โช้คอัพคืออะไร .โช้คอัพใช้หลักการของการปั้มน้ำมัน โดยมีลูกสูบซึ่งถูกติดไว้กับแกนโช้ค ทำงานสู้กับน้ำมันไฮโดรลิคในท่อซึ่งมีความดัน เมื่อเกิดการสั่นสะเทือนน้ำมันไฮโดรลิคจะถูกผลักให้ผ่านรูเล็กๆที่เราเรียกกันว่า orific ซึ่งอยู่ภายในลูกสูบรูเล็ก ๆเหล่านี้จะยอมให้ของเหลวผ่านลูกสูบออกไป ทำให้ลูกสูบเคลื่อนไหวขึ้นลงและจะมีผลให้สปริงและการสั่นสะเทือนช้าลงอีกด้วย
แรงต้านทานของโช้คอัพจะมากหรือน้อยจะขึ้นอยู่กับความเร็วของช่วงล่างและจำนวนับขนาดของ orificในลูกสูบ โช้คอัพที่ดีจะรวดเร็วต่อ hydraulic down spring device กล่าวคือ ยิ่งช่วงล่างเคลื่อนไหวเร็วก็จะเกิดแรงต้านที่ตัวโช้คอัพมากนั้นเอง การทำงานในลักษณะนี้เหมือนกับโช้คอัพช่วยปรับสภาพถนนให้ดีขึ้น ซึ่งผลเกิดจากโช้คอัพช่วยลดการกระเด้ง,การโคลงเคลงแกว่งไปมา
โดยทั่วไปแล้วโช้คอัพน้ำมันกับโช้คอัพน้ำมันแบบเติมแก๊สแรงดันต่ำ มีหลักการทำงานคล้ายกันเพียงแต่โช้คอัพน้ำมันเติมแก๊สแรงดันต่ำจะเติมแก๊สเพื่อลดฟองในขณะที่น้ำมันสูบฉีดผ่านวาล์วทำให้ประสิทธิภาพของโช้คอัพน้ำมันแบบเติมแก๊สแรงดันต่ำมีประสิทธิภาพดีกว่าโช้คอัพน้ำมันปกติ
แต่ยังมีปัจจัยตัวอื่น เช่น ขนาดของลูกสูบ,ชนิดของวาล์วลูกสูบ,ชนิดของน้ำมันโช้คอัพ,ปริมาตรของน้ำมัน
ในโช้คอัพ ก็มีผลต่อประสิทธิภาพของโช้คอัพเช่นกัน จึงชี้ชัดไม่ได้ว่าโช้คอัพน้ำมันแบบเติมแก๊สแรงดันต่ำจะมีประสิทธิภาพดีกว่าโช้คอัพน้ำมันเสมอไป เช่น ถ้าใช้โช้คอัพน้ำมันที่มีกระบอกสูบใหญ่กว่าก็จะมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าโช้คอัพแก๊สแรงดันต่ำที่มีลูกสูบเล็กกว่า
แต่กรณีโช้คอัพน้ำมันเติมแก๊สแรงดันสูงจะมีหลักการทำงานไม่เหมือนกับโช้คอัพน้ำมันปกติเพราะ
แก๊สไนโตรเจนแรงดันสูงจะถูกแยกออกจากน้ำมันโดยลูกสูบอีกตัวหนึ่ง โช้คอัพชนิดนี้จะต้องใช้กับรถที่ออกแบบมาใช้กับโช้คชนิดนี้โดยเฉพาะ เช่นรถยนต์ AUDI,BMW หรือรถยนต์ตระกูลยุโรปทั้งหลาย โช้คอัพแก๊สจะให้แรงดันยืดตัวออกในขณะที่เรากดคงที่ไว้ ถ้าเรามาใช้กับโช้คปกติจะทำให้รถถูกยกตัวสูงขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยและจะทำให้รู้สึกกระด้างในกรณีที่ TORSION BAR หรือแหนบแข็ง ถ้าจะใช้จะต้องมีการเซ็ทค่า K ของTORSION BAR และแหนบใหญ่
- คุณจะรู้ได้อย่างไรว่ารถของคุณควรเปลี่ยนโช้คอัพ?. รถมีอาการเต้นหรือกระโดดขึ้นลงเมื่อขับรถผ่านทางขรุขระเป็นหลุมบ่อหรือขับผ่านทางรถไฟ
2. รถมีอาการลอยเสียการทรงตัวไม่เกาะถนนควบคุมยาก เมื่อขับผ่านทางขึ้นลงเหมือนกับ
ไม่มีที่ยึกเหนี่ยว รถสามารถเสียการทรงตัวได้ง่าย
3.ให้สังเกตุจากหน้ายางเป็นบั้งการสึกหรอของดอกยางไม่เสมอกัน
4.โดยทดสอบอย่างง่าย ๆ ให้ท่านเหยียบบนกันชนและขย่มหลาย ๆ ครั้ง หลังจากปล่อยเท้าออกแล้ว ถ้ารถยังเต้นขึ้นลงต่อไป แสดงว่าโช้คอัพเสียหรือเป็นโช้คอัพไม่ได้มาตรฐาน
อาการดังกล่าวเกิดจากโช้คอัพชำรุดหรือโช้คอัพไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้นเมื่อรถคุณเป็นเช่นนี้
โปรดเปลี่ยนโช้คอัพใหม่ และเลือกยี่ห้อที่มีมาตรฐาน
- ซ่อมโช้คอัพหรือเปลี่ยนโช้คอัพใหม่ดี ??ถ้าหากโช้คอัพของคุณเสียไม่มาก เช่น ต้องปรับเปลี่ยนอะไหล่ภายในนิดหน่อย การซ่อมโช้คอัพตามร้านซ่อมโช้คอัพทั่วไปอาจทำได้ แต่ต้องเลือกร้านซ่อมที่มีเครื่องมือพร้อม เพราะการซ่อมโช้คอัพ เมื่อซ่อมเสร็จแล้วต้องมีการทดสอบค่า Damping Force แรงกดดึงเบื้องต้น ให้ได้ค่ามาตรฐาน จึงจะใช้งานได้ดี
ซึ่งในขณะนี้มีร้านซ่อมโช้คอัพมากมายอยู่ในเมืองไทย มีทั้งที่มีมาตรฐานและมีเครื่องมือพร้อมและไม่มีเครื่องมือเลย ทำการซ่อมอย่างเดียวแต่ไม่ผ่านเครื่องมือทดสอบหลังจากซ่อมเสร็จ
อีกทั้งราคาซ่อมกับราคาซื้อใหม่ของรถปิ๊กอัพแตกต่างกันไม่มาก เเละถ้าหากเป็นโช้คอัพเเบบที่มีจาน เช่น D-MAX VIGO NISSAN NAVARA MITSUBISHI TRITON ชึ่งเป็นจานคอยด์สปริง หากซ่อมทั้วไป-ไม่มีชิ้นส่วนที่เปลี่ยนให้เหมือนของเดิม & ไม่มีเครื่องมือเทสค่า Damping Force ซึ่งกำหนดว่าจะต้องการ Damping ที่เป็น Standardหรือมากกว่า Standard
แต่หากตัดปัญหาซื้อโช้คอัพใหม่เลยควรเลือกโช้คอัพที่มีคุณภาพดี จะได้มีอายุการใช้งานยาวนานโดยเลือกอู่ซ่อมรถที่มีฝีมือและมาตรฐานในการติดตั้งที่ดี เพราะจะส่งผลให้โช้คอัพทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีติดตั้งโช้คอัพอย่างถูกวิธีวิธีการติดตั้งโช้คอัพรถยนต์ที่ถูกต้อง
1.ต้องตรวจสอบโช้คอัพใหม่ที่จะติดตั้งว่ามีช่วงชักและขนาดรูปร่างเหมือนเดิมหรือไม่ กรณีที่ซื้อโช้คอัพกระบอกใหญ่
กว่าเดิมต้องตรวจดูช่วงชัก ,หูยึด และตรวจดูพื้นที่ติดตั้งว่าโช้คอัพใหม่ติดหรือเสียดสีกับชิ้นส่วนอื่นของช่วงล่างหรือเปล่า
2.ถ้าโช้คอัพที่ใช้ไม่ได้เป็นระบบ Mono tube หรือระบบแก็สแรงดันสูงกระบอกเดียวจะต้องจับตัวโช้คอัพตั้งขึ้นตามแนว
ลูกศรชี้ (ถ้ามี) หรือสังเกตุจากโช้คอัพตัวหน้าจะต้องตั้งเอาด้านที่เป็นเดือยยึดไว้ด้านบน ด้านที่เป็นหูยึดไว้ด้านล่าง
หรือด้านที่มีปลอกกันฝุ่นไว้ด้านบน แล้วดึงโช้คอัพให้ยืดสุดและกดให้สุดประมาณ 2-3 ครั้ง เพื่อไล่ลมในระบบให้โช้คอัพ
พร้อมทำงาน เนื่องจากก่อนที่จะนำมาใช้โช้คอัพถูกนอนอาจมีลมเข้าไปแทรกตัวอยู่ในกระบอกสูบ จึงทำให้โช้คอัพ
มีประสิทธิภาพด้อยลงในช่วงใช้งานใหม่ ๆ
3.สำหรับโช้คอัพตัวหน้ายืดโช้คอัพให้มีความยาวเท่ากับระยะติดตั้งใส่ลูกยางหูล่างที่มีมาให้ หรือขันสกรูยึดบูชล่างของโช้คอัพ
แล้วใส่ลูกยางชุดบนที่มีมาให้
4.กรณีที่โช้คอัพไม่มีปลอกกันฝุ่นปิดแกนโช้คอัพ ห้ามใช้คีมหรือเครื่องมือใดจับที่แกนโช้คในขณะที่ขันน็อตเพื่อยึดโช้คอัพโดย
เด็ดขาด เพราะจะทำให้แกนโช้คอัพเป็นรอยและจะทำให้ซีลกันน้ำมันของโช้คอัพเสียหาย โช้คอัพจะมีน้ำมันรั่วทันที
ที่ใช้หรือรั่วเร็วกว่าปกติ ให้ใช้คีมจับที่ปลายเดือยโช้คที่ทำหัวแบนไว้สำหรับจับโดยเฉพาะเพื่อไม่ให้แกนโช้คหมุนตาม
ในขณะที่ขันน็อตยึดแน่น
5.รถที่มีการดัดแปลง เช่น ยกสูง ,โหลดเตี้ย จะซื้อโช้คอัพตามรุ่นมาตรฐานมาใช้ไม่ได้ เพราะช่วงชักของโช้คอัพจะไม่
เหมาะสมกับช่วงชักที่ดัดแปลงรถ จะทำให้โช้คอัพยาวเกินไปสำหรับรถโหลดเตี้ย และสั้นไปสำหรับรถยกสูง
ควรเลือกซื้อโช้คอัพและติดตั้งโดยมีผู้ชำนาญให้คำแนะนำ
6.รถปิคอัพในประเทศไทยส่วนใหญ่จะใช้บรรทุกเกิน 1 ตัน จึงนิยมไปเสริมแหนบเพื่อให้แหนบแข็งพอที่จะบรรทุกหนัก
เพิ่มเป็น2-3ตัน ส่วนใหญ่จะเพิ่มแหนบขึ้นอีก 2-3แผ่น ทำให้ช่วงชักระหว่างหูยึดโช้คอัพห่างขึ้นจากปกติ ถ้าใช้โช้คอัพมาตรฐานที่ติดตั้ง
มากับรถยนต์ โช้คอัพจะถูกยืดออกมาจนเกือบสุด ในขณะที่จอดปกติ เวลาที่รถวิ่งโช้คอัพจะมีการยืดและกดลง ช่วงจังหวะ
ยืดจะถูกดึงจนสุดช่วงชักจะเกิดเสียงดังกระแทกและทำให้โช้คอัพเสียหายหรือหูยึดขาด ควรติดตั้งโช้คอัพที่มีช่วงชัก
ขณะยืดสุดให้ยาวกว่าเดิมประมาณ 2 นิ้วหรือมีผู้ชำนาญแนะนำการติดตั้ง
เครดิตเวป
http://www.b.yimwhan.com/board/show.php?user=khontalay&topic=30&Cate=1มีความรู้มาอีก นิสสสสสสส หนึ่ง