เวลาผ่านไปรวดเร็วมาก เผลออีกครั้ง ก็ผ่านไปเกือบขวบปีสำหรับการโพสต์ครั้งสุดท้ายที่ผ่านมา คาดเดาว่าเพื่อนๆที่ใช้สามเอส น่าจะเลิกลากันไปหมดแล้วล่ะ ยกเว้นผมยังคงใช้อยู่แบบปรกติสุข ชิวๆ คงมีปัญหาน้อยมากที่แก้ไขไม่ได้ ไม่ว่าจะเรื่องอะไหล่ทุกๆชิ้น อย่างน้อยตัวถังมันเป็นสามห่วงยังคงมีอะไหล่ให้สับเปลี่ยนได้อีกหลายสิบปีแน่ จนกว่าเขาจะเลิกใช้รถน้ำมัน ใช้รถไฟฟ้าแทนนั่นล่ะ ถนนเมืองไทย กฎหมายถ่อยๆเมืองไทย(เรื่องจำกัดความเร็ว ซึ่งผมถือเป็นกฎหมายทาส มุ่งล่ารางวัลนำจับลูกเดียว) มันทำให้สวนกับความเป็นจริงและความรู้สึกมาก วันหนึ่งอาจจะเกิดอะไรขึ้น เหมือนสาเหตุเงินทอน กราดยิงกันไปทั้งเมืองที่โคราชเมื่อไม่กี่วันนี้ก็อาจเป็นได้ใครจะรู้ อันนี้ก็ไม่น่าจะต่างกัน อยากบอกว่า ผมยังใช้สามเอสบีมชิวๆอยู่ จขกท.แยกขายรถ เครื่องไปนานหลายปีแล้ว ผมก็เป้นลูกค้าคนหนึ่ง คนอื่นๆอีก หรือยังมีใครใช้อยู่ก็ส่งเสียงบ้าง แลกเปลี่ยนกันครับ ผมกับลูกคนเล็ก มีประณิธานว่าจะใช้เค้าต่ออีกหลายสิบปี จบปัญหาเรื่องรถใหม่ป้ายแดง ซึ่งผมได้บทสรุปแล้วว่าสำหรับผมมันไม่คุ้ม ใครชอบป้ายแดงก็ไม่ว่ากันนะครับ แต่สำหรับผมแล้ว อยากบอกว่า ประการแรก ผมรับไม่ได้กับค่าเสื่อมราคาปีละ หนึ่งถึงหลายแสนบาทต่อปี ประการที่สองต่อให้ซื้อเงินสดมูลค่าที่มันมีราคาตกลงนั้น สวนกับความเป็นจริงมาก แถมอะไหล่ก็มีแนวโน้มที่แพงขึ้นๆ ประการที่สาม ชิ้นส่วนภายในนั้นถูกลดต้นทุน ทำให้ไม่อึดไม่ทนเหมือนก่อน ผู้ผลิตมีเจตนาที่ทำรถออกมาเพื่อให้คนใช้แค่สี่ห้าปี หลังจากนั้นก็ต้องการขายอะไหล่ ประการต่อมา เกียรออโต้ในรถยุคใหม่ ไม่มีเกียรที่เปลี่ยนด้วยเฟืองหรือท็อคคอนเวริทเตอร์แล้ว มีแต่เกียรสายพานหรือซีวีทีล้านเปอร์เซนต์ทุกค่าย(ซึ่งต้นทุนต่ำกว่ามาก แต่แทนที่ผู้ผลิตจะลดราคาลง ตรงกันข้ามกลับขึ้นราคา แล้วยัดเยียดให้กับผู้บริโภคว่ามันดีกว่า ทั้งที่ไม่ใช่) ผมคนทรีนหนัก รู้ตัวว่ายังไงไม่เกินสองแสนกิโลมันพังคาตรีนกรูแน่ๆ ส่วนเกียรท็อคสี่สปีดหรือห้าสปีดนั้น กระทืบยังไงก็ยังทนทรีนกว่าซีวีทีอยู่ดี เสียก็ฮอนได้สบายๆ และย้อนไปที่เกริ่นไว้แต่แรกเป็นอีกเหตุผล เท่านี้ผมก็ยังคงใช้สามห่วง และเหลือเงินไว้พัฒนามันต่อยอดได้อีกจนละขันธ์นั่นล่ะ ล่าสุด ผมจับรถสามห่วงตามสภาพซึ่งเขาเก็บงานบางส่วนมาแล้ว(เช่นสีใหม่ เครื่องกริ๊พๆ ภายในเอี่ยม ในราคาไม่เกินห้าหมื่นบาทไทย จัดการอะไหล่ใหม่ทั้งคัน ทำกลับคืนรีบิ้วใหม่ทั้งคัน จบรวมค่ารถแปดหมื่นต้นๆ(ไม่รวมค่าแรง) เริ่มนับหนึ่งใหม่ ใช้กันยาวๆโลด แต่หากผมเอาเงินก้อนนี้ไปซื้อรถใหม่ คงได้แค่ล้อกับฝากระโปรงมั๊ง แต่ประสิทธิภาพที่ได้กับเม็ดเงินแปดหมื่นเศษนั้น ผมว่ากินขาดรถอีโก้คาร์ทุกรุ่นที่มีขายในประเทศนี้ครับ เท่ากับเราบริหารเงินแปดหมื่น แต่ได้ผลตอบแทนเกินหกแสน(อีกโก้คาร์รุ่นท๊อปราคานี้ล่ะ) ออฟชั่นที่ใส่เข้าไปหรือมีมาแล้วติดรถ ยกตัวอย่าง กระจกมองข้างพับไฟฟ้าปรับไฟฟ้า รีโมทปิดเปิดประตูทุกบาน ระบบไมโครคอมพิ้วเตอร์ควบคุมอุณหภูมิเครื่องแบบตั้งได้ตามสั่ง ทั้งคุมแอร์และหม้อน้ำ แสดงผลแบบReal time ตรงนี้รถรุ่นใหม่แทบทุกรุ่นไม่มีแต่ผมจับยัดเข้าไปครับ สุดเลยตรงนี้ กล้องมองหลังแบบอัตโนมัติ จีพีเอสนำทาง กล้องบันทึกหน้ารถและหลังรถ และอื่นๆฯลฯ ทั้งหมดจบที่งบดังที่บอกไป
สำหรับผมสุดคุ้ม แต่ทำเสร็จผมก็เอารถคันนี้ไปให้พ่อผมใช้ ซึ่งต่อให้ท่านใช้จนละขันธ์ไปแล้ว รถคันนี้ก็ยังไม่พังอยู่ดี อยากบอกว่าปรัชญาการออกแบบรถในอดีต กับปัจจุบันนั้นต่างกัน สุดแต่ว่าจะมองมุมไหน วันนี้เข้ามาอั๊พเดทในรอบเกือบปี ประมาณสิบเดือนที่เงี่ยบหายไป ให้ตรงนี้เป็นความรู้ล้วนๆของคนที่จะเล่นของแรงสำหรับสามห่วง แต่อย่าเอาไปเทียบกับพวกรถจ่ายกับข้าวพันม้าเด้อ มันคนละเรื่องเดียวกัน บีมแค่นี้มันก็พอเพียงต่อการใช้ในชีวิตประจำวันแล้วล่ะ อย่างน้อยๆพยายมท่านก็ไม่ค่อยมาสนใจเราเท่าไรนัก เหมือนพวกที่กล่าวถึงหรอก พันม้า เหอะๆ มิงจะเอาลงพื้นใช้ในชีวิตประจำวันได้ร้อยเปอร์เซนต์ไหม รึมีไว้คุยในหมู่เพื่อนฝูง รึไว้เกทับกัน ผมว่ามันเกินขีดจำกัดที่มนุษย์จะควบคุมมันได้อย่างอยู่หมัดไปเยอะแล้ว ไว้ให้นักแข่งหรือเทพเขาใช้แข่งกัน ขอบคุณกระทู้ดีๆที่ทำให้มีวันนี้