสมัครเล่น
ออฟไลน์
กระทู้: 382
Re: แรงอัดในกระบอกสูบเหลือ ประมาณ 98 PSI ซ่อมหรือทิ้งดี
«
ตอบ #7 เมื่อ:
17 กันยายน 2557 15:29:46 »
ผมทำทั้งสองแบบอ่ะครับ
ที่ถอดทุกหัวผมทำตามนี้
http://mte.kmutt.ac.th/elearning/teaching/Main_Unit04_files/program.pdf
บันทึกการเข้า
ที่เห็นจอดนิ่งๆ เพราะวิ่งไม่ได้ T_T
Hunter_JIK.CZ48
AE Racing Club Staff
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 8,158
3S-GE Doraemonster 9X
Re: แรงอัดในกระบอกสูบเหลือ ประมาณ 98 PSI ซ่อมหรือทิ้งดี
«
ตอบ #8 เมื่อ:
17 กันยายน 2557 16:47:00 »
อแดปเตอร์แน่หรือเปลาครับ
บันทึกการเข้า
Quixotic
นักแข่งมือสมัครเล่น
ออฟไลน์
กระทู้: 382
Re: แรงอัดในกระบอกสูบเหลือ ประมาณ 98 PSI ซ่อมหรือทิ้งดี
«
ตอบ #9 เมื่อ:
17 กันยายน 2557 22:02:27 »
แน่นดีอ่ะครับ
ตามจริงแล้วแรงอัดแค่นี้ มันไม่สมควรจะวิ่งได้แล้วใช่ไหมครับ จะได้โทษเกจวัดเสีย เงินจะได้ไม่เสียตาม ฮ่าๆ
บันทึกการเข้า
ที่เห็นจอดนิ่งๆ เพราะวิ่งไม่ได้ T_T
Jay หมอศรี @ WZ Zone
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
ออฟไลน์
กระทู้: 4,819
Re: แรงอัดในกระบอกสูบเหลือ ประมาณ 98 PSI ซ่อมหรือทิ้งดี
«
ตอบ #10 เมื่อ:
17 กันยายน 2557 23:43:46 »
ผมว่าเครื่องวัด เสียแล้วม้างง ไม่ก็เกลียวที่ไขลงไปปีนเกลียว
ส่วนกำลังอัด ก็วัดตอนถอดหัวเทียนให้หมดเลยครับ จริงๆ ไม่ต้องเหยียบคันเร่งไว้ก็ได้
ส่วนจะถอดหัวฉีดหรือไม่ ก็แล้วครับ ของผมถอดออกหมดเลย จะได้รู้ว่า กำลังอัด (เฉพาะอากาศ)
มันได้เท่าไหร่กันแน่
บันทึกการเข้า
Quixotic
นักแข่งมือสมัครเล่น
ออฟไลน์
กระทู้: 382
Re: แรงอัดในกระบอกสูบเหลือ ประมาณ 98 PSI ซ่อมหรือทิ้งดี
«
ตอบ #11 เมื่อ:
18 กันยายน 2557 00:17:56 »
โอเคครับ ขอบคุณทุกความเห็นครับ
สรุปแล้วโทษเกจวัดดีกว่า สบายใจดี
ขอทิ้งท้ายไว้หน่อยครับ ตอนวัดแบบเหยียบคันเร่งกับไม่เหยียบ ของผมได้ค่าต่างกันประมาณ 20 PSI อ่ะครับ (ตอนเหยียบคันเร่งได้เยอะกว่า)
บันทึกการเข้า
ที่เห็นจอดนิ่งๆ เพราะวิ่งไม่ได้ T_T
jedee
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
ออฟไลน์
กระทู้: 2,490
ได้หมดถ้าสดชื่น
Re: แรงอัดในกระบอกสูบเหลือ ประมาณ 98 PSI ซ่อมหรือทิ้งดี
«
ตอบ #12 เมื่อ:
18 กันยายน 2557 04:03:02 »
สมัยที่เรี่ยวแรงยังดี ผมโอเวอร์ฮอลรถเรโนลต์อาร์ ๑๙ ด้วยตัวเอง ทำเองหมดทุกขั้นตอน ตอนวัดกำลังอัด มันก็ได้ประมาณที่คุณบอกนี่ล่ะ แต่ที่ดูมันก็ใกล้เคียงกันทั้งสี่สูบ บวกลบมีประมาณสิบเปอร์ เก้าสิบถึงเก้าแปด
แต่ทางทฤษฏี ดูเหมือนว่ามันไม่น่าจะสตาร์ทติด (ตอนนั้นผมไม่ทราบหรือไม่รู้สเปคหรอกว่า ปรกติแรงอัดมันเท่าไร วัดออกมาแม่มได้ใกล้เคียงกัน ก็ประกอบคืนโลด) แต่ของผมมันต่างจากคุณที่ถาม
แรงอัดมันต่างกันไม่มาก เก้าสิบ เก้าสิบสอง เก้าสิบสาม ประมาณนี้ แต่ประกอบเสร็จ ก็สตาร์ทจึ้งเดียวติด แล้วนิ่งเลย แถมวิ่งใช้งานไปทั่วประเทศ น่าจะเกินเจ็ดแสนกิโลเมตร โดยไม่มีปัญหา ไม่มีควันขาว แล้วใช้ความเร็วระดับเฉียดสองร้อยกิโลเมตร หรือกว่าสองร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมง แช่ยาวโลดมาตลอด (ตอนนั้นน้ำมันถูกอยู่ ลิตรละสิบกว่าบาท )
คำแนะนำ ลองดูส่วนอื่น เช่น วาวล์ทั้งสี่ในแต่ละสูบ รั่วไหม(แรงอัดออกแน่) แหวนรั่วมากไหม(ระยะห่างมากไหม) ไม่ก็ลองประกอบแล้วสตาร์ทดูติดไหมแล้วเอาไปวิ่ง ปลายยังมีร้อยสี่ ผมว่าอย่าไปกังวลกับการวัดแรงอัดเลย รึว่ารถญี่ปุ่นมันสำคัญ กว่า......(อันนี้ไม่รู้แต่แบ่งปันจากประสพการณ์ตรงที่เคยทำเอง) เอาเป็นว่าในอดีต ผมเคยทำรถเอง(ปัจจุบัน สังขารไม่ให้ ทำเองแค่บางอย่าง แต่ก็ไม่แน่ รอบ้านใหม่เสร็จสมบูรณ์ซะก่อน อาจจะทำเองอีกครั้ง แต่ต้องมีลูกมือช่วย) แรงอัดที่ว่า ทำเสร็จผมยังวิ่งได้เกินสองร้อยครับ ทั้งที่รถเป็นแค่คาบูเรเตอร์(อันนี้ผมจับเวลากับหลักกิโลเมตรของทางหลวงเลย สิบสามกิโล ผมวิ่งสามนาทีครึ่งเป๊ะ ลองคำนวนดู สองร้อยยี่สิบขึ่้นครับ ตามไปอ่านโพสต์เก่าๆได้ในเวปเรโนลต์) แต่เจ้าตัวใหญ่อาร์ ๒๑ ไม่ต้องพูดถึง รถแข่งดีๆนี่เอง สมัยนั้นผมฟัดข้ามรุ่นได้เกือบทุกรุ่น
ยกเว้นเอส ๕๐๐ กับลักซัส อันนี้ต้องยอมครับ
นอกนั้นมีลุ้นเกือบทุกรุ่นเลย สมัยที่ยังเป็นหนุ่มแล้วยังขับรถเร็วอยู่ ผมจำได้เคยวิ่งจากโคราชเข้ากรุงเทพ ถึงปากทางลาดพร้าวประมาณหนึ่งชั่วโมงกะห้านาที อุบล - โคราช สองชั่วโมงครึ่ง อุบลเชียงราย แปดชั่วโมง (รวมจอดรถพักรถ จอดนอนด้วย) เป็นอะไรที่ท้าทายพยายมดีจริงๆ
ทุกวันนี้ให้ไปทำอีก ไม่มีทางทำได้หรอก ต่อให้รถวิ่งได้สามร้อยก็ตาม เพราะรถมันเยอะขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากเป็นห้าเท่าสิบเท่าเลย ไม่มีทางทำได้ครับ ผมรอดตายมาเล่าให้ฟังก็ใช้วิจารณญาณให้การอ่านการเอาไปปฏิบัติให้ดีๆ แต่ห้ามเรียนแบบครับ อันตราย เมื่อคืนก็เพิ่งกลับจากเดินทางทำงาน อุบล บุรีรัมย์ มหาสารคาม เมืองพล หนองสองห้อง บุรีรัมย์ และกลับอุบลในเส้นทางเดิม ๒๒๖ สามวัน ประมาณแปดร้อยกิโล แต่เอาเจ้าเจโฟร์ไป(ปิ๊กอัพ ขับสี่) ใช้ความเร็วแค่เฉลี่ยแปดเก้าสิบถึงไม่เกินร้อยยี่สิบ ทั้งไปกลับ มีรถแซงเราได้แค่ไม่ถึงสิบคันครับ แต่ถ้าเป็นอดีต ไม่เคยมีซักครั้ง หรือหากจะมีก็เจ้าสองตัวที่บอก เอสห้าร้อย กับลักซัส แม่มแรงจริงๆ แถมซีซีขี่เราเยอะด้วย
ป.ล. เครื่องวัดกำลังอัดของผม มันเป็นรุ่นเก่า ไม่มีเกลียวขันหรอก แค่กดให้แน่นๆ เป็นไปได้ว่าแรงอัดอาจรั่ว แต่ทุกครั้งที่วัดมันก็ได้แค่นั้นล่ะ แล้วผมใช้รถเรลโนลต์ ก็ใช้แค่ห้าหมื่นกิโล ก็ยกเครื่องใหม่ที่เราฮอลข้างนอกขึ้นสลับแล้วครับ (มีเครื่องพร้อมเกียรสามเครื่อง พอใช้สามห่วงนึกว่ามันจะเหมือนกัน ใครยกลงก็ซื้อเก็บไว้เกือบหมด จนตอนนี้เฉพาะเครื่องสามห่วงหากไม่ให้เขาไป ก็คงมีเกินสิบเครื่องครับ แต่โทษที ยังไม่ได้เอามาใช้ซักเครื่อง มีแต่เกียรที่มันพังแล้วเพิ่งได้เอามาใช้แค่นั้นจริงๆ เอาเป็นว่าโกดังที่ผมสร้าง สิบสองคูณสิบสี่เมตร มันเต็มเก็บไม่หมด ผมจำเป็นต้องให้ช่างต่อเพิ่มอีแปดเมตรถึงได้เก็บอะไหล่ที่ว่าได้หมด)
แต่สามห่วงที่ใช้ ไม่เคยฮอลซักครั้ง แม่มทนได้ใจจริงๆ(ว่ะ) ตอนนี้น่าจะใกล้ห้าแสนกิโลเข้าไปแล้ว สภาพยังเกือบป้ายแดง แต่มันคนละเรื่องกับรถยุโรปที่กล่าวถึงเมื่อกี้ เปรียบเทียบกันไม่ได้ แต่สามห่วงมันเหนือกว่าเรื่องความทน ความอึด เรื่องแฮนเดอร์ริ่ง การเกาะถนน หากเอาไปเทียบ ผมบอกได้คำเดียว ฟ้ากะเหว ยังห่างไกลยุโรปอีกหลายขุมครับ เอาเป็นว่าเจ้าจินนี่ กับนางแจ๋ว(อาร์๑๙ กะ อาร์ ๒๑) วิ่งแช่ยาวๆชิวๆ(ถนนเมืองไทย ) ที่ระดับร้อยหกสิบถึงสองร้อย ยังบังคับควบคุมได้สบายๆขับมือเดียวได้สบายๆชิวๆครับ เหมือนสามห่วยมันวิ่งแช่ที่ความเร็วแค่แปดสิบครับ แต่ถ้าสามห่วงขยับขึ้นไปใช้ความเร็วระดับร้อยยี่ถึงร้อยสี่ คนขับต้องระวัง(เกรงขึ้นมาก) กว่าขับเจ้าจินนี่กับนางแจ๋วอีกหลายเท่า ยิ่งสามห่วงใช้ความเร็วระดับเกือบสูงสุดถึงสูงสุด(๑๖๐ ถึง ๑๘๐ เอาเจ้าเจดีย์เป็นหลัก เยียบลากยาวสุดๆถึงได้ร้อยแปดครับนานๆๆมากๆ แต่ร้อยหกเรียกเป็นมาโลด) คนขับยิ่งต้องเกรงสุดขีดครับ เพราะมันพร้อมที่จะพาคุณลงข้างทางได้ทุกวินาที ผมถึงใช้คำว่ามันต่างกันฟ้ากะเหวครับไง
สมรรถณะอย่างที่บอก หกปีย้อนลงไปที่ผ่านมา แลกกับค่าดูแลปีละหลายๆหมื่นจนเกินแสน ต่อปี ทุกวันนี้ผมถึงได้จอดเก็บไว้ไม่ใช้มาน่าจะเกินหกปีแล้วล่ะ แต่ตอนนี้ยังนึกว่าจะลองเอาแบตไปใส่แล้วสตาร์ทดู แล้วเอามาใช้ใหม่(แต่ไม่วิ่งไกลเหมือนเมื่อก่อน และเลิกวิ่งเร็วแล้ว มันน่าจะเวิร์คนะ ไว้จัดการบ้านใหม่เสร็จค่อยว่ากัน ) โชคดีตอนเช้าๆครับ
บันทึกการเข้า
Quixotic
นักแข่งมือสมัครเล่น
ออฟไลน์
กระทู้: 382
Re: แรงอัดในกระบอกสูบเหลือ ประมาณ 98 PSI ซ่อมหรือทิ้งดี
«
ตอบ #13 เมื่อ:
18 กันยายน 2557 13:20:55 »
ขอบคุณน้า jedee ที่แชร์ประสบการณ์ให้อ่านกันครับ
4age ผมวัดกำลังอัดออกมาได้เท่านั้น แต่ก็สตาททีเดียวติด เหมือนรถปกติดี แต่จะติดที่ว่ามันกินแก๊สโหดไปกับความเร็วปลายมันได้แค่ 140 อาจเป็นเพราะ Aerodynamic ไม่ดีด้วย เพราะรถที่ใช้เป็นรถยุ่นเก่าๆ ประมาณปี 1980 โดนทั้งลมต้านลมฉุด หนักอีก ทั้งถังแก๊ส+ตู้ซับ
ณ ตอนนี้ผมก็อยู่ในช่วงวัยรุ่นครับกำลังคึก อิอิ ขับรถช้าๆยังไม่เป็น เคยขับรถไกลสุดก็ เชียงราย - กรุงเทพ กับ ยโส - เชียงราย
ตอนขับจาก จาก ชร. ไป กทม. เอา 318i e36 ไปครั้งแรก ใช้เวลาประมาณ 7-8 ชั่วโมง เวลาเดินทางออก ตจว. พวกทางบนเขาที่มีโค้งเยอะๆนี่ชอบมาก กดใส่เต็มที่แบบไม่มีใครแซง
ค่อนข้างห้าวพอควร ฮ่าๆ เวลาเจอทางโค้งเยอะๆแล้วอดใจไม่ค่อยได้ครับ ชอบเล่นกับทางโค้ง แต่ถ้าพลาดมานี่ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตอ่ะครับ
หลังจากได้ขับ e36 เล่นก็ติดใจรถยุโรปมากครับ ในอนาคตมีแผนจะซื้อ bmw 525i e34 ดีกว่ามาทนผ่อนพวกรถออกใหม่ๆ ราคาครึ่งล้าน โดยความเห็นส่วนตัวนะครับ
แต่ตอนนี้ทนขับทนซ่อมมรดกพ่อไปก่อน
บันทึกการเข้า
ที่เห็นจอดนิ่งๆ เพราะวิ่งไม่ได้ T_T
jedee
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
ออฟไลน์
กระทู้: 2,490
ได้หมดถ้าสดชื่น
Re: แรงอัดในกระบอกสูบเหลือ ประมาณ 98 PSI ซ่อมหรือทิ้งดี
«
ตอบ #14 เมื่อ:
19 กันยายน 2557 07:42:42 »
อ้างจาก: Quixotic ที่ 18 กันยายน 2557 13:20:55
ขอบคุณน้า jedee ที่แชร์ประสบการณ์ให้อ่านกันครับ
4age ผมวัดกำลังอัดออกมาได้เท่านั้น แต่ก็สตาททีเดียวติด เหมือนรถปกติดี แต่จะติดที่ว่ามันกินแก๊สโหดไปกับความเร็วปลายมันได้แค่ 140 อาจเป็นเพราะ Aerodynamic ไม่ดีด้วย เพราะรถที่ใช้เป็นรถยุ่นเก่าๆ ประมาณปี 1980 โดนทั้งลมต้านลมฉุด หนักอีก ทั้งถังแก๊ส+ตู้ซับ
ณ ตอนนี้ผมก็อยู่ในช่วงวัยรุ่นครับกำลังคึก อิอิ ขับรถช้าๆยังไม่เป็น เคยขับรถไกลสุดก็ เชียงราย - กรุงเทพ กับ ยโส - เชียงราย
ตอนขับจาก จาก ชร. ไป กทม. เอา 318i e36 ไปครั้งแรก ใช้เวลาประมาณ 7-8 ชั่วโมง เวลาเดินทางออก ตจว. พวกทางบนเขาที่มีโค้งเยอะๆนี่ชอบมาก กดใส่เต็มที่แบบไม่มีใครแซง
ค่อนข้างห้าวพอควร ฮ่าๆ เวลาเจอทางโค้งเยอะๆแล้วอดใจไม่ค่อยได้ครับ ชอบเล่นกับทางโค้ง แต่ถ้าพลาดมานี่ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตอ่ะครับ
หลังจากได้ขับ e36 เล่นก็ติดใจรถยุโรปมากครับ ในอนาคตมีแผนจะซื้อ bmw 525i e34 ดีกว่ามาทนผ่อนพวกรถออกใหม่ๆ ราคาครึ่งล้าน โดยความเห็นส่วนตัวนะครับ
แต่ตอนนี้ทนขับทนซ่อมมรดกพ่อไปก่อน
โอ้....ลดๆลงหน่อย วันนี้ยังไม่พลาด แต่คงมีสักวัน.....เอาใจเกินร้อยไปแขวนไว้ก่อนเน้อ ที่บอกมาอีสามสี สามหก เทียบไม่ได้กับเจ้าแชมป์โลกสามสมัยซ้อน ผมเคยไล่สวนได้สบายๆที่ความเร็วบนเขาระดับเกินร้อยแปด มุดหายวับเลย จนเฟอร์มาขอซื้อตัวชูมัคเกอร์ แค่เหตุผลเพียง ขอเฟอร์ได้เป็นแชมป์โลกมั่ง ผมจำตัวเลขไม่ได้แล้วว่าซื้อไปเท่าไร จะเล่าเรื่องจริงเกี่ยวกับเจ้าอีสามสี่ให้อ่านซักนิด
ดังที่บอก ผมแค่เล่นด้วยชิวๆ บนเขาใหญ่ เขาขับอีสามสี่คงมาจากขอนแก่น ผมตีมาจากอุบล จุดหมายเดียวกันคือกรุงเทพ ช่วงอยู่บนเขาใหญ่ ผมก็วิ่งของผมดีๆที่ความเร็วเดินทางระดับร้อยสี่สิบ(บนเขา ทางโค้ง ทางตรง ผมก็วิ่งเฉลี่ยที่ความเร็วนี้ ) พวกมาถึงก็จี้ตูดไม่ยอมไปซักที กำ...... ผมก็เลยเล่นด้วยขำๆ....ตอนนั้นไม่ได้นึกอะไร แตะเบรกนิดๆให้ขึ้นหน้าไป แต่ประมาณแรงแค่ทางตรงอย่างเดียว ทางโค้งไม่ประสาเลย ผมก็เลยสวนในโค้งที่ร้อยแปด หายวับไปเลย จนลืมเจ้าอีสามสี่สีน้ำเงินไปแระ พอถึงสระบุรี ผมก็วิ่งไหลตามรถเร็วซึ่งใช้ความเร็วไล่ตามกันแค่ร้อย ร้อยสิบไม่เกินร้อยยี่ ไหลตามก้นกันไปเรื่อยๆ จนเกือบจะถึง ม.ธรรมศาสตร์รังสิต
แต่แล้วอยู่เจ้าอีสามสี่คันที่ผมสวนบนเขา ก็มาซ้ายสุดเลย ตอนขึ้นหน้าผมไปนั้นความเร็วน่าจะเกินสองร้อยครับ ผมก็งงเล็กๆ ว่ามันจารีบไปไหน แค่ไม่กี่วินาที ไม่รู้ข้างหน้าประมาณสี่ห้าร้อยเมตรมันเกิดอะไรขึ้น ผมเห็นแต่เจ้านี่มันสบัด แล้วก็พุ่งชนราวเหล็กด้านขวา ฝุ่นเต็มไปหมด รถหน้าผมซึ่งอยู่เลนส์ขวาทั้งหมด เบรกไปตามๆกัน พอผมมาถึงจุดนั้น เจ้าอีสามสี่คันงาม ขาดเป็นสองท่อน กระเด็นห่างกันออกไปประมาณสิบยี่สิบเมตรกะไม่ถูก ท่อหน้าตีลังกาตะแคงอยู่ใกล้กับราวเหล็ก ท่อนหลังกระเด็นออกไปตามแรงส่ง ดีที่ไม่ข้ามฟากไปฝั่งโน้น ยังอยู่ในช่องกลางอยู่ น่าจะหลบมอร์ไชค์ตัดหน้าหรืออะไรซักอย่าง สภาพเละไม่มีทางที่จะซ่อมกลับคืนได้ เหมือนคนขับที่ผมว่าคงเละอยู่ในนั้น พราะสภาพด้านหน้าที่ชนนั้นไม่เหลือสภาพอีสามสี่อีกเลย ผมได้แต่แผ่เมตตาให้คนขับ ทั้งไม่รู้จักไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน เหตุการณ์นี้น่าจะเกือบหรือเกินยี่สิบปีแล้ว คุณอ่านแล้วก็เก็บไปคิด ให้ดีๆ รวมทั้งเพื่อนๆสมาชิกที่ยังชอบความเร็วเป็นชีวิตจิตใจ เวลาที่มันพลาดพลั้งขึ้นมามันไปบอกไม่เตือนเราก่อน แล้วเราก็ไม่มีโอกาสกลับไปแก้ตัวเลย ผมเจอกับเหตุการณ์นี้สดๆ เห็นต่อหน้าต่อตา ระยะห้าร้อยเมตรโดยประมาณ กว่าจะไปถึงจุดนั้น รถหน้าเขาเบรกกันหมด ค่อยๆคลานไปก็หลายนาทีอยู่ ภาพยังติดตาอยู่เลย ผมเองแรกๆก็แบบคุณนี่ล่ะ ไม่ยอมหยุด จนกระทั่ง เจ้าจินนี่ลงข้างทางกำลังขึ้นร้อยแปดสิบ ผมรอดตายมาพิมพ์ให้อ่านนับว่าเป็นบุญกุศลมาก มันควบคุมอะไรไม่ได้เลย รถตัดหน้าครับ มันไม่ดูตาม้าตาเรือ นึกอยากออกมันก็หักออกมาเลย เลวจริงๆ หากเป็นวันนี้ ผมชนแม่มมันกลางลำเลย ไม่หักหลบให้ตัวเองตกข้างทาง ซ่อมรถไปแสนสองหมื่นถึงได้ขับได้ วันนี้เจ้าจินนี่ก็จอดสงบในโรงรถกว่าหกปีแล้ว แต่คงได้เอามาวิ่งอีกไม่นานหรอก แล้วหยุดตำนานไว้แค่นี้ สมควรเลิกได้แล้วครับ ต้องขออภัยที่ใช้คำพูดตรงๆ ด้วยความหวังดี ด้วยความเป็นห่วงครับ
บันทึกการเข้า
Quixotic
นักแข่งมือสมัครเล่น
ออฟไลน์
กระทู้: 382
Re: แรงอัดในกระบอกสูบเหลือ ประมาณ 98 PSI ซ่อมหรือทิ้งดี
«
ตอบ #15 เมื่อ:
19 กันยายน 2557 21:26:43 »
ขอบคุณน้า jedee อีกที ที่ช่วยบอกเล่าอุทาหรณ์สอนใจครับ
ตัวผมเองในทางตรงไม่เคยเกิน 160 ซักครั้งหรอกครับ แต่แค่ชอบเล่นในทางโค้ง
มีครั้งนึงเคยกดคันเร่งส่งในทางโค้งตอนขึ้นเขาจนรถหมุนติ้ว ด้วยความคึกคะนอง ตอนนั้นตั้งใจจะให้มันโอเวอร์สเตียร์เล็กๆน้อยๆพอหนุก
ปรากฏว่าตอนรู้ตัวว่ามันปัดหน้าก็หันเข้าหาราวเหล็กข้างทางแล้ว ละตกใจ รีบหักพวกมาลัยสวนทางจนสุด
แต่ว่าหักเยอะเกิน รถก็สะเบิดกลับมาอีกทาง หมุน 180 องศา รถหันหน้ากลับไปอีกทางเลยแล้วรถก็ไปหยุดอยู่อีกเลนพอดี (ถนน 2 เลน)
เดชะบุญที่ไม่มีรถสวนมา ไม่งั้นผมโดนกลางลำเป็นแน่แท้ ตอนนั้นก็เหวอไปซักพัก แล้วก็หาที่กลับรถขับไปต่อแบบเต่าๆ
แต่เมื่อวันก่อนเหมือนผมจะเห็นรถทรงคล้ายๆ เรโนลต์ อาร์ 19 แต่วางเครื่อง 16v ฝาลายออโต้มา จอดอยู่อู่ข้างๆร้านผม
สงสัยคงต้องกลับไปส่องใหม่ซะแล้ว ถ้าใช่ อาร์ 19 จะลองจับมาขับเล่นซักหน่อย
ขอบคุณน้าอีกครั้งนะครับ ที่ทำให้รุจักรถดีๆ ในอดีตอีกรุ่นนึง
บันทึกการเข้า
ที่เห็นจอดนิ่งๆ เพราะวิ่งไม่ได้ T_T
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« กระทู้ที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
AE Racing Club - Activity & Gallery
-----------------------------
=> กิจกรรมต่างๆ ของชาว AE Racing Club
=> Meeting Gallery
===> รูปกิจกรรมโซนรามอินทรา
===> รูปกิจกรรมโซนศรีนครินทร์
===> รูปกิจกรรมโซนพระนคร
===> รูปกิจกรรมโซนธนบุรี
===> รูปกิจกรรมโซนแจ้งวัฒนะ
-----------------------------
AE Racing Club - FreeStyle
-----------------------------
=> Free Style - AE Racing Club
=> Free Style ช่างภาพ
-----------------------------
AE Racing Club - กรุงเทพฯ ปริมณฑล
-----------------------------
=> โซนรามอินทรา
=> โซนศรีนครินทร์
=> โซนพระนคร
=> โซนธนบุรี
=> โซนแจ้งวัฒนะ
=> โซนหนองจอก
-----------------------------
AE Racing Club - ต่างจังหวัด
-----------------------------
=> โซนต่างจังหวัด
===> โซนหาดใหญ่-สงขลา
===> โซนอยุธยา-อ่างทอง
===> โซนโคราช
===> โซนภาคตะวันตก
===> โซนตรัง-พัทลุง
===> โซนอุบลราชธานี
===> โซนลพบุรี-สระบุรี
===> โซนปทุมธานี
=> โซนชลบุรี
=> โซนระยอง
=> โซนภาคเหนือตอนบน
=> โซนภาคเหนือตอนล่าง
-----------------------------
AE Racing Club - Knowledge Sharing
-----------------------------
=> รวมบทความ ความรู้ต่างๆ
=> รวมบทความ ความรู้ ปัญหาต่างๆ ของรถใช้แก๊ส
=> บทความ D.I.Y (Do It by Yourself)
-----------------------------
AE Racing Club - Classified
-----------------------------
=> ประกาศซื้อ
=> ประกาศขายสินค้าและบริการ (เกี่ยวกับรถยนต์)
=> ประกาศขายรถยนต์
=> ประกาศขาย (ของทั่วไป)
=> Update ราคาอะไหล่ ประดับยนต์
-----------------------------
Web Board Comments and Problem Report
-----------------------------
=> เสนอแนะ และแจ้งปัญหาการใช้งาน Web Board
กำลังโหลด...