AE. Racing Club
17 เมษายน 2568 14:18:40 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เขาคิชฌกูฏแหล่งท่องเที่ยวทำบุญอันโด่งดัง  (อ่าน 1018 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
turbotoyotanon
มือใหม่หัดขับ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 28



ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 10 มีนาคม 2558 15:50:04 »



พักเรื่องรถกันบ้างมาพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวกันบ้าง ปฎิเสธไม่ได้เลยตอนนี้เรียกได้เป็นกระแสมาแรงเลยที่พูดถึงกันทั่วประเทศโดยเฉพาะชาวพุทธอย่างเราๆ   แต่สำหรับที่อยากเดินทางไปเขาคิชฌกูฏต้องรู้เรื่องราวอะไรบ้างก่อนที่จะไปเที่ยวไปทำบุญกัน
ขอเริ่มจากวันเปิด-ปิดการทำการ
การเดินทางขึ้นไปสักการะรอยพระพุทธบาท ทางจังหวัดจันทบุรี ได้กำหนดเปิดให้พุทธศาสนิกชน ประชาชน และนักท่องเที่ยว ขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ 2558 ตั้งแต่วันนี้ถึง 19 มีนาคม 2558 โดยมีรถยนต์บริการรับ-ส่ง ขึ้น-ลงเขา หรือเดินเท้าขึ้น-ลงเขาได้ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนการเดินทางไปท่องเที่ยวในอุทยานฯ เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.30 - 16.30 น. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
เทศบาลตำบลพลวง โทร. 039-309-281

อะไรบ้างที่ไม่ควรพลาดในทริปเขาคิชฌกูฏ
1.ตำนานศักดิ์สิทธิ์อันเลื่องลือ
เขาคิชฌกูฏ มีสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขานั่นคือ รอยพระพุทธบาท ที่ประดิษฐานอยู่สูงที่สุดในประเทศไทย สูงกว่า 1,050 เมตร จากระดับน้ำทะเล ถือว่าสูงที่สุดในเขตอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ว่ากันว่าใครได้มานมัสการรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาคิชฌกูฏก็เปรียบเหมือนได้เข้าเฝ้าองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งจะได้รับกุศลอันยิ่งใหญ่ ประสบแต่ความสุขความเจริญรุ่งเรือง และเชื่อกันว่าหากได้มาอธิษฐานขอพรแล้วจะสมหวังดั่งใจปรารถนา
2.บรรดาน้ำตกทั้งหลาย
น้ำตก 13 ชั้น (น้ำตกกระทิง) น้ำตกกระทิง มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาคิชฌกูฏ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่มี 13 ชั้น ใช้เวลาเดินไป-กลับ 3 ชั่วโมง เล่นน้ำได้ แต่ละชั้นห่างกันราว 20 เมตร ชั้นที่ 8-9 เป็นชั้นที่สวยงามที่สุด ระหว่างทางจะผ่านป่าไผ่และพันธุ์ไม้หลากหลายชนิด และยังมีชายหาดขนาดใหญ่ริมธารน้ำตกที่เกิดจากทรายที่ถูกน้ำป่าพัดลงมาเมื่อ ปี พ.ศ. 2542 โดยลำธารชั้นล่างของน้ำตกอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ เพียง 100 เมตร
น้ำตกคลองช้างเซ น้ำตกคลองช้างเซ ตั้งอยู่ระหว่างทางขึ้นเขาพระบาท ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นเส้นทางที่เหมาะแก่การเดินป่าศึกษาธรรมชาติ โดยเริ่มจากหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ เดินเป็นวงกลมแล้ววนกลับมาที่เดิม ระหว่างทางจะมีคำบรรยายเขียนไว้ ใช้เวลาในการเดินประมาณ 3 ชั่วโมง ระยะทาง 4 กิโลเมตร
น้ำตกคลองไพบูลย์  น้ำตกคลองไพบูลย์อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏประมาณ 6 กิโลเมตร การเดินทางใช้เส้นทางเดียวกันกับอุทยานฯ ถึงทางแยกเข้าที่ทำการอุทยานฯ ให้ตรงไปอีก 6 กิโลเมตร เลยสะพานข้ามคลองกระสือน้อยไป มีแยกเลี้ยวขวาเข้าน้ำตกคลองไพบูลย์ มีป้ายบอกทาง
3.จุดชมวิวสุดทรหด
หากต้องการไปชมวิวบนยอดเขาสูง แนะนำให้ปีนเขาไปที่ ยอดเขาพระบาท การเดินทางเริ่มต้นที่วัดพลวงไปตามถนนลูกรังที่ลาดชันและคดเคี้ยวมากระยะทาง 8 กิโลเมตร จากนั้นต้องเดินขึ้นเขาไปอีกประมาณ 1.2 กิโลเมตร ระหว่างทางจะมีจุดแวะพักให้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทิวทัศน์บนยอดเขาคิชฌกูฏ เช่น ศิลาเจดีย์ รอยพระพุทธบาทหลวง หินรูปบาตรคว่ำ ถ้ำฤาษี หินที่มีรูปร่างคล้ายเต่าและช้างขนาดยักษ์ จากนั้นเดินต่อไปถึงเขตผ้าแดงจนเจอลานพระบาท และขึ้นเขาต่อจากลานพระบาทไปอีก 800 เมตร ก็จะถึงบนยอดเขาพระบาท ซึ่งมีอากาศเย็นสบาย สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเทือกเขาสระบาป เขาสุกิม เกาะนมสาว และตัวเมืองจันทบุรีได้อย่างชัดเจน
 
การแคมปิ้งก็ไม่น่าพลาดเช่นกัน
ที่ทำการอุทยานฯ ก็มีพื้นที่เตรียมไว้สำหรับให้นักท่องเที่ยวได้กางเต็นท์พักแรมกันด้วย โดยเต็นท์สำหรับเช่าพักแรม พักได้ 3-6 คน ราคา 250-500 บาท แต่ถ้าในกรณีที่นักท่องเที่ยวนำเต็นท์มาเอง จะเสียค่าพื้นที่กางเต็นท์ประมาณ 30 บาท ต่อคน ต่อคืน หรือถ้าไม่อยากพักที่เต็นท์ก็พักที่บ้านพักได้ ทางอุทยานฯ มีอยู่ 6 หลัง พักได้ 2-8 คน ราคา 600-1,800 บาท
จะไม่พูดถึงการเดินทางก็กระไรอยู่
จากกรุงเทพฯ ให้ตรงไปใน ถนนสุขุมวิทจนถึงจังหวัดจันทบุรี จากนั้นจากตัวอำเภอเมืองจันทบุรีให้ขับผ่านแยกเขาไร่ยา ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 3249 ระยะทางประมาณ 18 กิโลเมตร โดยใช้ทางขึ้นเขาพระบาทพลวง (ทางขึ้นคนละจุดกับอุทยานฯ) เมื่อถึงวัดพระบาทพลวงต้องจอดรถส่วนตัวทิ้งไว้ (มีลานจอดรถไว้บริการ) จากนั้นมีรถสองแถวบริการขึ้นเขาพระบาทพลวง ออกจากวัดพลวงไปสิ้นสุดที่บริเวณทางขึ้นยอดเขาพระบาทฯ โดยรถที่ขึ้นยอดเขาแบ่งเป็น 2 ช่วง ค่าโดยสารช่วงละ 50 บาท/คน (รวมไป-กลับ 200 บาท) มีรถบริการตลอดเวลา ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จะถึงจุดเริ่มต้นการเดินเท้าขึ้นไปรอยพระบาท
 
ส่วนการเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ให้ใช้ถนนสุขุมวิทเช่นกัน แต่เมื่อถึงสี่แยกเขาไร่ยา ให้แยกซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 3249 ระยะทาง 24 กิโลเมตร จะถึงอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ หรือสามารถนั่งรถสองแถวสีฟ้าสาย จันทบุรี-จันทเขลม ขึ้นรถได้ที่ที่ทำการไปรษณีย์ท่าแฉลบ หรือสอบถามการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ โทร. 039-452-074 .
ขอขอบคุณข้อมูลจาก  ไทยรัฐออนไลน์
http://www.toyotanon.com/article_detail.php?article_id=377
ติดตามเราได้ที่
http://www.toyotanont.com/
บันทึกการเข้า
doraemonarak
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,087



ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 10 มีนาคม 2558 16:29:19 »

ไปมาเมื่อวาน ลุยเดี่ยว ขึ้นตอน 11.00 น. เน้นคนน้อย ไม่กลัวร้อนครับ ไม่รอคิวเลย
รู้สึกดีใจครับที่ได้ไป แถมสนุกตอนนั่งรถขึ้น ลง ด้วย ผมไปคิววัดพลวง
สมุทรสาคร-จันทบุรี ไปกลับ 6 ร้อยกว่าโล แต่คุ้มครับ
บันทึกการเข้า

หลงใหล AE
kakashi
มือเก่าหัดแข่ง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 143


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 10 มีนาคม 2558 17:53:18 »

ไปมาแล้ว ต้นเดือน กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว
แหล่งหาเงินของคนพื้นที่ไปแล้ว ของแพงมากๆๆ คุณภาพไม่มี
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!