ในเว็บไซต์
www.csd.go.th ของกองบังคับการปราบปราม หรือบก.ป. ภายใต้การดูแลและรับผิดชอบของพล.ต.ต.พงษ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบก.ป. นั้น นอกจากจะมีข่าว-ภาพภารกิจหลักของตำรวจกองปราบปรามแล้ว ยังมีหมายจับคนร้ายในคดีสำคัญๆ ที่ยังคงเป็นที่ต้องการตัวของตำรวจแสดงไว้ด้วย ซึ่งหนึ่งในจำนวนหมายจับคดีสำคัญนั้น เว็บไซต์ของกองปราบปราม ได้จัดทำ หมายจับของ"9 คนร้ายสำคัญแก๊งโจรกรรมรถยนต์" ซึ่งสร้างความดือดร้อนให้กับสุจริตชน อย่างชนิดที่ไม่ควรให้อภัย
คนร้ายสำคัญในคดีโจรกรรมรถยยนต์อันดับแรก ได้แก่ นายสมหวัง พานิชพัฒน์ ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 293 หมู่ 8 ตำบลบึงพะไล อำเภอแก้งสนามนาง จังหวัดนครราชสีมา มีตำหนิรูปพรรณ โดยรูปร่างสูงใหญ่ หน้าสี่เหลี่ยม ผิวดำแดง สูงประมาณ 170 ซ.ม. ตาชั้นเดียว จมูกโด่ง ผม สั้นเกรียน หูปกติ ปากงุ้มลง
มีหมายจับประกอบด้วย 1.หมายจับศาลอาญาที่ 5724/2547 ภายในอายุความ 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย. 2547 แต่ไม่เกินวันที่ 11 พ.ย. 2557 เจ้าของคดี สน.หัวหมาก 2.หมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ 1277/2546 ภายในอายุความ 15 ปี นับตั้งแต่วันที่ 23 ก.พ. 2546 แต่ไม่เกินวันที่ 23 ก.พ. 2568 เจ้าของคดี สภ.ต.คลองด่าน
พฤติการณ์ของผู้ต้องหาคือ ผู้ต้องหารายนี้ มีฉายาว่า "อ้วน แก๊งฉะเชิงเทรา" มีพฤติการณ์ร่วมกับ นายพงษ์พัฒน์ หรือท๊อป ตระเวนงัดแงะรถยนต์ในจังหวัดฉะเชิงเทรา และพื้นที่ใกล้เคียง
คนร้ายรายสำคัญอันดับสอง นายออด ครคง ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 61 หมู่ 4 ต.หนองบ่มกล้วย อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี มีตำหนิรูปพรรณ โดยรูปร่างอ้วน หน้ากลม ผิวดำ สูงประมาณ 160 ซ.ม. ตาปกติ จมูกใหญ่ ผมหยิกรองทรง หูปกติ ปากใหญ่
มีหมายจับประกอบด้วย หมายจับของศาลอาญาที่ 3788/2547 ลงวันที่ 5 ส.ค. 2547 ภายในอายุความ 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค. 2547 แต่ไม่เกินวันที่ 21 ส.ค. 2547 เจ้าของคดี สน.วังทองหลาง กทม.
พฤติการณ์ของผู้ต้องหาคือ ผู้ต้องหารายนี้มีฉายาว่า "อบต. ออด" เคยเป็นอดีตนักการเมืองท้องถิ่น ที่หัมมาเอาดีทางด้านโจรกรรมรถยนต์ โดยมีหน้าที่เป็นผู้ลงมือโจรกรรมรถยนต์ ให้กับแก๊งสมชาย จันทร์น้อย ซึ่งอาละวาดอยู่ในแถบพื้นที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ขัยนาท ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี นครปฐม นครสวรรค์ นครราชสีมา ชลบุรี และ กรุงเทพมหานคร โดยพฤติการณ์ของแก๊งค์นี้คือ นายสมชายฯ กับลูกน้อง จะตระเวนงัดแงะในบ้านผู้เสียหายในเวลากลางคืน และเข็นรถยนต์ออกจากบ้านและสตาร์ทรถขับหนีไป จากนั้นนำไปขายให้นายศักดิ์ดาฯ โดยส่งมอบรถที่บึงฉวางรอยต่อระหว่าง อ.หันคา จ.ชัยนาท และ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี และนายศักดิ์ดาจะนำไปขายต่อในประเทศเพื่อนบ้าน รถที่ถูกโจรกรรมส่วนใหญ่จะเป็นรถกระบะบรรทุก โดยเฉพาะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ รุ่นดรากรอนอาย และยี่ห้อโต้โยต้า รุ่นวีโก้ แก๊งนายสมชายฯ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจัดชุดปฏิบัติการสืบสวนติดตามจับกุมมาโดยตลอด โดยเฉพาะนายสมชายฯ มีประวัติการกระทำผิดหลายคดี จนกระทั่งพบจุดจบ ถูกจับกุมได้เมื่อวันที่ 21 เม.ย. 48 ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา แต่ยังมีลูกน้องในแก๊งที่ยังไม่ถูกออกหมายจับและที่ถูกออกหมายจับแล้ว อีกหลายรายรวมทั้ง อบต.ออด ผู้ต้องหารายนี้ด้วย
คนร้ายรายสำคัญอันดับสาม นายสมพร ทองรื่น ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 138 ถ.รักการดี ต.อุทัยใหม่ อ.เมืองอุทัย จ.อุทัยธานี มีตำหนิรูปพรรณ โดยรูปร่างสูง หน้ารูปไข่ ผิวคล้ำ สูงประมาณ 182 ซ.ม. ตาปกติ จมูกใหญ่ ผมรองทรง หูปกติ ปากปกติ
มีหมายจับของศาลจังหวัดปทุมธานี จ.101/2548 ลงวันที่ 7 ก.พ. 2548 ภายในอายุความ 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค. 2547 แต่ไม่เกินวันที่ 11 ธ.ค. 2557 เจ้าของคดีสภ.ต.ปากคลองรังสิต
มีพฤติการณ์ โดยผู้ต้องหารายนี้ ถึงจะไม่เป็นสมาชิกของแก๊งลักรถรายใหญ่ แต่ก็มีพฤติการณ์อันเป็นที่พึงระวังสำหรับประชาชนทั่วโดยทั่วไป โดยมีพฤติการณ์ร่วมกับนายกฤษดา สมสนิท ออกตระเวนโจรกรรมรถยนต์ โดยใช้วิธีแทงกุญแจแล้วดึงยวงออกมา ตระเวนในจังหวัดปทุมธานี และพื้นที่ใกล้เคียง แล้วนำไปขายต่อยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยผ่านนางมณีฯ ซึ่งทำงานอยู่ในบ่อนของประเทศเพื่อนบ้านติดชายแดนไทย
คนร้ายรายสำคัญอันดับสี่ นายกฤษดา สมสนิท ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 166 หมู่ 2 ต.ขุนหาญ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ มีตำหนิรูปพรรณ โดยรูปร่างสูง หน้าแหลม ผิวคล้ำ สูงประมาณ 172 ซ.ม. ตาปกติ จมูกใหญ่ ผมสั้น หูกาง ปากปกติ
มีหมายจับของศาลอาญา ที่ จ.101/2548 ลงวันที่ 7 ก.พ. 2548 ภายในอายุความ 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค. 2547 แต่ไม่เกินวันที่ 11 ธ.ค. 2557 เจ้าของคดี สภ.ต.ปากคลองรังสิต
มีพฤติการณ์ โดยผู้ต้องหารายนี้ ถึงจะไม่เป็นสมาชิกของแก๊งลักรถรายใหญ่ แต่ก็มีพฤติการณ์อันเป็นที่พึงระวังสำหรับประชาชนทั่วโดยทั่วไป โดยมีพฤติการณ์ร่วมกับนายสมพร ทองรื่น ออกตระเวนโจรกรรมรถยนต์ โดยใช้วิธีแทงกุญแจแล้วดึงยวงออกมา ตระเวนในจังหวัดปทุมธานี และพื้นที่ใกล้เคียง แล้วนำไปขายต่อยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยผ่านนางมณีฯ ซึ่งทำงานอยู่ในบ่อนของประเทศเพื่อนบ้านติดชายแดนไทย
คนร้ายสำคัญอันดับห้า นายทศพล อังควานิช หรือสมชาย แซ่เจ็ง หรือ เฉลิม น้ำมนต์ดี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 4/73 ซ.เผือกจิตร แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. มีตำหนิรูปพรรณโดยรูปร่างสูง หน้ากลม ผิวขาว สูงประมาณ 165 ซ.ม. ตาธรรมดา จมูกใหญ่ ผมรองทรงแสกข้าง หูธรรมดา ปากธรรมดา
มีหมายจับยาวเป็นหางว่าวประกอบด้วย หมายจับ : 1.ศาลอาญาที่ 4961/2547 ลงวันที่ 2 พ.ย. 2547 ภายในอายุความ 10 ปี นับตั้งแต่ 22 มิ.ย. 2547 แต่ไม่เกิน 22 มิ.ย. 2557 เจ้าของคดี สน.มักกะสัน 2.ศาลอาญาที่ 4962/2547 ลงวันที่ 2 พ.ย. 2547 ภายในอายุความ 10 ปี นับตั้งแต่ 28 ส.ค. 2547 แต่ไม่เกิน 28 ส.ค. 2557 เจ้าของคดี สน.มักกะสัน 3.ศาลอาญาที่ 5081/2547 ลงวันที่ 11 พ.ย. 2547 ภายในอายุความ 15 ปี นับตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค. 2547 แต่ไม่เกิน 22 ส.ค. 2557 เจ้าของคดี สน.มักกะสัน 4.ศาลอาญาที่ 5082/2547 ลงวันที่ 11พ.ย. 2547 ภายในอายุความ 15 ปี นับตั้งแต่ 16 ก.ย. 2547 แต่ไม่เกิน 16 ก.ย. 2557 เจ้าของคดี สน.มักกะสัน
มีพฤติการณ์ โดยผู้ต้องหารายนี้ ยังมี่อีกหลายชื่อทีใช้ในการกระทำความผิดเช่น สมชาย แซ่เจ็ง หรือเฉลิม น้ำมนต์ดี เป็นต้น โดยอยู่ในกลุ่มของนางภัคจิราหรือบุ๋ม สุขสักขีและนายธนกร หรือเอก อังควานิช สองสามีภรรยาซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามจับกุมตัวไปแล้ว ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงในพื้นที่จ.ลพบุรี โดยร่วมกันหลอกลวงข้าราชการและประชาชนในจ.ลพบุรีและพื้นที่ใกล้เคียงให้วาง เงินมัดจำรถยนต์และทั้งคู่จะนำรถยนต์ไปให้ผู้บริหารในบริษัทเอกชนต่างๆเช่า ใช้ หลังจากนั้นจะนำเงินค่าเช่าส่วนหนึ่งไปผ่อนชำระค่างวดให้ ส่วนต่างที่เหลือก็จะมอบให้กับผู้ที่ถูกหลอกลวง มีข้าราชการและประชาชนหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก ซึ่งนางภัคจิราฯก็ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ให้ไว้ในช่วงแรกๆ หลังจากนั้นก็ไม่ดำเนินการผ่อนชำระค่างวดและไม่มีส่วนต่างมามอบให้แต่อย่าง ใด โดยที่ผู้เสียหายมาทราบในภายหลังว่ามีการลักลอบนำรถยนต์ทั้งหมดไปจำนำหรือ ขาย โดยที่ผู้เสียหายไม่ได้รับรู้แต่อย่างใด ผู้เสียหายส่วนใหญ่จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์แก่พนักงานสอบสวนของกองบังคับ การปราบปรามให้ดำเนินคดีกับนางภัคจิราฯและนายธนกรฯ จนกระทั่งทั้งคู่ถูกจับกุมได้ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีในชั้นศาล และจากการขยายผลการสืบสวนทราบว่านายทศพลฯซี่งเป็นลุงของนายธนกรฯ เป็นหนึ่งในผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวด้วย โดยทำหน้าที่นำรถยนต์ที่ได้จากการฉ้อโกงไปจำนำหรือขาย แต่ยังขาดพยานหลักฐานที่จะดำเนินคดีร่วมกันนางภัคจิราฯและนายธนกรฯ ทั้งนี้จากการสืบสวนเบื้องต้นทราบว่านายทศพลฯยังได้กระทำความผิดโดยนำเอกสาร บัตรประชาชนและใบขับขี่ที่ทำปลอมขึ้นมาไปติดต่อขอเช่ารถยนต์จากบริษัทผู้ให้ เช่ารถยนต์หลายราย และผู้เสียหายได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนจนกระทั่งถูกออกหมายจับ ดังกล่าว
คนร้ายสำคัญอันดับหก นายสุชิน จันทร์หอม ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 62 หมู่5 ต.บ้านสระ อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี มีตำหนิรูปพรรณ โดยรูปร่างอ้วน หน้ากลม ผิวดำแดง สูงประมาณ 166 ซ.ม. ตาสองชั้น จมูกสันจมูกตรง ผมดำ เส้นตรง หูสามเหลี่ยม ปากหนา
มีหมายจับของศาลจังหวัดราชบุรีที่ จ.912/2546 ลงวันที่ 1 ส.ค. 2546 ภายในอายุความ 15 ปี นับตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค. 2546 แต่ไม่เกินวันที่ 18 พ.ค. 2561 เจ้าของคดี สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี
มีพฤติการณ์ คือนายสุชิน มีฉายาว่า "หลอด" เป็นเจ้าของอู่รับซื้อรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมมาจากแก๊งของบังเด่น หรือ นายรัฐชัย อารีย์สวัสดิ์ และแก๊งของนายสมชาย จันทร์น้อย ซึ่งเป็นแก๊งลักรถระดับแนวหน้าของประเทศ แล้วนำไปตัดต่อสวมซากขายในจังหวัดสุพรรณบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง ขณะนี้อยู่ระหว่างการหลบหนีจับกุม
คนร้ายสำคัญอันดับเจ็ด นายศักดิ์ดา สนิทไทย ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 67/1 หมู่3 ต.บ้านเชี่ยน อ.หันคา จ.ชัยนาท มีตำหนิรูปพรรณ โดยรูปร่างผอม ผิวดำแดง สูงประมาณ 180 ซม.
มีหมายจับของศาลจังหวัดนครราชสีมาที่ จ.73/2549 ลงวันที่ 2 ก.พ. 2549 ภายในอายุความ 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. 2548 แต่ไม่เกินวันที่ 3 พ.ย. 2558 เจ้าของคดี สภ.จอหอ จ.นครราชสีมา
มีพฤติการณ์ คือนายศักดิ์ดา มีฉายา "อ้วน" มีพฤติการณ์รับซื้อรถยนต์ที่ได้จากการโจรกรรม ของกลุ่มนายสมชาย จันทร์น้อย ซึ่งอาละวาดอยู่ในแถบพื้นที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ขัยนาท ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี นครปฐม นครสวรรค์ นครราชสีมา ชลบุรี และ กรุงเทพมหานคร โดยพฤติการณ์ของแก๊งนี้คือ นายสมชายฯ กับลูกน้อง จะตระเวนงัดแงะในบ้านผู้เสียหายในเวลากลางคืน และเข็นรถยนต์ออกจากบ้านและสตาร์ทรถขับหนีไป และนำไปขายให้นายศักดิ์ดาฯ โดยส่งมอบรถที่บึงฉวางรอยต่อระหว่าง อ.หันคา จ.ชัยนาท และ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี และนายศักดิ์ดาจะทำการแปลงสภาพรถ โดยเปลี่ยนหมายเลขแชสซี และนำเอาป้ายทะเบียนปลอมจากเพื่อนไม่ทราบชื่ออยู่ที่ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ มาติดและนำออกขาย (ลักษณะสวมซาก)ให้ประเทศเพื่อนบ้าน
คนร้ายสำคัญอันดับแปด นายสุชาติ ดวงมีโชค ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 86/122 ตรอกพันธจิตต์ แขวงป้อมปราบฯ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. มีตำหนิรูปพรรณ โดยรูปร่างท้วม หน้ากลม ผิวดำแดง สูงประมาณ 175 ซม. ตาชั้นเดียว จมูกโด่ง ผมดำ หูปกติ ปากบาง
มีหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.1596/2547 ลงวันที่ 13 ส.ค. 2547. ภายในอายุความ 10. ปี นับตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.47 แต่ไม่เกินวันที่ 24 ก.ค. 47 เจ้าของคดี สน.พลับพลาไชย 1
มีพฤติการณ์ โดยนายสุชาติ ซึ่งฉายาว่า "หมู" มีคู่หู คือนายประสงค์ หรือสงค์ คอยตระเวนลักรถยนต์ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล แล้วนำไปขายให้กับ 1.นายเชษฐ์ อยู่ที่กบินทร์บุรี 2. นายรังสรรค์ หรือสรร อยู่จังหวัดนครปฐม เพื่อนำไปชำแหละอะไหล่หรือสวมซากขาย 3. นายวินัย เจ้าของเต็นท์รถย่านบางบอน 4. นายอ้วน สุพรรณ ซึ่งเป็นสมาชิกในแก๊งของบังเด่น เพื่อนำไปตัดต่อสวมซากขายในประเทศเพื่อนบ้านต่อไป และเต็นท์รถ จึงนับว่านายสุชาติ หรือ หมู เป็นหนึ่งในสมาชิกของแก๊งบังเด่น แก๊งลักรถระดับแนวหน้าของประเทศซึ่งมีเครือข่ายโยงใยทั่วประเทศโดยผ่านนาย อ้วน สุพรรณ และขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุม
คนร้ายรายสำคัญอันดับเก้า นางสุภาวดี แดงเพียว ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 59 หมู่2 ต.พุกร่าง อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี มีตำหนิรูปพรรณ โดยรูปร่างอ้วนเตี้ย หน้ารูปไข่ ผิวดำแดง สูงประมาณ 157 ซ.ม. ผมยาวประบ่า
มีหมายจับของศาลอาญาธนบุรีที่ 663/2548 ลงวันที่ 21 มี.ค. 2548 ภายในอายุความ 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ 21 มิ.ย. 2547 แต่ไม่เกินวันที่ 21 มิ.ย. 2557 เจ้าของคดี สน.บางมด กทม.
มีพฤติการณ์ โดยผู้ต้องหารายนี้ ถึงแม้จะเป็นเด็กสาวแรกรุ่น แต่ก็ได้ผันตัวเองเข้ามาอยู่ในแก๊งลักรถสิบล้อ ซึ่งมีนายสายัน หรือโต้งเป็นหัวหน้าแก๊งคอยตระเวนลักรถสิบล้อในพื้นที่ภาคกลางและภาคอีสาน และมีเพื่อนร่วมแก๊งถูกจับไปแล้วคือนายประสาทหรือเพลิน บุบไชย นายดำริห์หรือริห์ พ่วงสุนทร และนายพะนอหรือนอ เหรียญทอง โดยนางสุภาวดีฯกับนายดำริห์ฯจะมีหน้าที่คอยดูต้นทางและเลือกรถสิบล้อที่จะ ลักและส่งข้อมูลให้กับนายสายันฯหัวหน้าแก๊งเป็นผู้วางแผนทำการโจรกรรม นางสุภาวดีฯได้ถูกออกหมายจับดังกล่าวข้างต้นและอยู่ระหว่างหลบหนี โดยยังมีเพื่อนร่วมแก๊งอีกหลายคนที่ยังไม่ถูกออกหมายจับและคาดว่าน่าจะร่วม กับนางสุภาวดีตระเวนลักรถสิบล้ออยู่ในขณะนี้
นี่ คือรายชื่อ โฉมหน้า และพฤติกรรมของคนร้ายแก๊งโจรกรรมและฉ้อโกงรถยนต์ระดับประเทศ ซึ่งคงต้องรอให้ตำรวจกองปราบปราม ติดตามลากคอวายร้ายเหล่านี้ มาดำเนินคดีให้ได้ เพื่อรับผลกรรมที่ได้ก่อไว้กับสุจริตชนต่อไป
>>นายสมหวัง พานิชพัฒน์ หรือ"อ้วน แก๊งฉะเชิงเทรา"
>>นายออด ครคง หรือ"อบต. ออด"
>>นายสมพร ทองรื่น
>>นายกฤษดา สมสนิท
>>นายทศพล อังควานิช หรือสมชาย แซ่เจ็ง หรือ เฉลิม น้ำมนต์ดี
>>นายสุชิน จันทร์หอม หรือ"หลอด"
>>นายศักดิ์ดา สนิทไทย หรือ"อ้วน"
>>นายสุชาติ ดวงมีโชค หรือหมู
>>นางสุภาวดี แดงเพียว
>> รวม หน้า เลว
Credit:
www.manager.co.thปล. พี่ๆ เพื่อนๆ จดจำหน้าพวกนี้ไว้น๊ะครับ เจอที่ไหนก็ ขับชนแม่มเลย....
:emo