'สารี'ค้านรบ.ลดภาษีน้ำมัน อ้างไม่เป็นธรรมผู้บริโภค [21 ก.ค. 51 - 05:10]
วานนี้ (20 ก.ค.) น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เปิดเผยว่า การที่รัฐบาลลดการเก็บภาษีสรรพสามิต น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 และแก๊สโซฮอล์ 95 ลง 3.30 บาทต่อลิตร เหลือ 0.0165 บาทต่อลิตร และลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลง 2.30 บาทต่อลิตร เหลือ 0.005 บาทต่อลิตร และน้ำมันไบโอดีเซลลง 2.19 บาทต่อลิตร เหลือ 0.0048 บาทต่อลิตร เป็นการช่วยบริษัทน้ำมันที่มีกำไรอยู่แล้วให้กำไรมากขึ้น แทนที่จะคิดราคาน้ำมันให้เป็นธรรมกับผู้บริโภค ซึ่งการคิดราคาน้ำมันต้องใช้ราคาต้นทุนที่แท้จริงไม่ใช่ราคาน้ำมันจากประเทศสิงคโปร์ เนื่องจากปัจจุบันบริษัทน้ำมันใช้น้ำมันจากประเทศแถบตะวันออกกลางและน้ำมันจากในประเทศถึงร้อยละ 21 นโยบายลดภาษีสรรพสามิต จึงเป็นเพียงนโยบาย ที่ช่วยสร้างความร่ำรวยให้บริษัทน้ำมันเพิ่มขึ้น และประเทศต้อง สูญเสียงบประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท ในระยะเวลา 6 เดือน โดยไม่มีความจำเป็น เนื่องจากปัจจุบันประเทศใช้น้ำมันประมาณ 2 หมื่นล้านลิตรต่อปี
น.ส.สารี กล่าวต่อว่า ส่วนการที่รัฐบาลจะชะลอการขึ้นราคาก๊าซหุงต้มหรือแอลพีจีในภาคครัวเรือน 6 เดือนนั้น โดยข้อเท็จจริง รัฐไม่จำเป็นต้องขึ้นราคาก๊าซแอลพีจีที่ใช้ในประเทศได้ถึง 10 ปี และในปัจจุบันราคาก๊าซแอลพีจีที่กำหนดราคาขายส่งหน้าโรงกลั่นยังเป็นราคาที่มีกำไรและไม่ได้อุดหนุนราคาแต่ประการใด
"องค์กรผู้บริโภค เสนอให้ประชาชนผู้บริโภค ร่วมมือกันซื้อหุ้น ปตท.คืน โดยจ่ายเงินคนละไม่ถึง 3,370 บาท หากคิดจากจำนวนประชากร 63 ล้านคน หรืออาจจ่ายมากน้อยตามสัดส่วนการเสียภาษี
ผู้ที่ขับรถยนต์ หรือ ยืมเงินจากกองทุนต่างๆ ที่มีอยู่มาก ก็สามารถนำ ปตท.กลับมาเป็นของทุกคน ลดราคาน้ำมันได้ทันทีลิตรละ 5 บาท รัฐได้ภาษีสรรพสามิตทุกบาททุกสตางค์
รวมทั้งรับประกันไม่ขึ้นราคาก๊าซอีกอย่างน้อย 10 ปี" เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคกล่าว ทั้งนี้ น.ส.สารี ยังเปิดเผยว่า ปัจจุบันกระทรวงการคลังเป็นเจ้าของหุ้น ปตท. ร้อยละ 51.8 ซึ่งมีจำนวนหุ้นประมาณ 1,460 ล้านหุ้น หุ้นที่เหลือของนิติบุคคลอื่นประมาณ 847 ล้านหุ้น ๆ ละ 250 บาท ณ วันที่ 16 ก.ค.
ขอบคุณแหล่งข้อมูลดีๆ
http://www.thairath.co.th/onlineheadnews.html?id=97751